บทที่ 349: หลงเหยาซ่อนตัว
วันต่อมา
หูเจียวเจียวตื่นขึ้นมาก็เห็นหลงโม่กำลังแต่งตัวอยู่ โดยที่แสงนอกหน้าต่างยังคงสลัว วันนี้เป็นวันที่เมฆครึ้ม และข้างนอกยังมีหิมะโปรยปรายอยู่
“เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะ” เมื่อมังกรหนุ่มเห็นว่าภรรยาสาวตื่นแล้ว เขาก็ช่วยนางกระชับผ้านวมด้วยสายตาอ่อนโยน
ทว่าจิ้งจอกสาวส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ วันนี้ข้าจะไปดูกลุ่มภูตที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่า”
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หัวหน้าเผ่า แต่เธอเป็นคนพาพวกเขากลับมา เธอจะทำเป็นไม่สนใจพวกเขาไม่ได้
“ทำไมเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้?” หญิงสาวถามพลางมองคนตัวสูงที่แต่งตัวเต็มยศด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
ตอนที่อยู่ระหว่างการเดินทาง พวกเธอออกเดินทางกันแต่เช้ามืด มันจึงทำให้ร่างกายของเธอตื่นเองตามนาฬิกาชีวิต
“ท่านผู้เฒ่าเพิ่งส่งคนมาขอความช่วยเหลือจากข้า” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ
หูเจียวเจียวเดาว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่เธอพูดกับหัวหน้าเผ่าเมื่อวาน เธอจึงลุกจากเตียงและหยิบถุงมือหนังคู่หนึ่งออกมาจากตู้
“ช่วงนี้อากาศหนาวมากแล้ว ตอนที่เจ้าออกไปทำงานข้างนอก เจ้าก็พยายามทำให้ตัวเองอุ่นไว้ตลอดเวลาด้วย”
“อืม” หลงโม่เก็บถุงมือเข้าไปในอกเสื้อ แล้วส่งสายตาร้อนแรงไปให้ภรรยาสาว “มีอีกไหม?”
หูเจียวเจียวตกตะลึง “อะไร?”
แค่ถุงมือคู่เดียวไม่พอหรือ?
เขามีกี่มือกัน?
ยามนี้ดวงตาเปล่งประกายสีทองจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงสด ก่อนที่เขาจะโอบแขนขนาดใหญ่รอบเอวเล็กของนาง กระชับแขนให้แน่น แล้วลดศีรษะลงเพื่อกดจูบริมฝีปากอวบอิ่ม
วินาทีนั้นหูเจียวเจียวได้กลิ่นเนื้อสัตว์และผักทุกชนิดที่อีกฝ่ายกินเข้าไป
ทั้งคู่ไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะคู่ครองมานานแล้ว
เมื่อคืนนี้จิ้งจอกสาวก็เหนื่อยเกินไป เธอจึงผล็อยหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน ซึ่งมังกรหนุ่มเองก็ไม่อยากทรมานคนรัก เขาเลยทำเพียงแค่นอนกอดเธอ
แต่ว่าหลังจากนั้นเขาจะหลับหรือไม่หลับมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
พอ 2 สามีภรรยาอ้อยอิ่งกันอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งคู่ก็ผละออกจากกันในที่สุด โดยที่แก้มของหญิงสาวร้อนขึ้น และเสียงของเธอก็แหบพร่า “กินข้าวเช้าก่อนแล้วค่อยไป ข้าจะไปทำอาหารให้เดี๋ยวนี้แหละ”
หูเจียวเจียวคิดว่าบางทีหลงโม่อาจจะงานยุ่งมากจนไม่มีเวลากลับมากินข้าวระหว่างวัน
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้เดินออกจากห้องไป ร่างสูงก็คว้าข้อมือเล็กไว้
“ไม่จำเป็น” มุมปากของมังกรหนุ่มยกขึ้น จากนั้นเขาก็เปล่งเสียงแผ่วเบาว่า “ข้ากินแล้ว”
แม้ว่าเขาจะยังไม่อิ่มก็ตาม
เอาไว้ค่อยกลับมากินอีกทีก็ได้
ขณะที่หูเจียวเจียวยืนมึนงง ชายร่างสูงก็ก้าวออกจากประตูไปแล้ว
“ผู้ชายคนนี้...” พอกลับมารู้ตัวว่าตนเองถูกภูตมังกรตัวใหญ่พูดหยอกเย้า จิ้งจอกสาวก็รู้สึกร้อนผ่าวไปชั่วขณะ
เธอตบแก้มพลางพูดกับตัวเองว่า
“เราเป็นคู่สามีภรรยามาตั้งนานแล้ว แกจะเขินอะไรอีก”
หลังจากที่หญิงสาวพูดจบ หน้าผากกลมมนของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นตรงประตูที่หลงโม่ปิดไม่แน่น
“ท่านแม่~” หลงเหยาพิงกรอบประตูพร้อมฉีกยิ้มยิงฟัน “เมื่อกี้ท่านพ่อบอกว่ากินข้าวเสร็จแล้ว ท่านแม่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้กับท่านพ่อหรือเปล่า เสี่ยวเหยาก็อยากกินเหมือนกัน”
เมื่อคืนเขาได้กินข้าวน้อยมากเพราะเพิ่งผ่านประสบการณ์ย่ำแย่มา
เป็นผลให้คนตัวเล็กตื่นเพราะความหิวก่อนรุ่งสาง
ทีแรกเด็กชายคิดว่าจะไปหาอะไรกิน แต่พอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องของพ่อกับแม่ เขาก็แอบย่องเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะได้ยินพ่อมังกรพูดว่า ‘ข้ากินแล้ว’
“...”
บัดนี้ใบหน้าของแม่จิ้งจอกเหมือนมีเมฆสีดำอยู่เหนือหัว เจ้าเด็กน้อยคนนี้อยู่นอกประตูตั้งแต่เมื่อไหร่?
“แม่ไม่ได้ให้อะไรพ่อเจ้ากินเลย” หูเจียวเจียวอธิบาย “ถ้าเหยาเอ๋อหิว แม่จะไปทำอาหารเช้าให้เดี๋ยวนี้ เหยาเอ๋ออย่าลืมไปปลุกพี่น้องคนอื่นให้มาเตรียมตัวกินข้าวกันด้วยล่ะ”
จากนั้นหญิงสาวก็รีบดันหลังเจ้าลูกชายคนเล็กออกไป
“ไปกาน~” หลงเหยาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เขาหันหลังกลับและก้าวออกไปข้างนอกได้ 2 ก้าว ก่อนจะหยุดอีกครั้ง แล้วถามด้วยความสงสัย
“แต่ท่านแม่ เสี่ยวเหยาเพิ่งได้ยินท่านพ่อบอกว่าอิ่มแล้ว”
ท่านแม่ซ่อนอะไรดี ๆ ไว้หรือเปล่า?
นางซ่อนมันเอาไว้ให้ท่านพ่อกินเท่านั้นหรือไม่?
มุมปากของหูเจียวเจียวกระตุกหลังจากได้ยินคำถามของเด็กน้อย ในขณะที่จิตใจของเธอยังคงปั่นป่วน “พ่อของเจ้าละเมอพูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”
ทางด้านหลงเหยาเบิกตากลมโตของเขา และกะพริบตาสีแดงปริบ ๆ เอียงคอพลางนึกสงสัยว่าท่านแม่กำลังโกหกเขาอยู่หรือเปล่า?
“มันเป็นแบบนี้นี่เอง!” ทันใดนั้นเด็กชายก็ดูตื่นเต้นขึ้นมา “ที่แท้ท่านพ่อก็เหมือนเสี่ยวเหยาที่ชอบฝันถึงอาหารอร่อย!”
พี่น้องคนอื่นไม่เคยมีความฝันแบบนั้น!
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกที่คล้ายกับท่านพ่อมากที่สุด
“ฮิฮิ~”
นั่นเป็นการพิสูจน์ว่าในอนาคตเขาจะทรงพลังเหมือนพ่อของเขา และเขาจะมีพลังมากกว่าพี่น้องคนอื่น!
ยามนี้คนตัวเล็กมีความสุขมาก ตอนที่เขามาถึงประตูห้องของหลงจง เขาลงแรงย่ำเท้าเหมือนทหารแล้วเชิดหน้าขึ้นสูงพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขายกมือที่คิดว่าแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมา และง้างมือไปข้างหลังหมายจะเคาะประตูเต็มกำลัง
ดีล่ะ! เสี่ยวเหยาจะทำให้เจ้าจิ้งจอกตัวเหม็นนั่นเห็นว่าใครกันแน่ที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง ดูซิว่าเขาจะตกใจกลัวจนหัวใจวายตายไปก่อนหรือเปล่า!
เนื่องจากเด็กชายแข็งแรงมาก
ถ้าเขาลงแรงมากกว่านี้ประตูคงจะพัง!
ทันทีที่เจ้าตัวคิดจบ มือเล็ก ๆ ก็ตบประตูดัง ‘แปะ’
คนตัวเล็กพยายามใส่แรงไปเต็มที่ เขาถึงกับกลั้นหายใจจนใบหน้าขาวเนียนของเขาเกือบจะเป็นสีเดียวกับรูม่านตา
ทว่า…
ประตูก็ยังคงไม่ขยับ
แต่หลงเหยาหน้าแดงแล้วจับก้นตัวเองแน่นทันที
ปู้ดดดดด!
เสียงยาวดังมาจากด้านหลังของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เขาเกร็งตัวมากเกินไป
“...”
อ้าว ไม่เหมือนที่คิดไว้นี่นา!
สิ่งนี้แตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้คนละโยชน์เลย!
ภายในห้อง
หลงจงที่กำลังนอนหลับสนิทจู่ ๆ ก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะยกมือขึ้นปิดจมูกตัวด้วยความสงสัยว่า
กลิ่นอะไร...
...
หลังจากหูเจียวเจียวทำอาหารเช้าเสร็จ เธอก็เห็นลูก 5 คนนั่งรออยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว
“เอ๊ะ เหยาเอ๋ออยู่ไหน?” จิ้งจอกสาวเหลือบไปมองและพบว่าหลงเหยาไม่ได้อยู่ที่นั่น
คนตัวเล็กที่ปกติกินเก่งที่สุด ทำไมวันนี้เขาถึงยังติดเล่น แล้วหายไปก่อนจะถึงเวลากินข้าวล่ะ?
หรือมันเกิดอาเพศขึ้นแล้ว?
ทางด้านเด็กทั้ง 5 ส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่รู้
“ไม่สิ แม่บอกให้เหยาเอ๋อไปปลุกพวกเจ้า ไม่มีใครเห็นเหยาเอ๋อเลยหรือ?” หูเจียวเจียวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เวลานี้เหล่าเด็กน้อยมีสีหน้าสับสน
“ไม่ ท่านแม่ พี่สามต่างหากที่เป็นคนมาปลุกพวกเรา” หลงหลิงเอ๋ออธิบาย
“เมื่อเช้านี้ข้าตื่นขึ้นมาเพราะได้กลิ่นเหม็น แต่ข้าไม่เห็นเสี่ยวเหยาเลย” หลงจงพยักหน้าตอบจริงจัง
มันทำให้แม่จิ้งจอกยิ่งสับสนมากขึ้น “กลิ่นเหม็นหรือ ไม่มีทาง... เมื่อวานหลงโม่เอาไหปลาร้าไปโยนทิ้งในป่าหมดแล้ว ทำไมวันนี้ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่ล่ะ?”
น่าแปลกจริง ๆ
หูเจียวเจียวคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น บางทีกลิ่นของปลาร้าอาจจะแรงเกินไปหน่อย หลังจากนี้เธออาจจะต้องหาเวลาทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่สักวัน
ที่ชั้นบน หลงเหยากำลังซ่อนตัวอยู่ที่มุมบันได เขาถูกล่อลวงด้วยกลิ่นหอมของอาหารและได้ยินการสนทนาของหลาย ๆ คน แต่เขาก็หดตัวกลับไปซ่อนอีกครั้ง
“ฮือออ โฮ ๆๆ”
“ฮึก… ฮึก…”
ตอนที่หูเจียวเจียวขึ้นไปชั้นบนเพื่อตามหาลูกชายคนเล็ก เธอก็พบว่าเขามีท่าทางหดหู่
หลังจากทุกคนทานอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย เธอพาหลงเหยาไปข้างนอกด้วย เพราะเธออยากให้เขาออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ
ส่วนหลงหลิงเอ๋อกำลังจะไปเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากหมอหนูทั้ง 2 คน และหยินชางก็ติดตามนางไปเงียบ ๆ
ปัจจุบันหัวหน้าเผ่าให้ความสำคัญกับหมอ 2 คนนี้มาก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ท่านผู้เฒ่าก็ให้พวกเขาได้อาศัยอยู่ในถ้ำของเผ่า
ตามปกติภูตคนอื่นที่เข้าร่วมเผ่าต้องเปิดถ้ำด้วยตัวเอง
หลังจากหูเจียวเจียวตกลงให้ลูกสาวไปเรียน เธอก็สนับสนุนอีกคนเป็นอย่างดี แต่เธอเตือนให้นางระวังเรื่องความปลอดภัยและอย่ากินอะไรที่ได้มาจากหมอ
เนื่องจากสมุนไพรหลายชนิดมีพิษเว้นแต่จะสกัดออกมาก่อนถึงจะเอามาใช้รักษาได้
“รับทราบ ข้าไปก่อนนะท่านแม่!” หลงหลิงเอ๋อรับคำอย่างเชื่อฟังและออกจากบ้านไปพร้อมกับหยินชาง