บทที่ 350: ท่านลุงพวกนี้แปลกมาก
ระหว่างที่เดินทางกลับเผ่า พวกหลงอวี้ได้เรียนรู้ทักษะการล่าสัตว์กับหลงโม่และฝึกฝนอย่างขันแข็ง
เนื่องจากในเผ่าไม่มีอันตรายต่อเด็ก ๆ หูเจียวเจียวจึงพาหลงเหยาไปข้างนอกด้วยโดยที่ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
ตอนที่มังกรหนุ่มรู้ว่าวันนี้จิ้งจอกสาวจะออกจากบ้าน เขาก็ทำความสะอาดหิมะบนถนนที่เธอกำลังจะผ่านไปโดยเฉพาะจนเกิดถนนกว้าง 2 เมตรทอดยาวจนถึงที่หมาย
เวลานี้แม่และลูกชายจับมือกันเดินไปเรื่อย ๆ พวกเธอใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงสถานที่ที่เซี่ยหมานนำพวกภูตไปสร้างกำแพง
เนื่องจากภูตกลุ่มใหม่มีเกือบพันคน เผ่าจึงไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ ดังนั้นหัวหน้าเผ่าเลยเจรจากับเซี่ยจื้อหนุ่มเพื่อขยายขนาดเผ่าออกไปทางทิศเหนือ โดยสิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก็คือขยายกำแพงแล้วมอบพื้นที่ทางทิศเหนือให้กับสมาชิกใหม่
เดิมที ชายสูงวัยอยากให้ภูตทั้งหมดเบียดเสียดกันอยู่ในเผ่าไปก่อนแล้วค่อยเริ่มงานกันหลังฤดูหนาวผ่านพ้นไป
แต่ผู้อาวุโสไม่คาดคิดว่าพวกเซี่ยหมานสามารถทำงานท่ามกลางฤดูหนาวได้สบาย ๆ
ตอนที่ทุกคนยังเป็นทาสในเผ่าหมาป่า ทุกอย่างที่พวกเขาเผชิญนั้นหนักหนากว่าตอนนี้มาก ในเมื่อปัจจุบันพวกเขามีทั้งอาหาร น้ำดื่มและอาณาเขตเป็นของตัวเองแล้ว ภูตเหล่านี้จึงเต็มใจทำงานต่อให้มีลมหนาวและหิมะตกหนักก็ตาม
ถึงแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะรู้สึกเห็นใจอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามปรามใครได้อยู่ดี
ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยให้พวกเขาทำตามที่ต้องการ
ทางด้านหูเจียวเจียวโชคดีมาก เพราะตอนที่เธอเดินทางออกจากบ้าน หิมะก็หยุดตกแล้ว แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่มีเมฆมากแต่ก็ไม่มีลมพัด หากเทียบกับวันที่เธอเดินทางกลับมาเผ่า ณ ตอนนี้ถือได้ว่าอากาศเย็นสบาย
เมื่อเวลาผ่านไปนานกว่า 1 เดือน จิ้งจอกสาวรู้สึกว่าฤดูหนาวไม่ได้หนาวจัดอย่างที่คิด
ปัจจุบันเซี่ยหมานกำลังเป็นผู้นำภูตในการขนก้อนหินมาใช้ในการสร้างกำแพง
หลังจากหูเจียวเจียวกลับมาเมื่อวานนี้ หลายคนก็ได้รับข่าวและอยากจะไปเยี่ยมนางเพื่อแสดงความขอบคุณ
แต่เซี่ยจื้อหนุ่มห้ามเอาไว้เสียก่อน
โดยที่เขาให้เหตุผลว่าอย่าเพิ่งไปรบกวนการพักผ่อนของหญิงสาว
ในตอนนั้นพวกเขาตระหนักว่าหูเจียวเจียวเป็นเพียงผู้หญิงบอบบางคนหนึ่ง นางจะต้องรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากเดินทางมาอย่างยาวนาน ซึ่งเวลานี้มันคงไม่เหมาะที่จะไปรบกวนนาง
ดังนั้นเหล่าภูตชายจึงมุ่งความสนใจในการขยายอาณาเขตและสร้างที่พักของตัวเองให้ดี เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้ว พวกเขาค่อยไปขอบคุณอีกฝ่ายก็ยังไม่สาย
พอกลุ่มภูตคิดได้เช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน
“เฮ้! นี่ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า ทำไมข้าถึงเห็นผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเรา...”
ภูตที่กำลังขนก้อนหินจู่ ๆ เขาก็เห็นร่างหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
เขาขยี้ตาแรง ๆ พลางสะกิดภูตที่ยืนอยู่ด้านข้างซึ่งอีกฝ่ายพูดโดยไม่ได้หันไปมอง
“เจ้าต้องเห็นภาพหลอนแน่ ๆ แม่นางจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง”
แล้วคนอื่นก็ร่วมผสมโรงหัวเราะเยาะเขาทันที
“ถูกต้อง ข้างนอกหนาวขนาดนี้ ผู้หญิงควรจะเก็บตัวอยู่ในบ้านอุ่น ๆ มากกว่า”
“ข้าคิดว่าเจ้าอยากเจอนางจนเป็นบ้า แล้วยังเกิดอาการประสาทหลอนอีก!”
ขณะนั้นยังคงมีคนพูดเยาะเย้ยชายคนที่มองเห็นจิ้งจอกสาวไม่หยุด
ภูตชายจึงขยี้ตามองอีกครั้งอย่างตั้งใจ
“ข้าเห็นนาง! ข้าไม่ได้ตาฝาดไปเอง!”
เขากระชากแขนสหายอย่างลนลาน พร้อมกับที่เขาตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“ถ้าไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ลองหันไปมองสิ นางมาที่นี่จริง ๆ แถมนางยังพาลูกน้อยมาด้วย”
เขาไม่มีทางมองหญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้ผิดไปแน่หลังจากที่เขาได้เห็นนางเพียงครั้งเดียว
ไม่นานเหล่าภูตชายก็หันกลับไปมองยังทิศทางที่อีกฝ่ายบอกด้วยความสงสัย
“!!!”
รูปร่างหน้าตาที่งดงามนี้ ใช่นางจริง ๆ ด้วย!
ภาพที่ปรากฏทำให้พวกภูตพากันตกตะลึง
“มันคือเรื่องจริง…”
“ผู้หญิงคนนั้นมาหาเรา นางยอมลดตัวมาหาพวกเราด้วยตัวเอง!”
อดีตทาสทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นมากจนมีคนหนึ่งเผลอปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว
แล้วก้อนหินก็ตกกระแทกเท้าของเขาอย่างแรง
“โอ๊ย! เท้าข้า!!”
ชายคนที่ถูกก้อนหินหล่นใส่ยืนกุมเท้ากระโดดเหยง ๆ ด้วยขาข้างเดียว
ปรากฏว่าภูตคนอื่นที่อยู่ถัดจากเขาก็มีสภาพไม่ต่างกัน แล้วสิ่งนี้เกิดขึ้นเหมือนกับโดมิโน ทำให้ตอนนี้มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่ว
ทางด้านหูเจียวเจียวยกนิ้วขาวเรียวขึ้นชี้ไปทางภูต เธอกำลังแนะนำที่มาของภูตเหล่านี้ให้หลงเหยาฟัง
“เหยาเอ๋อ นี่คือภูตที่แม่พากลับมาจากเผ่าหมาป่า ในกลุ่มของพวกเขามีเด็กหลายคนที่อายุไล่เลี่ยกับหยินชาง เจ้าไปเล่นกับพวกเขาก็ได้นะ” เนื่องจากลูกของเธอไม่ชอบเล่นกับเด็กในเผ่าเพราะเคยมีเรื่องบาดหมางกันมา
แต่หลังจากนี้เขาจะมีเพื่อนเล่นมากมาย
เมื่อคนตัวเล็กได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่ เขาก็ยกเปลือกตาที่หลุบต่ำอยู่ตลอดเวลาขึ้น
“จริงหรือ?”
นอกจากกินแล้ว งานอดิเรกอีกอย่างของเขาคือเล่น
“ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็เหมือนกับเสี่ยวเหยา พวกเขาไม่มีขนหรือ?”
คนตัวเล็กเบิกตาสีแดงทับทิมมองไปข้างหน้า
ขน?
หูเจียวเจียวตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะจำได้ว่าเจ้าตัวเล็กเข้าใจว่าตนเองไม่เหมือนเด็กคนอื่นหลังจากที่ได้เห็นลูกของโหวเซียง
“เอ่อ... เด็กบางคนก็อาจจะไม่มีขนเหมือนเหยาเอ๋อก็ได้”
แม่จิ้งจอกคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบ
ท้ายที่สุดแล้ว ภูตมีต้นกำเนิดมาจากสัตว์หลายสายพันธุ์ แล้วบางเผ่าพันธุ์ก็ไม่มีขนปกคลุมร่างกาย
“เอาล่ะ เสี่ยวเหยาอยากจะเล่นกับพวกเขา!” หลงเหยาดูเหมือนจะได้ความมั่นใจกลับคืนมา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
นั่นทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มจาง ๆ มองท่าทางน่าเอ็นดูนั้น
ดู ๆ แล้วคนกลุ่มนี้คงจะผ่านประสบการณ์ที่ลำบากมามากมาย ตอนที่เธอได้ยินสิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดเมื่อวานนี้ เธอก็รู้สึกว่าพวกเขาทำงานหนักมากจริง ๆ
หากเหยาเอ๋อสามารถเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กเหล่านั้นได้ เขาน่าจะได้เรียนรู้สิ่งล้ำค่ามากมาย
ในขณะที่หญิงสาวกำลังคิดกับตัวเอง จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากด้านหน้า
“โอ๊ย!!”
“โอ๊ย!”
“โอ๊ย...”
กลายเป็นว่าจากที่ทุกคนทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อยยามนี้กลับเกิดความโกลาหลไปทั่ว
มิหนำซ้ำ ยังมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ อีก
ภาพที่ปรากฏดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เปลือกตาของหูเจียวเจียวกระตุก นี่เธออยู่ผิดที่ผิดเวลาใช่ไหม?
“ท่านแม่ พวกเขากำลังทำอะไรกันหรือ?” หลงเหยาถามขึ้นมาทันทีในขณะที่ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความอยากรู้และสงสัย
ท่านลุงพวกนี้แปลกมาก!
ทำไมพวกเขาถึงเอาหินขว้างใส่ตัวเอง?
พวกเขากำลังเล่นกันอยู่หรือ?
“ทำอะไรกันน่ะ!!” เสียงโกรธขึ้งของเซี่ยหมานดังมาจากด้านหลัง
ปัจจุบันเขาเป็นผู้นำของเหล่าทาสตั้งแต่ที่พวกเขาอยู่ในเผ่าหมาป่า และเขามีชื่อเสียงมากในกลุ่ม
เมื่อภูตชายทุกคนได้ยินเสียงของชายหนุ่ม พวกเขาก็รีบหุบปาก ก่อนจะย้ายก้อนหินออกกันให้วุ่นเพื่อหลีกทางให้อีกฝ่ายเดินเข้ามา
“หัวหน้า ผู้หญิงที่ช่วยเราอยู่ที่นี่”
ภูตคนหนึ่งรายงานเสียงต่ำ
แล้วเซี่ยหมานก็หันไปเจอหูเจียวเจียวพอดี
เป็นเพราะการมาถึงของจิ้งจอกสาว พวกเขาจึงสร้างเรื่องน่าอับอายขายหน้าต่อหน้านางกันแบบนี้ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธมากขึ้น
นางอาจจะรู้สึกว่าพวกเขาทำงานไม่เป็นและไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด
เดิมที การที่เซี่ยจื้อหนุ่มได้รู้ว่าตนไม่แข็งแกร่งเท่าภูตมังกรคนนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกอับอายมากพอแล้ว ตอนนี้สภาพของทุกคนอาจจะทำให้นางดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม
ทันทีที่หูเจียวเจียวจับมือหลงเหยากำลังจะเดินต่อไป นางก็ถูกล้อมรอบด้วยเหล่าภูต
“แม่นาง ขอบคุณที่รับเราเข้ามาอยู่ในเผ่าและให้อาณาเขตที่กว้างใหญ่เช่นนี้แก่เรา”
“ท่านคือผู้มีพระคุณของเรา!”
“ช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเราคงจะมาสร้างปัญหาให้กับเผ่าของท่าน ในอนาคตเราจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน...”
“ถ้าในอนาคตข้ามีลูก ข้าก็จะให้เขาเป็นวัวเป็นม้าคอยรับใช้ท่าน!”
ยิ่งหลายคนพูด หูเจียวเจียวก็ยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกทุกคน จากนี้ไป เราจะเป็นภูตในเผ่าเดียวกัน เราเป็นครอบครัวใหญ่ เราไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกกันชัดเจนแบบนี้” หญิงสาวพูดขัดจังหวะพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในเผ่า
ถ้าเธอทำตัวเป็นมิตร เธอจะทำให้พวกเขาอยู่ในเผ่าด้วยความเต็มใจได้อย่างไร
ปัจจุบันหัวหน้าเผ่าก็อายุมากจนไม่สามารถควบคุมทุกคนได้ด้วยกำลังของเขาเอง แน่นอนว่าเขาจะต้องพึ่งพาวิธีอื่นเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เธอจึงกำลังปูทางให้ผู้อาวุโสสามารถคว้าใจของทุกคนไปครองได้