บทที่ 359: ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังมีเวลาทำลูก
นอกจากจะมีเทพธิดาแห่งโรคระบาดแล้ว ยังมีปีศาจผู้ชั่วร้ายตัวน้อยที่คอยติดตามนางอยู่เบื้องหลังอีก ตอนนี้หมอหนูทั้ง 2 เริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังที่ตกปากรับคำมาแบบไม่คิดให้ดีก่อน
“แต่...” หลงหลิงเอ๋อถูกอาจารย์หมอ 2 คนดันตัวออกไปก่อนที่นางจะทันได้พูดอะไร
เมื่อเด็กหญิงเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของหมอทั้ง 2 นางก็กลืนคำพูดที่เหลือลงคอ
นางอยากจะบอกพวกเขาว่า…
สมุนไพรที่พวกเขาบอกว่ามันจะตายเพราะจมน้ำ
ความจริงแล้วพวกมันต้องการน้ำต่างหาก...
แต่ไม่มีใครสังเกตว่าหลังจากภูตทั้ง 4 ออกจากโถงถ้ำไป สมุนไพรที่เหี่ยวเฉาก็ค่อย ๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมา
...
“ท่านแม่! เรากลับมาแล้ว!”
ในตอนเย็น หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางก็กลับมาถึงบ้าน
พวกเขาพบว่าพี่น้องทั้ง 4 คนรวมถึงหลงเหยากำลังทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านเป็นอะไรไป?”
ภาพที่ปรากฏทำให้สาวน้อยมีสีหน้าประหลาดใจ
บ้านของนางถูกภูตคนอื่นโจมตีอีกแล้วหรือ?
ทำไมแต่ละคนทำท่าทางเหมือนสูญเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง?
“ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกพี่ใหญ่” หลงเหยาตอบอย่างอ่อนแรงพลางยกมือที่สั่นเทาชี้ไปทางพี่ชายอีก 3 คนที่เหลือ
“ท่านพ่อกำลังกลับมาจากการทำงานแล้วเห็นพวกเรากำลังฝึกฝนระหว่างทาง เขาเลยมาช่วยพวกเราฝึก” หลงอวี้อธิบายด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
แล้วขณะนั้นมันก็เป็นเรื่องบังเอิญมากที่หูเจียวเจียวเดินทางกลับบ้านพร้อมกับหลงเหยาพอดี
หลังจากนั้นก็ไม่มีเด็กคนไหนหนีรอดการฝึกอันหฤโหดไปได้
“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความผิดของมังกรโง่ ๆ อย่างเจ้า” หลงจงกลอกตาพูดอย่างโกรธเคือง
“ถ้าเจ้าไม่บอกว่าในห้องเย็นเกินไปแล้วอยากจะไปนอนกับท่านแม่ตอนกลางคืน ท่านพ่อคงไม่บอกว่าพวกเราอ่อนแอแล้วทำการฝึกฝนให้พวกเราอย่างหนักหรอก”
หลงเซียวเองก็มีสีหน้าเศร้าหมอง
การฝึกฝนโดยสมัครใจกับการถูกบังคับให้ฝึกฝนนั้นแน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้เด็กตระกูลหลงทั้ง 4 คนไม่อยากทำอะไรเลยนอกจากการนอน
“ฮึ่ม!” น้องเล็กสุดสะบัดหน้าหนีแล้วหันก้นไปทางหลงจงเพื่อแสดงออกว่าเขาไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย
จากนั้นพี่น้องทั้ง 4 ก็หันไปมองหยินชางเป็นตาเดียวพลางคิดว่าเด็กคนนี้โชคดีมากที่หนีจากเงื้อมมือของพ่อมังกรไปได้
ขณะที่เด็ก ๆ กำลังโต้เถียงกัน หูเจียวเจียวก็ออกมาจากครัวโดยถือจานเกาลัดคั่วมาด้วย
หญิงสาวพบเกาลัดตอนที่เธอกำลังเก็บเสบียงที่นำกลับมาจากเผ่าเล่ยเหอวันนี้ มันน่าจะเป็นหูหลินที่แอบใส่มันเข้ามาในถุงเสบียง ทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เมื่อชายคนนั้นรู้ว่าเธอชอบทานอาหารแปลก ๆ เขาจึงจงใจยัดของเข้ามาในถุง
นอกจากนี้ หูเจียวเจียวได้เก็บบางส่วนไว้เป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกร่วมกับเมล็ดพันธุ์ที่เอามาจากในมิติในปีหน้า
ส่วนที่เหลือเธอก็เอาไปทำเกาลัดคั่ว
วันนี้พวกเด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายจนหมดเรี่ยวแรง พอได้กลิ่นหอมกรุ่นของเกาลัดคั่ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองจานในมือของแม่จิ้งจอก
“หลิงเอ๋อ หยินชาง กลับมาแล้วหรือ วันนี้เจ้าเรียนเป็นยังไงบ้าง?” หูเจียวเจียวถามด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้หลิงเอ๋อได้รู้จักสมุนไพรมากมายเลย และยังช่วยอาจารย์ปลูกสมุนไพรด้วย!” เด็กหญิงเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ โดยไม่สนใจสีหน้าอันเจ็บปวดของหมอหนูตลอดทั้งวัน
“หยินชาง ข้าพูดถูกไหม?”
เด็กหญิงแตะข้อศอกของคนตัวโตกว่าเบา ๆ เป็นการขอแรงสนับสนุน
แล้วหยินชางก็ผงกหัวหงึก ๆ ขณะทำหน้าเคร่งขรึม
โดยธรรมชาติแล้วหลงหลิงเอ๋อนั้นฉลาดมาก และในเวลาเพียง 1 วัน นางก็จำสมุนไพร 1 ใน 3 ของถ้ำได้
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าลูกสาวเรียนมา 1 วันแล้วยังคงรักษาความกระตือรือร้นไว้ได้ เธอก็มีความสุขไปกับนางเช่นกัน
ดูเหมือนว่าหลงหลิงเอ๋อของเธอจะชอบการเป็นหมอจริง ๆ
ถือว่าเป็นเรื่องดีที่นางจะกลายเป็นผู้หญิงใจเย็นที่คอยปรุงยา รักษาโรค ช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ
“หลิงเอ๋อเก่งมาก” เมื่อแม่จิ้งจอกกล่าวชมเชยเสร็จ เธอก็ได้ยินเสียงโอดครวญของหลงเหยาดังมาจากอีกด้าน
“เหยาเอ๋อ ท่านพ่อทำเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง ดังนั้นไม่ต้องเสียใจไป มาชิมของว่างที่แม่ทำใหม่สิ” หูเจียวเจียวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ในโลกของภูตที่มีอันตรายอยู่รายรอบ การที่เด็กอ่อนแอเกินไปมันก็ไม่ใช่เรื่องดี
แล้วจิ้งจอกสาวก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสั่งสอนลูก ๆ ของมังกรหนุ่ม
เพราะท้ายที่สุดแล้ว โลกแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยอันตราย ดังนั้นหากปล่อยปละละเลยไม่ยอมฝึกฝนพวกเขา มันอาจเป็นอันตรายต่อลูก ๆ ในอนาคต
หลังจากพวกเด็กน้อยผู้หิวโหยได้ยินคำพูดของแม่จิ้งจอกก็รีบวิ่งมาล้อมรอบเธอ โดยที่แต่ละคนคว้าลูกเกาลัดไปกัด
เนื่องจากเกาลัดป่ามีขนาดใหญ่ เกาลัดบางลูกจึงมีขนาดเกือบเท่ากำปั้นเด็ก
ยามนี้เกาลัดคั่วส่งกลิ่นหอมสดชื่นไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น ด้านบนมีร่องเปิดออกขนาดใหญ่เผยให้เห็นเนื้อเกาลัดสีทองอวบอิ่มด้านใน
หลงเหยาแทบรอไม่ไหวที่จะแกะเปลือกที่เหลือออกและยัดมันเข้าไปในปากของเขา
ด้วยขนาดของเกาลัดมันทำให้แก้มของเขาปูดโปนทันที
“ท่านแม่ นี่อะไร มันหวานอร่อยมาก~” เจ้าตัวเล็กถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
เขาชอบกินของหวานมาก และไม่มีอาหารใดในโลกที่เขาไม่ชอบ นอกจาก ‘ปลาร้า’
หลังจากเด็กทุกคนได้ลิ้มรสเกาลัด ทุกคนต่างก็มีสีหน้าพึงพอใจ
เด็กน้อยทั้งหลายอดคิดไม่ได้ว่าท่านแม่สามารถทำอาหารสดใหม่และแปลก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยกินมาก่อนได้มากมาย
“นี่คือลูกเกาลัด ท่านตาหลินให้มา” หูเจียวเจียวอธิบายอย่างอ่อนโยน
“ท่านตาหลินให้มา…” หลงจงพูดเข้าประเด็นทันที “ถ้าอย่างนั้นพอเรากินหมดแล้ว เราก็จะไม่ได้กินมันอีกน่ะสิ”
และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเดินทางไกลเพื่อไปขอแลกเปลี่ยนอาหารเพียงเล็กน้อยนี้
จู่ ๆ เด็กทั้ง 6 ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา
แม้ว่าการเดินทางออกจากเผ่าจะยากเย็นแสนเข็ญ แต่พวกเขาก็ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นในเผ่ามาก่อน
ในยามที่ทุกคนเติบโตและแข็งแรงขึ้น พวกเขาก็จะสามารถเดินทางไปที่ไกล ๆ ได้แล้วจะได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมาย
วินาทีนั้นความปรารถนาอย่างไร้เดียงสาก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของเหล่าเด็กตระกูลหลง
“ไม่ต้องห่วง แม่เก็บเมล็ดไว้แล้ว หลังจากที่ฤดูหนาวสิ้นสุดลง แม่จะปลูกมัน แล้วทุกคนก็จะได้กินมันอีก” หูเจียวเจียวกล่าวพลางลูบหัวหลงจง
“ดีมาก!” หลงเหยาปรบมืออย่างมีความสุข
ในอนาคตเสี่ยวเหยาจะมีเกาลัดแสนอร่อยให้กินอีก!
ท่านแม่ทำให้ทุกอย่างดูง่ายมาก!
“ท่านแม่เก่งจัง ท่านเหมือนคนที่รู้ทุกอย่างในโลกเลย” หลงหลิงเอ๋อกอดแขนแม่จิ้งจอกอย่างรักใคร่
หูเจียวเจียวดูเหมือนจะมีอำนาจที่สามารถทำได้ทุกอย่างที่ต้องการในสายตาของพวกเขา
ในโลกนี้ ไม่มีปัญหาใดที่นางแก้ไม่ได้!
ทางด้านหูเจียวเจียวยิ้มอย่างมีเลศนัย
จากนั้นเธอมองไปที่หลงเซียวและเด็กอีก 3 คนที่ยังคงนั่งเงียบ ๆ
หลังจากจัดการเรื่องเสบียงแล้ว ฉันจะไปหาเฟิงเฉิง ไม่ว่าจะต้องใช้ไม้อ่อนหรือไม้แข็ง หรือใช้เล่ห์กลใด ฉันต้องเปลี่ยนโอกาสในการรักษา 1 ครั้งให้เป็น 3 ครั้งให้ได้
พอถึงเวลาที่หลงโม่กลับมา เขาเห็นหูเจียวเจียวกำลังถูกลูกน้อยล้อมรอบ ซึ่งภาพนั้นไม่ต่างจากแม่นกที่กำลังป้อนอาหารลูกนกที่อ้าปากรออยู่ในรัง
“หลงโม่ เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันไปมองเขา
พอลูก ๆ ได้ยินแม่จิ้งจอกเรียกพ่อมังกร พวกเขาก็ยืดตัวตรงโดยพร้อมเพรียงกันทันที แล้วถอยห่างจากผู้เป็นแม่
แล้วสภาพแวดล้อมรอบตัวของหูเจียวเจียวที่เคยวุ่นวายก็เงียบสงบอย่างรวดเร็ว
“อืม” ชายร่างสูงตอบเสียงทุ้ม ก่อนจะถอดเสื้อคลุมบนตัวออกแล้วสะบัดเสื้อไปทางข้างนอกแล้วนำไปแขวนไว้ในตู้
หลังจากปิดประตูเขาก็ถอดเสื้อกันหนาวด้านในออกขณะเดินเข้าไปหาภรรยาสาว
ชายหนุ่มยืนรักษาระยะห่างจากหญิงสาวเพราะเขากลัวว่าไอเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวเขาจะทำให้เธอหนาว
“วันนี้เจ้ายุ่งหรือเปล่า ทำไมเจ้ากลับสายขนาดนี้?” หูเจียวเจียวเอ่ยถามเสียงเบาพลางก้าวเข้าไปเขย่งเท้าเพื่อช่วยเขาลูบหิมะออกจากศีรษะ
“ยุ่งนิดหน่อย”
การแสดงออกของมังกรหนุ่มดูสงบ และเขาก้มหัวลงให้ความร่วมมือกับภรรยาสาวเพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องยกมือให้เมื่อย
“ท่านผู้เฒ่าเรียกภูตทั้งหมดมาสร้างโกดังใหม่ในวันนี้”
“ข้าต้องออกไปทำงานข้างนอก 2-3 วัน ถ้าข้ากลับมาแล้วข้าจะทำงานบ้านเอง เจ้าควรพักผ่อนที่บ้านและดูแลร่างกายของเจ้าให้ดี” ผู้เป็นสามีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก
“ไม่เป็นไร เจ้าไปทำงานเถอะ ข้าจะรออยู่ที่บ้าน” หูเจียวเจียวไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ข้าไม่เป็นไร ดังนั้นเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
ยามนี้แววตาของหลงโม่มืดมนจนอธิบายไม่ถูก ปัจจุบันฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด และพวกเขายังมีเวลาให้ทำลูกอีกมาก
อีกทั้งภูตหญิงควรคลอดลูกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่อากาศสะดวกสบายที่สุด และเป็นการดีหากภูตหญิงตั้งครรภ์ก่อนถึงช่วงฤดูดังกล่าว
“ฤดูหนาวยังอีกยาวนาน” น้ำเสียงของมังกรหนุ่มฟังดูมีความนัย
ส่วนจิ้งจอกสาวคิดว่าเขากังวลว่าหลังจากนี้อากาศจะหนาวจัด เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เธอจึงพยักหน้าตอบรับ
“ตกลง ๆ ข้าจะดูแลร่างกายของข้าให้ดี”
แต่สำหรับหลงโม่ คำพูดของเธอถือว่าเป็นการตอบรับกลาย ๆ ว่า ‘ไม่ต้องกังวล ข้าแข็งแรงดี และการมีลูกไม่ใช่ปัญหาเลย!’