ตอนที่แล้วบทที่ 347: ประลองกับเซี่ยหมาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 349: หลงเหยาซ่อนตัว

บทที่ 348: ท่านพ่อกินเถอะ ทั้งหมดนี้เป็นของท่าน


“เหยาเอ๋อ อาหารในโกดังไม่ได้เน่าเสีย นี่ไม่ใช่กลิ่นของอาหารเน่าเสีย”

บัดนี้หูเจียวเจียวทำอะไรไม่ถูก เธอดึงคนตัวเล็กขึ้นจากพื้นก่อนจะช่วยเขาปัดฝุ่นที่บั้นท้ายของเขาและอธิบาย

“ฮือ… ถ้าไม่ใช่อาหารเน่า ฮึก...”

“แล้วมันเป็นอะไร ฮึก... มันจะยังกินได้ไหม?”

หลงเหยาหยุดร้องไห้ แต่ยังหลงเหลืออาการสะอื้นอยู่น้อย ๆ ในระหว่างที่เขาถามออกมาอย่างไร้เดียงสา

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังเชื่อในสิ่งที่ท่านแม่พูดทุกคำ

“นั่นสินะ เอ่อ...” แม่จิ้งจอกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะอธิบายให้ลูกชายคนเล็กฟังอย่างไรดี “มันเป็นปลาหมักชนิดหนึ่ง คล้ายกับเนื้อสับคั่วพริกที่แม่ทำ”

“รสชาติมันแค่ เอ่อ… แปลกนิดหน่อย… แล้วก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร”

หูเจียวเจียวใช้สมองเพื่อคิดคำที่จะมาอธิบายปลาร้า

บอกตามตรงว่าสิ่งนี้มีกลิ่นที่เลวร้ายยิ่งกว่าทุเรียนเสียอีก

มันเป็นอาหารที่คนไทยชอบกิน และหูเจียวเจียวโชคดีพอที่จะได้ลองชิมมันสักครั้งในชีวิตก่อนหน้า ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่ เธอจึงไม่คิดที่จะลองกินอีกเลย

หญิงสาวรู้สึกขอบคุณที่ในมิติมีอาหารที่อร่อยกว่าให้กินตั้งมากมาย แล้วกลิ่นของมันก็ดีกว่าปลาร้าไหนั้นหลายเท่า

แถมมันถึงขั้นทำให้หลงเหยาร้องไห้!

“ปลา?” เด็กน้อยผู้ซึ่งชอบกินปลาที่สุดย่นใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาทันทีราวกับว่ากินของเปรี้ยวเข้าไป

“ปลาตัวนี้มันเหม็น มันเสียแล้วหรือ...”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกอยากกินปลาชนิดนี้เลยสักนิด

“ท่านแม่ แม้ว่าเราจะมีอาหารไม่มากนัก แต่เราก็กินของบูดไม่ได้นะ! ท่านแม่เปิดประตูแล้วเดี๋ยวเสี่ยวเหยาจะเอามันไปโยนทิ้งเอง!”

หลงเหยายืดอกพูดอย่างกล้าหาญ

เขาจะเป็นผู้สยบกลิ่นเหม็นเอง!

ทางด้านหลงจงกับหลงหลิงเอ๋อก็พยักหน้าเห็นด้วย

กลิ่นของมันเหม็นมาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปลาเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่อยากลองกินเลย

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นใบหน้ายับย่นของลูกทั้ง 3 เธอก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกแต่ก็แอบขำอยู่ในใจ

ถัดมา เธอมองไปที่หลงเหยาด้วยรอยยิ้ม

“เหยาเอ๋อ ปลาร้ารสชาติไม่เลวเลยนะ เราเอาไปทำอาหารกินได้”

“เหยาเอ๋อ ชอบอาหารที่แม่ทำที่สุดไม่ใช่หรือ?”

“เอางี้ดีไหม แม่จะยกปลาร้าทั้งหมดให้กับเหยาเอ๋อ”

“!!!” เด็กน้อยที่ได้ยินเช่นนี้ตะลึงงันไปทันที

ท่านแม่ต้องการฆ่าลูกของตัวเอง!

เขารีบปิดปากส่ายหัวระรัว พร้อมกับที่หางมังกรของเขาม้วนมาอยู่ที่หว่างขาพลางยืนตัวสั่นเทาด้วยความสยดสยอง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ขยับถอยหนีคนเป็นแม่ไป

“ไม่-ไม่เป็นไร... เสี่ยวเหยายังไม่หิว ดังนั้นท่านแม่เอาอาหารพวกนี้ให้พี่สามและพี่สี่กินก่อนเถอะ...”

ขณะนั้นหลงเหยาหันหน้าไปตั้งท่าจะลากหลงจงกับหลงลิงเอ๋อให้มาล่มหัวจมท้ายไปด้วยกัน แต่เขาก็เห็นทั้งคู่วิ่งหนีไปแบบไม่หันหลังกลับมามองเขาเลยสักนิด

“เสี่ยวเหยา เจ้าชอบกินของใหม่ ๆ มากไม่ใช่หรือ ข้ายกให้เจ้าทั้งหมดหมดเลย!” พี่ชายคนที่ 3 ตะโกนทิ้งท้ายก่อนจากไป

“นั่นสินะ เสี่ยวเหยา ข้าฝากเจ้าชิมด้วยนะ!” ส่วนคนเป็นพี่สาวกล่าวสำทับอีกแรงแล้วเผ่นไปแบบไม่คิดชีวิต

“...”

ไม่มีใครรักเสี่ยวเหยาเลย!

ทางด้านหูเจียวเจียวมองหลงเหยาที่ถูกต้อนจนมุมอย่างอ่อนโยนและใจดี ก่อนจะแสร้งทำเป็นเช็ดตาตัวเอง “เหยาเอ๋อ เจ้าไม่ชอบกินอาหารที่แม่ทำแล้วหรือ?”

“ถ้าไม่มีใครกินอาหารที่แม่ทำมันคงน่าเศร้ามาก...”

ยามนี้คนตัวเล็กลอบกลืนน้ำลาย เขาอยากจะร้องไห้แทบขาดใจแต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด

แย่แล้ว! ท้องของเสี่ยวเหยากำลังจะพัง!

ปลาร้าที่มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วโกดังนี้มันจะมีพิษร้ายแรงกว่าอาหารที่ท่านพ่อทำหรือไม่?

คนตัวเล็กคิดพลางเบียดตัวชิดกับกำแพงโดยไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้อีก

ทันใดนั้นเขาเห็นหลงโม่ตามมาจากนอกประตู และดวงตาของเขาก็เป็นประกายทันที

เด็กน้อยรีบตะโกนเสียงหวานว่า “ท่านพ่อไง ท่านแม่เอาให้ท่านพ่อกินสิ!”

“ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาท่านพ่อคงเหนื่อยมาก ท่านต้องหิวมากแน่ ๆ!”

“เสี่ยวเหยายกอาหารทั้งหมดให้ท่านพ่อ ท่านกินให้หมดเลยนะ!”

ทางด้านพ่อมังกรที่เพิ่งเข้ามารู้สึกหายใจไม่ออกเพราะกลิ่นฉุน มันทำให้เขาก้าวเดินยากขึ้นมาก

ตามปกติยิ่งภูตทรงพลังมากเท่าไหร่ ประสาทสัมผัสก็จะยิ่งไวมากขึ้นเท่านั้น

กลิ่นเหม็นดังกล่าวมีพิษร้ายแรงยิ่งกว่าการเทขวดพริกไทยใส่จมูกเสียอีก!

เมื่อหลงโม่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนเล็ก ตัวเขาก็ยิ่งแข็งทื่อกว่าเดิม

แล้วคำว่า ‘ไม่’ ก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของมังกรหนุ่ม

ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวเปิดประตูแล้วหยิบปลาร้า 1 ไหออกมาจากโกดัง

การจับหลงเหยา ‘ลดน้ำหนัก’ เป็นไปได้อย่างยากลำบาก เธอจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดัดนิสัยขี้ขโมยอาหารของเขา มิฉะนั้นเขาจะกลับมาอ้วนอีกครั้งหากเธอไม่ใส่ใจเรื่องนี้แบบจริงจัง

ต่อมา หญิงสาวถือไหปลาร้าในมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างบีบจมูกพลางส่งมันให้ลูกชายคนเล็ก

“อย่ากลัวไปเลย เรามีปลาร้าตั้งหลายไห เจ้ากินได้เต็มที่เลยนะ มันมีพอสำหรับทุกคน…”

บัดนี้ใบหน้าขาวนวลของหลงเหยาพลันเปลี่ยนเป็นสีมะระขี้นก ในระหว่างที่เขามองไหปลาร้าขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แล้วกลิ่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนการใช้มือปิดปากและจมูกก็ยังแทบจะช่วยไม่ได้

จนกระทั่ง…

“แอวะ!”

คนตัวเล็กพยุงกำแพงอาเจียนออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“เหยาเอ๋อ!” หูเจียวเจียวที่อยากจะเข้าไปช่วยลูบหลังให้ลูกชายตัวน้อยก็เผลอปล่อยจมูกของตัวเอง

แล้วกลิ่นเหม็นรุนแรงก็โชยมาปะทะจมูกของจิ้งจอกสาวทันที

ไม่นานท้องของเธอก็มีปฏิกิริยา จากนั้น...

“แอวะ...” เธอก็อาเจียนออกมาอีกคน

“...”

ฉันผิดเอง จะโทษใครก็ไม่ได้…

หลังจากนั้น 2 แม่ลูกก็พากันพยุงกำแพงแล้วสำรอกน้ำกรดในท้องออกมาไม่หยุด

ในตอนที่หยินชาง, หลงอวี้และหลงเซียวเดินมา พวกเขาก็เห็นฉากดังกล่าว

“ท่านแม่! เสี่ยวเหยา!”

“ท่านแม่เป็นอะไรไป?”

ลูกทั้ง 3 โยนของในมือทิ้งและรีบวิ่งไปหาทั้งคู่ ทันใดนั้นประตูโกดังก็ถูกเปิดออกเพราะถูกลมกระโชกแรง แล้วมันได้พัดพากลิ่นเหม็นไปตีหน้าเด็กทั้ง 3 คน

“…”

“แอวะ!”

“โอ้กกก!”

“แหวะ!”

หลังจากหลายคนโก่งคออาเจียนกันมาพักใหญ่

หูเจียวเจียวก็รีบโยนไหปลาร้าทิ้งไปโดยสาบานว่าจะไม่แตะต้องสิ่งนี้อีก มันเป็นอาวุธชีวภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถฆ่าศัตรูนับพันและสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง

ส่วนหลงเหยาเองก็กลัวสิ่งนี้จนฝังลึกเข้าไปในจิตใจ และจากนี้ไปเขาจะไม่โลภมากอีก

หลังจากนั้นหลงโม่ก็ไปจัดการทำความสะอาดไหปลาร้าทั้งหมดในโกดังเก็บอาหารและบินเข้าไปในป่าเพื่อโยนพวกมันทิ้ง

ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวหาโอกาสตอนที่ไม่มีใครอยู่ในโกดังเพื่อฉีดพ่นสเปรย์ปรับอากาศจนแทบหมดขวด และในที่สุดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในโกดังก็หายไป

หลังจากที่ทั้ง 2 จัดการธุระเสร็จเรียบร้อย พวกเขากลับมาก็เห็นเด็ก ๆ กำลังผิงไฟอยู่ในห้องนั่งเล่น

ยามนี้หลงเหยาซุกตัวอยู่ที่มุมห้องอย่างหดหู่ ในขณะที่ปากของเขาคว่ำลงจนเหมือนพระจันทร์เสี้ยว

ส่วนเด็กคนอื่น ๆ ก็ดูหมดแรงไม่ต่างกัน

พวกเขาถูกกลิ่นเหม็นของปลาร้าโจมตีเข้าใส่อย่างรุนแรง

เวลาต่อมา หูเจียวเจียวเดินไปหยิบถุงหนังสัตว์ขนาดใหญ่ 3 ใบที่กองอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นขึ้นมาดู

“นี่คืออะไร?”

“ท่านแม่ ท่านลุงใหญ่บอกให้เราเอามันกลับมาที่บ้าน” หลงอวี้ยืนขึ้นอธิบาย

หลังจากที่หูหมินส่งเด็ก ๆ กลับมาที่บ้าน หูชิงซานก็เรียกพวกเขาให้ไปหาแล้วมอบถุงหนังสัตว์ให้พวกตน 3 ถุง

ถัดมา แม่จิ้งจอกเปิดถุงหนังสัตว์และพบว่ามีอาหารที่นำกลับมาจากเผ่าเล่ยเหอ และถุง 2 ใบมีเนื้อปลาไหลไฟฟ้าอยู่ข้างใน

“ลุงใหญ่บอกพวกเราว่าต่อจากนี้เราจะไม่มีอาหารสดกินอีกนาน ดังนั้นเขาเลยนำเสบียงที่เหลือจากระหว่างทางมาให้เรา” ลูกชายคนโตบอกเล่าตามความจริง

ระหว่างทาง เนื่องจากอิงหยวนต้องคอยดูแลลู่เมี่ยนเอ๋อ ดังนั้นการแจกจ่ายเสบียงจึงกลายเป็นหน้าที่ของหูชิงซาน

สิ่งนี้ทำให้หูเจียวเจียวตกตะลึง หัวใจของเธอราวกับจะละลายไปกับน้ำพุอุ่น ๆ และเธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เอ่อล้นในใจ

ท่านพี่ นี่มันเป็นของส่วนรวมนะ!

พี่ชายคนโตของเธอเป็นภูตที่ซื่อตรงที่สุด เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำแบบนี้เพื่อเธอ

“ท่านแม่ ท่านลุงใจดีกับพวกเรามาก ในอนาคตหลิงเอ๋อจะตอบแทนท่านลุง!” หลงหลิงเอ๋อดูเหมือนจะมองทะลุความคิดของแม่จิ้งจอก นางจึงพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ

ส่วนหลงอวี้และเด็กคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นว่าลูก ๆ มีความประพฤติดีและมีเหตุผลเพียงใด เธอก็ยิ้มและลูบหัวพวกเขาแบบอ่อนโยน

“เอาล่ะ ทุกคนเป็นเด็กดีมาก”

“คืนนี้แม่จะทำของอร่อย ๆ ให้กิน!” หูเจียวเจียวพูดพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า

“เราจะกินปลากัน!”

ทว่าในครั้งนี้พวกเด็ก ๆ ไม่มีใครรู้สึกดีใจเลยสักนิด ทุกคนรีบก้าวถอยหลังขณะแสดงสีหน้าต่อต้านเต็มที่

พวกเราปฏิเสธได้หรือไม่?

วันนี้จะกินอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่ปลา...

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: น่าสงสาร โดนปลาร้าแอดแทคกันทั้งบ้าน 555555555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด