ตอนที่แล้วบทที่ 355: เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 358: เทพธิดาแห่งโรคระบาด

บทที่ 357: ไม้เท้าเก่าแก่คืออะไร?


ในเวลาเดียวกัน ณ สวนหลังบ้าน

ปัจจุบันใบหน้าของหู่จิงฝังอยู่ในหิมะและนางก็นอนแผ่อยู่บนหิมะนิ่งไม่ไหวติง

ปรากฎว่าหลังจากที่หญิงสาวกำลังจะออกมาทำธุระส่วนตัว นางก็สะดุดเท้าตัวเองล้มลงไปบนหิมะโดยตรง

ทว่านางเมามากจนทิ้งตัวนอนลงบนหิมะและผล็อยหลับไป

แล้วนางก็ไม่รู้สึกอะไรเลยจนกระทั่งตอนนี้

ร่างกายของเสือสาวเกิดอาการสั่นเทาพร้อมกับความเย็นที่ซึมซาบเข้ามาก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

จากนั้นหู่จิงก็ตื่นเพราะรู้สึกหนาวจนทนไม่ไหว นางค่อย ๆ ลุกขึ้นมาพลางปัดหิมะออกจากตัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพบว่าตนหลับไปท่ามกลางหิมะจึงรีบเดินกลับเข้าไปในบ้าน

“หนาวจะตายอยู่แล้ว หนาว ๆๆ...”

“นี่ข้าไปหลับอยู่ข้างนอกได้ยังไงเนี่ย แปลกจริง ๆ ข้าไม่ได้เหนื่อยสัหน่อย หรือเพราะเหนื่อยสะสมจากการที่ไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน?”

ระหว่างที่หญิงสาวกำลังลูบหิมะบนร่างกายตัวเองออก นางก็เดินเข้าไปในบ้านด้วยความสงสัย

ณ เวลานี้ นางลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปจนหมด

นางจำได้เพียงว่าตนนำผลไม้และเนื้อรมควันไปให้เฟิงเฉิงกิน แต่พอดีว่าที่บ้านไม่มีไฟ นางเลยไม่สามารถก่อไฟเพื่อต้มน้ำดื่มได้ ดังนั้นนางจึงหยิบ ‘น้ำ’ 2 ไหจากห้องเก็บของมาดื่มแทน

แล้วสุดท้ายนางก็ไปผล็อยหลับอยู่ในสวนหลังบ้านเสียอย่างนั้น

“ข้าจำได้ว่าเฟิงเฉิงดูเหมือนจะพูดอะไรกับข้าเมื่อสักครู่นี้… ไม้เท้าเก่า ๆ นั่นคืออะไรนะ?” หู่จิงส่ายหัวพูดกับตัวเอง

นางรู้สึกว่าความทรงจำของตนเองยุ่งเหยิงนิดหน่อย

ก่อนที่เสือสาวจะมีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฟิงเฉิงก็เรียกนางไว้ขณะที่นางเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น

“หู่จิง เจ้ากลับมาสักที มานี่” คนเป็นหมอผีกวักมือเรียกหู่จิงด้วยสีหน้าจริงจัง และพูดด้วยน้ำเสียงเชิงออกคำสั่งพร้อมกับแผ่รังสีดุดันออกมา

ตามปกติแล้วเฟิงเฉิงคุ้นเคยกับการสั่งภูตในเผ่าหมาป่า

ยกเว้นว่านางจะไม่มีอิสระและต้องเชื่อฟังหลางซัว นางสามารถออกคำสั่งกับภูตหมาป่าได้เกือบทุกอย่าง

ก่อนที่หู่จิงจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น นางก็เดินไปหาอีกคนอย่างเชื่อฟัง

จากนั้นนางก็หันไปมองหูชิงซานด้วยความสงสัย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ขณะนี้เฟิงเฉิงถือไม้เท้าเก่า ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างชี้ไปที่หูชิงซาน

“คู่ของเจ้าพยายามที่จะนอกใจเจ้า เจ้ามีแผนจะจัดการกับเขายังไง ข้าจะช่วยเจ้าตัดสินใจเอง” หญิงสาวพร้อมที่จะสนับสนุนหู่จิงเต็มที่

ปัจจุบันนางเป็นหมอผีของเผ่านี้ สถานะของนางเป็นรองเพียงหัวหน้าเผ่า นางจึงมีคุณสมบัติที่จะจัดการกับภูตคนอื่นได้ทุกคน

แล้วตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังมองนางที่ไม่ใช่ภรรยาของเขาด้วยสายตาร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัด

อีกอย่าง นางไม่ใช่ฝ่ายผิด

นั่นคือสิ่งที่ภูตชายแสดงออกต่อภูตหญิงชัดเจนว่ามันหมายความว่าอย่างไร!

ทางด้านหูชิงซานมองไปยังไม้เท้าที่อยู่ข้างหน้าเขาราวกับว่ามันเป็นดาบคมที่ถูกชักออกจากฝัก ก่อนที่เขาจะเบี่ยงตัวไปด้านข้างเพื่อถอยห่างออกจากมันเล็กน้อย

สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ทำให้หู่จิงรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม

“หา?” เสือสาวยืนงงเป็นไก่ตาแตก “เฟิงเฉิง เขาไม่ใช่คู่ของข้า”

“พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น ท่านทำอะไรเฟิงเฉิง?”

หู่จิงหันไปมองพี่ชายของสามีพร้อมกับขมวดคิ้วถาม

วันนี้นางอยู่กับหมอผีทั้งวัน แต่นางไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายโกรธขนาดนี้ แล้วทำไมหูชิงซานถึงทำให้นางโกรธทันทีที่เห็นหน้าล่ะ?

คราวนี้เป็นฝ่ายเฟิงเฉิงที่ตกตะลึง

พี่ใหญ่?

“เจ้าไม่ได้บอกว่าคู่ของเจ้าจะกลับมาส่งอาหารหรอกหรือ เห็นได้ชัดว่าเขา...” หญิงสาวทำหน้าตกใจขณะเอ่ยถาม

เมื่อนางนึกถึงว่าตนเพิ่งตบหน้าหูชิงซานไปฉาดใหญ่ ฝ่ามือของนางยังคงชาไม่หาย มันทำให้นางต้องกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง

นี่นาง… ตบผิดคนหรือ?

ส่วนหู่จิงก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “จริงสิ พี่ใหญ่ วันนี้ชิงหยวนไม่ได้ส่งอะไรกลับมาหรือ ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”

ทางด้านจิ้งจอกหนุ่มไม่โกรธ ดวงตาของเขาจับจ้องที่ปลายนิ้วของเฟิงเฉิงที่เจ้าตัวแอบซ่อนไว้ด้านหลังพร้อมกับมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก

ถัดมา เขาหันกลับไปอธิบายให้น้องสะใภ้ฟังว่า

“วันนี้ท่านผู้เฒ่ามอบหมายภารกิจให้เขาทำ เขาก็เลยขอให้ข้าเอาอาหารมาส่งให้เจ้าแทน”

หลังจากพูดจบเขาก็เหลือบมองเจ้าของเรือนผมสีฟ้า

“คราวหน้าข้าจะส่งอาหารให้เจ้าด้วย หากต้องการเสบียงอะไรก็บอกข้าล่วงหน้าได้”

เนื่องจากเรื่องนี้มันเป็นเพียงความเข้าใจผิด ชายหนุ่มจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องโกรธหญิงสาว

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” เสือสาวพยักหน้ารับ แล้วนางก็ปัดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทิ้งไป ก่อนจะพูดกับจิ้งจอกหนุ่มว่า “ที่บ้านข้าไม่มีไฟ พี่ใหญ่พาข้าไปจุดไฟที่บ้านท่านผู้เฒ่าได้ไหม?”

“ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอามาให้เจ้าที่นี่เอง” หูชิงซานโบกมือเป็นเชิญบอกว่าตนจะจัดการเรื่องนี้ให้เนื่องจากเขาไม่อยากให้น้องสะใภ้ออกไปต้องลมหนาวข้างนอก

ถึงแม้ว่าหู่จิงจะดูแข็งแรงกว่าภูตหญิงคนอื่น แต่นางก็เป็นภูตหญิงคนหนึ่งเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนท่านด้วย พี่ใหญ่”

เสือสาวหัวเราะเบา ๆ และทันใดนั้นนางก็ขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าแดงระเรื่อของเฟิงเฉิง แล้วใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองหน้าพวกเขาสลับไปมา

“ว่าแต่...เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”

“มะ-ไม่มีอะไร” เฟิงเฉิงนึกถึงสายตาที่หูชิงซานมองนางเมื่อกี้ แล้วใบหน้าที่เคยเรียบเฉยก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ ก่อนที่นางจะหลบตาคนถาม

ภูตที่มีคู่ครองกับภูตที่ไม่มีคู่ครองนั้นแตกต่างกันมาก

ถ้านางเป็นฝ่ายที่ต้องยืนดูเรื่องของคนอื่น นางสามารถจัดการมันได้อย่างใจเย็น แต่เมื่อถึงคราวของตัวเอง นางกลับเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ต้อนจนมุมเสียอย่างนั้น

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะไปจุดไฟก่อน” ประโยคนี้หูชิงซานพูดกับหู่จิง แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปที่เฟิงเฉิง

เสือสาวพยักหน้าแล้วยืนส่งพี่ใหญ่ออกจากบ้านไป

เมื่อหูเจียวเจียวมาที่นี่พร้อมกับหลงเหยา เธอก็บังเอิญสวนทางกับหูชิงซานพอดี เธอจึงเอ่ยทักทายเขา

“น่าแปลก ทำไมวันนี้พี่ใหญ่ของข้าดูมีความสุขจัง...”

จิ้งจอกสาวพึมพำพลางมองตามหลังของพี่ชายคนโตไปด้วยใบหน้างุนงง

พวกเธอเพิ่งกลับมาถึงเผ่า ดังนั้นจึงยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องสร้างใหม่ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาอันแสนยุ่งเหยิงและมันเป็นเรื่องผิดปกติที่พี่ใหญ่จะทำตัวร่าเริงแบบนี้

หรือว่าเธอตาฝาดไปเอง?

“ป้าจิง!” หลงเหยาวิ่งตะโกนเข้าไปในบ้านเสียงดัง

ตอนนี้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหู่จิง

นอกเหนือจากสมาชิกในครอบครัวแล้ว เด็กน้อยรู้สึกไว้วางใจเสือสาวมากที่สุด

ทางด้านหูเจียวเจียวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อช่วยเฟิงเฉิง ดังนั้นเธอจึงรีบตามลูกชายเข้าไปข้างใน

ทันทีที่จิ้งจอกสาวเข้าประตูไปก็ได้เห็นฉากที่กลมกลืนกันผิดปกติในบ้าน

ภาพที่เธอเห็นก็คือหู่จิงกับเฟิงเฉิงกำลังจัดเรียงอาหารในถุง แล้วเสือสาวก็พูดคุยเกี่ยวกับเผ่า รวมไปถึงเรื่องราวที่น่าอายของแต่ละคน

ขณะนี้นางกลายเป็นคนพูดไม่หยุดไปแล้ว ปกตินางเคยมีลู่เมี่ยนเอ๋ออยู่เป็นเพื่อนทุกวัน แต่ตอนนี้นางเอกสาวถูกอิงหยวนครอบครองตลอดเวลา ส่วนหูชิงหยวนก็งานยุ่งมาก เพราะแบบนี้นางคงเบื่อน่าดู

หลังจากที่หู่จิงเข้ากับเฟิงเฉิงได้ ในที่สุดนางก็เหมือนกับได้ของเล่นใหม่

ส่วนหมอสาวก็ไม่รู้สึกรำคาญอีกฝ่ายเลย นางทำเพียงนั่งฟังเงียบ ๆ เท่านั้น

ในความเป็นจริง ดูเหมือนว่าสติของนางจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากกว่า

“???”

นี่ตาของเธอไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม?

ผู้หญิง 2 คนที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้วนี้จะอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนจริงหรือ?

หูเจียวเจียวแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“เหยาเอ๋อ เจียวเจียว ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” เมื่อคนเป็นเจ้าบ้านเห็นหลงเหยา นางก็รีบจับร่างที่รีบร้อนพุ่งเข้ามา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

นางชอบที่จะให้มีคนในบ้านเยอะ ๆ เพราะบรรยากาศจะได้มีชีวิตชีวาเนื่องจากก่อนหน้านี้มันเงียบเหงาเกินไป

ยิ่งมีภูตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกมากขึ้นเท่านั้น!

“ข้ามาหานาง ข้าได้ยินมาว่าเฟิงเฉิงอาศัยอยู่กับเจ้า ข้าเลยมาดูสักหน่อย” จิ้งจอกสาวอธิบาย

“เฟิงเฉิง... ท่านเป็นยังไงบ้าง?”

หูเจียวเจียวอยากจะถามว่า ‘ท่านสบายดีไหม’ แต่เธอก็ยั้งคำพูดนั้นไว้และเปลี่ยนคำพูดอีกครั้ง

บรรยากาศในห้องนี้ทำให้เธอไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก

ปัจจุบันหู่จิงทำตัวอย่างกับเป็นป้าแก่ ๆ ที่ดูมีความสุขขณะกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

“ข้าดูแลนางอย่างดี มันจะมีปัญหาอะไรล่ะ?”

“เจ้าไม่ต้องห่วง เฟิงเฉิงจะอาศัยอยู่กับข้าที่นี่ นางบอกว่านางชอบที่นี่มาก นางจะอยู่กับข้าจนกว่าบ้านหินหลังใหม่จะสร้างเสร็จ”

เสือสาวพูดพร้อมตบหน้าอกแรง ๆ ราวกับว่าการทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น

ชอบ?

หูเจียวเจียวมองไปที่ท่าทางเหม่อลอยของเฟิงเฉิง

การแสดงออกของหมอสาวไม่มีส่วนไหนที่บ่งบอกว่านางชอบที่จะอาศัยอยู่ที่นี่เลยสักนิด

หู่จิงคงไม่ได้ตั้งใจพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดหรอกใช่ไหม?

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอาแล้วววว แม่หมอของเราจะลงเอยกับพี่ชายคนไหนของเจียวเจียวกันหนอ~

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด