ตอนที่แล้วบทที่ 323: หูเจียวเจียวไปเยือนเผ่าเล่ยเหอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 325: นี่คือพ่อของเจ้า

บทที่ 324: ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายมาก!


เวลาต่อมา หูเจียวเจียวและหลงโม่เดินตามกลุ่มภูตเข้าไปในเผ่าเล่ยเหออย่างรวดเร็ว

เนื่องจากหูหลินไม่ต้องการให้หูหมินพบทั้งคู่ก่อน ดังนั้นเขาจึงจัดให้อีกฝ่ายไปที่บ้านไม้ของเผ่าแทนที่จะพาพวกเขาไปยังถ้ำทันที

“หัวหน้า ภูต 2 คนนั้นมาถึงที่นี่แล้ว” เสียงของลูกน้องดังมาจากนอกบ้าน

ยามนี้คนเป็นผู้นำเผ่ายืนเอามือไพล่หลังพลางมองไปที่ประตูด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ถ้าหน้าอกของเขาไม่กระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย เขาคงดูเหมือนกับรูปปั้นปูนที่ตั้งอยู่กลางห้อง

ทันทีที่ภูตคนนั้นพูดจบ เขาก็เห็นภูต 2 คนที่คนหนึ่งตัวสูงและอีกคนหนึ่งตัวเล็กเดินเข้ามาจากประตู

ชายร่างสูงมีใบหน้าเคร่งขรึมประกอบกับสายตาที่ไม่แยแสใคร ทว่ามีความคมเข้มซึ่งมันสามารถกลบรัศมีเด็ดเดี่ยวของผู้เป็นหัวหน้าเผ่าอย่างหูหลินได้เลย

ส่วนคนตัวเตี้ยที่ยืนอยู่ทางขวามือ ร่างกายของเขาถูกเสื้อผ้าห่อตัวไว้หนาแน่น แต่เขาดูผอมเหมือนคนขาดสารอาหารเสียมากกว่า

แล้วสิ่งที่เผยออกมามีเพียงดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งที่คอยสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวเหมือนคนเฉลียวฉลาด

“พวกเจ้าอยากพบข้างั้นรึ มีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับข้าหรือเปล่า?” หูหลินเชิดคางขึ้นขณะสายตาจับจ้องแขกผู้มาเยือนแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ทว่าสองคนนั้นไม่ได้ตอบในทันที เขาจึงเหลือบมองไปที่ภูตตัวสูงโดยสัญชาตญาณ

แต่ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไม่คาดคิดว่าว่าหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ คนตัวเตี้ยกว่าที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ก้าวมาข้างหน้า 2 ก้าวพลางมองตรงมาที่เขาด้วยดวงตาสีเข้มคู่นั้น

“หัวหน้า ท่านคงรู้แล้วว่าทำไมเราถึงมาที่นี่ ดังนั้นข้าจะไม่พูดให้มากความอีก”

เสียงของอีกฝ่ายทั้งคมชัด สงบนิ่งและตรงไปตรงมา

หูหลินหันไปมองภูตร่างเล็กด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเสียงนั้นฟังดูเหมือนผู้หญิง

นางช่างเป็นคนที่กล้าหาญเสียจริง

“ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้ากำลังพูด ข้าไม่เคยพบพวกเจ้ามาก่อน แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่?” ชายร่างใหญ่แสร้งทำเป็นสุขุม

ถ้าเขาสามารถไล่ 2 คนนี้ออกไปได้ และบอกหมินหมิ่นหลังจากที่เขากลับไปว่าพวกเขาไม่ใช่คนในเผ่าของนาง จากนั้นเขาก็สามารถหาวิธีที่จะให้หูหมินอยู่ในเผ่าได้นานขึ้น

ส่วนหูเจียวเจียวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหัวหน้าเผ่าคนนี้กำลังแกล้งโง่

ไม่นานดวงตาที่เผยออกมาโค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพูดต่ออย่างใจเย็นว่า

“ในเมื่อหัวหน้าไม่ทราบ งั้นข้าจะบอกให้ท่านเข้าใจเอง”

“คนในเผ่าของข้าถูกจับมาที่เผ่าของท่าน ข้ามาที่นี่เพราะต้องการพาคนในเผ่าของข้ากลับไป”

ยามที่จิ้งจอกสาวเผชิญหน้ากับผู้นำสูงสุดของเผ่า เธอไม่แสดงอาการหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย

เสียงที่หญิงสาวเปล่งออกมาฟังดูทรงพลังและเด็ดขาดราวกับว่านางได้ตัดสินใจแล้ว

“ฮึ!”

หูหลินพ่นลมอย่างเย็นชาประหนึ่งว่าได้ยินเรื่องตลกขบขัน

“เผ่าของเจ้าอยู่ที่ไหน? ถ้าพวกเขาอยู่ในเผ่าของข้า นั่นแสดงว่าพวกเขาเป็นภูตเผ่าเล่ยเห ของเรา ถ้าเจ้าบอกว่าพวกเขาเป็นคนในเผ่าของเจ้า ข้าก็ต้องมอบคนพวกนั้นให้เจ้าเอากลับไปงั้นรึ งั้นทำไมเจ้าไม่บอกให้ข้ายกเผ่าให้เจ้าเลยล่ะ!!”

เมื่อผู้เป็นหัวหน้าเผ่าพูดดังนั้น ใบหน้าของหลงโม่ก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม เขาก้าวไปยืนเคียงข้างหูเจียวเจียวพร้อมกับจ้องมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเฉียบคม

ดวงตาสีทองคู่นั้นราวกับต้องการจะบอกว่า หากอีกฝ่ายไม่ส่งเชลยกลับคืนมาให้พวกเขาแต่โดยดี เขาก็จะใช้กำลังเพื่อพาคนในเผ่ากลับไป

ความจริงทั้งคู่ได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อมาถึงที่นี่ หากหัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามยืนกรานที่จะไม่ปล่อยเชลย พวกเขาจะต้องใช้ไม้แข็งเหมือนตอนอยู่ที่เผ่าหมาป่า

ทางด้านหูเจียวเจียวสัมผัสได้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของสามีหนุ่ม

เธอจึงวางมือไว้บนแขนของอีกคนเพื่อให้เขารู้สึกวางใจ

ก่อนที่หญิงสาวจะหันกลับไปมองหูหลินที่อยู่ตรงหน้าแล้วตอบตามตรง

“ก็ได้ ถ้าท่านต้องการ มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

“...” หูหลินที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายมาก!

เขาก็แค่พูดประชดไปเพียงเท่านั้น แต่นางก็ยังกล้าตอบตกลงแบบหน้าด้าน ๆ อีก!

“ฝันไปเถอะ!” ชายร่างใหญ่ตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะที่เขาจ้องมองหญิงสาวเขม็งเหมือนต้องการแผดเผานางด้วยสายตาวาวโรจน์ จากนั้นเขาโบกมือ หันหลังกลับอย่างฉุนเฉียวและทำท่าทางดูถูกเหยียดหยามแขก

“ที่นี่ไม่มีภูตที่พวกเจ้ากำลังตามหา ออกไปซะ แล้วอย่ามาโทษข้าที่ไม่ให้โอกาสพวกเจ้า เผ่าเล่ยเหอของข้าไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะเข้าออกได้ตามอำเภอใจ” หูหลินกำลังพูดขู่ให้ฝ่ายตรงข้ามยอมถอยออกไป

ชายวัยกลางคนรู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ภูต 2 คนนี้จะเป็นสมาชิกในเผ่าของหูหมิน

เพราะฉะนั้นเขาไม่ควรลงมือทำร้ายคนของนาง เขาจึงทำได้เพียงหาทางขับไล่พวกเขาออกไปจากเผ่า

ตอนนี้หมินหมิ่นแค่ปฏิเสธไม่ยอมอยู่ที่นี่ ถ้าเขาทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ มันจะเท่ากับว่าเขาผลักหมินหมิ่นให้ย้ายไปอยู่ฝั่งศัตรูด้วยน้ำมือตัวเองทันที

หูหลินไม่ใช่คนโง่และจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้ง 2

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ ความสดใสในดวงตาของเธอก็จางหายไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดนัยน์ตาสีเข้มก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

ครู่ต่อมา หญิงสาวเงยหน้าขึ้นพลางลดเสียงพูดลง

“หัวหน้า ท่านจะเก็บพวกเขาไว้ที่นี่ก็ได้ แต่ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเผ่าท่าน ท่านสามารถหาเสบียงมารองรับความต้องการของผู้หญิงมากมายขนาดนี้ได้หรือไม่?”

พอหูหลินได้ฟังข้อเท็จจริงข้างต้นก็ยืนตัวแข็งทื่อในทันใด

ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ จิ้งจอกสาวก็พูดต่อว่า

“เหยื่อตัวใหญ่ที่สุดที่อยู่ใกล้เผ่าของท่านคือไก่ฟ้า แล้วท่านจะพาพวกนางก้าวผ่านพ้นฤดูหนาวในครั้งนี้ไปได้หรือไม่?”

ถ้าไม่ใช่เพราะเผ่านี้ขาดแคลนอาหาร แล้วเหตุไฉนพวกเขาจึงยังพเนจรอยู่ในที่ห่างไกลท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ?

เห็นได้ชัดว่าเผ่าเล่ยเหอไม่มีอาหารเพียงพอที่จะอยู่รอดในช่วงเวลาฤดูหนาว

หลังจากหูหลินได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียว ดูเหมือนว่าเขาจะถูกจี้จุดตรงใจ สีหน้าของเขาจึงดูไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเคย

“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้าที่จะเข้ามาแทรกแซงเรื่องในเผ่าของเรา”

บัดนี้ใบหน้าของคนเป็นหัวหน้ามืดลง และเขาก็พูดขัดจังหวะหญิงสาวอย่างไม่พอใจ

ในขณะที่จิ้งจอกสาวทำเพียงแค่ยิ้มจาง ๆ พลางมองอีกฝ่ายนิ่ง ไม่นานเธอก็พูดแบบไม่เร่งรีบเพื่อให้ถ้อยคำทั้งหลายค่อย ๆ ซึมลึกเข้าไปในโสตประสาทของเขาเหมือนตอกตะปู

“หัวหน้า ข้าได้ตรวจสอบแล้วตอนที่ข้ามาที่นี่ แหล่งอาหารใกล้ ๆ เผ่าของท่านแย่มาก ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ต้องเร่ร่อนออกหาอาหารไปทั่วแบบนี้”

“พวกข้าเดินตามรอยของทุกคนมาจนถึงที่นี่ ข้าแค่ต้องการตัวคนของข้ากลับไปยังเผ่าเท่านั้น พวกเราไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน ทั้งพ่อแม่และพี่ชายของข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย หากท่านปล่อยพวกเขาออกมา ข้ามีวิธีที่จะทำให้ท่านมีเสบียงมากมายเก็บไว้กินไว้ใช้”

หูเจียวเจียวอธิบายเสียงเรียบ ในขณะที่ดวงตาเรียวสวยจับจ้องปฏิกิริยาของหูหลินนิ่ง

ณ ตอนนี้หัวหน้าของอีกฝ่ายมีท่าทีขึงขัง ถึงแม้ว่าเขาอาจจะเป็นคนที่พูดแล้วไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่ แต่จิ้งจอกสาวมองออกว่าเขาเป็นหัวหน้าที่ห่วงใยผู้คนในเผ่าของตน มิฉะนั้นเขาจะไม่นิ่งเงียบไปแบบนี้

จากนั้นสีหน้าของหูหลินก็จริงจังมากขึ้น

ต่อมา เขาจ้องผู้หญิงร่างเล็กด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ทางด้านหูเจียวเจียวไม่รีบร้อน เธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ โดยปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีเวลาตัดสินใจ

ส่วนหลงโม่ยืนอยู่ข้างเธอราวกับองครักษ์ที่คอยปกป้ององค์หญิง

ดวงตาสีทองคู่นั้นจ้องมองหูหลินอย่างดุดัน หากอีกฝ่ายเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว เขาจะพาเจียวเจียวออกไปทันที

ขณะนี้ในบ้านไม้มีแต่ความเงียบและบรรยากาศก็หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน หูหลินก็ถามขึ้นมาว่า

“งั้นเจ้าก็ลองพูดมาสิว่าเจ้ามีวิธียังไง?”

ความจริงเขาอยากจะขับไล่ 2 คนนี้ออกไปจากเผ่ามาก ทว่าเขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่หญิงสาวพูดได้

ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงภูตชายธรรมดา ๆ แต่เขายังเป็นถึงหัวหน้าของเผ่าเล่ยเหอ

“ข้ายังบอกท่านไม่ได้” หูเจียวเจียวเลิกคิ้วพร้อมกับดวงตาสวยที่โค้งขึ้นอีกครั้ง

“นี่เป็นข้อตกลง ข้าสามารถบอกท่านได้ก็ต่อเมื่อท่านปล่อยคนในเผ่าของข้าออกมา” จิ้งจอกสาวพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ

“แม่นาง เจ้าเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์จริง ๆ” หูหลินบ่นอย่างไม่พอใจ ตั้งแต่เขามีชีวิตอยู่จนอายุปูนนี้ นอกจากหูเฉียงแล้ว เขาไม่เคยเกลียดภูตคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ 2!

“ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาเปล่า ๆ หรอก คนเราต่างก็ทำเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการกันทั้งนั้น” หูเจียวเจียวยิ้มอย่างเฉยเมย

เนื่องจากเธอไม่ได้ขโมย ปล้นชิงทรัพย์หรือทำอะไรที่ไร้สำนึก ดังนั้นเธอย่อมไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่แล้ว

ทางด้านหูหลินใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วในที่สุดเขาก็ตอบกลับว่า “ตกลง ข้ารับปาก”

----------------------------------------------

ประกาศสำหรับแฟน ๆ แม่จิ้งจอก~

ในที่สุด E-Book เล่ม 6 ก็ปล่อยแล้วจ้า! ใครที่รออีบุ๊กอยู่สามารถตามไปซื้อกันได้ที่ลิงก์ข้างใต้เลย~

MEB: https://bit.ly/3NZ3Qca

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด