บทที่ 336: วิธีจับปลาไหลไฟฟ้า
ในเวลานี้ภูตกลุ่มหนึ่งกำลังยืนรออยู่ที่เดิมโดยไม่มีใครกล้าขยับลงมือทำอะไร หลงเหยาที่รออยู่นานก็ทนไม่ไหวจึงถามขึ้นมาว่า
“ท่านแม่ เราจะเริ่มจับปลาไหลไฟฟ้าได้เมื่อไหร่?”
ตั้งแต่ทุกคนมาถึงที่นี่ พวกเขาไม่ได้ไปรบกวนปลาไหลไฟฟ้าในแม่น้ำเล่ยเหอ ขณะนี้เจ้ามังกรน้อยกำลังนอนหมอบลงกับพื้นพลางยืดคอมองลงไปยังหลุมน้ำแข็งที่ถูกเจาะเอาไว้ แต่เขาก็เห็นเพียงแต่ความมืดมิดไม่เห็นปลาเลยสักตัว
ขณะเดียวกัน หลงอวี้กับหลงจงกำลังจับขากางเกงของเจ้าเด็กดื้อไว้คนละข้างเพราะพวกเขากลัวว่าถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ระวังตัวแล้วเผลอตกลงไปในหลุม เขาจะกลายเป็นอาหารปลาไหลไฟฟ้าไปเสียก่อน เพราะพวกเขาได้ยินมาว่าปลาในแม่น้ำเล่ยเหอก็ขาดแคลนอาหารในช่วงฤดูหนาวไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ ถ้าพวกมันหิวมาก มันคงจะไม่เลือกกิน
“รออีกหน่อย”
หูเจียวเจียวกระซิบแผ่วเบาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พอเห็นเงาดำ 2-3 เงาขยับเข้ามาอย่างช้า ๆ เธอก็ยิ้มและพูดว่า
“เหยื่อล่อมาแล้ว”
ขณะนั้นหูหลินที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่เขาจะตบก้นของหลงเหยาเบา ๆ “เสี่ยวเหยาเอ๋อ เดี๋ยวตาจะจับปลาให้เจ้าเอง เจ้าอยากกินกี่ตัวตาก็จะจับมาให้เจ้าตามที่ต้องการ!”
ชายวัยกลางคนรักเด็กเหล่านี้มาก หลังจากที่เขาได้เห็นเด็กตัวนุ่มนิ่มน่ารัก ใจเขาก็ถูกขโมยไปแล้ว ตอนนี้อย่าว่าแต่การจับปลาไหลไฟฟ้าเลย ถ้าเด็ก ๆ ต้องการดวงดาวเขาก็จะไปคว้ามาให้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง พอได้พบลูกหลานเต็มบ้านเขาก็รู้สึกปลื้มใจ
ในเวลาเดียวกัน หลงเหยาเกือบจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำพร้อมกับหลงอวี้และหลงจงเพราะแรงตบของหูหลิน
“...” เด็กทั้ง 3 คนรู้สึกว่าตนเองกำลังโดนผลักมากกว่า
เดิมทีน้องเล็กสุดของตระกูลหลงแค่ใช้ดวงตาคู่หนึ่งส่องผ่านหลุมลงไปในแม่น้ำ แต่ทันใดนั้นร่างกายส่วนบนของเขาก็ถูกผลักไปข้างหน้ามากขึ้น มันทำให้เขาตกใจกลัวมากจนสติหลุดลอยไปพร้อมกับที่เขารีบคลานออกจากจุดนั้นไปอย่างไม่คิดชีวิต แล้วเด็กน้อยก็ถอยไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นขาของแม่จิ้งจอก ในขณะที่โผล่ดวงตาฉายแววหวาดกลัวมองท่านตาคนใหม่
“ท่านแม่ เขาจะผลักเสี่ยวเหยาลงไปเป็นอาหารปลา!”
คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาหลังจากพบเจอประสบการณ์หวาดเสียวเมื่อกี้นี้
ทันใดนั้นดวงตาของหูหมินก็เขม็งมองคนที่มาทำร้ายหลานของตน “นี่เจ้าจะทำร้ายหลานชายของข้างั้นรึ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วใช่ไหมห้ะ!!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหูหลินแข็งค้างในทันใด จากนั้นเขาก็รีบโบกมืออธิบายเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด
“ขะ-ข้าเปล่านะ ข้าเปล่า!”
เขาจะไปทำแบบนั้นกับเด็กทำไม!
ครู่ต่อมา แม่จิ้งจอกวัยกลางคนก้าวไปขวางหน้าหลานชายด้วยใบหน้าโกรธขึ้งก่อนจะดึงหูของคนตัวใหญ่จนคอเอียงไปด้านข้าง “เจ้านี่มันสรรหาวิธีมารังแกหลานของข้าได้ทุกวี่ทุกวันเลยนะ เคยรู้ตัวบ้างไหมว่าทำไมถึงไม่มีเด็กไหนชอบเจ้า!”
“โอ๊ย ๆๆ ทำไมเด็ก ๆ ถึงไม่ชอบข้า หรือว่าข้ามันหล่อเหลาเกินไป แต่เรื่องนี้มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ แหละนะ...” คนเป็นหัวหน้าเผ่าสัมผัสใบหน้าตัวเองพลางบ่นพึมพำ
เด็ก ๆ ไม่ชอบเขาจริงหรือ?
ทันใดนั้นเขาลืมไปเสียสนิทว่าหลงหลิงเอ๋อเคยไม่ชอบและทำกับเขาไว้เจ็บแสบอย่างไรบ้าง
ทางด้านหูเฉียง พอเห็นว่าหูหลินทำให้หูหมินไม่พอใจ เขาก็ยิ้มเยาะอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับคอยเติมเชื้อไฟ
“ใช่ เสี่ยวเหยาชอบเจ้ามากจนเกือบจะร้องไห้!”
จากนั้นเขาแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองขณะยกมือขึ้นแสดงท่าทางลูบแก้มตัวเองอย่างน่าสงสาร “ดูตาของเสี่ยวเหยาเอ๋อสิ แดงมากเลย ข้าเกรงว่าเขาคงจะตกใจ...”
เมื่อหูหมินได้ยินอย่างนี้ นางก็บิดมือแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูง
ตามด้วยเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วแม่น้ำเล่ยเหอ
เสียงร้องอันแสนเจ็บปวดนั้นทำให้เหล่าเด็กน้อยหดหัวกลับโดยไม่รู้ตัว แล้วหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก จากนั้นพวกเขาก็มองเข้าไปในดวงตาของหลงเหยา
ตาของเสี่ยวเหยา... เป็นสีแดงตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ?
ส่วนหูเจียวเจียวทนมองดูภาพตรงหน้าไม่ได้อีกต่อไป เธอจึงเสมองไปทางอื่นโดยไม่คิดที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมใน ‘สนามรัก’ ระหว่างพ่อแม่ของตน
ถัดมา หญิงสาวยื่นมือออกไปเพื่อดึงลูกชายคนเล็กออกมาจากด้านหลัง และอธิบายอย่างอ่อนโยนว่า
“เหยาเอ๋อ ท่านตาหลินของเจ้าไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่ชอบเจ้ามาก”
หลังจากหลงเหยาได้ยินคำพูดของแม่จิ้งจอก ใบหน้าซีดเซียวของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย แต่ไม่วายคนตัวเล็กยังคงบ่นพึมพำว่า
“ความชอบของท่านตาหลินแย่มาก เสี่ยวเหยาจะห้ามไม่ให้ท่านชอบเสี่ยวเหยาได้ไหม...”
คำถามของเด็กน้อยทำให้หูเจียวเจียวไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“เหยาเอ๋อ ท่านตาหลินจะต้องเสียใจถ้าได้ยินเช่นนี้ แต่เจ้าสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับท่านตาหลินได้ว่าเสี่ยวเหยาชอบอะไรแบบไหน” เธอยังคงสอนลูกอย่างอดทน
แม้ว่าเธอจะชอบหลงเหยามาก แต่เธอก็ไม่อยากตามใจเขาจนเสียคน
หญิงสาวควรจะเริ่มสั่งสอนเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ที่ลูก ๆ อายุยังน้อย อีกทั้งเธอไม่ควรปล่อยให้พวกเขาพัฒนานิสัยที่เห็นแก่ตัวหรือทำให้พวกเขาหวาดกลัวและคอยหลบเลี่ยงปัญหาด้วย
“ชอบ…?”
เด็กน้อยเอียงศีรษะขณะที่ดวงตากลมโตสีทับทิมเต็มไปด้วยความสงสัย
ในไม่ช้าเขาก็กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วพูดอย่างเชื่อฟังและมีเหตุผล
“เสี่ยวเหยาเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านแม่~”
“??” นั่นทำให้ผู้เป็นแม่ตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของหลงเหยา
นอกจากเด็กชายตัวเล็กคนนี้จะตัวสูงขึ้นแล้ว เหมือนกับว่าเขาจะมีสมองมากขึ้นด้วย
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน อิงหยวนก็ร่อนลงบนน้ำแข็งพร้อมกับภูตนกอีก 2 คน
โดยที่แต่ละคนจับเหยื่อสด ๆ มาหลายสิบตัวแล้วโยนมันลงบนแผ่นน้ำแข็งจนเกิดเสียงดัง ในตอนนี้เหยื่อที่ถูกมัดแขนมัดขาและปิดปากเอาไว้ดูเหมือนจะรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองว่าพวกมันกำลังจะเผชิญกับอะไร ทั้งหมดจึงดิ้นรนส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด
หูเจียวเจียวนับดูแล้วมีเหยื่อขนาดใหญ่ 8 ตัว
นี่คือเหยื่อล่อของเธอ
ส่วนหูหลินที่เพิ่งได้รับ ‘การสั่งสอน’ จากหูหมิน พอเขาเห็นอินทรีหนุ่มกลับมา เขาก็เดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผยพลางพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “หลังจากที่เจ้าเดินทางออกไปนานขนาดนั้น เจ้าจับเหยื่อตัวเล็กมาได้ไม่กี่ตัวเองหรือ?”
ทว่าลูกน้องที่เป็นภูตจิ้งจอกที่อยู่ข้างหลังเขาก็พูดหักหน้าเขาขึ้นมาว่า “หัวหน้า แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว พวกเรายังจับไม่ได้แบบเขาเลย...”
“...”
ผู้เป็นนายตวัดสายตาดุคมไปทางลูกน้องที่พูดไม่เข้าหูของตัวเองทันที
“พูดมาก!”
วันนี้หัวหน้าอารมณ์ไม่ค่อยดี พวกเราอยู่ห่าง ๆ เขาเอาไว้จะดีกว่า
กลุ่มภูตที่อยู่รอบ ๆ เม้มปากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลั้นหัวเราะ
“หัวหน้า พวกเราทุกคนถอยกลับเข้าฝั่งกันเถอะ” หูเจียวเจียวยังคงฝืนยิ้มพูดกับอีกฝ่าย
ขณะนี้สีหน้าของหูหลินไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่เขาโบกมือ ทุกคนก็พากันเดินกลับขึ้นไปบนฝั่ง
จากนั้นหูเจียวเจียวมองไปที่อิงหยวนและภูตนก ก่อนจะพูดเตือนอีกฝ่ายว่า “พวกเจ้าแปลงร่างเป็นสัตว์แล้วโยนเหยื่อลงไป แล้วก็จำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าอย่าแตะพื้นน้ำแข็งแล้วรีบกลับมาที่ฝั่งทันทีที่โยนเหยื่อลงไปแล้ว”
อินทรีหนุ่มได้ยินแล้วก็ยืนทำหน้าเย็นชาไม่พูดอะไร ส่วนทางด้านภูตนกที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้าเป็นการตอบรับ
เวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนก็กลับมาที่ฝั่ง
แม้ว่าพวกลู่เมี่ยนเอ๋อจะไม่ค่อยเข้าใจการกระทำทั้งหมดนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากถามเลยสักคน
ในทางกลับกัน ภูตของเผ่าเล่ยเหอเห็นว่าพวกเขากำลังจะโยนเหยื่อลงไปในน้ำก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายเหยื่อพวกนั้น
“ทำไมเจ้าถึงโยนเหยื่อที่จับได้ลงแม่น้ำ?”
“เจ้าจะจับปลางั้นหรือ...”
“แล้วถ้าปลาที่จับมาได้มันกินไม่ได้ล่ะ?”
การสนทนาของกลุ่มภูตส่วนใหญ่มาจากภูตกิ้งก่า ส่วนภูตเต่ายังคงยืนหน้ามึนอยู่กับที่ พวกเขาทำเพียงแค่ขมวดคิ้วแน่นแสดงความไม่ไว้วางใจเท่านั้น
ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน อิงหยวนและภูตนกหลายคนก็จับเหยื่อด้วยกรงเล็บ ก่อนจะบินขึ้นสูงและโยนเหยื่อลงไปในหลุมน้ำแข็งจากกลางอากาศอย่างแม่นยำ
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
เสียงเหยื่อตกลงไปในน้ำดังขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง สักพักน้ำก็แตกกระเพื่อมไปทั่วทุกทิศทาง
ในไม่ช้าเหยื่อที่กำลังดิ้นรนก็จมลงไปใต้น้ำ
จากนั้นภูตทุกคนก็จ้องเขม็งมองการเคลื่อนไหวตรงหลุมน้ำแข็งที่ถูกเจาะไว้
1 วินาที... 2 วินาที...
หลังจากที่น้ำกระเซ็นสงบลง มันก็นิ่งสนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันทำให้ภูตกิ้งก่าอดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก “ข้าบอกแล้วว่าปลาในแม่น้ำเล่ยเหอจับได้ไม่ง่ายนัก และเหยื่อดี ๆ ก็ต้องสูญเปล่าไปเช่นนี้...”
ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเสียงอุทานจากด้านข้าง
“ดูนั่น! ดูในแม่น้ำ!”