บทที่ 313: อิงหยวนถูกไล่ออกจากเผ่า
หูหลินจำได้ว่าก่อนกลับมายังเผ่า สาวน้อยบอกเขาว่าตนพัดหลงกับครอบครัว แต่นางก็ยอมติดตามเขามาตลอดทาง เป็นไปได้ไหมว่าครอบครัวของนางบังเอิญผ่านมาทางนี้?
หรือว่าเจ้าหนุ่มจองหองตรงหน้าเขาคือ 1 ในสมาชิกของเผ่าที่นางกำลังตามหาอยู่?
สำหรับพวกภูตหญิงที่สู่ต้าพูดถึง เขาไม่ได้สนใจพวกนางเลยเนื่องจากอีกฝ่ายถูกนำกลับมาจากที่อื่น ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่ไอ้หมอนี่จะติดตามเขามาจนถึงที่นี่!
เมื่ออิงหยวนเห็นว่าหัวหน้าเผ่าไม่พูดอะไร เขาก็รู้ว่าอีกคนคงไม่เต็มใจปล่อยผู้หญิงและเด็กออกมาง่าย ๆ
ยามนี้อินทรีหนุ่มทำหน้าเคร่งขรึม และน้ำเสียงแข็งกระด้างของเขาฟังดูไม่เหมือนกำลังมาเจรจาแต่เป็นการมาหาเรื่องมากกว่า
“ขอแค่เจ้าส่งตัวพวกผู้หญิงมาให้ข้า เผ่าของเรายินดีที่จะแลกเปลี่ยนวิธีการปลูกผลไม้ดินกับเจ้า—”
“พอ!”
หูหลินพูดขัดจังหวะชายหนุ่มอย่างหมดความอดทน
“เจ้าต้องการตัวพวกผู้หญิงใช่ไหม?”
“ใช่” ทางด้านอิงหยวนคิดว่าชายตรงหน้าตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เขาจึงผงกหัวรับ แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนสีหน้าและโบกมือด้วยความโกรธ
“ใครก็ได้มานี่หน่อย! มาเอาตัวมันออกไปจากเผ่าซะ มันมาทำร้ายคนของข้าแล้วยังหน้าด้านมาขอผู้หญิงจากข้าอีก ช่างไร้ยางอายเสียจริง!”
ท้ายที่สุดเขาก็ได้พบกับเด็กหญิงที่ต้องตาแล้วแท้ ๆ
ในเมื่อเขาเป็นคนพาตัวนางกลับมา นางก็ถือว่าเป็นคนของเขาแล้ว ทำไมใครหน้าไหนก็คิดอยากจะมาแย่งนางไปจากเขากัน?
ถึงแม้ว่าเทพอสูรจะเป็นคนมาเอง เขาก็ไม่มีทางยกสาวน้อยให้เด็ดขาด!
“เจ้าจับคนในเผ่าของข้ามา ข้ายอมพูดดี ๆ กับเจ้าแล้ว อย่ามาทำเป็นไขสือ!”
สีหน้าของอิงหยวนถมึงทึงยิ่งขึ้น
ไอ้หัวหน้าของเผ่านี้หยิ่งผยองมาก!
เขาอุตส่าห์แสดงความจริงใจไปแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับโยนมันทิ้งแบบไม่ไยดี นี่มันกลั่นแกล้งกันชัด ๆ!
“ไอ้ตัวเหม็น บังอาจนัก!” บัดนี้หูหลินโกรธจัดจนหนวดเคราสั่นตามแรงอารมณ์ขณะที่เขาจ้องฝ่ายตรงข้ามเขม็ง
ทันทีที่เขาพูดจบ ภูตกิ้งก่านับ 10 คนก็วิ่งออกมาจากด้านหลังเขาแล้วพุ่งเข้าหาแขกไม่ได้รับเชิญอย่างรวดเร็ว
“ไล่มันออกไป อย่าปล่อยให้มันก้าวเข้ามาในเผ่าอีก!”
คนเป็นหัวหน้าเผ่าดุเสียงขรมพลางเตะก้อนหินบนพื้นไปทางอิงหยวน
ในขณะนี้อินทรีหนุ่มถูกกลุ่มภูตกิ้งก่าปิดล้อมเอาไว้ ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ หินก็พุ่งเข้าใส่หน้าผากเขาอย่างแม่นยำพร้อมกับมีเลือดไหลออกมา
ไม่ว่าชายหนุ่มจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่มีความสามารถที่จะต่อกรกับศัตรูนับสิบได้
แค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ อิงหยวนก็เข้าไปในเผ่าแบบอุกอาจและถูกโยนออกมาอย่างไม่ไยดี
เมื่ออินทรีหนุ่มถูกขับไล่ออกไปแล้ว หูหลินก็ลูบหน้าอกตัวเองพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“โชคดีที่ข้าไหวตัวทัน ไม่สิ ข้าต้องปกป้องเผ่า และข้าจะปล่อยให้มันฉกเด็กน้อยกลับไปไม่ได้” ชายวัยกลางคนพูดกับตัวเองก่อนจะรีบเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามาสั่งงาน
“ช่วงนี้ให้พวกเจ้าเสริมกำลังคนลาดตระเวนรอบเผ่าให้มากขึ้น ถ้ามีใครเข้ามาใกล้เผ่า ให้จับตัวพวกมันมาให้ข้าทั้งหมด”
ปัจจุบันเขาต้องดูแลเด็กหญิงตัวน้อยให้ดี
“รับทราบ!” เหล่าลูกน้องตอบรับอย่างพร้อมเพียง
“ว่าแต่…สาวน้อยอยู่ที่ไหน นางตื่นหรือยัง แล้วพวกเจ้าได้ส่งของทุกอย่างที่ข้าสั่งไปที่ถ้ำของนางแล้วใช่ไหม?”
ผู้นำสูงสุดของเผ่าเรียกลูกน้องคนสนิทมาถามอีกครั้ง ยังไม่ทันที่ภูตคนนั้นจะได้ตอบ เขาก็โบกมือส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหลบไป ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับพลางพูดกับตัวเองว่า
“ลืมไปเลย ข้าจะไปดูนางให้เห็นกับตาเอง พวกเจ้ามันคนใจหยาบ แม้แต่มือผู้หญิงพวกเจ้าก็ยังไม่เคยแตะเลย พวกเจ้าคงจะดูแลเด็กไม่เป็น...” ขณะที่ชายวัยกลางคนเดินไปเขาก็บ่นพึมพำไปด้วย
ส่วนกลุ่มภูตที่อยู่ข้างหลังเขาหันมามองหน้ากันด้วยสายตามีคำถาม
แล้วทุกคนก็พากันบ่นในใจว่า
จริงอยู่ที่เราไม่เคยสัมผัสมือผู้หญิง แต่ท่านเองก็ไร้คู่ ฉะนั้นตัวท่านก็ไม่ได้ดีไปกว่าเรามากนักหรอก!
...
“พี่สาม ท่านแม่จะมารับเราเมื่อไหร่?”
“พี่สาม เสี่ยวเหยาคิดถึงท่านแม่...”
“นานแล้วที่ไม่ได้กินของอร่อย ๆ ที่ท่านแม่ทำ...”
ปัจจุบันพวกหูชิงซานเข้าไปตั้งค่ายพักแรมในถ้ำแห่งหนึ่งเป็นการชั่วคราว โดยที่หลงจงกับหลงเหยานั่งอยู่ข้างนอกถ้ำพลางปั้นลูกบอลหิมะแก้ความเบื่อหน่าย
ยามนี้คนเป็นพี่สามบีบลูกบอลหิมะให้เป็นก้อนและแกะสลักเป็นรูปภูตตัวเล็ก ๆ ด้วยกรงเล็บของเขา เสร็จแล้วก็วางมันไว้บนพื้นทีละก้อน ซึ่งทั้งหมดนี้มันเหมือนกับตุ๊กตาหิมะที่พวกเขาทำขึ้นในลานบ้านเมื่อตอนนั้น
ในทางกลับกัน เจ้าตัวเล็กยัดหิมะเข้าปากทีละชิ้น โดยแสร้งทำเป็นว่าเขากำลังกินอาหารอร่อย พลางส่งเสียงฮึมฮัมและบ่นเจื้อยแจ้วไปเรื่อยเปื่อย
เมื่อหลงจงได้ยินประโยคสุดท้ายของน้องชาย มุมปากของเขาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้
ประโยคสุดท้ายคือใจความสำคัญ!
ครู่ต่อมา เด็กชายมองดูร่างกายที่ผอมบางของหลงเหยา ตอนนี้เขาไม่มีไขมันส่วนเกินบนใบหน้าอ้วน ๆ แล้ว ในขณะที่แก้มของเขาป่องเป็นเพราะเขายังเด็กเท่านั้น
ในตอนนี้หลงจงคงไม่สามารถเรียกอีกคนว่าเจ้าเด็กอ้วนได้อีกต่อไป
เมื่อผู้เป็นพี่ชายคิดถึงความทุกข์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เรื่องราวทั้งหมดมันคงจะยากสำหรับหลงเหยา เขาจึงเลือกที่จะไม่เปิดฉากทะเลาะกับอีกฝ่ายซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่หาได้ยากมาก ก่อนที่เขาจะพูดปลอบโยนว่า “วันนี้ท่านลุงกำลังไปตามหาพวกพี่ใหญ่ หลังจากที่พวกพี่ใหญ่กลับมา เราจะกลับบ้านด้วยกัน”
“อ่า...” ปากของคนตัวเล็กอ้าออกเป็นวงกลม และสีหน้าของเขาดูเหงาหงอยเล็กน้อย
เขารู้สึกเสียใจจึงเอ่ยปากถามออกมาว่า
“ท่านแม่จะไม่มารับเราแล้วหรือ?”
หลังจากหลงจงฟังคำถามของน้องชาย เขาก็ทำหน้าจริงจังและหันไปมองอีกคน จากนั้นเขาก็วางหิมะในมือทั้งหมดลง “เสี่ยวเหยา ช่วงนี้ท่านแม่ยุ่งมาก นางคงเหนื่อย อีกอย่างในฤดูหนาวข้างนอกหนาวมาก เจ้าอยากให้ท่านแม่ฝ่าลมหนาวเพื่อมารับเราอย่างนั้นหรือ?”
หลงเหยาส่ายหัวทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แล้วเขาก็เบะปากตอบว่า “ไม่ เสี่ยวเหยาไม่อยากให้ท่านแม่ลำบาก”
“นั่นแหละ ให้ท่านแม่รอเราอยู่เฉย ๆ เถอะ ตอนนี้ลุงใหญ่กำลังไปพาตัวพวกพี่ใหญ่กลับมา หลังจากนั้นเราค่อยกลับไปทำให้ท่านแม่ประหลาดใจกันเถอะ” ใบหน้าของคนเป็นพี่สามยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรในขณะที่เขาพูดโกหก
“อืม! เสี่ยวเหยาจะกลับไปจ๊ะเอ๋ท่านแม่”
ขณะนี้หลงเหยาไม่ได้คิดอะไรมากแล้วจึงกระโดดขึ้นปรบมือด้วยความตื่นเต้น
“เสี่ยวเหยาอยากกลับไปจ๊ะเอ๋ท่านแม่ ฮิฮิ...”
พอเด็กน้อยรู้สึกตื่นเต้น เขาก็วิ่งเล่นบนหิมะอย่างสนุกสนาน
ก่อนหน้านี้เขาปั้นตุ๊กตาหิมะกับแม่จิ้งจอกซึ่งทำให้เขาไม่กลัวฤดูหนาวและหิมะตกหนัก ตอนนี้เขาออกมาเดินเล่นข้างนอกได้ระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวอากาศหนาวเหมือนเดิม
เมื่อหลงจงเห็นน้องชายมีความสุขมาก เขาก็ยกมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เจ้าเด็กโง่นี่ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ เขาสามารถมีความสุขได้หลังจากถูกจับตัวมา…
“อุ๊บ!”
ระหว่างที่หลงเหยากำลังวิ่ง ทันใดนั้นเขาก็ชนเข้ากับนกอินทรีดำที่ร่อนลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่เขาจะล้มกลิ้งลงไปกับพื้น เขาได้คว้าขนนกสีดำขนาดใหญ่ 2 เส้นติดมือมาด้วย
ขณะนี้อิงหยวนที่เพิ่งถูกขับไล่ออกจากเผ่าเล่ยเหออยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก พอเขากลับมาแล้วเจ้าตัวเล็กก็มาถอนขนของเขาออกอีก 2 เส้น ใบหน้าของเขาจึงมืดลงทันที
ส่วนหลงจงมองไปยังอินทรีหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และเห็นว่าเขากลายร่างเป็นมนุษย์ด้วยใบหน้าที่ขุ่นมัว เขาจึงเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
ทางด้านอิงหยวนก้มลงมองหลงเหยาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง พลางคิดถึงสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยิน ความโกรธของเขาก็พลุ่งพล่านอยู่ในใจ และเขายั้งปากตัวเองเอาไว้ไม่ได้ เขาเลยพูดเสียดแทงใจเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“แม่ของพวกเจ้าไม่มารับพวกเจ้าหรอก แล้วอีกอย่างพวกเจ้าก็กลับไปทำให้นางประหลาดใจไม่ได้ด้วยเหมือนกัน ตอนนี้นางยังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่านางอยู่ที่ไหนและยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า!”
ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้หลงเหยาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งขณะที่เขายืนเหม่อลอยอยู่ที่เดิมสักพักพร้อมกับมีร่องรอยแห่งความสงสัยฉายแววขึ้นในดวงตาสีแดงทับทิมขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้าง แล้วในไม่ช้าก็มีน้ำสีใสเอ่อล้นออกมา
“ท่านแม่… เกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่? ท่านแม่เป็นอะไรไปหรือ?” คนตัวเล็กถามเสียงเจือสะอื้นเพื่อขอคำยืนยันจากชายหนุ่มอีกครั้ง
ในตอนนั้นเอง ใบหน้าของหลงจงถมึงทึง เขารีบวิ่งเข้าไปชนท้องของอิงหยวนแล้วผลักเขาออกไปเต็มแรง
จากนั้นเขากัดอินทรีหนุ่มด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทั้งที่ในใจเขาอยากจะตัดลิ้นของไอ้คนปากพล่อยให้รู้แล้วรู้รอด ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปกอดน้องชายไว้ในอ้อมแขนแน่นพร้อมกับพูดปลอบโยนว่า
“เสี่ยวเหยา อย่าไปฟังเขา เขาพูดไร้สาระ...”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: โอ๊ย อิงหยวน รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกม้าาาาา!!