ตอนที่แล้วบทที่ 342: หมอหนีออกจากเผ่าไปพร้อมกับหูเจียวเจียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 344: การต่อสู้ของหูชิงเกาและเซี่ยหมาน

บทที่ 343: สู่ต้าเป็นภูตหนูที่ไร้ประโยชน์แล้ว


ในโลกภูตมีวิกฤตที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

หลงหลิงเอ๋อต้องการเดินตามรอยเท้าของหูเจียวเจียวที่สามารถคอยช่วยเหลือทุกคนในยามที่ลำบากได้

ผู้หญิงเองก็มีความสามารถเช่นกัน!

“ไม่ใช่แบบนั้น พวกเราสอนให้เจ้าได้” หมอหนูส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “แต่ว่า…เจ้าอยากเรียนรู้จริง ๆ หรือ?”

“ปกติภูตมักจะได้รับบาดเจ็บถึงขั้นผิวหนังถลอกหรือกระดูกเปิด เจ้าทนดูภาพนองเลือดแบบนั้นได้ไหม?” หมออีกคนกล่าวเสริม

ในความคิดของหมอหนู ผู้หญิงล้วนเป็นภูตที่บอบบาง พวกนางคงไม่สามารถทนดูฉากที่เต็มไปด้วยเลือดได้แน่นอน

พวกเขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นลูกของหูเจียวเจียว ดังนั้นนางจึงไม่ต่างจากองค์หญิงตัวน้อยในครอบครัว

ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่เลยคิดว่าหลงหลิงเอ๋อจะล้มเลิกด้วยความหวาดกลัวหลังจากได้ยินพวกเขาบอกความจริง

ทว่าเด็กหญิงตัวน้อยกลับรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นในขณะที่ดวงตาของนางเป็นประกาย

นางกระชับมือที่จับชายเสื้อของผู้เป็นหมอมั่นขึ้นอีก

ในขณะเดียวกัน คำว่า ‘ข้าชอบที่จะได้เห็นเนื้อและเลือดสด ๆ ไหล’ ถูกเขียนไว้ทั่วใบหน้าของนาง

“อืม ข้าอยากเรียน!”

ในเวลานั้น นางจะสามารถใช้มีดที่ท่านแม่มอบให้ได้...

ไม่สิ เพื่อช่วยเหลือภูตที่ได้รับบาดเจ็บ!

“...” หมอหนูทั้ง 2 คนรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

ทำไมพอเด็กผู้หญิงคนนี้ได้ยินว่าต้องเจอกับฉากที่น่าสยดสยอง นางถึงยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ?

นี่นางเป็นเด็กผู้หญิงจริง ๆ หรือ?

แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายคงจะไม่หน้าตาสะสวยขนาดนี้หรอกใช่ไหม?

ยามนั้นหมอ 2 คนหันไปมองหูเจียวเจียวแบบลังเล พวกเขาไม่กล้าที่จะตอบตกลงไปเองแบบส่ง ๆ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าพวกตนกำลังลักพาตัวลูกของนางมาใช้งาน ซึ่งแบบนี้มันไม่เป็นผลดีกับพวกเขาเลย

“หลิงเอ๋อ เจ้าไปเรียนรู้กับพวกเขาได้เต็มที่เลย” จิ้งจอกสาวพยักหน้าสนับสนุน

แม่จิ้งจอกจะไม่คัดค้านหากลูก ๆ มีสิ่งที่อยากจะทำ ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในอันตรายเธอก็ไม่มีปัญหาอะไร

“ขอบคุณท่านแม่!” หลงหลิงเอ๋อยิ้มหวานอย่างมีความสุข

จากนั้นนางก็หันไปมองหมอเผ่าหนูทั้ง 2 ก่อนจะตะโกนเสียงดัง

“ท่านอาจารย์ จากนี้ไปข้าขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”

นั่นทำให้ใบหน้าของคนเป็นหมอแสดงถึงความหวาดกลัวมากจนพวกเขารีบโบกมือปฏิเสธเด็กหญิง

“ไม่มีทาง! ไม่มีทาง!”

“เราไม่สามารถรับเจ้าเป็นศิษย์ได้จริง ๆ พวกเราเองก็ยังไม่เก่งพอที่จะไปเป็นอาจารย์ของเจ้าได้”

“แต่ถ้าเจ้าต้องการ เราสามารถสอนสิ่งที่พวกเรารู้ให้กับเจ้าได้ แต่อย่าเรียกพวกเราแบบนั้นเลย...”

พวกเขาจะกล้าเอาความรู้เท่าหางอึ่งไปสอนสั่งลูกศิษย์ในฐานะอาจารย์ได้อย่างไรกัน!?

หากเป็นแบบนี้ ภูตมังกรที่เป็นคู่ครองของหูเจียวเจียวจะต้องกินหัวพวกเขาทั้งเป็นแน่ ๆ

“ถ้าอย่างนั้น… ให้ข้าเรียกพวกท่านว่าอะไรดี?” หลงหลิงเอ๋อถามอย่างสงสัย

“เรียกพวกเขาว่าอาจารย์นั่นแหละ” หูเจียวเจียวกล่าว

ปกติภูตจะให้ความสำคัญกับฐานะและเคารพหัวหน้าเผ่าเพียงคนเดียวในชีวิตของพวกเขา

ในเมื่อสาวน้อยจะต้องเรียนรู้วิชาจากหมอทั้ง 2 คนนี้ นางก็ควรให้ความเคารพพวกเขาในฐานะอาจารย์

จากนั้นหลงหลิงเอ๋อก็เปลี่ยนคำพูดของตัวเองทันที “ท่านอาจารย์!”

“ท่านอาจารย์จะสอนข้าเมื่อไหร่ สอนตอนนี้เลยได้ไหม?”

เด็กหญิงประสานมือทั้ง 2 ข้างไว้บนหน้าอกในท่าทางออดอ้อน ขณะที่ตัวนางแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์

นางวาดฝันเอาไว้ว่าตนจะต้องเติบโตเป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือท่านแม่ของตัวเองให้เร็วที่สุด!

“เอ่อ…ได้ ๆ”

หมอเผ่าหนู 2 คนพยักหน้าอย่างลังเล

พวกเขาไม่เคยพบเด็กผู้หญิงที่… มีความคิดแปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนในชีวิต

นางสมกับที่เป็นลูกของหูเจียวเจียวจริง ๆ

มีเอกลักษณ์!

อีกด้านหนึ่ง

หัวหน้าภูตหนูกลับไปที่ถ้ำของตนด้วยความสิ้นหวัง แล้วเขาก็ทุบทำลายข้าวของในถ้ำอย่างโกรธแค้น

“ให้ตายเถอะ หูหลิน เจ้ามันก็รู้จักแต่รังแกคนอื่น!”

“ถ้าไม่ใช่เพราะมีภูตกิ้งก่าขี้โมโหและไม่มีเหตุผลพวกนั้น หมอนั่นจะหยิ่งผยองได้ถึงเพียงนี้หรือ!”

บัดนี้เขาบันดาลโทสะที่สุมอยู่ในอกทั้งหมดออกมา

หลังจากที่เสียงในถ้ำสงบลง ภูตหนูคนหนึ่งก็เดินตัวสั่นเข้ามาถามว่า “หัวหน้า แล้ว…สู่ต้าล่ะ?”

นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องของการช่วยชีวิตเขากลับมา หลังจากนี้เขาจะยังสามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้หรือไม่นั้นยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ ส่วนตำแหน่งหัวหน้าในอนาคตที่เขาจะได้สืบทอดก็เป็นไปได้ยากมาก

ขณะนั้นใบหน้าของหัวหน้าภูตหนูยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น ตอนนี้เขาสามารถระงับความโกรธของตัวเองลงได้แล้ว ปัจจุบันลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บจนแม้แต่หมอก็รักษาไม่ได้เว้นแต่จะมีหมอผี ส่งผลให้สภาพของเขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้ว

เมื่อลูกน้องคนหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าภูตหนูนิ่งเงียบไปนาน เขาจึงเอ่ยถามเสียงเบาว่า

“หัวหน้า ท่านอยากไปดูสู่ต้าไหม...” ที่ผ่านมาหัวหน้าของพวกเขามักจะให้ความสำคัญกับสู่ต้าที่เป็นลูกชายคนโตมากที่สุด และเวลานี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นหัวหน้าจะต้องเป็นห่วงเขามากแน่ ๆ

ทางด้านชายร่างอ้วนท้วนเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน ทว่าเขากลับไม่มีสีหน้ากังวลใด ๆ

“เจ้าจะให้ข้าไปดูอะไร ข้าไม่ใช่หมอสักหน่อย ถ้าข้าไปเจอเขา แล้วเขาจะดีขึ้นไหมล่ะ?” คนเป็นพ่อพูดเสียงลอดไรฟันด้วยใบหน้าที่มืดมน

“ไปเรียกสู่เอ้อร์มา” เขาไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากลูกหลาน เขายังต้องให้คนเหล่านี้สืบทอดตระกูลสู่ต่อไป!

...

“เจ้าบอกว่าท่านพ่อกำลังตามหาข้าหรือ?”

ยามนี้สู่เอ้อร์ตกใจเมื่อได้ยินข่าวจากภูตหนูคนอื่น

นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อเรียกหาเขาด้วยตัวเอง

ในอดีต เขาคอยยืนอยู่ต่อหน้าผู้เป็นพ่อเสมอ แต่เขามักจะถูกอีกฝ่ายมองข้ามเป็นเหมือนธาตุอากาศอยู่ตลอด

ถัดมา เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับมีสีหน้าตื่นเต้นและรีบออกไปกับภูตหนูคนที่มาส่งข่าว

เมื่อสู่เอ้อร์มาถึงถ้ำของหัวหน้าภูตหนู อีกฝ่ายกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เคยมองมาก่อน และแม้แต่การก้าวมาข้างหน้าเพื่อทักทายเขาที่เป็นลูกไม่เอาไหนก็ไม่เคยเกิดขึ้น แต่บัดนี้ทุกอย่างกำลังเป็นจริง

“สู่เอ้อร์ ลูกมาแล้วหรือ พ่อไม่ได้คุยกับเจ้านานเลย”

“ท่านพ่อ” ชายแคระรู้สึกปลื้มปีติพลางก้มหัวลงแล้วเรียกอีกคนเสียงเบา

พอหัวหน้าภูตหนูเห็นว่าลูกชายคนรองมีท่าทีขัดเขิน เขาก็หัวเราะเสียงดังและตบไหล่ลูกราวกับว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกที่รักใคร่กันมานมนาน

“สู่เอ้อร์ เจ้าเป็นลูกที่เชื่อฟังและทำอะไรรอบคอบมากที่สุด ก่อนหน้านี้พ่ออาจจะทำตัวไม่ดีกับเจ้าไปบ้าง แต่เจตนาของพ่ออยากให้เจ้าได้ฝึกฝน เจ้าไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังเลยจริง ๆ”

“ตอนนี้พ่อแก่ตัวลงทุกวัน ไม่นานเผ่าหนูก็จะถูกส่งต่อให้กับเจ้า!”

ความสุขที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ทำให้สู่เอ้อร์คิดว่าตัวเองกำลังฝันไป

นี่ใช่พ่อของเขาจริง ๆ หรือ?

ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยใส่ใจหรือมองเขาอยู่ในสายตาเลยสักครั้ง

ชายตัวเตี้ยใช้เวลาดึงสติตัวเองกลับมาก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก ไม่นานเขาก็นึกถึงสู่ต้าผู้เป็นพี่ชายที่ยังอยู่ในอาการสาหัสขึ้นมาได้ เขาจึงถามว่า

“ท่านพ่อ ท่านหาหมอเจอหรือยัง? พี่ใหญ่—”

“หมอถูกไอ้จิ้งจอกเฒ่าคนนั้นขโมยไปแล้ว พี่ใหญ่ของเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกินเยียวยา ต่อจากนี้ไปทางเผ่าจะต้องพึ่งพาเจ้าแล้ว” คนเป็นพ่อกล่าวอย่างเศร้าใจ

เมื่อสู่เอ้อร์ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกสับสน ในขณะที่ความคิดของเขาตีกันมั่วซั่วไปหมด

เดิมทีเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหมอทั้ง 2 และเขายังเชื่อในความเป็นผู้นำของหูหลินอีกด้วย

แต่สิ่งที่เชื่อถือไม่ค่อยได้คือคำพูดของพ่อเขา….

พอสู่เอ้อร์นึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของพ่อ ในที่สุดเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง

ความจริงแล้วพ่อไม่หลงเหลือความตั้งใจที่จะช่วยพี่ชายของเขาอีกต่อไป...

สายเลือดแบบไหน… ความรักในครอบครัวแบบไหนกัน… ทำไมมันถึงได้บางเบากว่าปีกจั๊กจั่น มันเทียบไม่ได้กับความเห็นแก่ตัวของผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำ!

ปัจจุบันสู่เอ้อร์รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกโยนลงไปในทะเลลึก จากนั้นความสุขบนใบหน้าพลันหายไป ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา

ครึ่งเดือนต่อมา

ในที่สุด หูเจียวเจียวและพรรคพวกของเธอก็กลับมาถึงเผ่า

เวลานี้ท่านผู้เฒ่ากับหูชิงเกาได้นำพวกภูตไปสร้างกำแพงล้อมรอบเผ่าขึ้นมาใหม่ ซึ่งพวกมันได้รับการฟื้นฟูให้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อนแล้ว

เพียงแต่ว่าเผ่าในปัจจุบันมีสภาพเป็นเหมือนโลกในยุคน้ำแข็งซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง หลังจากที่พวกเขาประสบพบเจอกับวิกฤตต่าง ๆ มามากมาย ตอนนี้ดูเหมือนว่าบรรยากาศโดยรอบดูแตกต่างออกไป

ขณะนั้นภูตที่ลาดตระเวนพบกลุ่มของหูเจียวเจียวได้รีบไปแจ้งหัวหน้าเผ่า

ทันทีที่ชายชราได้ยินว่าจิ้งจอกสาวและคนอื่น ๆ กลับมาแล้ว เขาที่คอยกังวลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็รู้สึกว่าหินหนักที่คอยถ่วงอยู่ในใจถูกยกออกไปสักที เขาจึงรีบไปทักทายทุกคนอย่างเร่งรีบ

“เจียวเจียว! หลงโม่! พวกเจ้ากลับมาแล้ว!”

“พวกเจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม? มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? ระหว่างทางมีของกินเพียงพอหรือไม่...”

ท่านผู้เฒ่าเข้ามาทักทายคนในเผ่าด้วยใบหน้าที่มีความสุข แล้วเขาก็รู้ตัวว่าตนถามคำถามออกมาแบบไม่เว้นจังหวะให้ใครได้ตอบ

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สงสารสู่เอ้อร์ เกิดมาในครอบครัวที่เห็นแก่ตัว //ในที่สุดพวกเจียวเจียวก็กลับมาถึงเผ่าแล้ววว คิดถึงท่านผู้เฒ่ามาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด