บทที่ 356: สมบัติของเจ้าก็คือสมบัติของข้า
ตั้งแต่ตอนที่หู่จิงพบกับเฟิงเฉิงครั้งแรก ดูเหมือนว่านางจะถือไม้เท้าอันนี้ไว้กับตัวตลอดเวลา
หญิงสาวจึงเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา
“ไม้เท้าเก่า ๆ อันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”
คำถามของเสือสาวทำให้สีหน้าของหมอผีเปลี่ยนไปทันที นางวางไม้เท้าไว้ตรงหน้าด้วยท่าทางสบาย ๆ และตอบเสียงราบเรียบ
“ไม่มีอะไรพิเศษหรอก มันเป็นแค่ไม้เท้าธรรมดา ๆ ข้าแค่ชินที่จะถือมันไปทุกที่เท่านั้น”
ดวงตาที่สงบนิ่งของเฟิงเฉิงสั่นไหวเล็กน้อยในขณะที่พูด
นางจะไม่บอกว่าไม้เท้าเก่าแก่นี้เป็นสมบัติของเผ่า
ในโลกมีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ความลับของมัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางจะคอยระมัดระวังตัวเองเสมอ นางจะไม่บอกใครแม้ว่าตนจะถูกฆ่าก็ตาม
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง” หู่จิงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรมากและกล่าวชมเชย “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะยึดติดกับอดีตเหมือนข้า ฮ่า ๆ”
“...”
ใครจะไปเหมือนเจ้ากัน!
“ข้าจะหาอาหารให้เจ้ากิน อีกไม่นานคู่ของข้าจะกลับมาพร้อมเสบียงที่ได้รับจากท่านผู้เฒ่า เจ้าไม่ต้องกังวลนะ ข้าฝากให้เขาบอกท่านผู้เฒ่าเกี่ยวกับเรื่องที่จะให้เจ้ามาอยู่ที่นี่แล้ว” เสือสาวยิ้มยิงฟันราวกับว่าทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยตามที่กำหนดแล้ว
อย่างไรก็ตาม
หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง
“เจ้าไม่รู้หรอก! นี่ไม่ใช่ไม้เท้าธรรมดา แต่เป็นสมบัติของเผ่าเรา...”
บัดนี้แก้มของเฟิงเฉิงแดงก่ำ ประกอบกับดวงตาพร่ามัว โดยที่มือข้างหนึ่งตบโต๊ะอาหารและอีกมือหนึ่งยื่นไม้เท้าเก่าแก่เข้าไปใกล้หน้าของหู่จิง
ตอนนี้นางลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเคยเก็บความลับอะไรไว้ในใจ
“โอ้ว เยี่ยมไปเลย!!” หู่จิงยกนิ้วชื่นชม เมื่อนางเปิดปากพูดก็มีกลิ่นเหล้าแรง ๆ โชยออกมา และใบหน้าของนางก็แดงก่ำพอ ๆ กับหมอสาว
ตอนนี้เสือสาวพยายามใช้นิ้วถ่างตาตัวเองเพื่อจ้องมองไปยังไม้เท้าเก่าแก่อย่างระมัดระวัง ในขณะที่เฟิงเฉิงกำลังชูไม้เท้าให้นางดู
“สมบัติของเจ้าก็เหมือนสมบัติของข้า ข้าจะไม่บอกใคร!” หู่จิงตะโกนเสียงดัง
“ดีมาก” คนเป็นหมอผีพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น ก่อนที่นางจะรู้สึกว่าหัวของตัวเองหนักอึ้งจนต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะ และยกมือข้างหนึ่งขึ้นสูงพร้อมกับพูดว่า “ข้าเชื่อเจ้า!”
ขณะนี้หญิงสาวทั้ง 2 กำลังเมามายเพราะถูกฤทธิ์เหล้าเล่นงาน
หลังจากทั้งคู่พูดคุยกันเสียงดังอยู่ครู่หนึ่ง เฟิงเฉิงก็ลืมตาไม่ขึ้นอีก นางกอดไม้เท้าพลางวางคางลงบนนั้นแล้วสัปหงกเป็นระยะ ๆ
ส่วนหู่จิงโงนเงนยืนขึ้นโดยที่ขาของนางพันกันยุ่งเหยิง แล้วนางก็พยายามเดินโซซัดโซเซไปที่สวนหลังบ้าน
“ข้า-ข้าปวดอึ เจ้ากินดื่มอยู่ที่นี่ได้เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ...”
ในไม่ช้าก็เหลือแค่เฟิงเฉิงในห้องนั่งเล่นตามลำพัง
ยามนี้หญิงสาวง่วงนอนมากจนไม่สามารถลืมตาได้ นางรู้สึกเพียงว่าปากของตนแห้งผาก วิงเวียนศีรษะ และร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
“หู่จิง ท่านผู้เฒ่าบอกให้ข้ามาส่งอาหารให้เจ้า วันนี้ชิงหยวนค่อนข้างยุ่ง เขาเลยไม่มีเวลากลับมา”
หูชิงซานกล่าวพร้อมกับผลักเปิดประตู ปัดหิมะบนตัวออก แล้วถือถุงเสบียงอาหารเดินเข้ามาในห้อง
พอชายหนุ่มปิดประตู เขาก็พบว่าหู่จิงไม่ได้อยู่ในบ้าน
แต่มีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
หลังจากที่จิ้งจอกหนุ่มกลับมาจากเผ่าเล่ยเหอ เขาและหัวหน้าเผ่าก็ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องในเผ่า เขาจึงยังไม่เคยพบเฟิงเฉิง แต่เมื่อมองรูปร่างลักษณะของนาง เขาก็เดาได้ทันทีว่านางคือหมอผีที่หูเจียวเจียวพากลับมา
พอหูชิงซานเห็นว่าหญิงสาวกำลังนอนหลับสนิท เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวางถุงหนังสัตว์ไว้ที่ประตูเงียบ ๆ
แล้วเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปลุกคนอื่นด้วย
ครู่ต่อมา ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางเจ้าของเรือนผมสีฟ้า
เดิมทีเฟิงเฉิงเป็นสาวงามที่มีเสน่ห์ แต่ตอนนี้ใบหน้าของนางแดงก่ำเหมือนกับผลไม้สุกในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมันช่วยเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าที่มักจะเย็นชาอยู่เสมอ
วินาทีนั้นดวงตาของหูชิงซานถูกภาพตรงหน้าดึงดูดจนไม่อาจละสายตาไปได้
หมอผีคนนี้ยังสาวยังสวยไม่เหมือนในจินตนาการของเขาเลย
ยามนี้ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์อยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าพฤติกรรมของตนไม่ค่อยเหมาะสมนัก ดังนั้นเขาจึงรีบเสมองไปทางอื่น แล้วตั้งท่าหันหลังเดินออกจากบ้านไป
ทันใดนั้นเอง เฟิงเฉิงก็พึมพำด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ไม่... ไม่พบ… ข้าไม่...”
ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว มือของนางกำไม้เท้าแน่นขณะที่นางเตะขาไปมาใต้โต๊ะ
จากนั้นนางก็เสียหลักล้มลงไปด้านข้าง
เมื่อหูชิงซานเห็นเช่นนี้ เขาก็รีบแปลงร่างพุ่งเข้าไปใช้หลังของเขาเป็นเบาะรองรับร่างของเฟิงเฉิง
“โอ๊ย...”
หมอสาวสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บซึ่งช่วยกระตุ้นให้นางมีสติกลับมาบางส่วน
ตอนแรกนางคิดว่าตัวเองกำลังจะลงไปนอนกองกับพื้น แต่จู่ ๆ นางก็ตกลงบนบางสิ่งที่อ่อนนุ่มและมีขนยาว
พอเฟิงเฉิงลืมตาขึ้น ใบหน้าของนางก็สัมผัสกับละอองสีขาวซึ่งยังคงมีความหนาวเย็นแผ่ออกมาเล็กน้อยราวกับว่าเบาะที่เข้ามารองรับเพิ่งถูกขุดขึ้นมาจากหิมะ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่อ ในขณะที่จิตใจของนางว่างเปล่าไปชั่วขณะ
นี่คือใคร?
หู่จิงหายไปไหน?
ในเวลาเดียวกัน หูชิงซานกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วจับเอวของเฟิงเฉิงเพื่อให้นางลุกออกจากตัวก่อนจะถามด้วยความกังวล
“เจ้าเป็นอะไรไหม?”
เดิมทีหมอสาวผู้นี้ดูเย็นชามาก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีบางอย่างในฝันที่ทำให้นางกลัวมากจนขวัญกระเจิง
เมื่อเฟิงเฉิงรู้สึกว่ามือของชายตรงหน้ากำลังแตะที่เอวของตน ใบหน้าของนางก็แข็งค้าง และก่อนที่นางจะทันได้แสดงความโมโห อีกฝ่ายก็ถอนมือออกไปแล้ว
จากนั้นหมอสาวก็เงยศีรษะมองผู้ชายที่ตัวสูงกว่าตน แล้วปรับสีหน้าให้กลับมาเย็นชาดังเดิม
“ข้าไม่เป็นไร เจ้า...” คนเป็นหมอผีเว้นจังหวะพูดไปพักหนึ่ง ในขณะที่นางมองดูหูชิงซานด้วยสายตาซับซ้อน
ในเวลาเดียวกัน หัวใจของจิ้งจอกหนุ่มเต้นระรัวเมื่อได้สบตากับหญิงสาว และการหายใจของเขาก็เร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ประหนึ่งว่ามีมือมาบีบรัดหนังศีรษะของเขาจนทำให้เขารู้สึกชาไปทั้งร่าง
พร้อมกันนั้น นัยน์ของชายหนุ่มฉายแววคาดหวังโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่เฟิงเฉิงพูดจบ ใบหน้าของหูชิงซานก็เปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะถูกอีกฝ่ายตบหน้า
เพี้ยะ!
“เจ้าเป็นคู่ของหู่จิง!” หญิงสาวมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่สู้ดี นางจำได้ว่าหู่จิงบอกว่าคู่ของนางจะกลับมาส่งอาหารให้ที่บ้าน
แล้วถุงเสบียงข้างประตูนั่นก็ช่วยยืนยันสิ่งนี้
แม้ว่าเสือสาวจะเป็นคนหยาบกระด้างและชอบพูดเสียงดัง แต่นางก็เป็นคนใจดี ถึงนางจะไม่อยากอยู่กับหู่จิง แต่นางก็ไม่ได้เกลียดอีกฝ่ายเช่นกัน
นางไม่คาดคิดเลยว่าคู่ของหู่จิงจะเป็นคนเช่นนี้!
ปัจจุบันหมอสาวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังมองนางแบบแปลก ๆ!
มิหนำซ้ำ ผู้ชายที่มีคู่ครองแล้วไม่ควรแตะต้องผู้หญิงคนอื่น!
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงทั้งคู่ เฟิงเฉิงตระหนักดีว่าหู่จิงอาจถูกสวมเขา นางจึงทั้งโกรธและรู้สึกผิดต่ออีกคนขึ้นมาทันที
ทางด้านหูชิงซานกำลังรวบรวมสติกลับคืนมา แต่ทันใดนั้นเขาก็ถูกหญิงสาวตบหน้า
มันจึงทำให้เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
เขาไม่รู้ว่าตนไปทำให้หมอผีขุ่นเคืองใจตอนไหน?
“ข้าไม่ใช่คู่ของหู่จิง...” จิ้งจอกหนุ่มกลับมามีสติอีกครั้ง แล้วเขาก็ขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามอธิบาย
แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเย็นชาของเฟิงเฉิง
“เจ้าไม่คู่ควรกับหู่จิง เจ้ามีคู่ครองแล้วยังกล้ามาแตะต้องข้าอีก แม้ว่าเจ้าจะใจดีที่ช่วยข้าไว้ แต่สิ่งที่เจ้าทำเมื่อกี้มันไม่สมควร เจ้าสามารถวางข้าลงบนพื้นและปล่อยให้ข้ายืนขึ้นเองก็ได้”
ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องช่วยพยุงนางใกล้ชิดแบบนั้นด้วย!
ถ้าหู่จิงมาเห็นเข้า โอกาสที่นางจะเข้าใจพวกเขาผิดมีสูงมาก
“เอ่อ ข้า—”
หูชิงซานเกาหัวเบา ๆ ในขณะที่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ผู้หญิงตรงหน้าเข้าใจว่าอย่างไรดี
ชายหนุ่มอยากจะบอกว่าเขาไม่อยากปล่อยให้นางร่วงกระแทกพื้น
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหมอผีจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว!
“หุบปาก! เจ้าต้องรออยู่ที่นี่จนกว่าหู่จิงจะกลับมา ข้าจะไม่ปล่อยให้หู่จิงถูกเจ้าหลอกอีก!” เฟิงเฉิงตะคอกกลับอย่างเย็นชา
ในฐานะผู้หญิง โดยธรรมชาติแล้วนางต้องการช่วยเหลือผู้หญิงด้วยกัน
ว่าแต่...
หู่จิงหายไปไหน?
ไม่นานหมอสาวก็เพิ่งนึกออกว่าเสือสาวบอกว่าจะไปที่ไหนสักแห่ง
เวลานั้นนางรู้สึกเวียนหัวจนสับสนไปหมด นางพูดพล่ามอะไรออกไปตั้งมากมาย และตอนนี้ริมฝีปากของนางก็แห้งผาก แต่นางจำไม่ได้ว่าตัวเองพูดอะไรไปบ้าง
ช่างมันเถอะ ข้ารู้ดีว่าข้าคอยระวังตัวมาโดยตลอด
แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเค้นสมองเรียกความทรงจำก่อนหน้า แต่นางก็น่าจะไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระให้อีกฝ่ายฟัง มันคงเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้นางรู้สึกประหม่ามากเกินไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นางฝันร้าย