บทที่ 326: กลับมารวมตัวกับลูกอีกครั้ง
หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลงแล้ว หูเจียวเจียวก็ได้มาพบกับหูเฉียง, หูชิงหลู่และลูก ๆ อย่างราบรื่น
“ท่านพ่อ พี่สาม” จิ้งจอกสาวเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา เมื่อเห็นว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เธอจึงรู้สึกโล่งใจมากขึ้น
“ท่านแม่!”
เมื่อลูกน้อยทั้ง 3 เห็นแม่จิ้งจอก พวกเขาก็ตะโกนพร้อมกันและรีบวิ่งพุ่งเข้าไปหาเธอเหมือนลูกศรขนาดเล็กด้วยความดีใจปนตื่นเต้นที่ควบคุมไม่อยู่
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนหายตัวไปจากเผ่านานมาก ระหว่างที่เดินทางมาที่นี่พวกเขาก็รู้สึกทรมานทุกคืนวัน
ยามนี้หูเจียวเจียวเผยรอยยิ้มบนใบหน้าพลางอ้าแขนกว้างและกอดลูกทั้ง 3 คนไว้ในอ้อมแขน
“อวี้เอ๋อ เซียวเซียว หลิงเอ๋อ...”
ส่วนหยินชางเป็นคนสุดท้ายที่วิ่งตามหลังเหล่าเด็กตระกูลหลงมา สีหน้าของเขาไม่ตื่นเต้นเท่าเด็กอีก 3 คน แต่เขาก็ก้าวเท้าตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นจิ้งจอกสาวสวมกอดพวกเขาด้วยความรักใคร่ ทันใดนั้นเขาก็หยุดวิ่งโดยพยายามข่มความสุขที่เอ่อล้นอยู่ในใจเอาไว้ ก่อนที่เขาจะยืนนิ่ง ๆ หลบสายตาและไม่เข้าไปขัดจังหวะครอบครัวอันแสนอบอุ่น
พวกเขาคือครอบครัวที่แท้จริง ซึ่งคนนอกอย่างเขาไม่ควรเข้าไปรบกวนอีกฝ่ายในเวลานี้
ครู่ต่อมา หูเจียวเจียวเงยหน้าขึ้นมองหยินชางแล้วกวักมือเรียกเขา “หยินชาง มานี่สิ มาให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าผอมลงหรือเปล่า ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาเจ้าคงลำบากมากเลยสินะ...”
หญิงสาวรู้ว่าหยินชางเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวและจิตใจกระทบกระเทือนต่อสิ่งรอบข้างได้ง่าย จากนั้นเธอก็ขยิบตาให้หลงอวี้
ลูกชายคนโตเข้าใจสายตาของแม่จึงรีบก้าวไปดึงเด็กหนุ่มมาทันที
ขณะนี้เด็กทั้ง 4 คนยืนอยู่ตรงหน้าหูเจียวเจียว พวกเขาดูโตขึ้นเล็กน้อย แต่หยินชางก็ยังสูงกว่าเด็กอีก 3 คนมากอยู่ดี
ต่อมา หูเจียวเจียวจับมือเด็กที่โตที่สุดในกลุ่มพลางพูดเบา ๆ ว่า
“หยินชาง ขอบคุณที่ดูแลน้องชายกับน้องสาวของเจ้ามาตลอดทาง ลำบากเจ้าแล้ว” แม้ว่าปกติแล้วเขาจะเป็นคนเฉยชาและชอบเก็บตัว แต่ระหว่างทางเด็กทุกคนได้รับการดูแลจากเขาเป็นอย่างดี ต่อให้เจ้าตัวจะเป็นหวัด เขาก็ยังใจดีคอยดูแลทุกคนอยู่เสมอ
ยามนี้ใบหน้าของหยินชางสว่างไสวขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเด็กหนุ่มกำลังรู้สึกสะเทือนใจ แม่จิ้งจอกคนนี้ทำดีกับเขาเหมือนเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวเสมอมา อีกทั้งนางยังปฏิบัติต่อเขาเท่าเทียมกับลูกของตัวเองโดยไม่เคยปล่อยให้ตนรู้สึกต้อยต่ำหรือว่าเป็นคนนอกเลย...
การที่เขาจะตอบแทนนางด้วยการดูแลลูก ๆ ของนางจึงไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ดังนั้นต่อให้เขาต้องเอาชีวิตเข้าแลกเขาก็ยอม
“ท่านแม่ หยินชางมักจะเก็บอาหารไว้ให้เสี่ยวเหยากิน และเขาก็ดูแลเสี่ยวเหยาเป็นอย่างดี” หลงหลิงเอ๋อกล่าวเสริมพร้อมกับจับแขนของหูเจียวเจียวเขย่าเบา ๆ
ในเวลาเดียวกัน หลงอวี้กับหลงเซียวก็พยักหน้าสำทับ ถ้าเสี่ยวเหยาไม่ใช่ผู้ชาย พวกเขาคงคิดว่าอีกคนมีใจให้น้องชายของตน
พอเด็กน้อยทั้งหลายพูดจบ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง แล้วทันใดนั้นพวกเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองยังหาน้องชายคนเล็กไม่พบ ไม่นานร่องรอยของความรู้สึกผิดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กแต่ละคน
“ท่านแม่ เสี่ยวเหยา...”
หลงหลิงเอ๋ออ้าปากค้าง คอของนางแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำโดยที่คำพูดยังติดอยู่ในลำคอ
ถัดมา หลงอวี้เงยหน้าขึ้นกดไหล่ของน้องสาวพลางขมวดคิ้วและทำท่าเหมือนพี่ใหญ่ที่ต้องการรับผิดชอบทั้งหมดเอง
“ท่านแม่ ข้าขอโทษ ข้าปกป้องเสี่ยวเหยาและน้องสามได้ไม่ดี ข้าทำพวกเขาหาย...”
ส่วนหลงเซียวกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะพูดว่า “ข้าก็เป็นคนผิดเหมือนกัน ท่านแม่ ได้โปรดลงโทษข้าด้วย”
ถ้าดวงตาของเด็กชายมองเห็นได้ชัดเจน เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้พี่ชายมาคอยดูแลตนตลอดเวลา แล้วเขาจะได้ทุ่มเทกับการดูแลหลงจงและหลงเหยาได้มากขึ้น
“เอาล่ะ แม่จะไม่ลงโทษใครทั้งนั้น ลูกทุกคนเป็นคนดี” หูเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะยิ้มและลูบหัวเด็กน้อยทีละคน
เมื่อหญิงสาวเห็นสีหน้ารู้สึกผิดของเด็ก ๆ เธอจึงรีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“จงเอ๋อกับเหยาเอ๋อสบายดี พวกเขาอยู่ข้างนอก ตอนนี้พวกเขาปลอดภัยแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกังวลนะ”
คำพูดของคนเป็นแม่ทำให้เด็กทุกคนตกตะลึง
“จริงหรือ!?” หลงหลิงเอ๋อเบิกตามองแม่จิ้งจอกด้วยความประหลาดใจ
นับว่าเป็นข่าวดีที่เสี่ยวเหยากับพี่สามไม่เป็นอะไร!
“ข้านึกว่าข้าจะไม่ได้เจอพวกเขาอีกแล้ว...” เด็กหญิงพูดพลางยกมือเช็ดขอบตาที่เปียกชื้น
ระหว่างการเดินทางอันยาวไกลพวกเขาต่างก็กังวล รู้สึกผิดและโทษตัวเองโดยหวังว่าตนจะเป็นฝ่ายที่หายไปแทน
ขณะนั้นหลงอวี้กับหลงเซียวหันมามองหน้ากัน แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ตื่นเต้นเท่าหลงหลิงเอ๋อ แต่สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
“ท่านแม่ แล้วลุงสี่กับป้าจิง...” คนเป็นพี่ใหญ่ถามขึ้นมาอย่างลังเลอีกครั้ง
เนื่องจากป้าจิงหายตัวไปเพราะช่วยเสี่ยวเหยา และเขาก็นึกถึงเรื่องนี้เสมอ
“พวกเขาก็อยู่ด้วยกันกับจงเอ๋อและคนอื่น ๆ” หูเจียวเจียวรีบตอบคำถามลูกชาย
นั่นทำให้หลงอวี้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมกับที่ความตึงเครียดบนใบหน้าผ่อนคลายลง
โชคดีที่พวกเขาไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้เขามีความสุขมากจริง ๆ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อหูเฉียงกับหูชิงหลู่เห็นหูเจียวเจียวเดินเข้ามา พวกเขาก็ดีใจมาก แต่แล้วทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะลากหลงโม่ไปยังมุมหนึ่ง
“เจ้าหนุ่ม มานี่ซิ เจ้าพาเจียวเจียวมาที่นี่ทำไม!?”
“ถูกต้อง น้องเล็กของข้าอ่อนแอจะตาย ถ้านางป่วยระหว่างทางล่ะ หลงโม่ เจ้านี่มันประมาทเกินไปแล้ว...”
เนื่องจาก 2 พ่อลูกไม่กล้าต่อว่าหูเจียวเจียวโดยตรง ดังนั้นพวกเขาจึงลากหลงโม่มา ‘สั่งสอน’ แทน
ทางด้านมังกรหนุ่มมองดูจิ้งจอกสาวที่กำลังพูดคุยกับลูกด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเขาก็ยอมรับคำสั่งสอนของพ่อตากับพี่สามแต่โดยดีและไม่พูดอะไรสักคำ
พอหูเฉียงกับหูชิงหลู่เห็นว่าเขารู้สำนึก ทั้งคู่ก็คิดไม่ออกว่าจะด่าเขาว่าอะไรอีกดี
“เจ้าห้ามพาเจียวเจียวออกมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้อีก” ชายวัยกลางคนพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมองก่อนจะปล่อยลูกเขยไปอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากหญิงสาวพูดคุยกับลูกเสร็จแล้ว เธอก็ไปทักทายภูตคนอื่น ๆ ต่อ
ปัจจุบันชาวบ้านทุกคนรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกยามได้เห็นหูเจียวเจียวกับหลงโม่ ในขณะที่พวกเขามีความสุขมาก
จิ้งจอกสาวถือได้ว่าเป็นดาวนำโชคของเผ่า เมื่อนางปรากฏตัวที่นี่ พวกเขาจะสามารถกลับไปที่เผ่าได้โดยปลอดภัยแน่นอน!
“หมินหมิ่น...”
เวลานั้นหูหลินเรียกหญิงที่ตนรักอย่างประจบประแจงแล้วเอื้อมมือไปหมายจะจับมือนาง
ทว่าหูหมินเพิกเฉยต่อการมีอยู่ของเขาและหันกลับไปคุยกับลูกตัวเอง
นั่นทำให้ผู้เป็นหัวหน้าที่ยื่นมือออกไปคว้าอากาศรู้สึกเหมือนตนถูกทอดทิ้ง เขาจึงถอนมือออกมาเกาหัวตัวเอง ก่อนจะเดินไปที่ด้านข้างหูเจียวเจียว
“เจียวเจียว...” เสียงของเขายังคงประจบสอพลอเหมือนเดิมทุกประการ
ขณะนี้จิ้งจอกสาวกำลังคุยกับโหวเซียง หลังจากที่นางเดินทางอย่างยากลำบากมาตลอดทาง เธอก็เห็นว่านางไม่มีรูปร่างอ้วนท้วนเหมือนเคยอีกต่อไป ปัจจุบันนางเปลี่ยนเป็นสาวอวบผู้มีทรวดทรงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นราวกับเป็นคนละคนกัน
เมื่อลิงสาวเห็นหูหลินใกล้เข้ามา นางก็หยุดพูดก่อนจะยิ้มให้หูเจียวเจียวแล้วเดินออกไปเพื่อปล่อยให้ทั้งคู่ได้คุยกัน
ครู่ต่อมา หญิงสาวหันกลับมาถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าหรือ?”
แม้ว่าหูหลินจะเป็นพ่อคนที่ 2 ของเธอ แต่เขาก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธออยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น เขาเกือบจะทำให้ทั้งเผ่าและครอบครัวของเธอตกอยู่ในอันตราย มันส่งผลให้เธอทำใจเข้าใกล้อีกฝ่ายไม่ได้จริง ๆ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้
ขณะเดียวกัน ใบหน้าของชายวัยกลางคนประดับไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทำให้ริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ เกิดรอยย่นหลายชั้น
“ข้าเตรียมถ้ำพิเศษไว้ให้แล้ว ข้าจะพาเจ้า หมินหมิ่นและลูก ๆ ไปพักผ่อนก่อนดีไหม?”
หูเจียวเจียวสบตาชายตรงหน้าอีกครั้งแต่ไม่ได้ตอบอะไร
ส่วนหูหลินยิ้มอย่างรู้สึกผิด และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตนถูกจับได้
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ครอบครัวสุขสันต์ใกล้จะได้อยู่กันพร้อมหน้าแล้วววว