ตอนที่แล้วบทที่ 326: กลับมารวมตัวกับลูกอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 328: เจียวเจียว เจ้าจะออกเดินทางเมื่อไหร่?

บทที่ 327: เข้าร่วมเผ่าของเราด้วยกัน


เห็นได้ชัดว่าหูเจียวเจียวเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ และเป็นคนรุ่นหลังในครอบครัวของหูหลิน ทว่าแววตาที่อีกฝ่ายมองมากลับทำให้เขารู้สึกกลัวได้เสียอย่างนั้น

หลังจากจิ้งจอกสาวเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็เปิดปากปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ขอบคุณที่ท่านกรุณาเมตตาเรา แต่ทุกคนมาจากเผ่าเดียวกัน ที่นั่นกว้างขวางพอที่จะให้เราอาศัยอยู่ได้สบาย เราไม่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่”

แม้ว่าชายคนนี้จะเป็นคู่อีกคนของแม่ แต่ท่าทางของเขาดูแปลก ๆ ซึ่งมันไม่น่าไว้วางใจ

ในเวลาเดียวกัน หูเฉียงเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหูหลิน เมื่อเขาเห็นไอ้คนเจ้าเล่ห์กำลังพูดหว่านล้อมลูกสาวตน เขาก็รีบไปยืนขวางระหว่างพวกเขาทั้ง 2

“เจียวเจียวพูดถูก ครอบครัวเราอาศัยอยู่ที่นั่นกันหมด เราจะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น เจ้ารีบกลับไปจัดการเรื่องของเจ้าเถอะ ตรงนี้ไม่มีอะไรให้เจ้าต้องกังวลหรอก!”

พอชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินอีกฝ่ายเน้นคำว่า ‘ครอบครัว’ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งบูดบึ้ง แต่เนื่องจากหูเจียวเจียวยังยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาเลยต้องกดความโกรธลงไป ก่อนที่เขาจะแสร้งยิ้มและพูดว่า

“หูเฉียง ข้าก็นับว่าเป็นพ่อของเจียวเจียวเหมือนกัน ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนั้น งั้นข้าก็จะย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย ข้าจะได้ช่วยดูแลเจียวเจียวและหมินหมิ่น”

จากนั้นเขาจึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาย้ายของทั้งหมดที่อยู่ในถ้ำของเขามาที่นี่ แล้วยืดอกมองหูเฉียงอย่างภาคภูมิใจ

“เจ้าพูดถูก คนเป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน”

“นี่เจ้า!” หูเฉียงกัดฟันพร้อมกำหมัดแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะเจียวเจียวยังอยู่ตรงนี้ เขาอาจไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเขาคงจะใช้กำปั้นซัดหน้าของไอ้คนสำคัญตัวเองผิดแรง ๆ สักที

ไอ้จิ้งจอกเฒ่าคนนี้ยังทำตัวน่ารำคาญเหมือนเดิมไม่มีผิด!

ส่วนหูเจียวเจียวสัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันที่ทั้งคู่กำลังห้ำหั่นกันผ่านสายตา เธอจึงหาข้ออ้างเพื่อหันเหความสนใจของพ่อจิ้งจอกวัยกลางคน “ท่านพ่อ ท่านไปเรียกท่านแม่มาเถอะ ข้าอยากคุยกับนางสักหน่อย”

เนื่องจากหูหลินเป็นคู่ของท่านแม่เช่นกัน ดังนั้นการตัดสินใจในครั้งนี้หูหมินควรมีส่วนร่วมด้วย และอีกอย่างเขาจะไม่มีสิทธิ์คัดค้านนาง

ถ้าหูหมินอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ เธอก็จะเคารพการเลือกของอีกฝ่ายและอธิบายแก่ท่านผู้เฒ่าฟังให้ชัดเจนในยามที่เธอกลับไปถึงเผ่า

เมื่อหูเฉียงได้ยินคำพูดของลูกสาว เขาก็พ่นลมใส่คู่อริด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปมองลูกของตนด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปแบบคนละขั้ว

“ตกลง พ่อจะไปทันที”

เนื่องจากหูหลินคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความคิดของหูเจียวเจียวได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเห็นว่าตาแก่น่ารำคาญเดินออกไปแล้ว เขาก็ยิ้มพลางเดินเข้าไปหาจิ้งจอกสาว

“เจียวเจียว มีอะไรจะพูดกับพ่อหรือ?”

ตั้งแต่เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของหูหมิน เขาก็รักนางมากขึ้นแบบไม่มีเหตุผล

ในสายตาของชายวัยกลางคน หูเจียวเจียวได้สืบทอดข้อดีของหมินหมิ่นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งรูปลักษณ์ที่งดงาม บุคลิกที่สง่าผ่าเผย ความฉลาดหลักแหลมและวิสัยทัศน์ที่ดีเยี่ยม

แม้กระทั่งสายตาที่เขาใช้มองนางก็ยังดูหลงใหลยิ่งกว่าของหลงโม่ด้วยซ้ำ

สำหรับสายเลือดครึ่งหนึ่งของหูเฉียงที่อยู่ในร่างกายของนาง เขาสามารถเพิกเฉยต่อมันได้

พอหูเจียวเจียวหันไปเห็นใบหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นของหูหลิน มุมปากของเธอก็กระตุก ก่อนที่เธอจะถอยหลังไป 2 ก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา

ครู่ต่อมา เธอกระแอมในลำคอ ก่อนจะพูดตรงประเด็น

“หัวหน้า ข้ารู้ว่าท่านอยากให้เราอยู่ต่อ แต่ถึงยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่เผ่าของเรา สักวันพวกเราก็ต้องกลับไปที่เผ่าของตัวเองอยู่ดี ส่วนท่านแม่ของข้า ถ้านางอยากจะอยู่ที่นี่ ข้าก็จะสนับสนุนนางไม่ว่านางจะตัดสินใจแบบไหน”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหูหลินหุบลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้

ถ้านางไม่อยู่ที่นี่มันก็แปลว่าหมินหมิ่นก็จะไม่อยู่ด้วยไม่ใช่หรือ?

“เจียวเจียว เจ้าคิดดูอีกทีได้ไหม ในเผ่าของเราก็น่าอยู่ไม่ต่างกัน ขอแค่เจ้ารั้งอยู่ที่นี่ พ่อจะมอบเสบียงที่ดีที่สุดให้กับเจ้าเอง”

จิ้งจอกสาวยังคงส่ายหัวตอบด้วยสายตาแน่วแน่ “ข้าต้องกลับไปแล้ว”

ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งลักพาตัวภูต 800 คนรวมถึงเฟิงเฉิงผู้เป็นหมอผีมาจากเผ่าหมาป่า เธอไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาต้องอยู่แบบตามมีตามเกิด แล้วปัจจุบันคนเหล่านี้ก็ยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอยังจำเป็นจะต้องคอยกำกับแผนการให้ทุกคนเดินไปทีละก้าว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะปล่อยมือจากทุกคนตอนนี้

และเผ่าที่เธอจากมาคือบ้านที่แท้จริงของเธอในโลกภูตใบนี้

ไม่เพียงแค่นั้น ดินแดนใกล้กับเผ่าเล่ยเหอยังแห้งแล้งจนไม่สามารถพัฒนาต่อได้เลย มันยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่หญิงสาวจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่

“แต่ว่า…” หูเจียวเจียวเว้นจังหวะพูด ก่อนจะเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองลงของหูหลิน เธอจึงพูดต่อว่า

“ข้าสามารถบอกท่านถึงวิธีที่ข้าพูดถึงก่อนหน้านี้ได้”

ยามนี้หูหลินยังคงทำหน้าอมทุกข์เหมือนหมาหงอย แววตาของเขาไม่หลงเหลือความสุขเลย

หมินหมิ่นกำลังจะจากไปแล้ว การที่เขาได้รู้วิธีเก็บเกี่ยวเสบียงได้มากมายกว่าเดิมมันจะไปมีประโยชน์อะไร

ทางด้านจิ้งจอกสาวไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีเช่นนี้ เธอกำลังจะเปิดปากพูด แต่แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน หลงโม่เดินมาด้านข้างหูเจียวเจียว แล้วพบร่องรอยของความโศกเศร้าบนใบหน้าของเธอ เขาจึงขมวดคิ้วและมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว

จากนั้นเขาเอื้อมมือไปกุมมือภรรยาสาวไว้

ทางด้านหญิงสาวเงยหน้าขึ้นแบบตกใจ ก่อนจะเห็นสายตาที่มั่นคงของสามีหนุ่มเปี่ยมด้วยความรักใคร่ ราวกับเขากำลังบอกว่า: ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร ข้าจะคอยสนับสนุนเจ้าอยู่ข้างหลังเสมอ

นั่นทำให้หัวใจของจิ้งจอกสาวที่เมื่อครู่นี้หดหู่ลงไปมากก็พลันสดใสขึ้นในทันที

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ 100% แล้วทำไมเธอถึงต้องพยายามทำให้มันสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างล่ะ!

ไม่นานหูเจียวเจียวก็กระชับมือพลางยิ้มให้หลงโม่ ในระหว่างนั้นนิ้วของพวกเขาสอดประสานกันคล้ายกับมีพลังวิเศษที่กำลังส่งผ่านเข้าสู่กระแสเลือดของทั้งคู่

เวลาผ่านไปอีกไม่กี่อึดใจ หูเฉียงก็พาหูหมินมา

ทันทีที่แม่จิ้งจอกวัยกลางคนเห็นสีหน้าของหูหลิน นางก็เดาอะไรบางอย่างได้ราง ๆ นางจึงบอกให้หูชิงหลู่พาเด็กทั้ง 4 คนที่อยู่ไม่ไกลไปเล่นที่อื่น เสร็จแล้วก็มองไปที่ลูกสาว

“เจียวเจียว เจ้าอยากคุยเรื่องอะไรหรือ?”

หูเจียวเจียวบอกผู้เป็นแม่อีกครั้งในสิ่งที่เธอเพิ่งพูดกับหูหลิน

เมื่อหูหมินได้ยินเช่นนี้ นางก็ตอบโดยไม่ต้องคิด

“แน่นอนสิว่าแม่อยากกลับเผ่าของเรา เจียวเจียว ไม่ต้องห่วงนะ แม่จะกลับไปกับเจ้าแน่”

ไม่ใช่ว่านางไม่มีความรู้สึกให้กับหูหลิน

ตอนนี้สถานการณ์ของนางค่อนข้างจะซับซ้อนมาก เพราะฝั่งหนึ่งคือหูเฉียงกับลูก ๆ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็คือหูหลินที่พลัดพรากจากกันมานาน ถ้าเป็นไปได้นางก็ไม่อยากจะเลือกทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

พอหูเฉียงได้ยินคำพูดของภรรยา เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก

ในตอนที่เขาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของหูหลิน เขาก็ยกแขนโอบไหล่คู่ของตนเอาไว้แล้วพูดว่า

“ใช่ เราจะกลับไปกับเจียวเจียว นี่ไม่ใช่เผ่าของเรา แน่นอนว่าเราจะไม่อยู่ที่นี่”

ขณะที่พ่อจิ้งจอกวัยกลางคนกล่าว เขามองไปที่คู่อริด้วยสายตาท้าทาย

ส่วนผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเมื่อเห็นท่าทางยั่วยุนั้นก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมาในหัว แต่เขาก็ทำได้เพียงกัดกรามแน่นเพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว

ที่สำคัญก็คือเขาบังคับหมินหมิ่นไม่ได้…

หลังจากชายตัวโตใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาเสียงดัง

“ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้าด้วย!”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากหูหลิน ไม่เพียงแค่พวกหูเจียวเจียวที่มีสีหน้าตกใจเท่านั้น แต่แม้แต่ภูตของเผ่าเล่ยเหอก็พากันหันขวับมามองหน้าเขาทันควัน

“หัวหน้า ถ้าท่านไปจากที่นี่แล้วเราจะทำยังไง?”

“ใช่ หัวหน้า เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีท่าน...”

เนื่องจากพวกเขาเป็นเพียงภูตเผ่าพันธุ์เล็ก ๆ 3 เผ่าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ทุกคนก็มาอยู่รวมกันเพื่อความอยู่รอด ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหูหลิน การอาศัยอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้งและมีเสบียงอยู่อย่างจำกัดนั้นเป็นไปได้ยากมาก แล้วเผ่าก็คงไม่แข็งแกร่งเท่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

หากภูตทั้งหมดไม่มีผู้นำ เผ่าของพวกเขาจะไม่แตกสลายไปหรือ!

ขณะนี้คนเป็นหัวหน้าเผ่าชำเลืองมองภูตของเผ่าเล่ยเหอ ก่อนที่เขาจะตะโกนพูดเสียงหนักแน่น

“ข้าได้ก่อตั้งเผ่าเล่ยเหอมาแล้ว 20 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าทำทุกอย่างนี้เพียงเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นก็คือการค้นหาคู่ของข้า และตอนนี้ข้าพบนางแล้ว ดังนั้นข้าจะไม่อยู่ที่นี่อีก”

“ปัจจุบันในเผ่ามีคนเก่ง ๆ อยู่ตั้งมากมาย ข้าเชื่อว่าทุกคนจะช่วยกันปกป้องเผ่าเล่ยเหอได้แน่นอน หลังจากที่ข้าออกจากเผ่าไปแล้ว ให้หัวหน้ากิ้งก่าขึ้นเป็นผู้นำแทน ฉะนั้นพวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง” หูหลินพูดโดยที่ไม่มีร่องรอยของความลังเลบนใบหน้าของเขาเลยสักนิด

“ท่านหัวหน้า...” ภูตทั้งหมดของเผ่าเล่ยเหอยังคงแสดงท่าทีไม่เต็มใจ

เมื่อพวกลูกน้องเห็นการแสดงออกที่มั่นคงของอีกฝ่าย พวกเขาก็รู้ว่าชายคนนี้จะไม่เปลี่ยนใจ ดังนั้นทุกคนจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรอีก

“ความจริงแล้ว” ในตอนนั้นเอง มีเสียงทุ้มดังขึ้นมาขัดจังหวะบรรยากาศที่เงียบงัน

แล้วภูตทั้งหมดก็หันไปมองหลงโม่ที่กำลังจะพูดต่อ

ยามนี้สีหน้าของมังกรหนุ่มยังคงเรียบนิ่งขณะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ว่า

“พวกเจ้าสามารถเข้าร่วมเผ่าของเราได้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด