บทที่ 340: ข้าคือสู่ต้านะ ข้าจะล้มเหลวได้ยังไง!
“ข้ามาที่นี่เพื่อรับยา หัวข้าแตกน่ะ” สู่เอ้อร์ตอบอย่างตรงไปตรงมา
จากนั้นเขามองดูสิ่งของที่อยู่ข้างหลังหมอทั้ง 2 ด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
“พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่?”
“เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่าถ้ำสกปรกเกินไปเลยทำความสะอาดซะเกลี้ยง” หมอคนหนึ่งตอบด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ
ต่อมา คนเป็นหมอก็ค้นหาไปรอบ ๆ ก่อนจะพบสมุนไพร 2-3 อย่างจากด้านหลังแล้วยัดมันใส่มือของสู่เอ้อร์ “นี่เป็นยาเอาไว้ห้ามเลือด เจ้าเอามันไปใช้สิ”
ทางด้านคนเจ็บไม่ได้คิดอะไรมากและพยักหน้ารับ
“ขอบคุณท่านหมอ”
หลังจากนั้นสู่เอ้อร์ก็เดินออกไป หมอทั้ง 2 คนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่หมอคนหนึ่งจะพูดขึ้นมาว่า
“เร็วเข้า ถ้ามีใครมาพบ เราก็ทำมันไม่ได้อีกแล้ว...”
ไม่กี่อึดใจต่อมา หมอ 2 คนก็รีบแบกถุงขนาดใหญ่ 1 ใบ ขนาดเล็ก 1 ใบออกจากถ้ำไปเงียบ ๆ
ปัจจุบันภูตหนูทั้งหมดไปจับปลากับสู่ต้า จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีภูต 2 คนหายไปจากถ้ำ
…
ที่ริมฝั่งแม่น้ำเล่ยเหอ
ด้วยความพยายามร่วมกันของภูตหนูนับสิบ ในที่สุดพวกเขาก็สามารถเจาะชั้นน้ำแข็งจนเป็นรูขนาดเท่าฝาปิดท่อระบายน้ำ
ขณะนั้นสู่ต้านั่งไขว่ห้างรออยู่ด้านข้าง นอกจากเขาจะไม่ชื่นชมที่ทุกคนพยายามอย่างหนักแล้ว เขายังพูดอย่างไม่พอใจอีกด้วยว่า
“พวกเจ้านี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ ทั้งที่พวกภูตกิ้งก่าสามารถเจาะแผ่นน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย ทำไมพวกเจ้ามันถึงไร้ประโยชน์แบบนี้ แค่ทุบน้ำแข็งให้แตกยังทำไม่ได้เลย”
ปกติเหล่าภูตหนูอ้วนท้วนกันในระดับหนึ่ง แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาพวกเขาอ้วนขึ้นมากกว่าเดิม
ทันทีที่หลายคนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็เม้มปากตอบว่า
“วันนี้ข้ากินข้าวไม่อิ่ม แล้วข้าจะเอาแรงที่ไหนไปทุบน้ำแข็งให้แตกกันล่ะ...”
“ถูกต้อง พวกภูตกิ้งก่าไม่ขาดอาหารแบบเราสักหน่อย”
“พวกเขาได้กินปลาและกินเนื้อมากมายทุกวัน ถ้าข้าได้กินอาหารเยอะขนาดนั้น ข้าก็คงมีแรงพอ ๆ กับพวกเขา”
เดิมทีภูตหนูมักจะเกียจคร้าน แม้กระทั่งการงานที่ได้รับมอบหมายในเผ่าก็ยังขี้เกียจทำเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่อยากขยับตัวทำอะไรเลย
ภูตเผ่าหนูทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัยไปแล้ว ทำให้กลุ่มภูตที่อยู่ต่อหน้าสู่ต้ามีสภาพอย่างที่เห็น
“นี่พวกเจ้า!” สู่ต้าโกรธจนแทบกระอักเลือด
ทำไมในเผ่าของเขาถึงมีแต่ไอ้พวกสวะไร้ประโยชน์มากมายขนาดนี้!
“สู่ต้า เรากลับมาแล้ว!”
“เราจับเหยื่อได้แล้ว!”
ขณะที่ชายแคระกำลังอารมณ์พุ่งขึ้นสูง จู่ ๆ ก็มีพวกภูตหนูบางคนโบกมือตะโกนเรียกเขาจากระยะไกล
แล้วอารมณ์ของเขาก็พลันเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็จ้องมองพวกคนไม่ได้เรื่องด้วยสายตาเชือดเฉือนก่อนจะหันกลับไปมองกลุ่มคนที่นำข่าวดีมาให้
“พวกเจ้าจับเหยื่อได้แล้วหรือ เอามาให้ข้าดูซิ พวกเจ้าจับได้กี่ตัว และตัวใหญ่ขนาดไหน?” สู่ต้าถามอย่างกระวนกระวาย
ระหว่างนั้นเขามองไปข้างหลังภูตหนูหลายคนเพื่อมองหาเหยื่อ
หลังจากชายร่างเตี้ยค้นหาอยู่นานก็ไม่พบเหยื่อสักตัวเดียว
“ตกลงเหยื่ออยู่ที่ไหน?”
ทางด้านภูตหนูคนหนึ่งก้มหัวลงพลางจ้องมองที่นิ้วเท้าด้วยความละอายใจ ก่อนจะยื่นมือออกไปค้นอะไรบางอย่างตรงแขนเสื้อของตัวเอง
ไม่นานเขาก็หยิบหนูสีดำตัวเล็ก ๆ 5 ตัวที่ใหญ่ไม่ถึงฝ่ามือออกมา...
“เหยื่อ... อยู่นี่”
ในตอนนั้นเอง สีหน้ามีความสุขของสู่ต้าแข็งทื่อไปทันที สภาพของเขายามนี้แทบจะกลายเป็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางลมหนาว
“นี่คือเหยื่อที่เจ้าใช้เวลาจับตั้งนานงั้นรึ!?” สู่ต้าถามเสียงแหลมจนเขาแทบหายใจไม่ทัน
หากใครที่ไม่รู้เรื่องผ่านมาเห็น คนคนนั้นคงคิดว่าชายผู้นี้กำลังเสียสติ
ส่วนกลุ่มภูตหนูรู้สึกแสบแก้วหูเพราะเสียงตะคอกของอีกฝ่าย พวกเขาพากันหันหน้าหนีพลางตอบเสียงอ่อยว่า
“ในยามฤดูหนาวมันหาเหยื่อได้ยากมากจริง ๆ”
“ใช่ เหยื่อตัวอื่นวิ่งเร็วมากจนพวกข้าตามไม่ทัน”
“โชคดีแค่ไหนแล้วที่เราได้หนูพวกนี้มา…”
ขณะนี้ภูตหนูหลายคนอดไม่ได้ที่จะบ่น และน้ำเสียงของแต่ละคนก็ไม่พอใจเล็กน้อย ใจจริงแล้วพวกเขาอยากจะพ่นออกมาว่า ‘ถ้าเจ้ามีความสามารถมากขนาดนั้น ทำไมเจ้าไม่ไปจับมันด้วยตัวเองล่ะ’ เสียให้รู้แล้วรู้รอด
ขณะนี้สู่ต้าโมโหมากจนแทบหายใจไม่ออก เขาพยายามสูดหายใจลึก ๆ เพื่อบรรเทาโทสะ ไม่นานภูตที่ฉลาดก็พูดขึ้นมาว่า
“สู่ต้า ทำไมเจ้าไม่ลองก่อน ถ้าเหยื่อแค่นี้ก็จับปลาได้ล่ะ?”
ส่วนภูตคนอื่น ๆ ก็ตอบเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
“ใช่ การโยนเหยื่อจำนวนมากลงไปมันเสียของเปล่า ๆ”
“แค่หนูไม่กี่ตัวก็เพียงพอแล้ว!”
“ถ้าพวกเราจับเหยื่อมาได้มากมาย เราเก็บมันไว้กินไม่ดีกว่าหรือ มันก็อิ่มท้องเหมือนกัน”
เมื่อสู่ต้าได้ฟังความคิดเห็นของหลายคนก็รู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย ประกอบกับเขากระตือรือร้นอยากจับปลาไหลไฟฟ้าไปให้ท่านพ่อเพื่อเอาหน้า หากเขาทำเรื่องนี้ได้ดี เขาก็จะกลายเป็นหัวหน้าคนต่อไปของเผ่า
“ตกลง เราจะลองดูกันก่อน”
ต่อมา ชายตัวเตี้ยจับหางหนูด้วยความขยะแขยง และหนูดูเหมือนจะได้กลิ่นเหม็นบนตัวของเขา พวกมันจึงพากันตื่นเต้นจนส่งเสียงร้องไม่หยุด
คล้ายกับว่าตอนนี้พวกมันเห็นพ่อของตัวเอง
ไม่นานหนู 2-3 ตัวก็ถูกโยนลงไปในหลุมน้ำแข็ง แต่แม่น้ำกลับเงียบสงบไม่มีคลื่นเลยแม้แต่น้อย
ขณะนั้นพวกหนูตัวจ้อยตาเหลือกค้าง น้ำลายฟูมปากและมีท่าทางตื่นตระหนกขณะส่งเสียงร้องไม่หยุดราวกับพวกมันกำลังพูดว่า ‘ท่านพ่อ ท่านฆ่าเราทำไม!?’
ภาพที่ปรากฏทำให้สู่ต้ากลัวว่าเหยื่อจะไม่จมลงไปใต้น้ำ ดังนั้นเขาจึงขว้างก้อนหินลงไปหลายก้อน ซึ่งมันทำให้หนูผู้น่าสงสารตกตะลึง
ในไม่ช้าก็ไม่มีการเคลื่อนไหวบนผิวน้ำใด ๆ อีก
“เกิดอะไรขึ้น มันใช้การไม่ได้หรือ?” ชายตัวเตี้ยมีท่าทีประหม่า “ไอ้จิ้งจอกเฒ่านั่นก็ทำแบบเดียวกัน มันควรจะได้ผลสิ”
ในขณะที่เขากำลังพูด แสงสีน้ำเงินอมม่วงที่ไม่สว่างนักก็ปรากฏขึ้นภายใต้ชั้นน้ำแข็ง
หลังจากมีเสียง ‘ฉ่า ๆ’ 2-3 ครั้ง ประกายแสงก็จางหายไป
แล้วทุกอย่างก็เงียบสงบเหมือนไม่เคยมีใครอยู่ที่นั่น
กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาน้อยกว่า 1 นาที และเหล่าภูตหนูก็พากันทำหน้าสับสน
“สู่ต้า เป็นยังไงบ้าง?”
“มันได้ผลไหม?”
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามสู่ต้า
ทางด้านชายแคระนึกถึงขั้นตอนที่ตนแอบสอดส่องอย่างระมัดระวัง ในเวลานั้นหลังจากที่จิ้งจอกเฒ่าโยนเหยื่อลงไปแล้ว เขาก็ลงไปจับปลาในตอนที่แม่น้ำไม่มีแสง
แต่เขาจำไม่ได้ว่าอีกฝ่ายรอนานแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ทั้งหมดก็เกิดขึ้นตามขั้นตอนที่เขาจำได้ ดังนั้นเขาคิดว่ามันต้องสำเร็จ!
“ข้าคือสู่ต้านะ ข้าจะล้มเหลวได้ยังไง!” ชายร่างเตี้ยตะคอกอย่างเย็นชาและก้าวไปข้างหน้าพร้อมสีหน้าภาคภูมิใจ
“เราจะต้องฉวยโอกาสในระหว่างที่ปลาพวกนี้ยังไม่ฟื้นตัวลงไปจับพวกมันขึ้นมา ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนลงไปกับข้า ตราบใดที่พวกเจ้าจับปลาขึ้นมาได้ พวกเจ้าก็จะมีอะไรกินตลอดฤดูหนาวนี้”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นหัวหน้า แต่เขาก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าตนเองกำลังจะได้รับความไว้วางใจจากทุกคนในเผ่า
แต่แน่นอนว่าเขาต้องจับปลาตัวแรกให้ได้ก่อน
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเขาจึงจะแสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้
ปัจจุบันสู่ต้าฝันหวานถึงอนาคตอันแสนสดใส เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกระโดดลงไปจับปลา เมื่อเขาเดินไปถึงปากหลุม เขาก็ก้มมองลงไปข้างใต้อย่างตื่นเต้นแล้วพูดเสียงดังว่า
“ข้าจะลงไปก่อน แล้วพวกเจ้าค่อยตามมาทีหลัง” เขาวางท่าเหมือนเป็นผู้นำ โดยเลียนแบบท่าทางจากที่เขาเคยเห็นหูหลินสั่งการคนในเผ่าทั้งหมด
หลังจากพูดจบเขาก็กระโดดลงไปในน้ำก่อนที่ภูตคนอื่นจะทันได้ตอบรับ
บัดนี้ทุกคนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของสู่ต้า จากนั้นพวกเขาก็รีบตามลงไปในน้ำแบบไม่รอช้า
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะทันทีที่เหล่าภูตหนูวิ่งเข้าไปตรงปากหลุมก็มีแสงระเบิดออกมาอย่างกะทันหันจากข้างใต้ แล้วกระแสไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่รุนแรงกว่าเดิมก็ปรากฏขึ้นจากด้านล่างทันที
ตามด้วยเสียงกรีดร้องจากใต้ชั้นน้ำแข็งที่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
“อ๊ากกก!! บุ๋ง ๆๆๆ อ่อก! อ๊ากกกก!!”
เสียงตะโกนนั้นดังขึ้นพร้อมเสียงพ่นฟองอากาศ
ภาพที่ปรากฏส่งผลให้ภูตหนูคนอื่นที่วิ่งอยู่บนน้ำแข็งหน้าถอดสี พวกเขาพยายามหยุดฝีเท้าของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่คนที่ตามมาข้างหลังหยุดไม่ทันจึงชนเข้าใส่คนด้านหน้าจนล้มไปกองกันอยู่ที่ปากหลุม
ยามนี้กลุ่มคนที่อยู่บนน้ำแข็งพากันตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า โดยที่พวกเขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแทบจะถลนออกมา ในขณะที่ไม่มีใครสามารถขยับตัวได้เลยสักคน
วินาทีนั้นภูตที่สู่ต้านำมาทั้งหมดล้วนไม่เคยคิดมาก่อนว่า ถึงแม้ว่าทุกคนจะทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ในการจับปลาได้ถูกต้อง แต่ปริมาณเหยื่อที่พวกเขาใช้นั้นมันแตกต่างกันเกินไป
…
ในถ้ำของภูตหนู
ปัจจุบันหัวหน้าภูตหนูกำลังนอนหลับฝันอย่างมีความสุข
ในความฝัน เขาเห็นปลาย่างแสนอร่อยกองพูนสูงเท่าภูเขา แล้วเขาก็ได้กินมันตลอดชีวิตโดยที่ไม่มีวันหมด
แต่ในวินาทีต่อมา เสียงตะโกนของใครบางคนได้ทำลายความฝันแสนหวานของเขาไปจนสิ้น
“หัวหน้า แย่แล้ว!”
“สู่ต้ากระโดดลงไปในแม่น้ำเล่ยเหอแล้วถูกปลาไหลไฟฟ้าทำร้ายจนแน่นิ่งไป!!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: นี่แหละหนาจุดจบของคนหิวอำนาจ