ตอนที่แล้วบทที่ 319: เขาไม่สามารถเป็นพ่อคนได้อีกแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 321: พี่สามชอบกินไก่ฟ้ามากที่สุด

บทที่ 320: ท้องของเสี่ยวเหยาคิดถึงพวกมันมาก


ปัจจุบันสีหน้าของอิงหยวนดูบูดบึ้งน่าเกลียดมาก และเขาทำเป็นไม่สนใจหูชิงหยวน

แต่จิ้งจอกหนุ่มก็ไม่ยอมหยุดแค่นั้น เพราะในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้หัวเราะเยาะอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยโอกาสดีแบบนี้ไปง่าย ๆ

“อิงหยวน ทำไมเจ้าถึงทำหน้าเหมือนคนท้องผูกแบบนั้น หรือเป็นเพราะว่าเจ้าไปทำให้หัวหน้าของเผ่าอื่นไม่พอใจ เขาเลยส่งคนมาดักทำร้ายเจ้า”

“หุบปาก!!” อินทรีหนุ่มทำหน้าไม่พอใจแล้วเหลือบตามองหลงโม่ที่เดินตามหลังตนมา

ความจริงมันก็สมควรแล้วที่เขาจะโดนแบบนี้เพราะไปทำให้คนอื่นโกรธ

แต่เขาก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอีก

นอกจากนี้อิงหยวนไม่รู้ว่าหลงโม่ไปกินอะไรมา ช่วงนี้อีกฝ่ายถึงได้แข็งแกร่งจนสามารถจัดการเขาได้อยู่หมัด ถ้าหากเขามีร่างกายแข็งแรงดีไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็อาจจะพอโต้กลับได้บ้าง

เมื่อหูชิงหยวนเห็นว่าคนเจ้าอารมณ์โกรธฮึดฮัด เป้าหมายของเขาก็สำเร็จ ก่อนที่เขาจะส่ายหัวพลางคิดสมน้ำหน้าอีกฝ่ายในใจ

แม้ว่าหูชิงซานกับหู่จิงที่อยู่ด้านข้างจะไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าของพวกเขาดูเหมือนจะบอกจิ้งจอกหนุ่มว่า: พูดได้ดี!

“เกิดอะไรขึ้นหรือหลงโม่ ทำไมเขาถึงมีสภาพแบบนี้?” หูเจียวเจียวมองสามีหนุ่มที่กำลังเดินมาหาตน ขณะที่เธอก้าวไปจับมือเขาพร้อมกับถามอย่างสงสัย

พวกเขาพูดคุยกันอีท่าไหนถึงทำให้ใบหน้าของอิงหยวนมีแต่บาดแผล?

“ไม่มีอะไร แค่ท่านผู้เฒ่าฝากทักทายเขา 2-3 คำ” มังกรหนุ่มทำสีหน้าไม่แยแสเหมือนเคย

เขาไม่ได้พูด แต่ลงมือทำเลยต่างหาก

จากนั้นชายหนุ่มก้มลงมองภรรยาสาวในขณะที่ดวงตาสีทองแต่งแต้มไปด้วยความอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกุมมือบอบบางเอาไว้เพื่อส่งต่อความอบอุ่นไปให้นาง

ซึ่งการแสดงออกของทั้งคู่ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นและน่ารัก

แล้วฉากนี้ค่อนข้างตื่นตาสำหรับอิงหยวนเลยทีเดียว

ปัจจุบันคู่ของเขายังคงถูกคุมขังอยู่ในเผ่าอื่น นอกจากเขาจะถูกซ้อมไปชุดใหญ่แล้ว เขายังต้องมาทนดู 2 คนนี้พลอดรักกันต่อหน้าอีก

“จริงหรือ?”

หูเจียวเจียวขมวดคิ้วราวกับว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่หลงโม่พูด

ถัดมา หญิงสาวเลื่อนสายตามองไปที่บาดแผลบนใบหน้าของอิงหยวน แล้วพบว่ามีคราบเลือดหลายจุดบนแก้ม, มุมปาก, จมูกและหน้าผากของเขา แต่เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น เลือดจึงแข็งตัวจับเป็นก้อน

อีกทั้งดั้งจมูกของชายหนุ่มก็เบี้ยวเหมือนโดนกำปั้นชกใส่เต็มแรง

2 คนนี้ทะเลาะกันหรือเปล่า?

“จริงสิ” หลงโม่พยักหน้ายืนยันก่อนจะปรายตามองอิงหยวน

สายตาคมดุคู่นั้นทำให้เปลือกตาของอินทรีหนุ่มกระตุก ในขณะที่เขานึกถึงคำขู่ของอีกฝ่าย ในไม่ช้าเขาก็เค้นคำพูดลอดไรฟันออกมา “ใช่ แผลพวกนี้ข้าหกล้มเอง”

“...” จิ้งจอกสาวที่ได้ยินเช่นนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

นี่พวกเขาคิดว่าฉันตาบอดหรือไง?

เธอมองคนรักของตนอย่างช่วยไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ แต่ว่าเขาทำได้ดีมาก!

เมื่อหญิงสาวเห็นว่าสามีหนุ่มดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไม่ถามอะไรอีก

ตราบใดที่หลงโม่ไม่เป็นไร เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปคาดคั้นเอาคำตอบแล้ว

ในเวลาเดียวกัน หลงจงสะกิดเรียกหลงเหยาอย่างอารมณ์ดีและพูดว่า “เสี่ยวเหยา ดูเขาสิ หน้าตาน่าเกลียดมาก เจ้าอารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือยัง?”

ตอนนี้เจ้าตัวเล็กหยุดร้องไห้นานแล้ว แต่ดวงตาของเขายังคงเป็นสีแดงก่ำ เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่มีแต่รอยฟกช้ำของอิงหยวน ในทันใดนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจ

ต่อมา เด็กชายเอามือปิดตาโดยถ่างนิ้วลอบมองภาพตรงหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“มันน่าเกลียดมาก... เสี่ยวเหยาจะไม่โกรธคนหน้าตาอัปลักษณ์”

“...” อิงหยวนอึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

วันนี้ชายหนุ่มโดนมาเยอะมาก คืนนี้เขาจะต้องนอนระบมทั้งคืนแน่นอน

ปัจจุบันหูชิงซานนำภูตทั้งหมดมา 50 คน เมื่อรวมเข้ากับภูตที่หลงโม่และหูเจียวเจียวพามาด้วยอีก 100 คน ทำให้ตอนนี้พวกเขามีคนทั้งหมด 150 คน

แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสต่อสู้ชนะเผ่าเล่ยเหอด้วยจำนวนที่มีเพียงเท่านี้ แต่ทุกคนก็มีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม จากนั้นหลายคนก็ช่วยกันนำเสบียงไปแจกจ่ายให้กับเหล่าคนที่มาสมทบทีหลัง

หลังจากที่หูเจียวเจียวกับหลงโม่หารือกับพวกหูชิงซานเสร็จ ทั้งคู่ที่เดินทางมาที่นี่โดยแทบไม่หยุดพักก็เข้าไปพักผ่อนในค่ายชั่วคราวพร้อมกับคนอื่น

แต่เนื่องจากความจุของถ้ำที่พวกเขาตั้งค่ายพักแรมนั้นมีจำกัด บางคนจึงต้องพักผ่อนอยู่ข้างนอกแล้วสงวนถ้ำไว้ให้ผู้หญิงและเด็กใช้

ส่วนหลงจงกับหลงเหยากลายเป็นเหมือนหางเล็ก ๆ ที่คอยติดสอยห้อยตามแม่จิ้งจอกไปทุกที่ไม่ยอมห่างนับตั้งแต่ที่ทั้ง 3 คนได้พบกันเพราะเด็กน้อยกลัวว่าท่านแม่ของตนจะหายไปอย่างกะทันหัน แล้วพอตื่นขึ้นพวกเขาจะพบว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน

ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อมังกรคอยยืนเป็นเงาอยู่ข้างกายเธอ ทั้ง 2 คนคงจะแปลงร่างเป็นหมัดเกาะแกะเธอไม่ปล่อย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หูเจียวเจียวกับหลงโม่ใช้เวลากว่า 10 วันในการค้นหาสถานที่นี้

แถมในค่ายพักแรมก็ไม่มีที่ให้อาบน้ำ ดังนั้นหญิงสาวจึงเข้าไปในถ้ำเล็ก ๆ ที่แยกออกไปอีกที่หนึ่ง แล้วใช้น้ำร้อนเช็ดเนื้อเช็ดตัว ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดด้านในที่สะอาดในมิติ ขณะที่เธอหยิบเสื้อผ้าตัวเดิมมาสวมทับข้างนอก

จิ้งจอกสาวอดคิดไม่ได้ว่าพวกผู้ชายคงจะไม่ประสบปัญหาแบบเดียวกับตนเอง

เพราะระหว่างที่เดินทางพวกเขามักจะอยู่ในร่างสัตว์และถอดเสื้อผ้ามามัดติดตัวไปด้วย

นอกจากนี้ภูตชายยังสะดวกสบายตรงที่ก่อนจะสวมเสื้อผ้าหนังสัตว์ พวกเขาจะกลิ้งตัวไปบนหิมะเพื่อทำความสะอาดร่างกายตัวเองในร่างสัตว์

นั่นทำให้หูเจียวเจียวอิจฉา ‘ทักษะ’ นี้มาก นอกจากตอนที่เธอเปลี่ยนมือเป็นกรงเล็บเพื่อจัดการกับลู่มู่แล้ว เธอก็ไม่เคยเข้าใจวิธีการแปลงร่างเป็นสัตว์เลย

แล้วอีกเหตุผลหนึ่งคือ การที่เธอจะไปไถ่ถามคนอื่นว่าจะต้องแปลงร่างอย่างไร มันก็คงฟังดูแปลก ๆ สำหรับภูต เพราะถ้าพวกเขารู้ว่าคนที่โตเต็มวัยเช่นเธอยังแปลงร่างไม่ได้นั้นคงจะน่าขายหน้ามาก

หลังจากจิ้งจอกสาวอาบน้ำเสร็จแล้ว เธอก็กลับไปที่ถ้ำและเห็นหลงเหยากำลังกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น

“เป็นอะไรไปเหยาเอ๋อ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” ผู้เป็นแม่รีบเข้าไปถามโดยคิดว่าอีกคนปวดท้อง

“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาปวดท้อง…” เจ้าตัวเล็กหยุดกลิ้งเมื่อเขาได้ยินเสียงเธอ และมองไปที่แม่จิ้งจอกด้วยดวงตาเปียกชื้น

น้ำเสียงแหลมเล็กฟังคล้ายกับคนที่กำลังเศร้าใจ มันเลยส่งผลให้หัวใจของหูเจียวเจียวปวดร้าว

“ทำไมเจ้าถึงปวดท้อง เจ้ากินอะไรไม่ดีเข้าไปหรือไม่?” เธอถามพลางวางมือบนท้องของหลงเหยา และกำลังจะช่วยเขาตรวจดู

ขณะนั้นหลงจงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คว่ำริมฝีปากพร้อมแสดงสีหน้ารังเกียจเจ้าเด็กอ้วน

“เสี่ยวเหยาไม่ได้กินอาหารเสีย เขาแค่อยากกินอาหารที่ท่านแม่ทำ แต่ท่านพ่อไม่ให้เขาไปหาท่านแม่ เขาก็เลยมานอนกลิ้งอยู่ตรงนี้”

เหตุผลที่ 2 ที่หลงเหยามีความสุขที่ได้เจอหูเจียวเจียวก็คือเขาจะได้กินอาหารอร่อย ๆ

จากนั้นหญิงสาวเหลือบตาไปเห็นหลงโม่กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็ก เธอรู้ว่าในใจเขาเป็นห่วงลูกมาก ถ้าหลงเหยาเจ็บปวดจริง เขาคงจะมีสีหน้าเคร่งเครียดไปนานแล้วและไม่มานั่งสงบอยู่แบบนี้

“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาไม่ได้กินของอร่อย ๆ มานานแล้ว ท้องของเสี่ยวเหยาคิดถึงพวกมันมาก”

เจ้าตัวเล็กพูดจบแล้วก็แลบลิ้นออกมา ก่อนจะดึงข้อมือของผู้เป็นแม่ด้วยมือเล็ก ๆ ขณะที่ดวงตาสีทับทิมเต็มไปด้วยการอ้อนวอนและโหยหา “เสี่ยวเหยาอยากกินปลาย่างอร่อย ๆ เนื้อย่าง ขาแกะย่าง แผล่บ...”

เขาพูดพลางเลียริมฝีปากสีชมพูประหนึ่งว่าเขากำลังลิ้มรสอาหารอร่อย ตอนนี้สภาพของเด็กน้อยไม่ต่างจากลูกแมวกำลังขออาหาร หน้าตาของเขาดูน่าสงสารมาก ซึ่งหลงจงเองก็ยังเผลอรู้สึกหิวในระหว่างที่น้องชายพูดถึงอาหารต่าง ๆ

และเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่

เอื๊อก!

เจ้าเด็กบ้านี่ทำให้ข้าหิวจนได้!

แต่เด็กชายเมื่อนึกถึงความยากลำบากของท่านแม่ที่ต้องพบเจอระหว่างเดินทาง เขาก็แสร้งทำเป็นสงบและบ่นหลงเหยาว่า

“เจ้านี่มันรู้จักแต่กินจริง ๆ ท่านแม่เหนื่อยมามากแล้ว ถ้าจะให้ท่านแม่มาทำกับข้าวให้เจ้าอีก ท่านจะไม่หมดแรงไปก่อนหรือไง?”

เมื่อคนตัวเล็กได้ยินเช่นนี้ เขาก็ค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากแม่จิ้งจอก

เขาไม่อยากให้ท่านแม่หมดแรง...

ท่านแม่สำคัญกว่าอาหาร!

ทางด้านหูเจียวเจียวยิ้มพลางเอื้อมมือไปจับมือของลูกชายคนเล็ก “ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าอยากกินก็บอกแม่มา แล้วแม่จะทำให้กิน แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องปรุง แม่คงทำได้แค่อาหารง่าย ๆ นะ”

ปัจจุบันหลงเหยาดูผอมลงไปมากเมื่อเทียบกับตอนที่เขาอยู่ในเผ่า แค่เธอมองดูมันก็ทำให้ใจของเธอกระตุกวูบ พวกเธอเพิ่งแยกจากกันได้เพียงเดือนเดียว ทว่าทุกคนผอมแห้งลงมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้หลงจงจะไม่ได้มีรูปร่างอ้วนท้วนมากนัก แต่ตอนนี้เขาซูบผอมลงจนเหลือเพียงเนื้อบาง ๆ ติดกระดูก

เห็นได้ชัดว่าระหว่างทางเด็ก ๆ จะต้องทุกข์ทรมานมากเพียงใด เธอที่เป็นแม่คนรู้สึกว่าตัวเองยอมเหนื่อยดีกว่าปล่อยให้ลูก ๆ ต้องทนหิวทนหนาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด