บทที่ 348: ท่านพ่อกินเถอะ ทั้งหมดนี้เป็นของท่าน
“เหยาเอ๋อ อาหารในโกดังไม่ได้เน่าเสีย นี่ไม่ใช่กลิ่นของอาหารเน่าเสีย”
บัดนี้หูเจียวเจียวทำอะไรไม่ถูก เธอดึงคนตัวเล็กขึ้นจากพื้นก่อนจะช่วยเขาปัดฝุ่นที่บั้นท้ายของเขาและอธิบาย
“ฮือ… ถ้าไม่ใช่อาหารเน่า ฮึก...”
“แล้วมันเป็นอะไร ฮึก... มันจะยังกินได้ไหม?”
หลงเหยาหยุดร้องไห้ แต่ยังหลงเหลืออาการสะอื้นอยู่น้อย ๆ ในระหว่างที่เขาถามออกมาอย่างไร้เดียงสา
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังเชื่อในสิ่งที่ท่านแม่พูดทุกคำ
“นั่นสินะ เอ่อ...” แม่จิ้งจอกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะอธิบายให้ลูกชายคนเล็กฟังอย่างไรดี “มันเป็นปลาหมักชนิดหนึ่ง คล้ายกับเนื้อสับคั่วพริกที่แม่ทำ”
“รสชาติมันแค่ เอ่อ… แปลกนิดหน่อย… แล้วก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร”
หูเจียวเจียวใช้สมองเพื่อคิดคำที่จะมาอธิบายปลาร้า
บอกตามตรงว่าสิ่งนี้มีกลิ่นที่เลวร้ายยิ่งกว่าทุเรียนเสียอีก
มันเป็นอาหารที่คนไทยชอบกิน และหูเจียวเจียวโชคดีพอที่จะได้ลองชิมมันสักครั้งในชีวิตก่อนหน้า ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่ เธอจึงไม่คิดที่จะลองกินอีกเลย
หญิงสาวรู้สึกขอบคุณที่ในมิติมีอาหารที่อร่อยกว่าให้กินตั้งมากมาย แล้วกลิ่นของมันก็ดีกว่าปลาร้าไหนั้นหลายเท่า
แถมมันถึงขั้นทำให้หลงเหยาร้องไห้!
“ปลา?” เด็กน้อยผู้ซึ่งชอบกินปลาที่สุดย่นใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาทันทีราวกับว่ากินของเปรี้ยวเข้าไป
“ปลาตัวนี้มันเหม็น มันเสียแล้วหรือ...”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกอยากกินปลาชนิดนี้เลยสักนิด
“ท่านแม่ แม้ว่าเราจะมีอาหารไม่มากนัก แต่เราก็กินของบูดไม่ได้นะ! ท่านแม่เปิดประตูแล้วเดี๋ยวเสี่ยวเหยาจะเอามันไปโยนทิ้งเอง!”
หลงเหยายืดอกพูดอย่างกล้าหาญ
เขาจะเป็นผู้สยบกลิ่นเหม็นเอง!
ทางด้านหลงจงกับหลงหลิงเอ๋อก็พยักหน้าเห็นด้วย
กลิ่นของมันเหม็นมาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปลาเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่อยากลองกินเลย
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นใบหน้ายับย่นของลูกทั้ง 3 เธอก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกแต่ก็แอบขำอยู่ในใจ
ถัดมา เธอมองไปที่หลงเหยาด้วยรอยยิ้ม
“เหยาเอ๋อ ปลาร้ารสชาติไม่เลวเลยนะ เราเอาไปทำอาหารกินได้”
“เหยาเอ๋อ ชอบอาหารที่แม่ทำที่สุดไม่ใช่หรือ?”
“เอางี้ดีไหม แม่จะยกปลาร้าทั้งหมดให้กับเหยาเอ๋อ”
“!!!” เด็กน้อยที่ได้ยินเช่นนี้ตะลึงงันไปทันที
ท่านแม่ต้องการฆ่าลูกของตัวเอง!
เขารีบปิดปากส่ายหัวระรัว พร้อมกับที่หางมังกรของเขาม้วนมาอยู่ที่หว่างขาพลางยืนตัวสั่นเทาด้วยความสยดสยอง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ขยับถอยหนีคนเป็นแม่ไป
“ไม่-ไม่เป็นไร... เสี่ยวเหยายังไม่หิว ดังนั้นท่านแม่เอาอาหารพวกนี้ให้พี่สามและพี่สี่กินก่อนเถอะ...”
ขณะนั้นหลงเหยาหันหน้าไปตั้งท่าจะลากหลงจงกับหลงลิงเอ๋อให้มาล่มหัวจมท้ายไปด้วยกัน แต่เขาก็เห็นทั้งคู่วิ่งหนีไปแบบไม่หันหลังกลับมามองเขาเลยสักนิด
“เสี่ยวเหยา เจ้าชอบกินของใหม่ ๆ มากไม่ใช่หรือ ข้ายกให้เจ้าทั้งหมดหมดเลย!” พี่ชายคนที่ 3 ตะโกนทิ้งท้ายก่อนจากไป
“นั่นสินะ เสี่ยวเหยา ข้าฝากเจ้าชิมด้วยนะ!” ส่วนคนเป็นพี่สาวกล่าวสำทับอีกแรงแล้วเผ่นไปแบบไม่คิดชีวิต
“...”
ไม่มีใครรักเสี่ยวเหยาเลย!
ทางด้านหูเจียวเจียวมองหลงเหยาที่ถูกต้อนจนมุมอย่างอ่อนโยนและใจดี ก่อนจะแสร้งทำเป็นเช็ดตาตัวเอง “เหยาเอ๋อ เจ้าไม่ชอบกินอาหารที่แม่ทำแล้วหรือ?”
“ถ้าไม่มีใครกินอาหารที่แม่ทำมันคงน่าเศร้ามาก...”
ยามนี้คนตัวเล็กลอบกลืนน้ำลาย เขาอยากจะร้องไห้แทบขาดใจแต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด
แย่แล้ว! ท้องของเสี่ยวเหยากำลังจะพัง!
ปลาร้าที่มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วโกดังนี้มันจะมีพิษร้ายแรงกว่าอาหารที่ท่านพ่อทำหรือไม่?
คนตัวเล็กคิดพลางเบียดตัวชิดกับกำแพงโดยไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้อีก
ทันใดนั้นเขาเห็นหลงโม่ตามมาจากนอกประตู และดวงตาของเขาก็เป็นประกายทันที
เด็กน้อยรีบตะโกนเสียงหวานว่า “ท่านพ่อไง ท่านแม่เอาให้ท่านพ่อกินสิ!”
“ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาท่านพ่อคงเหนื่อยมาก ท่านต้องหิวมากแน่ ๆ!”
“เสี่ยวเหยายกอาหารทั้งหมดให้ท่านพ่อ ท่านกินให้หมดเลยนะ!”
ทางด้านพ่อมังกรที่เพิ่งเข้ามารู้สึกหายใจไม่ออกเพราะกลิ่นฉุน มันทำให้เขาก้าวเดินยากขึ้นมาก
ตามปกติยิ่งภูตทรงพลังมากเท่าไหร่ ประสาทสัมผัสก็จะยิ่งไวมากขึ้นเท่านั้น
กลิ่นเหม็นดังกล่าวมีพิษร้ายแรงยิ่งกว่าการเทขวดพริกไทยใส่จมูกเสียอีก!
เมื่อหลงโม่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนเล็ก ตัวเขาก็ยิ่งแข็งทื่อกว่าเดิม
แล้วคำว่า ‘ไม่’ ก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของมังกรหนุ่ม
ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวเปิดประตูแล้วหยิบปลาร้า 1 ไหออกมาจากโกดัง
การจับหลงเหยา ‘ลดน้ำหนัก’ เป็นไปได้อย่างยากลำบาก เธอจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดัดนิสัยขี้ขโมยอาหารของเขา มิฉะนั้นเขาจะกลับมาอ้วนอีกครั้งหากเธอไม่ใส่ใจเรื่องนี้แบบจริงจัง
ต่อมา หญิงสาวถือไหปลาร้าในมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างบีบจมูกพลางส่งมันให้ลูกชายคนเล็ก
“อย่ากลัวไปเลย เรามีปลาร้าตั้งหลายไห เจ้ากินได้เต็มที่เลยนะ มันมีพอสำหรับทุกคน…”
บัดนี้ใบหน้าขาวนวลของหลงเหยาพลันเปลี่ยนเป็นสีมะระขี้นก ในระหว่างที่เขามองไหปลาร้าขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แล้วกลิ่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนการใช้มือปิดปากและจมูกก็ยังแทบจะช่วยไม่ได้
จนกระทั่ง…
“แอวะ!”
คนตัวเล็กพยุงกำแพงอาเจียนออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
“เหยาเอ๋อ!” หูเจียวเจียวที่อยากจะเข้าไปช่วยลูบหลังให้ลูกชายตัวน้อยก็เผลอปล่อยจมูกของตัวเอง
แล้วกลิ่นเหม็นรุนแรงก็โชยมาปะทะจมูกของจิ้งจอกสาวทันที
ไม่นานท้องของเธอก็มีปฏิกิริยา จากนั้น...
“แอวะ...” เธอก็อาเจียนออกมาอีกคน
“...”
ฉันผิดเอง จะโทษใครก็ไม่ได้…
หลังจากนั้น 2 แม่ลูกก็พากันพยุงกำแพงแล้วสำรอกน้ำกรดในท้องออกมาไม่หยุด
ในตอนที่หยินชาง, หลงอวี้และหลงเซียวเดินมา พวกเขาก็เห็นฉากดังกล่าว
“ท่านแม่! เสี่ยวเหยา!”
“ท่านแม่เป็นอะไรไป?”
ลูกทั้ง 3 โยนของในมือทิ้งและรีบวิ่งไปหาทั้งคู่ ทันใดนั้นประตูโกดังก็ถูกเปิดออกเพราะถูกลมกระโชกแรง แล้วมันได้พัดพากลิ่นเหม็นไปตีหน้าเด็กทั้ง 3 คน
“…”
“แอวะ!”
“โอ้กกก!”
“แหวะ!”
หลังจากหลายคนโก่งคออาเจียนกันมาพักใหญ่
หูเจียวเจียวก็รีบโยนไหปลาร้าทิ้งไปโดยสาบานว่าจะไม่แตะต้องสิ่งนี้อีก มันเป็นอาวุธชีวภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถฆ่าศัตรูนับพันและสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง
ส่วนหลงเหยาเองก็กลัวสิ่งนี้จนฝังลึกเข้าไปในจิตใจ และจากนี้ไปเขาจะไม่โลภมากอีก
หลังจากนั้นหลงโม่ก็ไปจัดการทำความสะอาดไหปลาร้าทั้งหมดในโกดังเก็บอาหารและบินเข้าไปในป่าเพื่อโยนพวกมันทิ้ง
ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวหาโอกาสตอนที่ไม่มีใครอยู่ในโกดังเพื่อฉีดพ่นสเปรย์ปรับอากาศจนแทบหมดขวด และในที่สุดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในโกดังก็หายไป
หลังจากที่ทั้ง 2 จัดการธุระเสร็จเรียบร้อย พวกเขากลับมาก็เห็นเด็ก ๆ กำลังผิงไฟอยู่ในห้องนั่งเล่น
ยามนี้หลงเหยาซุกตัวอยู่ที่มุมห้องอย่างหดหู่ ในขณะที่ปากของเขาคว่ำลงจนเหมือนพระจันทร์เสี้ยว
ส่วนเด็กคนอื่น ๆ ก็ดูหมดแรงไม่ต่างกัน
พวกเขาถูกกลิ่นเหม็นของปลาร้าโจมตีเข้าใส่อย่างรุนแรง
เวลาต่อมา หูเจียวเจียวเดินไปหยิบถุงหนังสัตว์ขนาดใหญ่ 3 ใบที่กองอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นขึ้นมาดู
“นี่คืออะไร?”
“ท่านแม่ ท่านลุงใหญ่บอกให้เราเอามันกลับมาที่บ้าน” หลงอวี้ยืนขึ้นอธิบาย
หลังจากที่หูหมินส่งเด็ก ๆ กลับมาที่บ้าน หูชิงซานก็เรียกพวกเขาให้ไปหาแล้วมอบถุงหนังสัตว์ให้พวกตน 3 ถุง
ถัดมา แม่จิ้งจอกเปิดถุงหนังสัตว์และพบว่ามีอาหารที่นำกลับมาจากเผ่าเล่ยเหอ และถุง 2 ใบมีเนื้อปลาไหลไฟฟ้าอยู่ข้างใน
“ลุงใหญ่บอกพวกเราว่าต่อจากนี้เราจะไม่มีอาหารสดกินอีกนาน ดังนั้นเขาเลยนำเสบียงที่เหลือจากระหว่างทางมาให้เรา” ลูกชายคนโตบอกเล่าตามความจริง
ระหว่างทาง เนื่องจากอิงหยวนต้องคอยดูแลลู่เมี่ยนเอ๋อ ดังนั้นการแจกจ่ายเสบียงจึงกลายเป็นหน้าที่ของหูชิงซาน
สิ่งนี้ทำให้หูเจียวเจียวตกตะลึง หัวใจของเธอราวกับจะละลายไปกับน้ำพุอุ่น ๆ และเธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เอ่อล้นในใจ
ท่านพี่ นี่มันเป็นของส่วนรวมนะ!
พี่ชายคนโตของเธอเป็นภูตที่ซื่อตรงที่สุด เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำแบบนี้เพื่อเธอ
“ท่านแม่ ท่านลุงใจดีกับพวกเรามาก ในอนาคตหลิงเอ๋อจะตอบแทนท่านลุง!” หลงหลิงเอ๋อดูเหมือนจะมองทะลุความคิดของแม่จิ้งจอก นางจึงพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ
ส่วนหลงอวี้และเด็กคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นว่าลูก ๆ มีความประพฤติดีและมีเหตุผลเพียงใด เธอก็ยิ้มและลูบหัวพวกเขาแบบอ่อนโยน
“เอาล่ะ ทุกคนเป็นเด็กดีมาก”
“คืนนี้แม่จะทำของอร่อย ๆ ให้กิน!” หูเจียวเจียวพูดพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า
“เราจะกินปลากัน!”
ทว่าในครั้งนี้พวกเด็ก ๆ ไม่มีใครรู้สึกดีใจเลยสักนิด ทุกคนรีบก้าวถอยหลังขณะแสดงสีหน้าต่อต้านเต็มที่
พวกเราปฏิเสธได้หรือไม่?
วันนี้จะกินอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ปลา...
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: น่าสงสาร โดนปลาร้าแอดแทคกันทั้งบ้าน 555555555