บทที่ 331: ความจริงเปิดเผย
“ดี! เยี่ยมมาก!” หูหลินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“หัวหน้า ร่างกายของท่านแม่ของข้าและคนอื่น ๆ ยังคงอ่อนแอ อีกทั้งยังต้องเดินทางไกลจนมาถึงที่นี่ พวกเขาคงหมดแรงกันแล้ว ฉะนั้นข้าคงจะให้พวกเขาไปช่วยเราจับปลาไหลไฟฟ้าไม่ได้ ข้าอยากให้พวกเขาพักผ่อนอยู่ที่นี่สัก 2-3 วัน หลังจากที่ทุกคนหายจากอาการป่วยแล้ว พวกเราค่อยเริ่มออกเดินทาง แล้วคนที่รออยู่ข้างนอกเผ่าจะได้พักผ่อนด้วยเหมือนกัน” หูเจียวเจียวอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
การอยู่ต่ออีก 2-3 วันมันจะช่วยบรรเทาความคิดถึงของหูหลินและให้เขาได้จัดการเรื่องต่าง ๆ ในเผ่าแบบสบายใจก่อนที่จะย้ายออกไป
ประกอบกับนักชิมอย่างหลงเหยา เขาชอบกินปลามากด้วย
จิ้งจอกสาวสามารถจินตนาการได้ถึงสายตาเป็นประกายของลูกชายคนเล็กที่กำลังเคี้ยวเนื้อปลาไหลไฟฟ้างุบหงับเต็มปาก
เนื่องจากภูตบางคนไม่เคยมีโอกาสเดินทางไปที่ไหนไกลขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ดังนั้นหญิงสาวจะถือโอกาสให้พวกลูก ๆ ได้สัมผัสกับชีวิตที่แตกต่างจากในเผ่า
อย่างน้อยถ้าในอนาคตลูกระลึกถึงอดีต พวกเขาจะได้ไม่คิดถึงเพียงความยากลำบากและความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่ได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“ตกลง! มันสมควรมากที่จะให้ทุกคนได้อยู่ต่ออีกสัก 2-3 วัน แต่เจ้าอยู่ได้นานเท่าที่เจ้าต้องการเลย พ่อยินดีต้อนรับเสมอ!” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
เพราะอย่างน้อยมันก็ดีที่เขายังพอมีเวลาได้อยู่กับหมินหมิ่นต่ออีกสักหน่อย
ยามนี้หูหลินอารมณ์ดีมาก ในขณะที่หูเฉียงมองหน้าลูกสาวตัวเองด้วยความไม่พอใจ
ข้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตกลงใครเป็นพ่อที่แท้จริงของนางกันแน่ ดูนางทำสิ เข้าข้างคนอื่นเสียอย่างนั้น
เจียวเจียวจะไปช่วยไอ้จิ้งจอกเฒ่านั่นทำไม!
“ข้าจะส่งพวกภูตไปรับพวกเขาและบอกข่าวดีให้ทุกคนทราบ” คนเป็นหัวหน้าเผ่าพูดพร้อมกับเดินออกไปอย่างมีความสุข
หลังจากที่หูเจียวเจียวเป็นคนเอ่ยปากพูดออกมาเอง เขาก็มีความคิดบางอย่างในหัวเช่นกัน
ยังไงก็ตามแต่ ข้าใช้ชีวิตรอหญิงผู้เป็นที่รักมานานกว่า 20 ปีแล้ว การจะรออีกแค่ฤดูหนาวเดียวมันไม่นับว่าหนักหนาอะไร ข้าทนต่ออีกสักหน่อยก็ใช่ว่าจะทนไม่ได้
หลังจากไปถึงเผ่าของหมินหมิ่น ข้าก็ไม่ต้องแยกจากหมินหมิ่นไปตลอดชีวิตแล้ว มันคุ้มค่ามาก!
...
บริเวณนอกถ้ำแห่งหนึ่ง
ตอนนี้หัวหน้าภูตหนูได้เรียกภูตทุกคนมารวมตัวกัน และสู่ต้าก็พูดใส่ไฟเกี่ยวกับหูหลินให้ทุกคนฟังซึ่งในไม่ช้ามันก็กระตุ้นความไม่พอใจของภูตทั้งหมด
“ท่านผู้นำจะตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้เป็นการส่วนตัวได้ยังไง? เขาต้องบอกเราอยู่แล้ว!”
“ในความเป็นจริง เรื่องใหญ่อย่างการย้ายเผ่ามันจะต้องเป็นการตัดสินใจของทุกคนไม่ใช่หรือ?” เมื่อผู้คนรู้สึกไม่เป็นธรรม พวกเขาก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น
พอหัวหน้าภูตหนูกับสู่ต้าได้เห็นเช่นนี้ ทั้งคู่ก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
ปัจจุบัน 2 พ่อลูกสามารถควบคุมภูตทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ซึ่งประกอบไปด้วยภูตหนู, กิ้งก่าและเต่าได้อย่างง่ายดาย แล้วพวกเขาไม่เชื่อว่าหูหลินที่เป็นภูตเพียงคนเดียวจะสามารถต่อกรกับกลุ่มคนทั้ง 3 เผ่าได้
หากเขาอยากจะไปจากที่นี่ เขาก็ต้องออกไปตัวเปล่าและอย่าคิดที่จะเอาเสบียงติดตัวไปด้วย
“ทุกคน ถ้าในวันนี้หัวหน้ายอมย้ายเผ่าตามผู้หญิงไป ในวันข้างหน้าเขาอาจทรยศเราเพื่อผู้หญิงคนนั้นก็ได้”
สู่ต้าจงใจเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้น
“ท่านพ่อ โปรดพาเราไปหาหัวหน้าเพื่อขอคำอธิบาย!”
“ไปกันเถอะ ไปหาหัวหน้ากัน” หัวหน้ากลุ่มภูตหนูโบกมือก่อนจะเดินนำเหล่าภูตไปข้างหน้า
เมื่อภูตกิ้งก่าและภูตเต่าเห็นอย่างนี้ พวกเขาก็ไล่ตามไปติด ๆ ไม่นานกลุ่มภูตก็เดินกันเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปยังถ้ำที่พวกหูหมินอยู่
ทันทีที่ชายวัยกลางคนออกมาจากถ้ำ เขาก็เจออีกฝ่ายพอดี
“ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่กัน?” หูหลินตกตะลึงไปครู่หนึ่งหลังจากเห็นพวกภูตมารวมตัวกันนอกถ้ำ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามอย่างมีความสุข “ทุกคนรู้แล้วหรือ?”
เดิมทีเขาคิดว่าข่าวเกี่ยวกับปลาไหลไฟฟ้าได้แพร่กระจายไปแล้ว และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะบอกให้ทุกคนได้ฟัง
ในขณะนี้เขายังคงจมอยู่ในความสุขจนมันล้นทะลักออกมาทางสีหน้าไม่หยุด
ทันทีที่ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเล่ยเหอถามคำถามนั้นออกมา ใบหน้าของทุกคนก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ
เพราะสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายมันเป็นเหมือนคำตอบยืนยันต่อสิ่งที่หัวหน้าภูตหนูพูดว่าเป็นความจริง หัวหน้าเผ่าของพวกเขาต้องการย้ายเผ่าไปโดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของคนอื่น
“หัวหน้า!” บัดนี้หัวหน้าภูตหนูเดินฝ่าออกมาจากฝูงชน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงถามว่า “ท่านคิดที่จะให้ทุกคนย้ายไปอยู่ที่เผ่าของผู้หญิงคนนั้นหรือ?”
“พวกเจ้าก็รู้เรื่องนี้ด้วยหรือ?” หูหลินแสดงสีหน้าประหลาดใจ “พวกเจ้ารู้ข่าวเร็วทีเดียว”
ในขณะนั้นชายวัยกลางคนไม่ได้คิดอะไรมาก ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเคย
“ข้ากำลังจะบอกพวกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอดี ในเมื่อตอนนี้ทุกคนมารวมตัวอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว… ถูกต้อง ข้ามีข่าวดี ข้าจะบอกพวกเจ้าว่า—” เสียงของหูหลินก้องกังวาลจนผู้คนโดยรอบได้ยินชัดเจน และเขาก็กำลังจะคุยเรื่องการจับปลาไหลไฟฟ้ากับทุกคน
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ถูกหัวหน้าภูตหนูขัดจังหวะ
“หัวหน้า ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องการย้ายเผ่า! พวกเราภูตหนูจะไม่มีวันทิ้งเผ่าไปไหน!”
ต่อมา สู่ต้าก็เป็นผู้นำกลุ่มภูตหนูในการตะโกนประท้วงทันที
“ใช่ เราจะไม่ทิ้งเผ่า ๆ ๆ!”
“นี่คือบ้านของพวกเรา เราเกิดที่นี่และจะขอตายอยู่ที่นี่!”
เมื่อภูตคนอื่นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็เข้าร่วมการประท้วงด้วยความโกรธ
ภายในไม่กี่อึดใจ ด้านนอกถ้ำก็กลายเป็นเหมือนกับสถานที่ร้องทุกข์
ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวกำลังวัดไข้ให้ภูตหญิงในถ้ำซึ่งหลายคนมีอาการไข้หวัด เธอเพิ่งเอายาออกมาให้กับพวกนางก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงอึกทึกจากข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้นนอกถ้ำ?” หูหมินลุกขึ้นมองไปที่ปากทางเข้าออกถ้ำ
“ท่านพ่อกับท่านแม่ช่วยแจกจ่ายยาแทนข้าหน่อย หลงโม่กับข้าจะออกไปดูข้างนอกเอง”
จิ้งจอกสาวส่งยาไปให้ผู้เป็นแม่ก่อนจะขยิบตาให้มังกรหนุ่ม แล้วทั้ง 2 คนก็เดินออกจากถ้ำไป
ทันทีที่พ่อแม่ของเธอได้ยินว่ามีพวกภูตมาสร้างปัญหา ทั้งคู่ก็ยากที่จะสงบใจได้ แต่เธอไม่ต้องการให้พวกเขากังวลเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
ส่วนหลงโม่ได้รับสัญญาณจากสายตาของภรรยาสาว เขาจึงหันไปมองผู้อาวุโสทั้ง 2 และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “ข้าจะออกไปกับเจียวเจียวเอง ข้าจะไม่ยอมให้เจียวเจียวต้องเป็นอันตรายแน่นอน”
จากนั้นหูหมินกับหูเฉียงก็พยักหน้ารับ พวกเขารู้สึกโล่งใจมากที่มีลูกเขยอยู่เคียงข้างนาง
ถัดมา คนหนุ่มสาวทั้ง 2 ก็ออกมานอกถ้ำโดยไม่รีรอ
พอหูเจียวเจียวออกมาก็เห็นว่าด้านหน้าถ้ำกำลังถูกภูตเผ่าเล่ยเหอล้อมไว้ โดยที่ผู้นำของพวกเขาคือภูตหนูตัวอ้วนร่างเตี้ยที่มีใบหูใหญ่
เหตุใดเธอถึงรู้ได้ว่านี่คือภูตหนูน่ะหรือ?
แน่นอนว่าเขามีปากแหลม คิ้วหนาและดวงตาที่เหมือนกับหนูทุกประการ
อีกทั้งร่างมนุษย์ของภูตส่วนใหญ่มักจะคล้ายคลึงกับร่างสัตว์ของเจ้าตัวไม่มากก็น้อย
ครั้งแรกที่จิ้งจอกสาวเห็นหัวหน้าภูตหนู เธอก็ขมวดคิ้วเพราะรู้สึกสับสน
ในบรรดาภูตทั้งหมดของเผ่าเล่ยเหอ ผู้ชายคนนี้อ้วนและแข็งแรงที่สุด ส่วนภูตหนูที่อยู่ข้างหลังเนื้อตัวก็มีแต่ก้อนไขมัน มันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าพวกเขากินดีอยู่ดีมาก
ไม่นานดวงตาของหูเจียวเจียวก็ส่องประกายแวววาว
“พวกเจ้าทำอะไรน่ะ เป็นความจริงที่ข้าวางแผนที่จะย้ายเผ่า แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะบังคับพวกเจ้าให้ย้ายไปกับข้า ข้าแค่อยากคุยกับพวกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน” หูหลินขมวดคิ้วขณะเผชิญหน้ากับการเคลื่อนไหวที่ยั่วยุของภูตหนูด้วยสีหน้าไม่พอใจ
จากนั้นความสุขที่เอ่อล้นเมื่อสักครู่ก็ถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาทันที
“ผู้หญิงที่อยู่ข้างในนั้นเป็นคู่ที่ข้าตามหามาตลอดหลายปี เผ่าของนางทั้งแข็งแกร่งและเจริญก้าวหน้า พวกเขามีทั้งภูตและเสบียงมากมาย รวมถึงมีหมอผีอยู่ด้วย ข้าไม่ได้จะบังคับใคร แล้วแต่พวกเจ้าเลยว่าอยากจะตามข้าไปหรือไม่” คนเป็นหัวหน้าพูดอย่างใจเย็น
เมื่อภูตกิ้งก่าและภูตเต่าได้ยินสิ่งที่หูหลินกล่าว ในที่สุดพวกเขาก็สงบลง
‘เสบียง’ และ ‘หมอผี’ 2 อย่างนี้เป็นสิ่งล่อตาล่อใจที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ พวกเขาตามหูหลินออกจากเผ่าและก่อตั้งเผ่าเล่ยเหอมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นทุกคนจึงมีชีวิตที่ดีเหมือนในทุกวันนี้
ตราบใดที่ตนเองสามารถมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิมได้ มันก็ไม่สำคัญว่าจะไปอยู่ที่ไหน
ทางด้านหัวหน้าภูตหนูมีความสุขหลังจากได้ยินสิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูด ในขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่อีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น
“หัวหน้า นั่นคือสิ่งที่ท่านพูดเองนะ! พวกเราภูตหนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เราต้องการอยู่ในเผ่านี้ต่อไป และถ้าหากท่านจะไป ท่านต้องทิ้งเสบียงไว้ให้เราด้วย!”
ชายร่างอ้วนเตี้ยยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู และเขาไม่ได้ซ่อนความโลภในดวงตาของเขาเลย
ทันทีที่ภูตคนอื่นในเผ่าได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย จากนั้นพวกเขาก็แสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามคนพูด
ที่แท้เขามีวัตถุประสงค์เช่นนี้นี่เอง
ไม่ใช่ว่าชายคนนี้ไม่อยากย้ายเผ่า แต่เขาต้องการถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ต่างหาก!
ยามนี้ภูตกิ้งก่าและภูตเต่ารู้สึกโกรธมากที่โดนหนูเจ้าเล่ห์หลอกใช้
“หัวหน้า เผ่ากิ้งก่าของข้ายินดีเข้าร่วมเผ่าใหม่กับท่าน!”
“เผ่าเต่าของเราก็เต็มใจที่จะไปเช่นกัน...”
ภูตทั้ง 2 เผ่ารีบพูดขึ้นมาเพราะกลัวว่าหัวหน้าจะเหมารวมว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าหนูมาฉกฉวยผลประโยชน์ แล้วอีกฝ่ายจะไม่พาพวกตนไปด้วย
ภูตเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ว่าควรจะมีอนาคตร่วมกับหูหลิน หรือกับฝูงหนูที่รู้แต่วิธีขุดรูและขโมยเสบียงเท่านั้น