ตอนที่แล้วบทที่ 320: ท้องของเสี่ยวเหยาคิดถึงพวกมันมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 322: ความเห็นแก่ตัวของหูหลิน

บทที่ 321: พี่สามชอบกินไก่ฟ้ามากที่สุด


“จริงหรือ เสี่ยวเหยาจะได้กินเนื้อใช่ไหม!?”

บัดนี้ดวงตาของหลงเหยาพลันสว่างขึ้นทันที ในขณะที่เขามองหน้าแม่จิ้งจอกด้วยความคาดหวัง

“แน่นอน แม่จะโกหกเจ้าไปทำไม?” หูเจียวเจียวพยักหน้ารับอย่างขบขัน

เจ้าตัวเล็กเอียงหัวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้ท่านแม่มารับเขาแล้ว เพราะฉะนั้นนางจะไม่โกหกเขาแน่นอน

ไม่นานเขาก็พยักหน้ายืนยันว่า “ท่านแม่จะไม่โกหกเสี่ยวเหยา! ใช่แล้ว ท่านแม่จะทำของอร่อย ๆ ให้เสี่ยวเหยากิน~”

ขณะนี้เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา ประกอบกับมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเพราะความสุขที่เอ่อล้น ซึ่งมันทำให้หลงจงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดูหดหู่ไปชั่วขณะ

ความจริงแล้วเขาเองก็อยากกินอาหารฝีมือของแม่เช่นกัน…

ราวกับว่าหูเจียวเจียวได้ยินเสียงในใจของลูกชายคนที่ 3 เธอหันศีรษะไปมองเขาอย่างอ่อนโยนและถามด้วยรอยยิ้มว่า

“แล้วจงเอ๋อไม่อยากกินหรือ?”

ตามปกติแล้วเด็กที่น่ารักอย่างเสี่ยวเหยามักจะเป็นที่รักของทุกคน แต่หลงจงไม่คิดว่าผู้เป็นแม่จะสนใจตนเหมือนกัน นั่นทำให้ความประหลาดใจในดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นความสุขในทันใดพร้อมกับที่เขาพยักหน้ารับ

“ข้าก็อยากกินเหมือนกัน!”

จิ้งจอกสาวที่ได้ยินเช่นนั้นเอื้อมมือไปลูบหัวลูกทั้ง 2 อย่างรักใคร่ ถ้าเป็นในยามปกติเธอจะสามารถนำส่วนผสมในการทำอาหารออกมาจากมิติได้แบบไม่มีใครสงสัยเพราะมันมีขนาดเล็กและเธอสามารถหาข้ออ้างมาอธิบายแก่เด็กพวกนี้ได้ แต่ปัญหาหลักก็คือ…

ไม่นานดวงตา 3 คู่ก็จับจ้องไปที่หลงโม่ เมื่อพ่อมังกรสัมผัสได้ถึงสายตาของทั้ง 3 คน เขาจึงลุกขึ้นยืนอย่างช่วยไม่ได้และเดินออกจากถ้ำไปโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ

“ข้าจะไปดูใกล้ ๆ ว่ามีเหยื่ออยู่ไหม”

ส่วนหูชิงซานและคนอื่น ๆ กินเสบียงที่พวกเขานำมากันระหว่างการเดินทางที่ยาวนาน และปัจจุบันพวกเขายังต้องแจกจ่ายเสบียงให้กับภูตอีก 100 คนที่มาใหม่ ส่งผลให้ตอนนี้ทุกคนแทบจะไม่เหลือเสบียงอยู่แล้ว

แม้ว่าหูเจียวเจียวจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะออกไปล่าเหยื่อมาเก็บไว้ทำอาหาร

“ท่านพ่อเก่งที่สุด ท่านพ่อสู้ ๆ~” หลงเหยารู้ว่าตัวเองจะมีของอร่อยกินแล้วจึงยิ้มหน้าบานพลางตะโกนตามหลังคนเป็นพ่อไปเหมือนเด็กรู้ความ หลังจากพูดจบเขาก็หันไปหาแม่พร้อมกับยิ้มกว้างมากขึ้น

“ท่านแม่ก็เก่งมาก แต่ท่านเก่งกว่าท่านพ่อนิดหน่อย”

หูเจียวเจียวยกมือขึ้นปิดปากตัวเองด้วยความตกตะลึง เจ้าเด็กน้อยคนนี้ฉลาดจริง ๆ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายพึงพอใจ เขาจะต้องปฏิบัติกับทั้งคู่ให้เท่าเทียมกัน

คำพูดประจบประแจงของน้องชายทำให้มุมปากของหลงจงกระตุก ในเรื่องความหน้าหนา ถ้าเสี่ยวเหยาเป็นที่ 2 ก็คงไม่มีใครกล้าขึ้นไปเป็นที่ 1…

ขณะที่หลงโม่ออกไปล่าสัตว์ หูเจียวเจียวก็ใช้ผ้าเปียกหมาด ๆ มาเช็ดหน้าและผมของเด็กทั้ง 2

ช่วงเวลาที่ผ่านมา หู่จิงคอยช่วยดูแลลูกของจิ้งจอกสาวตลอดทาง แม้ว่าหลงจงและหลงเหยาจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่เนื้อตัวมอมแมม แต่ผมของทั้งคู่ก็ยาวขี้น และเนื่องจากพวกเขาไม่ได้หวีผมเป็นเวลานานจึงทำให้ผมพันกันเป็นปม

หลังจากนั้นหูเจียวเจียวก็ตัดผมให้ลูกชาย 2 คนอีกครั้ง ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้แห้ง และในที่สุดพวกเขาก็ดูสะอาดขึ้นมาก

ในขณะเดียวกัน หลงโม่นำภูตหลาย 10 คนออกไปล่าด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ภูตกลุ่มนั้นก็กลับมาพร้อมกับเหยื่อจำนวนมาก

ภาพที่ปรากฏทำให้ภูตในค่ายพักแรมตื่นเต้นยามได้เห็นเหยื่อพาดอยู่บนไหล่ของพวกเขา

ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา หลายคนไม่กล้ากินอาหารแบบสุ่มสี่สุ่มห้า พอแต่ละคนรู้สึกอิ่มท้องแล้ว พวกเขาก็จะหยุดกินทันทีเพราะเสบียงอาหารที่เอาติดตัวมามีจำนวนจำกัดและมันอาจจะส่งผลให้การเดินทางครั้งนี้ล่าช้ายิ่งขึ้นหากพวกเขาไม่มีอาหารกิน

นอกจากนี้ เหล่าภูตไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะหาฟืนมาก่อไฟด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเขากินก็คือเนื้อรมควันแข็งกระด้างเพื่อประทังชีวิตตัวเองไปวัน ๆ

ถ้าต้องการให้รสชาติของอาหารดีขึ้น พวกเขาจะบดดอกเกลือแล้วเอาเนื้อจิ้มเกลือ ซึ่งเพียงแค่นั้นมันก็ถือได้ว่าเป็น ‘อาหารอันโอชะ’ ในสายตาของภูตแล้ว

ยามนี้พอทุกคนเห็นเหยื่อสด ๆ และได้กลิ่นคาวเลือด พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงรสหอมหวานที่ชวนน้ำลายสอ

เมื่อหูเจียวเจียวเดินออกมาพร้อมกับลูก เธอก็เห็นกลุ่มภูตมารวมตัวพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

พอเธอเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าหลงโม่กลับมาแล้ว

ต่อมา หญิงสาวเหลือบมองสัตว์ป่าหลาย 10 ตัวนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น โดยที่พวกมันมีทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก ซึ่งสัตว์ตัวใหญ่ประกอบไปด้วยวัวและแกะ ส่วนตัวเล็ก ๆ มีสัตว์จำพวกไก่ฟ้าและกระรอก ดูเหมือนว่ากลุ่มภูตที่ออกไปล่าสัตว์จะไม่ปล่อยเหยื่อที่ผ่านเข้ามาในสายตาให้หลุดรอดไปเลยแม้แต่ตัวเดียว

“เจียวเจียว” ขณะนั้นมังกรหนุ่มเห็นภรรยาสาวที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างรวดเร็ว เขาจึงก้าวเข้าไปยืนอยู่เคียงข้างนางก่อนจะใช้มือประคองเอวนางไว้

ฉากนี้ทำให้ภูตคนอื่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาขยับตัวออกไปทันที

แน่นอนว่าแม้ไม่มีหลงโม่ พวกเขาก็ไม่กล้ายืนเบียดหูเจียวเจียว…

“หลงโม่ เจ้าเก่งมาก ในเวลาแบบนี้เจ้าก็ยังสามารถจับเหยื่อได้มากมาย” จิ้งจอกสาวเอ่ยปากชมคนรักทันที

แล้วภูตชายที่อยู่รายรอบต่างก็พากันอิจฉาริษยา

เพราะแม้ในฤดูเก็บเกี่ยวพวกเขาก็จับเหยื่อได้ไม่มากเท่านี้

“ถ้าเจ้าอยากกินอีก ข้าจะไปจับมาเพิ่มให้เจ้าเอง” หลงโม่เปลี่ยนจากท่าทีเฉยเมยเมื่อกี้มามองภรรยาสาวด้วยสายตาที่อ่อนโยน

“ขอบคุณนะ” หูเจียวเจียวหลุบตาและพิงไหล่กว้างของเขาอย่างเขินอาย

“เจียวเจียว เจ้าคงไม่รู้ว่าเหยื่อตัวใหญ่พวกนี้หลงโม่กับอิงหยวนเป็นคนจับมาเองกับมือ ส่วนพวกเหยื่อตัวเล็ก ๆ พวกหูชิงหยวนเป็นคนจับได้” หู่จิงที่เพิ่งเดินมาถึงบอกจิ้งจอกสาวอย่างละเอียด

เมื่อหูชิงหยวนได้ยินเช่นนี้ก็ทำหน้าไม่พอใจ เขาเม้มริมฝีปากพูดว่า

“เจ้าหมายความว่ายังไงที่บอกว่าตัวเล็ก ๆ? ข้าจับไก่ฟ้าตัวนี้มาได้เลยนะ! เจ้าไม่รู้หรอกว่าการหาเหยื่อข้างนอกนั้นยากแค่ไหน และคนอื่น ๆ ก็จับได้เฉพาะสัตว์ตัวเล็กเท่านั้น แถมไก่ฟ้าพวกนี้เป็นสัตว์หายากจะตาย...”

เนื่องจากสถานที่นี้อยู่ใกล้กับเผ่าเล่ยเหอ และเหยื่อที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกภูตของเผ่าเล่ยเหอล่ามานานแล้ว นับว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่พวกเขาสามารถล่าหนูมาได้

ไม่ว่าเหยื่อจะตัวเล็กแค่ไหน มันก็ยังเป็นเนื้อชิ้นหนึ่งอยู่ดี!

“ใช่ เจ้าจับไก่ฟ้ามาได้ เจ้าเก่งมาก” หู่จิงหัวเราะพลางลูบหัวสามีราวกับกำลังเกลี้ยกล่อมสุนัขตัวใหญ่

ทว่าจิ้งจอกหนุ่มยังคงไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรและพึมพำเสียงเบา

“เจ้าคิดว่าข้าจับเหยื่อตัวใหญ่ไม่ได้สินะ ถ้าข้ากางปีกบินได้จริง ๆ ข้าคงบินไปจับเหยื่อตัวใหญ่จากที่ไกล ๆ เหมือน 2 คนนั้นแล้ว…”

ทางด้านหูเจียวเจียวไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะก่อนดี เธอจึงหันไปพูดเปลี่ยนเรื่องกับหูชิงหยวนแทน

“พี่สี่ พวกเราเห็นหมดแล้วตอนมาที่นี่ แถวนี้ไม่มีเหยื่อจริง ๆ ยังดีที่ท่านจับไก่ฟ้าได้”

“ลุงสี่ เนื้อไก่ฟ้าก็อร่อยด้วย! พี่สามของเสี่ยวเหยาชอบกินไก่ฟ้า!” หลงเหยายืนเขย่งเท้าพูดอย่างจริงจัง

หูชิงหยวนที่ได้ยินเช่นนี้มองไปที่หลงจงด้วยความสงสัย

“จริงหรือ?”

จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็รีบดึงข้อมือของพี่ชายเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้เขา

ส่วนหลงจงไม่คาดคิดว่าหลงเหยาจะจำสิ่งที่ตนชอบกินได้ จึงส่งผลให้เขารู้สึกอุ่นวาบไปทั่วใบหน้าที่แสร้งทำเป็นนิ่งเฉย และไม่นานเขาก็พยักหน้ารับ

เมื่อหูชิงหยวนเห็นว่าเด็กทั้ง 2 ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เขาเลยอารมณ์ดีขึ้นมาก ก่อนที่เขาจะยิ้มและโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของหู่จิง

“หู่จิง เจ้าชอบกินอะไร? ในอนาคตข้าจะจับมันมาให้เจ้า”

“ขอแค่เจ้าเป็นคนจับเหยื่อพวกนั้นมาด้วยตัวเองข้าก็ชอบหมดแหละ” เสือสาวกอดแขนของสามีด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แล้วก็พูดเกี้ยวพาราสีอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย

พอทุกคนเห็นว่าทั้งคู่แสดงความรักต่อกันแบบไม่อายใคร พวกเขาก็เดินแยกย้ายกันไปด้วยความหมั่นไส้

2 คนนี้คงเห็นว่าคนอื่นไม่มีคู่เลยจงใจมาพลอดรักกันต่อหน้าพวกชายฉกรรจ์โดยจงใจให้พวกเขารู้สึกอิจฉา!

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวยิ้มพลางดึงหลงโม่ไปจัดการกับเหยื่ออีกทาง

ขณะที่หูชิงซานคัดเลือกภูตที่ว่องไวมาช่วยฆ่าเหยื่อ แล้วแบ่งคนบางส่วนไปหาฟืนรวมถึงขัดหินทำอุปกรณ์ครัว

เหยื่อทั้งหมดนี้รวมกันได้หลายพันกิโลกรัม ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นจำนวนมากมายมหาศาล อีกทั้งทุกคนยังมีภารกิจที่ต้องไปทำตั้งมากมาย แต่ก็โชคดีที่พวกเขามีคนให้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง กลุ่มภูตก็จัดการทุกสิ่งจนเรียบร้อย

ไม่นานภูตที่รับหน้าที่ขัดหินก็ทำหม้อหินขนาดใหญ่ขึ้นมา 2-3 ใบ จิ้งจอกสาวจึงใช้กระดูกที่ถูกแล่เนื้อออกไปหมดแล้วมาต้มทำน้ำแกง ในระหว่างที่ไม่มีใครทันได้สังเกต เธอได้หยิบส่วนผสมบางอย่างออกมาจากมิติเพื่อให้มันช่วยขจัดกลิ่นคาวรวมถึงเพิ่มรสชาติของน้ำแกง

หลังจากนั้นกลิ่นหอม ๆ ก็ลอยอบอวลไปทั่วค่ายพักแรม ทำให้ภูตทั้งหลายท้องร้องกันระงม

ประกอบกับลมหนาวที่พัดลงมาจากภูเขาได้พัดพากลิ่นหอมเย้ายวนไปทางเผ่าเล่ยเหอ…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด