ตอนที่แล้วบทที่ 328: เจียวเจียว เจ้าจะออกเดินทางเมื่อไหร่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 330: ทำไมปลาในแม่น้ำเล่ยเหอถึงกินไม่ได้?

บทที่ 329: ถ้าเขาอยากย้ายไปก็ต้องทิ้งเสบียงไว้ที่นี่!


เมื่อหูหลินได้ยินที่หูเจียวเจียวพูด เขาก็ไม่คัดค้านเพราะเห็นความกังวลของอีกฝ่าย เขาจึงพยักหน้ารับทันที

ในตอนนั้นเองโหวเสี่ยวเตียวรีบอาสา เขายกมือขึ้นพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาทุกคนแบบรีบร้อน

“ข้าจะไป ข้าไปเอง!”

เขาวิ่งไปหาจิ้งจอกสาวก่อนจะพูดด้วยความมุ่งมั่นว่า “เจียวเจียว ให้ข้าไปเถอะนะ วางใจข้าได้เลย! ข้าเองก็อยากจะช่วยด้วย”

แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่มีประโยชน์อะไรมาก แต่เขาก็ยังทำธุระเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ให้ได้

“ตกลง ถ้ายังไงข้าขอฝากเรื่องนี้กับเจ้าด้วย” หูเจียวเจียวพยักหน้า เนื่องจากครอบครัวของเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกโหวเสี่ยวเตียว ประกอบกับเขาเป็นคนที่รอบคอบ ดังนั้นการจะให้เขาเป็นคนไปส่งข่าวจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

คำตอบของหญิงสาวทำให้ลิงหนุ่มมีความสุขมากขึ้นและวิ่งกลับไปเพื่ออำลาโหวเซียง จากนั้นเขาก็ออกจากเผ่าไปพร้อมกับภูตของเผ่าเล่ยเหอทันที

หลังจากที่โหวเสี่ยวเตียวจากไป ในขณะที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ร่างเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่นอกถ้ำจนกระทั่งอีกคนวิ่งออกไปก็โผล่หัวออกมา

ยามนี้ดวงตาสีเข้มคู่เล็กมองเข้าไปภายในถ้ำ

เขามาทันเวลาพอดีจึงได้ยินทุกอย่างที่หูหลินบอกว่าตอนนี้ตนแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เข้าร่วมเผ่าของอีกฝ่าย

ในเมื่อผู้นำคนนี้กำลังจะละทิ้งเผ่าของตัวเองเพื่อผู้หญิงคนเดียว และตอนนี้เขาต้องการนำภูตทั้งหมดเข้าร่วมกับอีกฝ่าย ถ้าอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งของหูหลินอีกแล้วไม่ใช่หรือ

ในที่สุด สู่ต้าก็รอดชีวิตมาได้จนกระทั่งซีชาเสียชีวิต แล้วเมื่อถึงเวลาที่พ่อของเขาวางมือ เขาก็จะได้เป็นหัวหน้าของภูตหนู หลังจากนั้นเขาจะสามารถเข้าร่วมการประลองกับหัวหน้าของทั้ง 3 เผ่าเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำ

แต่ถ้าทุกคนย้ายไปอยู่เผ่าอื่นกันหมด มันจะกลายเป็นว่าเขาไม่เหลือโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าอีกเลย!

ในขณะนี้ดวงตาของชายร่างเตี้ยแสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยม ถัดมา เขาค่อย ๆ ย่องเท้าหลบไปอีกด้านระหว่างที่คนในถ้ำไม่สังเกตเห็นว่าตนอยู่ที่นี่

ปัจจุบันทุกคนกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าสู่ต้าแอบออกจากถ้ำไปเงียบ ๆ

...

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ!!”

สู่ต้ารีบวิ่งกลับบ้านไปแบบไม่หยุดพัก

ภูตในเผ่าเล่ยเหอได้รับการจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยตามเผ่าพันธุ์ โดยที่ภูตจิ้งจอกอาศัยอยู่ใกล้กับหูหลิน ส่วนภูตอีก 3 เผ่าพันธุ์จะแบ่งพื้นที่ที่เหลือเท่า ๆ กัน และหัวหน้าของแต่ละเผ่าก็มีถ้ำเป็นของตัวเอง

บัดนี้สู่ต้าวิ่งกลับไปที่ถ้ำของตน ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างใน เขาก็รู้สึกทนไม่ไหวจึงตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อสุดเสียง

“พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไร ทำไมรีบร้อนจัง— อุ๊บ!”

สู่เอ้อร์ที่เดินออกมาจากด้านในชนเข้ากับพี่ชายจนทั้งคู่ล้มก้นจ้ำเบ้านั่งลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ถูบั้นท้ายตัวเองด้วยสีหน้างงงวย

“อูย… ข้ามีเรื่องด่วน ข้าไม่มีเวลาอธิบายให้เจ้าฟังหรอก ท่านพ่ออยู่ที่ไหน?” สู่ต้าลุกขึ้นจากพื้นขณะกุมบั้นท้ายของตน

“ท่านพ่ออยู่ข้างใน” คนเป็นน้องชายตอบพลางชี้ไปในถ้ำ

ครั้งนี้ตอนที่ทั้งคู่ออกไปหาเสบียง หัวหน้าของเผ่าหนูไม่ได้ไปที่นั่นด้วยตัวเอง แต่ส่งลูกชาย 2 คนออกไปแทนเพื่อฝึกฝนพวกเขา

เดิมที หลังจากสู่ต้ากลับมาถึงเผ่าเล่ยเหอ เขาควรมารายงานสถานการณ์กับหัวหน้าของเผ่าหนูก่อน แต่เขากลับอยากได้รับคำชมจากหูหลินใจจะขาดจึงขอให้น้องชายมารายงานแทน ดังนั้นสู่เอ้อร์จึงต้องมารายงานให้ท่านพ่อทราบ

ด้วยความที่ว่าเขาเป็นลูกคนที่ 2 ในครอบครัว แม้ว่าเขากับสู่ต้าจะคลานออกมาจากท้องแม่เดียวกัน แต่เขาก็ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากเขาพูดไปได้ไม่กี่คำ เขาก็ถูกหัวหน้าของตระกูลสู่ไล่ออกมา และในตอนนั้นเองที่เขาชนเข้ากับพี่ใหญ่

ทางด้านสู่ต้าไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับน้องชาย เขาแยกเขี้ยวและสูดลมหายใจขณะที่รีบเดินเข้าไปในถ้ำ

เมื่อสู่เอ้อร์เห็นแบบนี้ เขาก็คิดว่ามีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นจึงรีบตามอีกฝ่ายไป

จากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งเข้าไปในถ้ำที่ใหญ่ที่สุด

ซึ่งถ้ำนั้นเต็มไปด้วยควัน แล้วยังมีกลิ่นอับที่อธิบายไม่ได้รวมถึงกลิ่นของสิ่งที่หมักหมมเหมือนรางน้ำที่มีกลิ่นเหม็นอยู่หลังครัวในไร่นาคละคลุ้งไปทั่ว

นอกจากนี้เสบียงบางอย่างที่กระจัดกระจายถูกสุมอยู่ที่มุมห้อง ทำให้ของทั้งหมดส่งกลิ่นปะปนกันเต็มห้อง

ทว่าหนูภูตไม่สนใจทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เพราะยิ่งสภาพแวดล้อมสกปรกและรกรุงรังมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งอยู่สบายมากขึ้น

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีกองหญ้ากองหนึ่งอยู่กลางถ้ำ ขณะที่ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยกำลังนอนแทะเนื้อติดกระดูกชิ้นหนึ่งอย่างสบาย ๆ พลางดูดไขกระดูกข้างในก่อนจะคายสิ่งตกค้างในปากอยู่บนนั้น

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเศษอาหารพร้อมกับน้ำลายบนกองหญ้ามีส่วนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในถ้ำมากที่สุด

“ท่านพ่อ! เกิดเรื่องแล้ว!” ทันทีที่สู่ต้าเข้ามา เขาก็วิ่งไปหาหัวหน้าของภูตเผ่าหนูอย่างร้อนรน

หากใครที่ไม่รู้ได้ยินเสียงตะโกนของชายแคระ คนคนนั้นอาจจะคิดว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมาแล้ว

เมื่อหัวหน้าภูตหนูได้ยินเสียงของอีกฝ่าย เขาก็รีบลุกขึ้นนั่งพลางโยนกระดูกวัวลงพื้นแล้วถามว่า

“เจ้าใหญ่ เกิดอะไรขึ้น? หัวหน้าหาว่าเราขโมยเสบียงของเผ่าไปหรือเปล่า?” บัดนี้คนเป็นพ่อมีฃฃทำหน้าอิหลักอิเหลื่อเนื่องจากกลัวว่าหูหลินจะจับได้

สู่ต้าเองก็ผงะไปเช่นกัน จากนั้นเขาก็รีบส่ายหัวตอบ

“ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวหน้าอยากทิ้งเผ่าตามผู้หญิงคนหนึ่งไป และเขาต้องการให้ทุกคนเข้าร่วมเผ่าอื่นด้วย!

“อย่างนี้นี่เอง…” หัวหน้าของเผ่าหนูถอนหายใจด้วยความโล่งอกและใช้มือลูบหน้าอกตัวเองเบา ๆ

ในขณะที่ชายวัยกลางคนกำลังจะผ่อนคลาย จู่ ๆ เขาก็เพิ่งเข้าใจในสิ่งที่ลูกชายพูดจึงหันไปมองอีกคนขวับ

“ว่าไงนะ!! เขาอยากให้เราไปเข้าร่วมเผ่าอื่น!?”

ทำไมชายคนนั้นถึงอยากให้พวกตนเข้าร่วมเผ่าอื่นในเมื่อการอยู่ที่นี่พวกเขาก็มีชีวิตที่ดีมากอยู่แล้ว?

“ถูกต้อง!” ลูกชายคนโตแสดงท่าทางขึงขัง

“หัวหน้าไม่ได้ถามความคิดเห็นของพวกเราเลยสักนิด ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าจะกลับเผ่าของตัวเอง เขาก็จะตามนางไปทันที แถมไม่พอนางยังอยากให้พวกเราทุกคนย้ายไปอยู่ที่นั่นด้วย”

“ทำไมเราถึงต้องย้ายออกจากที่นี่เพื่อผู้หญิงของเขา!?”

ยิ่งสู่ต้าพูดเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น อีกทั้งเขารู้สึกว่าหูหลินตัดสินใจเช่นนั้นเพราะผลประโยชน์ส่วนตน

อีกฝ่ายแค่เห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดถึงเผ่ารวมถึงความเป็นอยู่ของภูตคนอื่นเลย และเขาถึงคิดแต่ความปรารถนาของตนเอง

ขณะนี้ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลสู่เริ่มเคร่งเครียด เขาบีบหญ้าแห้งในมือ นวดให้เป็นก้อนกลมจนส่งเสียงดังกรอบแกรบ

ไม่นานดวงตาแคบยาวของภูตหนูคู่หนึ่งก็กลอกไปมาอย่างรวดเร็ว

ย้ายไปอยู่เผ่าอื่นอย่างนั้นหรือ? ถ้าทุกคนย้ายไปแล้วเขาจะยังสามารถแอบยักยอกเสบียงเหมือนตอนนี้ได้อีกหรือไม่?

ก่อนที่จะมีการย้ายไปอยู่เผ่าอื่นมันจะต้องมีการตรวจนับเสบียงก่อนแน่นอน

ถ้าหัวหน้าตรวจนับแล้วพบว่าเสบียงเหลือน้อยกว่าเดิม เขาจะไม่ถูกเปิดโปงหรอกหรือ! แล้วหัวหน้าก็จะต้องลงโทษเขาแน่ ไม่เพียงแค่นั้น เขาจะต้องหาเสบียงทั้งหมดมาคืน ซึ่งในเวลานี้เขาจะไปหาเสบียงมากมายมาจากที่ไหนกัน!

“ไม่!” หัวหน้าของเผ่าหนูกำหมัดแน่นและทุบไปที่กองหญ้า “เราต้องไม่ย้ายออกไป!”

ทางด้านสู่เอ้อร์ที่เดินมาทีหลัง เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่พูดคุยกัน เขาก็ลังเลที่จะเดินเข้าไป แต่เขาก็ยังพูดเสียงเบา

“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ บางทีผู้นำอาจจะทำเพื่อประโยชน์ของเผ่า เราอาศัยอยู่ที่นี่มาก็นานแล้ว แต่เราแทบจะหาเสบียงได้ไม่พอกินกันเลย อีกอย่าง เผ่านั้นดูเหมือนจะมีเสบียงอยู่มากมาย...”

ชายร่างเตี้ยกล่าวเช่นนี้เพราะระหว่างขากลับเขายังคงพบสัตว์ในป่า ทว่าพอมาถึงใกล้เผ่าเล่ยเหอก็มีแต่มดแต่แมลง

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ถูกผู้เป็นพ่อหนูตบอย่างแรง

“ข้ากำลังพูดอยู่ ข้าอนุญาตให้เจ้าพูดแทรกตั้งแต่เมื่อไหร่!”

บัดนี้หัวหน้าของเผ่าหนูมองสู่เอ้อร์ด้วยความโกรธ เขารู้สึกรำคาญลูกชายคนที่ 2 คนนี้ที่สุด และอีกฝ่ายไม่ได้สิ่งดี ๆ จากเขาไปเลยสักนิด

ทั้งการพูดการจา ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็ชักช้าอืดอาดโดยที่มันอ้างว่าต้องมีการวางแผนก่อน แม้ในเวลาแบบนี้มันก็ยังไปเข้าข้างคนนอกโดยไม่แสดงความกังวลเหมือนสู่ต้าเลยสักนิด

“เจ้าเป็นลูกของข้าหรือลูกของหูหลินกันแน่? ถ้าเราย้ายเผ่าแล้วเจอเสบียงที่ถูกยักยอกไปล่ะจะให้ข้าไปอยู่ที่ไหน!” คนเป็นพ่อพูดพลางใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากเจ้าลูกชายไม่ได้ความเต็มแรง

สู่เอ้อร์จึงหดคอไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ท่านพ่อ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี?” สู่ต้าขมวดคิ้วและเปิดปากพูดเพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย

ดังนั้นหัวหน้าของเหล่าภูตหนูจึงไม่สนใจลูกชายคนรอง ก่อนจะเดินออกไป

“ไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันเดี๋ยวนี้ เราจะไปหาหัวหน้ากัน ไม่ว่าในวันนี้เขาจะตัดสินใจยังไง ถ้าเขาจะพาคนออกไปจากเผ่าก็ย่อมได้ แต่เขาจะต้องทิ้งเสบียงทั้งหมดไว้ให้พวกเรา!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด