บทที่ 312: บุกชิงตัวผู้หญิง
ขณะนี้หูชิงซานใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับคนอื่น ๆ ว่า
“ในเมื่อหัวหน้าของพวกเขาเป็นคนดี เราอาจจะทำข้อแลกเปลี่ยนกับพวกเขาเพื่อพาเด็กและผู้หญิงกลับมาได้”
ปัจจุบันถือได้ว่าพวกเขาอ่อนแอกว่าคนในเผ่านี้ ดังนั้นทางเลือกแรกที่ควรทำก็คือเจรจากับอีกฝ่ายก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน
“พี่ใหญ่ วิธีนี้จะได้ผลจริงหรือ?” หูชิงหยวนถามด้วยความไม่แน่ใจ
ผู้เป็นพี่ชายพยักหน้าแล้วตอบว่า “ข้าเห็นว่าสภาพแวดล้อมแถวนี้ขาดความอุดมสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่เดินทางออกไปไกลจากเผ่าตัวเองในฤดูหนาวแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการเสบียงมากกว่าสิ่งอื่นใด”
เพราะฉะนั้นวิธีการปลูกผลไม้ดิน และวิธีการสร้างบ้านหินล้วนเป็นของขวัญจากเทพอสูร ถ้าอีกฝ่ายได้รู้ รับรองว่าพวกเขาจะต้องรู้สึกทึ่งมากแน่ ๆ
“และเราจะไม่มอบสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาโดยเปล่าประโยชน์...” หูชิงซานเปลี่ยนน้ำเสียงที่ใช้พูดเป็นแหลมขึ้นเล็กน้อย
หากในอนาคตเผ่าของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาจะกลับมาคิดบัญชีกับอีกฝ่ายทีหลังแน่นอน
“ตกลง ข้าจะไปคุยกับหัวหน้าของพวกมันเอง” อิงหยวนก้าวออกมาก่อนจะคว้าข้อเท้าของภูตกิ้งก่าแล้วลากเขาออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
“เดี๋ยวอิงหยวน เจ้าจะรีบไปไหน เจ้ารู้วิธีพูดคุยกับหัวหน้าคนนั้นงั้นหรือ?”
หูชิงหยวนเดินตามหลังอีกคนไป 2-3 ก้าวพร้อมกับมีคำว่า ‘ไม่เชื่อ’ เขียนอยู่บนหน้าผากของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอิงหยวนที่ไร้สมองคนนี้ก่อเรื่องวุ่นวาย?
ทางด้านอินทรีหนุ่มหยุดเดิน ก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าคนถามเขม็ง
ทันทีที่จิ้งจอกหนุ่มได้รับสายตาดุคมปนไม่พอใจของอีกฝ่าย เขาก็หุบปากแล้วลดมือที่กำลังชี้หน้าเจ้าคนใจร้อน จากนั้นเขาก็พูดเสียงเบาว่า
“เดิมที—”
“ข้าจะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย” อิงหยวนพูดเสียงลอดไรฟัน
จากนั้นเขาก็ลากภูตกิ้งก่าออกไปราวกับว่าเขาต้องการจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง
ในอดีต เขาเป็นนักสู้ที่โดดเด่นที่สุดในเผ่า และท่านผู้เฒ่ามักจะมอบหมายเรื่องสำคัญทั้งหมดให้ตนทำเป็นคนแรก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นคนไร้ความสามารถไปเสียอย่างนั้น ซึ่งสภาพของเขาไม่ต่างจากหลงโม่ก่อนหน้านี้เลย
ถ้าตอนนี้เขายังช่วยชีวิตคู่ของตัวเองไม่ได้ เขาก็เป็นไอ้สวะไร้ประโยชน์จริง ๆ
“พี่ใหญ่ ท่านดูมันสิ!” หูชิงหยวนมองตามหลังของอิงหยวนไปด้วยความไม่พอใจ
“ช่างเขาเถอะ” หูชิงซานตบไหล่น้องชายพลางพูดปลอบเขาด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ลู่เมี่ยนเอ๋อถูกจับตัวไปที่นั่น อิงหยวนคงกำลังร้อนใจ ก่อนหน้านี้เราได้เจอเรื่องยุ่งยากกันมาตั้งมากมาย ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายออกโรงบ้าง”
“นอกจากนี้อิงหยวนยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าของเรา ถ้าเขาเป็นคนออกหน้า อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ต้องรู้สึกยำเกรงบ้าง”
เมื่อหูชิงหยวนได้ยินคำพูดของพี่ชาย ในที่สุดเขาก็สงบลง
ไม่นานชายหนุ่มก็กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปดูหู่จิงกับเสี่ยวเหยาหน่อย การเดินทางในครั้งนี้ทำให้พวกเขาลำบากมากแล้ว”
จิ้งจอกหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจแทนภรรยาของเขา
หูชิงซานพยักหน้าตอบรับ “อืม เจ้าไปเถอะ”
ตอนที่ทั้งคู่กลายเป็นสามีภรรยากัน ผู้เป็นพี่ชายคนโตยังคงกังวลว่าพวกเขาจะไม่ถูกกัน และอารมณ์รุนแรงของหู่จิงจะส่งผลไม่ดีต่อหูชินหยวน
ทว่าระหว่างการเดินทาง เสือสาวไม่เพียงแค่ไม่บ่นอะไรสักคำ แต่นางยังดูแลเด็กทั้ง 2 เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากที่เขาคาดไว้อย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ หูชิงซานยังปฏิบัติต่อหู่จิงแตกต่างออกไป และเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 จะดียิ่งขึ้นไปอีก
...
เผ่าเล่ยเหอ
หลังจากหูหลินออกคำสั่งลูกน้องเสร็จ เขาก็วิ่งเข้าออกป่า 6 ครั้งติดต่อกัน โดยที่ครั้งล่าสุดเขากอดต้นไม้ต้นหนึ่งเอาไว้ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
“แม่สาวน้อยนั่นให้ข้ากินอะไรเข้าไปเนี่ย มันน่ากลัวยิ่งกว่ายาพิษเสียอีก...”
ขณะนี้ริ้วรอยบนใบหน้าของเขายับย่นเหมือนคลื่นระหว่างที่เขาบ่นอุบ
เมื่อชายวัยกลางคนนึกถึงลูกสาวบุญธรรม เขาก็กัดฟันฝืนทนและมุ่งหน้ากลับไปที่เผ่าอีกครั้ง
เขาเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงจะรู้สึกกลัวมากหากอยู่แปลกที่แปลกทาง ดังนั้นเขาจึงต้องรีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนสาวน้อย นั่นอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับนางแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และบางทีเขาอาจเกลี้ยกล่อมให้นางเรียกเขาว่าพ่อก็ได้!
พอหูหลินคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกว่าความทรมานทั้งหมดที่ตนเผชิญนั้นคุ้มค่า แม้ว่าขาทั้ง 2 ข้างจะชาหลังจากที่ตนนั่งยอง ๆ มานาน แต่เขาก็พยายามเดินงุ่มง่ามมุ่งหน้ากลับบ้านตัวเอง
ในขณะเดียวกัน สู่ต้ารออยู่ในเผ่าเป็นเวลานาน และในที่สุดเขาก็เห็นผู้เป็นนายกลับมาจึงรีบวิ่งไปขวางหน้าอีกฝ่าย
“หัวหน้า!”
ทางด้านหูหลินกำลังเดินอยู่ดี ๆ ทันใดนั้นก็มีภูตหนูตัวเตี้ยมาขวางทางตน เขาจึงจำเป็นต้องหยุด
“เจ้าเองรึ มีอะไรหรือเปล่า?”
ปากของคนเป็นหัวหน้าเผ่าเอ่ยถามคนตรงหน้าก็จริง ทว่าจิตใจและสายตาของเขาล่องลอยกลับไปที่บ้านของตัวเองแล้ว
“หัวหน้า เราพบผู้หญิงและเด็กระหว่างเดินทางกลับมาที่นี่ เราก็เลยพาตัวพวกนางกลับมา ท่านรีบไปจัดการกับข้าเถอะ” สู่ต้าตอบอย่างรวดเร็ว
“โอ้ คนที่เจ้าพามาด้วยมีทั้งหมดกี่คนล่ะ?” หูหลินถามแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เฉพาะผู้หญิงก็มีมากกว่า 10 คนแล้ว”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของสู่ต้า ความคิดของผู้นำเผ่าก็ถูกดึงกลับมาอยู่ตรงหน้าทันที ในขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้างและถามด้วยความประหลาดใจ
“เยอะขนาดนั้นเลยหรือ? เจ้าไปเจอมาระหว่างทางเนี่ยนะ?”
นี่มันไม่ต่างจากการที่ผู้หญิงของเผ่าอื่นถูกย้ายมาที่นี่ทั้งหมดเลยไม่ใช่หรือ!
ชายแคระหัวเราะเบา ๆ พลางก้มหน้าลงอธิบาย “หัวหน้า ข้าพบพวกนางในถ้ำโดยบังเอิญ ถ้ำนั้นอยู่ในป่า นอกจากนี้พวกนางยังมีเสบียงมากมายซึ่งช่วยให้เผ่าของเราอยู่รอดไปตลอดจนฤดูหนาวนี้”
“โอ้ นับว่าเป็นข่าวดีมาก รีบไปกันเถอะ พาข้าไปดูพวกนางเร็วเข้า” หูหลินเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับบอกให้ลูกน้องเป็นคนนำทาง
สู่ต้าที่ได้ยินเช่นนี้ดีใจมากและรีบพาผู้เป็นนายไปยังที่หมาย
ในตอนนั้นเอง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร ภูตกิ้งก่าคนหนึ่งก็รีบเข้ามาเรียกหูหลินเอาไว้
“หัวหน้า มีภูตต้องการพบท่าน เขารออยู่ข้างนอก”
“ภูตที่ไหน เป็นผู้หญิงหรือเปล่า?” เนื่องจากหูหลินถูกอีกฝ่ายขัดขวาง ดังนั้นเขาจึงถามด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
ทำไมวันนี้ข้าเจอแต่อุปสรรค!
“ไม่ใช่ เขาเป็นผู้ชาย” คนเป็นลูกน้องตอบอย่างตรงไปตรงมา
คำตอบที่ได้รับทำให้ผู้นำเผ่ากลอกตาและโบกมือให้เขา “ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ข้าไม่สนใจ ปล่อยเขาไปเถอะ”
ทำไมทุกคนถึงได้มาขัดขวางไม่ให้เขาไปเกลี้ยกล่อมสาวน้อยสักที น่ารำคาญเสียจริง!
“แต่หัวหน้า เขาจับภูตของเราไปคนหนึ่งด้วย...” ภูตกิ้งก่าพูดอย่างลังเล แต่เขาไม่ได้ยอมถอยออกไป
“อะไรนะ จับคนของเราไป? เขามาที่นี่เพื่อขู่ข้างั้นรึ?” หูหลินเลิกคิ้วทันที “ไป ข้าอยากเห็นว่าใครมันกล้าขนาดนั้น!”
ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าหันหลังกลับและเดินจากไปพร้อมกับลูกน้องที่เป็นภูตกิ้งก่ายักษ์
ในขณะเดียวกัน สู่ต้าถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียวโดยไม่มีเหตุผล เมื่อเห็นว่าหูหลินเดินไปอีกทางแล้ว ความสุขบนใบหน้าของเขาก็มลายหายไปทันที ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสีหน้าหดหู่
ทำไมการสร้างความดีความชอบของเขาถึงได้เป็นเรื่องยากเย็นนัก!
...
ปัจจุบันอิงหยวนมุ่งหน้ามาที่เผ่าเล่ยเหอเพียงลำพัง
หลังจากเขาแสดงเจตจำนงของตัวเองแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ถูกภูตของฝ่ายตรงข้ามพาเข้าไปในเผ่าเพื่อไปพบกับหัวหน้า
“ไอ้หนู เจ้าทำร้ายคนของข้าถึงขั้นนี้เพียงเพราะต้องการพบข้าเนี่ยนะ?” พอหูหลินเห็นว่าบนใบหน้าของภูตกิ้งก่าที่ชายหนุ่มลากมามีรอยฟกช้ำบวมปูด เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
นั่นเป็นเพราะว่าหูชิงหยวนทำให้เขาไม่พอใจ เขาจึงระบายความโกรธใส่ภูตกิ้งก่ายักษ์ มันเลยทำให้อีกฝ่ายมีสภาพปางตาย
ในเวลานี้ภูตกิ้งก่ายักษ์ดูเหมือนกำลังจะตายจริง ๆ สภาพของเขาดูน่าสังเวชมาก
จากนั้นอิงหยวนโยนคนที่ตนลากมาด้วยลงบนพื้น ก่อนจะมองไปที่หูหลินอย่างสงสัย
“เจ้าคือหัวหน้าของเผ่านี้ใช่ไหม?” เขาถามโดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย
ขณะเดียวกัน ภูตที่อยู่ด้านข้างรีบนำภูตกิ้งก่าไปรักษาทันที
“ข้าเอง แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร?” ชายวัยกลางคนจ้องมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างไม่พอใจ
ไอ้หนุ่มคนนี้มีใบหน้าที่เย่อหยิ่ง น่าขยะแขยง ถ้าเขาไม่อยากสืบหาที่มาของอีกฝ่าย เขาคงจะลงมือจัดการมันไปนานแล้ว
“ผู้หญิงของเผ่าเราอยู่ในมือพวกเจ้า วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อพาพวกเขากลับเผ่า” อิงหยวนพูดตรงประเด็นแบบไม่มีการอ้อมค้อม
หูหลินขมวดคิ้วฉับเนื่องจากคำพูดของคนตรงหน้าทำให้เขาไม่มีความสุข
ผู้หญิง?
เจ้าหมอนี่มาตามหาสาวน้อยหรือ?
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: จะได้เรื่องไหมเนี่ย ไปอัดลูกน้องเขาซะอ่วมขนาดนั้น