ตอนที่แล้วบทที่ 346: พี่รองยอมถอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 348: ท่านพ่อกินเถอะ ทั้งหมดนี้เป็นของท่าน

บทที่ 347: ประลองกับเซี่ยหมาน


หูเจียวเจียวยกมือขึ้นแตะคางตัวเองพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก

“ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องเสบียงเอง ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”

เรื่องเล็กน้อยแบบนี้เป็นปัญหาสำหรับเธอหรือไง?

ไม่เลยจ้า!

แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาในตอนนี้ก็คือ หญิงสาวจะดึงเสบียงจากมิติออกมาอย่างเปิดเผยโดยที่ไม่ถูกสงสัยได้อย่างไร

“เจียวเจียว ฤดูหนาวยังเหลืออีกตั้ง 4 เดือน ตอนนี้เรามีคนเพิ่มมากขึ้นเป็นพันคน เสบียงที่พวกเขาต้องการใช้ในแต่ละวันก็มีไม่น้อย...” หัวหน้าเผ่าพยายามพูดเตือนจิ้งจอกสาว

แม้ว่าหูเจียวเจียวจะเคยแก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มาได้ แต่ปัจจุบันเสบียงนอกเผ่าก็มีจำกัดเช่นกัน

แม้ว่าทุกคนจะออกไปล่าสัตว์ แต่พวกเขาก็อาจไม่สามารถจับเหยื่อได้มากเพียงพอต่อความต้องการ

ยิ่งไปกว่านั้น อากาศที่หนาวเย็นประกอบกับมีหิมะปกคลุมตลอดเวลาทำให้พืชไม่สามารถเติบโตได้

อีกทั้งจิ้งจอกสาวไม่มีทางหาดอกเกลือด้วยวิธีเดียวกันได้เสมอไป และนางไม่สามารถฝันถึงเสบียงที่มีคนมากองเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง!

แค่คิดแบบนี้ชายชราก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว!

“เจียวเจียว ไม่ต้องกังวลนะ แม้ว่าในเผ่าจะไม่มีเสบียง แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าและลูก ๆ ต้องหิวโหย” หัวหน้าเผ่าให้คำมั่นสัญญา

ที่ผ่านมาหูเจียวเจียวได้ทำประโยชน์มากมายให้กับเผ่า ดังนั้นนางจึงสมควรได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น

แม้ว่าชายสูงวัยจะหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหญิงสาวจะหาทางออกได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่ต้องการกดดันอีกฝ่ายและทำให้นางต้องกังวลมากเกินไป

ทว่า…

หูเจียวเจียวที่หลุบตาลงต่ำกำลังคิดถึงทางออกไม่ได้ฟังคำพูดของผู้อาวุโสเลย

ไม่นาน เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองหัวหน้าเผ่าด้วยสายตาเป็นประกาย

“ข้าคิดออกแล้ว”

“หือ?” ชายชราทำหน้าสับสน

“ข้ารู้วิธีหาเสบียงแล้ว” จิ้งจอกสาวพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่าหลังจากนี้ 2-3 วันท่านแล้วก็ทุกคนอาจจะต้องลำบากสักหน่อย”

ถัดมา เธอขยับเข้าไปใกล้เพื่อกระซิบบางอย่างข้างหูของท่านผู้เฒ่า

...

เมื่อหูเจียวเจียวออกมาจากบ้านของท่านผู้เฒ่า เธอพบว่าหลงโม่ไม่ได้รอเธออยู่นอกประตู

หลังจากหญิงสาวยืนรออยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เห็นว่าหลงโม่ค่อย ๆ เดินใกล้เข้ามา

ในขณะนี้ชายหนุ่มกำลังแบกกวางตัวหนึ่งและถือถุงหนังสัตว์ไว้ในมือ

“หลงโม่ เจ้าหายไปไหนมา?” จิ้งจอกสาววิ่งไปหามังกรหนุ่มทันที

“ข้ากลับมาครั้งนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองมีแรงเหลืออยู่อีก ข้าก็เลยออกไปหาคนมาประลองด้วย” ร่างสูงอธิบายพลางยกกวางในมือขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“แล้วอีกอย่าง  ข้าจับเหยื่อได้และจะเอากลับไปให้เจ้ากิน”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นทำหน้าประหลาดใจ

อีกฝ่ายเพิ่งออกไปได้ไม่นาน หลังจากเขาไปประลองกับคนอื่นแล้วเขายังมีเวลาไปจับเหยื่อกลับมาด้วย

ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยสังเกตมาก่อน แต่ตอนนี้เธอตระหนักว่าความแข็งแกร่งของหลงโม่ดูเหมือนจะมีมากขึ้นกว่าตอนที่ตนทะลุมิติมาที่นี่ครั้งแรก

ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวยังไม่รู้ว่าสามีของเธอไม่ได้ไปท้าสู้กับภูตธรรมดา

“ที่บ้านเรายังมีอาหารเก็บไว้อีกมาก เจ้าไม่ต้องลำบากออกไปล่าเหยื่อเองหรอก” เมื่อหูเจียวเจียวรู้ว่าเขาอยากให้เธอกินเนื้อสด เธอก็แย้มยิ้มอ่อนโยน

ต่อมา จิ้งจอกสาวเลื่อนสายตาไปจับจ้องถุงหนังสัตว์ในมืออีกข้างของเขา

ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าถุงหนังสัตว์นี้ดูคุ้น ๆ?

“กลับบ้านกัน” หลงโม่ย้ายถุงหนังสัตว์ไปถือไว้ในมือข้างเดียวกับไหล่ที่แบกกวางน้อยเอาไว้ แล้วใช้มือข้างที่สะอาดจับมือของหูเจียวเจียว

“อืม กลับบ้านกันเถอะ” จิ้งจอกสาวพยักหน้ารับอย่างมีความสุข

ระหว่างที่เกิดเรื่องกับพี่รอง เธอขอให้หูหมินส่งลูก 6 คนกลับบ้านไปก่อน

ปัจจุบันเธอชอบครอบครัวที่มีอยู่ตอนนี้มาก

ซึ่งมันดีกว่าบ้านเช่าที่เงียบเหงาในโลกมนุษย์หลังนั้น แล้วเธอก็จะถูกเจ้าของบ้านไล่ออกไปได้ทุกเมื่อหากเขาต้องการขึ้นค่าเช่า

อีกด้านหนึ่ง

เซี่ยหมานกำมือเช็ดมุมปากที่เปื้อนเลือดแรง ๆ จนมันมาติดอยู่ที่หลังมือของเขา

พอชายหนุ่มสัมผัสบาดแผล เขาก็กัดฟัน ประกอบกับใบหน้าเย็นชาแข็งกร้าวดูน่ากลัวกว่าปกติเพราะความเจ็บปวด

ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขามีมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า

เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ภูตมังกรมาหาเขาและบอกว่าต้องการประลองกับตน

ตอนแรกเขาปฏิเสธ แต่อีกคนบอกว่า

“ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะให้ดอกเกลือ 2 ถุง ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าให้ข้าถุงเดียวพอ”

เนื่องจากดอกเกลือ 2 ถุงเพียงพอให้ภูต 800 คนกินได้เป็นเวลานานโดยไม่ต้องไปรบกวนหัวหน้าเผ่า

ดังนั้นข้อเสนอนี้มันล่อใจเขามาก

ต่อมา เซี่ยจื้อหนุ่มมองใบหน้าเย็นชาของหลงโม่พลางคิดว่าเขาเป็นคู่ของหูเจียวเจียว และด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าอยากจะประลองกับอีกฝ่ายดูสักครั้ง

“ตกลง ข้ายอมรับคำท้าของเจ้า” ชายหนุ่มตอบเสียงดัง

เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็พ่ายแพ้ให้กับมังกรหนุ่มแบบไม่สามารถโต้กลับได้เลยสักครั้ง

ซึ่งแตกต่างจากหูชิงเกา เพราะการโจมตีทุกครั้งของหลงโม่นั้นคล้ายคนกระหายเลือด เขาเน้นโจมตีไปยังบริเวณที่สร้างความเจ็บปวดรุนแรงที่สุด แต่ไม่มีบาดแผลให้คนภายนอกได้เห็น

ระหว่างการต่อสู้ เซี่ยหมานถูกฝ่ายตรงข้ามกระหน่ำโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน ในตอนนั้นเขาเผลอคิดไปว่าชายตรงหน้าจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ

แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็ปล่อยเขาไป แล้วทำท่าคล้ายกับแมวตัวใหญ่จอมขี้เกียจกำลังหยอกล้อกับเจ้าหนูตัวน้อย ซึ่งท่าทางของคู่ต่อสู้ทำให้เขารู้สึกอับอายมาก

เมื่อเซี่ยหมานนึกถึงฉากที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ยิ่งกัดฟันแน่น

ภูตมังกรคนนั้นแข็งแกร่งมาก!

สำหรับภูตมังกรที่เคยแปลงร่างล้มเหลว การที่เขาจะแข็งแกร่งได้เท่าปัจจุบันน่าจะเกิดมาจากการที่เขาต้องคอยต่อสู้นองเลือดแทบตลอดเวลา

ภูตชายผู้นี้สมควรเป็นคู่ของนางแล้ว

ทั้ง 2 คนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ถ้ามีเขาอยู่ข้าง ๆ นางอีกสักคน ม้วนภาพที่สวยงามนี้ก็จะถูกย้อมด้วยหมึกสีดำ มันเหมือนกับว่าความหวังของเขาพังทลายลงไปตรงนี้

เซี่ยหมานคิดพร้อมกับหลับตาลง เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขาก็ชัดเจน ก่อนที่เขาจะลากร่างกายอันแสนบอบช้ำกลับเข้าไปในถ้ำที่พักของตน

...

ยามนี้หูเจียวเจียวกับหลงโม่เพิ่งเดินไปถึงประตูบ้าน

ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหลงเหยามาจากภายในบ้าน

มันทำให้แม่จิ้งจอกตกใจและคิดว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บ

แถมในครัวยังมีมีดอันตรายมากมาย เจ้าตัวเล็กอาจจะหิวแล้ววิ่งเข้าไปหาอะไรกินในห้องครัวจึงถูกมีดบาดโดยบังเอิญ!

ยิ่งหญิงสาวคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น และภาพของหลงเหยาที่โชกไปด้วยเลือดก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ

ทันใดนั้นผู้เป็นแม่ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบ

ส่วนหลงโม่ยังคงมีสีหน้าถมึงทึง เขาวางกวางและถุงหนังสัตว์ไว้ที่ประตูแล้วตามเธอไปติด ๆ

หูเจียวเจียวเร่งฝีเท้าตรงไปที่ห้องครัว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งไปที่ห้องครัว เธอเห็นเด็กคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นตรงประตูโกดังแล้วเตะขาร้องไห้เสียงดัง เธอจึงหยุดชะงักกึก

“เหยาเอ๋อ เกิดอะไรขึ้น?” จิ้งจอกสาวถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างที่เห็นเจ้าตัวเล็กมีน้ำตาอาบอยู่เต็มใบหน้า เธอเลยรีบวิ่งเข้าไปสำรวจเขาทั้งตัว

“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า เหยาเอ๋อ?”

“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาไม่เป็นไร ฮึก!”

หลงเหยาลืมตาขึ้นก่อนจะเห็นว่าท่านแม่กลับมาแล้ว เขาจึงสะอื้นฮึกฮักอย่างควบคุมไม่ได้

ขณะที่หูเจียวเจียวกำลังจะถามว่าทำไมเขาถึงร้องไห้

ทันใดนั้นคนตัวเล็กก็ชี้นิ้วไปที่ประตูโกดังพร้อมกับทำหน้าสิ้นหวังเหมือนคนกำลังอกหัก

“โฮ...ท่านแม่ อาหารของเราเหม็นมาก มันน่าจะกินไม่ได้แล้ว...”

เหม็น?

หูเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง หลังจากที่หลงเหยาพูดเตือน เธอก็เพิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหม็นที่ไม่อาจบรรยายได้กำลังลอยตลบอบอวลไปทั่ว

ต่อมา หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกระแอมไอในลำคอ

“อะแฮ่ม!”

จิ้งจอกขาวเพิ่งนึกออกจริง ๆ ว่าตัวเองทำอะไรไว้

นี่คือกลิ่นของปลาร้าที่เธอเปิดฝาไหวางไว้ก่อนที่เผ่าหมาป่าจะโจมตี แล้วเวลาที่ผ่านไปกว่า 1 เดือนก็ทำให้กลิ่นของมันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

จากนั้นหูเจียวเจียวยิ้มแหย ๆ พอเธอหันศีรษะไปอีกทาง เธอพบว่าหลงจงกับหลงหลิงเอ๋อก็ยืนอยู่ไม่ไกล ในขณะที่ทั้งคู่ยกชายเสื้อของตัวเองมาปิดปากปิดจมูกจนสนิท

กลิ่นนี้มันเหม็นจนแทบอ้วก!

ไม่นานลูกทั้ง 2 ก็ผายมือพร้อมกันราวกับจะบอกว่า

ท่านแม่ เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่เราไม่สามารถอุ้มเสี่ยวเหยาได้

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: หลงโม่โหดมากกกกก สมแล้วที่ไม่มีใครสู้ได้ แล้วก็ชอบตีเนียนกับเจียวเจียวตลอด XD

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด