ตอนที่แล้วบทที่ 331: ความจริงเปิดเผย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 333: ชำระบัญชีกับภูตหนู

บทที่ 332: พูดอีกครั้งซิ เสบียงเป็นของใคร?


ขณะนี้หัวหน้าภูตหนูพ่นลมพลางคิดกับตัวเองว่า

ไอ้พวกโง่เอ๊ย พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะถูกจิ้งจอกเฒ่าอย่างหูหลินหลอก ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่มันพูดนั้นคือเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่มันจะตกมาถึงมือพวกเราบ้างหรือเปล่าเหอะ!

แล้วเผ่าของอีกฝ่ายที่มีอำนาจขนาดนั้นได้รับปากไหมว่าจะแบ่งเสบียงให้กับพวกเขา?

หัวหน้าภูตหนูคิดเพียงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับสิ่งที่ตัวเองถืออยู่ในมือและกินมันลงท้อง!

เมื่อหูหลินได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ดีขึ้น

หลายปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ลงทุนลงแรงให้กับเผ่าโดยเปล่าประโยชน์ แต่ภูตบางคนก็เป็นกลายเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีไปเสียอย่างนั้น

“เอาล่ะ ในเมื่อเผ่าหนูของเจ้าไม่อยากย้ายไปไหน เผ่านี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเจ้า ส่วนภูตคนอื่นก็เตรียมตัวย้ายไปกับข้า” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่ากล่าวพร้อมกับที่ดวงตาฉายแววผิดหวัง

เดิมทีเขาอยากจะถามความคิดเห็นของทุกคน เนื่องจากภูตหนูไม่อยากไปกับตน เขาจึงไม่ต้องการบังคับคนเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะแยกจากกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ดังนั้นพวกเขาสมควรจากกันด้วยดี

“อีกอย่างหนึ่ง ไหน ๆ พวกเจ้าทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว ฉะนั้นข้าจะพูดเรื่องต่อไป—”  หูหลินกำลังจะบอกคนในเผ่าเกี่ยวกับการจับปลาไหลไฟฟ้า แต่เขายังพูดไม่จบก็ถูกเสียงแหลม ๆ ของหัวหน้าภูตหนูขัดจังหวะอีกครั้ง

“หัวหน้า ในเมื่อเรากำลังจะแยกจากกัน ดังนั้นท่านควรแจกจ่ายเสบียงให้เราก่อน มิฉะนั้นท่านคงจะมัวแต่วุ่นอยู่กับการย้ายเผ่าจนไม่มีเวลาแจกจ่ายเสบียง”

พอหูหลินได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วพลางมองชายตัวอ้วนเตี้ยด้วยสายตาที่เฉียบคม

เมื่อหัวหน้าภูตหนูถูกสายตาคมของหัวหน้าเผ่าเขม็งมองเช่นนี้ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยจึงหัวเราะแหย ๆ และพบว่าตัวเองพูดมากไปแล้ว

“หัวหน้า ข้าแค่กังวลว่าท่านจะยุ่ง แล้วท่านก็จะลืมเรื่องนี้...” ดวงตาของเขาเหม่อลอยพร้อมกับมีสีหน้าสำนึกผิด

อีกด้านหนึ่ง หูเจียวเจียวจับความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีพิรุธของหัวหน้าภูตหนูได้อย่างเฉียบขาด

ภูตชายคนนี้จะต้องมีชนักติดหลังอยู่แน่นอน มิฉะนั้นเขาคงไม่กระตือรือร้นที่จะขอแบ่ง ‘เสบียง’ ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้มีการประกาศอะไร

ต่อมา หญิงสาวมองไปยังแผ่นหลังสูงตรงของหูหลิน พลางสงสัยว่าเขาที่เป็นพ่อคนที่ 2 จะทำอย่างไร...

“เอาล่ะ ถ้าเจ้าต้องการแบ่งเสบียง เราก็มาแบ่งกันตอนนี้เลย”

“แต่เนื่องจากเราได้ทำการแบ่งเสบียงกันให้ชัดเจนแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกภูตหนูจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า หูหลินคนนี้ และข้าจะไม่สนใจเกี่ยวกับชีวิตหรือความตายของพวกเจ้า”

การกระทำของหัวหน้าภูตหนูน่าเกลียดมาก จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มาบังคับให้เขาแบ่งเสบียงก่อนที่เขาจะทันได้อ้าปากบอกอะไร  เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนี้แทบรอไม่ไหวที่จะให้พวกเขาแยกตัวออกไป หรือว่าเขามีความคิดอื่น?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นเพราะตัวเขาตามหาหมินหมิ่นนอกเผ่าตลอดทั้งปี เขาจึงไม่ได้สนใจจัดการงานทั้งหมดของเผ่าเองกับมือ มันเป็นความจริงที่อีกฝ่ายจะต้องขอแบ่งเสบียงมากขึ้น และเขาก็เมินเฉยต่อบางคนมานานจนสิ่งต่าง ๆ เริ่มยุ่งเหยิง

เพียงเพราะเขาไม่อยากดูแลเอง มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจ!

ทางด้านหัวหน้าภูตหนูแสดงสีหน้ารังเกียจ แต่เขาก็ยังคงหัวเราะและพูดว่า

“หัวหน้าพูดถูก หลังจากแบ่งเสบียงแล้ว เราจะแยกทางกัน ภูตหนูของเราจะไม่มารบกวนหัวหน้าอีก”

จากนั้นชายตัวอ้วนเตี้ยก็แอบสบถอย่างเย็นชาในใจ

หลังจากนี้ถ้าไอ้จิ้งจอกเฒ่าขอกลับมาเข้าร่วมเผ่าอีกครั้ง ข้าจะไม่ให้มันเข้าร่วม! 

ตอนนี้มันยังมีหน้ามาทำเป็นเก่งต่อหน้าข้า คิดว่าตัวเองแน่นักหรือไง?

ถ้ามันเก่งจริง มันจะต้องซมซานไปขอเข้าร่วมเผ่าคนอื่นอีกหรือ!

“ตกลง” หูหลินตอบเสียงดังพลางหรี่ตาลงและจงใจถามว่า “เจ้าต้องการเสบียงเท่าไหร่?”

หัวหน้าภูตหนูทำหน้ามีความสุขและไม่ได้สังเกตเห็นสายตาพิจารณาของอีกฝ่ายเลย

“ข้าต้องการเสบียงในถ้ำที่ใกล้กับอาณาเขตของเผ่าหนูที่สุด!”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ตระหนักว่าเสียงของตนดังเกินไป และเขาก็ใส่อารมณ์มากไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงหดคอลงด้วยความลำบากใจ แล้วลดเสียงลงก่อนที่จะพูดต่อว่า

“หัวหน้า เผ่าหนูของเรามีภูตมากที่สุด มันคงไม่มากเกินไปที่จะขอเสบียงจากในถ้ำนั่นใช่ไหม?” เนื่องจากถ้ำดังกล่าวอยู่ใกล้กับอาณาเขตของเผ่าหนู เขามักจะส่งคนไปแอบเอาเสบียงบางอย่างออกมาเป็นครั้งคราว เผื่อว่าหัวหน้าเผ่าจะรู้ทันแล้วโอกาสแบบนี้จะหลุดลอยไป

ปัจจุบันเสบียงทั้งหมดในเผ่าถูกเก็บไว้ใน 3 ถ้ำใหญ่และหัวหน้าภูตหนูกล่าวว่าถ้ำนั้นมีเสบียงมากที่สุด

แต่ตามที่เขาพูดก็ไม่มีใครออกมาคัดค้านสักคน

“ได้” หูหลินพยักหน้าเห็นด้วย

“หัวหน้า และเสบียงที่นำกลับมาครั้งนี้ต้องเป็นของเราด้วย สู่ต้า คนของข้าเป็นคนค้นพบพวกมัน ในเมื่อท่านกำลังจะไปเข้าร่วมเผ่าใหม่ ท่านคงไม่จำเป็นต้องใช้เสบียงเหล่านี้” ภูตหนูตัวอวบอ้วนกล่าวเสียงดัง

เมื่อหูหลินได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็มืดลงทันที

เขากล้าพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร!

กลุ่มภูตกิ้งก่าและภูตเต่าเองก็มองหัวหน้าภูตหนูด้วยสายตาดูถูก เขายังมีหน้ามาขอเก็บเสบียงเหล่านั้นไว้เป็นของตัวเอง ทั้งที่ตอนนี้พวกเขากำลังจะไปขอเข้าร่วมเผ่าของคนอื่น แต่ชายคนนั้นก็กล้าพูดว่าจะยึดเสบียงของอีกฝ่ายไปครอบครอง นี่เขากำลังพยายามแสดงความจริงใจหรือว่ามาสร้างความเดือดร้อนกันแน่?

ขณะที่หูหลินกำลังจะพูดปฏิเสธ เสียงเย็นชาของจิ้งจอกสาวก็ดังมาจากด้านหลัง

“เสบียงเหล่านั้นเป็นของข้า เจ้าต้องการจะเอาเสบียงของข้าไป เจ้าได้รับอนุญาตจากข้าแล้วหรือยัง!”

ในเวลานี้ ทุกคนหันหน้าไปมองหูเจียวเจียวกับหลงโม่ที่เดินออกมาจากถ้ำ

ภูตที่อยู่ข้างนอกยังไม่ทราบความสัมพันธ์ของเธอกับหูหลิน แต่พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกกดดันเมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของเธอและภูตชายที่ดูรับมือไม่ง่ายที่เดินมาข้างกัน

แต่ในไม่ช้าภูตหลายคนก็ตระหนักว่าตนไม่ใช่คนที่มีเรื่องกับอีกฝ่าย

แล้วพวกเขาจะกลัวอะไรกัน?

ไม่กี่อึดใจต่อมา ภูตกลุ่มหนึ่งก็มองไปที่หัวหน้าภูตหนูด้วยสีหน้าสงสาร

“เจียวเจียว” หูหลินเรียกลูกสาวคนใหม่เสียงเบา

เขาเกรงว่าคำพูดของคนหน้าไม่อายเมื่อกี้จะทำให้หูเจียวเจียวไม่พอใจ

เมื่อหัวหน้าภูตหนูเห็นว่าหัวหน้าเผ่าทำท่ายอมจำนน เขาก็แอบเยาะเย้ยในใจ

เจ้าหมอนี่เป็นหัวหน้าแบบไหนกัน? ที่แท้มันก็เป็นแค่ไอ้คนขี้ขลาดที่กลัวแม้กระทั่งผู้หญิง

ส่วนภูตคนอื่น ๆ มีสีหน้าประหลาดใจ

ผู้หญิงคนนี้ยังดูสาวและงดงามมาก ทำไมหัวหน้าถึงดูนอบน้อมกับนางมากขนาดนี้?

“ไม่ต้องกังวล พ่อจะไม่มีวันยอมให้เขาเอาข้าวของของเจ้าไป” หูหลินขมวดคิ้ว และก่อนที่หูเจียวเจียวจะได้พูดอะไรต่อ เขารีบตบหน้าอกตัวเองพลางให้คำมั่นกับนาง

ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ภูตของเผ่าเล่ยเหอก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

สาวสวยคนนี้เป็นลูกของหัวหน้า!!

ขณะนั้นจิ้งจอกสาวพยักหน้าตอบกลับน้อย ๆ เธอรู้โดยสัญชาตญาณว่าหูหลินจะไม่เข้าข้างภูตหนูตัวอ้วนคนนี้

“หัวหน้า ท่านส่งภูตมานำทาง แล้วข้าจะบอกให้คนของข้านำเสบียงทั้งหมดกลับไป” เธอจงใจเน้นคำว่า ‘คนของข้า’

ทุกคนเข้าใจทันทีว่าพวกเขายังไม่ได้เข้าร่วมเผ่าของอีกฝ่าย และพวกนางยังไม่ถือว่าพวกเขาเป็นคนในเผ่า!

ปัจจุบันภูตของเผ่าเล่ยเหอที่ตกลงย้ายเผ่ายังไม่ได้เป็นสมาชิกของเผ่าใหม่ ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขารู้ว่านางหมายความว่าอย่างไร

อีกทั้งภูตส่วนใหญ่เป็นคนตรงไปตรงมา พวกเขาจึงไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่อะไร

“ตกลง” หูหลินตกปากรับคำแบบง่าย ๆ แล้วสั่งให้ลูกน้องทำตามที่หูเจียวเจียวบอก

เมื่อสู่ต้าเห็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็หมดความอดทน

จากนั้นเขาตะโกนด้วยความไม่พอใจ “ไม่! นั่นเป็นเสบียงที่ข้าพบ เราพยายามขนมันกลับมาตั้งนาน ทำไมพอนางบอกว่าจะเอากลับไป ท่านก็ตอบตกลงง่าย ๆ หัวหน้า ท่านคิดว่าพวกเรายังเป็นคนของท่านอยู่ไหม!?”

“ข้าไม่เห็นด้วย พวกเจ้าจะเอาเสบียงออกไปจากเผ่าไม่ได้ เสบียงเหล่านั้นเป็นของเผ่าหนูของเรา!”

ชายแคระพูดพร้อมกับอ้าแขนออกมายืนขวางอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย

จังหวะนั้นสายตาของหลงโม่ฉายแววอำมหิต เขาก้าวไปคว้าคอเสื้อคนต่อต้านด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะยกชายตัวเตี้ยขึ้นมาแล้วโยนอีกคนกระแทกพื้นอย่างแรงจนทำให้เกิดหลุมลึกในหิมะ

การเคลื่อนไหวของชายร่างสูงทำให้สู่ต้าตกตะลึง ก่อนที่เขาจะทันได้ลุกขึ้น มังกรหนุ่มก็ตรงมาบีบคอเขาอีกครั้ง แล้วยกเขาขึ้นมาเหมือนซากหนู

ตามด้วยเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งที่ค่อย ๆ เค้นเสียงพูดลอดไรฟันทีละคำว่า

“เจ้าบอกข้าอีกครั้งซิว่าเสบียงเป็นของใคร?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด