ตอนที่แล้วบทที่ 309: เนื้อที่ข้าย่างด้วยมือของข้าเองจะไม่สูญเปล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 311: จับภูตมาทรมานเพื่อเค้นข้อมูล

บทที่ 310: นี่คือเผ่าเล่ยเหอ


ขณะนี้หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางกำลังวิ่งเข้าไปในภูเขาซึ่งเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับที่เหล่าหลินวิ่งไป

ระหว่างนั้นพวกเขาไม่ได้หยุดพักจนกว่าจะเหนื่อยจนวิ่งไม่ไหว

“ท่านแม่บอกว่าใบมะขามแขกมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับเนื้อย่างที่ท่านพ่อทำ มันน่าจะช่วยให้เราพอมีเวลาหนีอยู่” เด็กหญิงเท้ามือกับต้นไม้พลางยืนหอบ ขณะที่นางพูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ

ทว่าเด็กหนุ่มทำหน้างุนงง เขาไม่ค่อยเข้าใจการเปรียบเทียบของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ เขารู้เพียงว่าในขณะนี้พวกเขาปลอดภัยแล้วก็เท่านั้น

“เราควรซ่อนตัวจากชายแปลกหน้าคนนั้นก่อน ถ้าเขาหาเราไม่พบ เขาก็น่าจะกลับไปเอง ถึงเวลานั้นเราค่อยไปตามหาเผ่าที่เขาบอก แล้วหาทางช่วยพวกพี่ใหญ่ออกมา”

ถ้าทั้ง 2 คนถูกอีกฝ่ายจับได้ พวกเขาก็จะหมดหนทางในการช่วยเหลือทุกคน

พอถึงตอนนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการช่วยเหลือคนอื่น แม้แต่การป้องกันตัวเองยังเป็นไปได้ยากเลย

มิหนำซ้ำ ชายชราแปลกหน้าคนนี้ก็เจ้าเล่ห์มาก เขาพยายามโกหกนางทุกวิถีทาง นางจึงไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดแม้แต่น้อย

ทางด้านหยินชางพยักหน้ารับ เขาไม่คัดค้านการจัดการของหลงหลิงเอ๋อ

จากนั้นเด็กหนุ่มมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันมืดมิด พอเขารู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้ว ขณะที่เขากำลังจะเตือนเด็กหญิง นางก็ลุกขึ้นปัดเนื้อตัวก่อนจะพูดว่า

“ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว เราไปหาที่อุ่น ๆ พักกันก่อนดีกว่า”

แม้ว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะอยู่ในป่าที่รกร้างไร้ผู้คน ไม่มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก แต่นางก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด

ระหว่างเดินไปข้างหน้า นางพึมพำว่า

“โชคดีที่ตอนนี้เรากินอิ่มแล้ว วันนี้เราเลยไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร ส่วนตาแก่นั่นคงทรมานอยู่บ้าง ข้าคิดว่ากว่าเขาจะอาการดีขึ้นก็น่าจะอีกวันเลย และพรุ่งนี้คงไม่สายเกินไปที่เราจะเริ่มหาทางกันใหม่…”

ขณะนั้นหยินชางอดทนฟังคำพูดของอีกคนในขณะที่เขาหันหน้าไปสังเกตสถานการณ์โดยรอบเพื่อระวังตัวไว้เผื่อว่าจะมีสัตว์ป่าลอบโจมตี

แต่บริเวณนี้แห้งแล้งมาก แม้แต่สัตว์ป่าก็แทบจะไม่เดินเฉียดมาแถวนี้

ส่วนหลงหลิงเอ๋อ หากดูเผิน ๆ นางอาจจะดูเหมือนเป็นคนเรื่องมาก แต่ในความเป็นจริงนางวางแผนไว้เป็นอย่างดีแล้ว

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินไปในป่า จู่ ๆ ก็มีเสียงอีการ้องดังมาจากกิ่งไม้ที่ตั้งอยู่ในระยะไกล

มันทำให้หยินชางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และกำลังจะหันกลับไปตรวจสอบ แต่ทันใดนั้นศีรษะของเขาก็ปวดและเขาก็หมดสติไป

“หยินชาง!”

หลงหลิงเอ๋อสังเกตว่าเด็กหนุ่มหมดสติไปแล้ว ทันทีที่นางหันกลับมา นางก็เห็นเหล่าหลินที่มีใบหน้าซีดเซียวยืนอยู่ข้างหลังขณะจับตัวหยินชางด้วยมือข้างหนึ่งและสายตาเชือดเฉือนคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่นาง

“ท่านทำแบบนี้ได้ยังไง...” เด็กน้อยตกตะลึงแล้วนางก็ถูกอีกฝ่ายใช้สันมือฟาดเข้าที่คอ

ยามนี้เหล่าหลินกำลังอุ้มเด็กหญิงที่หมดสติไว้ในมือข้างหนึ่ง เมื่อคิดถึงความทรมานเมื่อกี้นี้ เขาก็พ่นลมอย่างไม่สบอารมณ์

“ข้าไม่คาดคิดว่าพวกเจ้าทั้ง 2 จะมีความสามารถมากทีเดียว ถึงวิ่งหนีข้ามาได้ไกลถึงเพียงนี้...”

จากนั้นเขาเหลือบมองหยินชาง ก่อนจะเลื่อนสายตามาจับจ้องหลงหลิงเอ๋อที่ตัวเล็กน่ารัก และน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป

“ตามที่ข้าคาดไว้ สมแล้วที่เจ้าเป็นเด็กที่ข้าให้ความสำคัญ!”

“สาวน้อย เจ้าซนได้ตามใจเลย แล้วชีวิตข้าหลังจากนี้จะไม่น่าเบื่อ...”

ปรากฏว่าเหล่าหลินไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขากลายร่างเป็นสัตว์แล้ววางเด็กหญิงไว้บนหลังของตนอย่างระมัดระวัง

ร่างสัตว์ของชายคนนี้คือสุนัขจิ้งจอกสีเงินตัวใหญ่ ทันทีที่ขนจิ้งจอกสะท้อนกับแสงจันทร์ ทั้งตัวเขาก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อน ขณะที่บริเวณแขนขาจะไล่สีเข้มขึ้นซึ่งเหมือนกับสัตว์วิญญาณที่อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาว

พอเขาจัดให้หลงหลิงเอ๋อนั่งลงบนหลังตนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากชายวัยกลางคนไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มอยู่ใกล้ ๆ สาวน้อย เขาก็เลยเหวี่ยงหยินชางขึ้นไปแบบลวก ๆ ทำให้เขาตกลงบนหลังส่วนที่ใกล้กับหาง

หลังจากเหล่าหลินได้ตัวเด็กทั้ง 2 กลับคืนมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งไปที่เผ่าอย่างมีความสุข

ถึงแม้ว่าใบมะขามแขกของหลงหลิงเอ๋อออกฤทธิ์ได้ดีก็จริง แต่นางลืมไปว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย อีกทั้งเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ทรงพลังและมีร่างกายที่แข็งแรง เขาจึงมีความต้านทานต่อสิ่งเหล่านี้

เมื่อเหล่าหลินไปจัดการธุระของตัวเองเสร็จ เขาก็พบว่าทั้งคู่หลบหนีไปแล้ว เขาจึงไล่ล่าพวกนางในร่างภูตสุนัขจิ้งจอกทันที

...

ก่อนฟ้ามืด ในที่สุดเหล่าหลินก็กลับไปถึงเผ่าพร้อมกับเด็ก 2 คน

“หัวหน้า หัวหน้ากลับมาแล้ว!”

ภูตในเผ่าเล่ยเหอมีความสุขมากที่เห็นเจ้านายของตนกลับมา ทุกคนจึงรีบเข้าไปทักทายเขาทีละคน

แต่พอพวกเขาเห็นเด็กอยู่บนหลังของอีกฝ่ายก็พากันทำหน้าสับสน

“หัวหน้า ทำไมท่านเอาเด็กกลับมาด้วย 2 คน?”

1 ในนั้นมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วย หัวหน้าขโมยนางมาจากเผ่าอื่นหรือไม่?

“เด็กน้อยคนนี้ขาวมาก น่ารักจัง...”

“ทำไมหน้าตานางดูคุ้น ๆ กันนะ?”

เดิมทีมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเหล่าหลิน แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดต่อมาของลูกน้อง เขาก็เลิกคิ้วขึ้นทันทีและจ้องคนพูดเพียงเสี้ยววินาทีเพราะกลัวว่าคนอื่นจะอยากได้ลูกน้อยของตน

“นี่คือลูกของข้า เจ้าไปทำความสะอาดถ้ำที่ดีที่สุดที่ข้าเพิ่งขุดให้นางอาศัย และเอาเสบียงที่ข้าสะสมก่อนหน้านี้ อย่างพวกอาหารอร่อย ๆ หนังสัตว์ชั้นดี และของสนุก ๆ ไปที่ถ้ำของนางด้วย”

ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าโบกมือสั่งเสียงดัง

“แล้วเด็กอีกคนล่ะ?” ภูตถามพลางมองหยินชางที่อยู่ข้าง ๆ หลงหลิงเอ๋อ

“แค่ขุดโพรงให้มันอยู่ก็พอและดูแลแค่ให้มันไม่อดตายก็ใช้ได้แล้ว” เหล่าหลินโบกมือพลางพูดแบบสบาย ๆ

“...”

ในใจของพวกลิ่วล้อคิดว่าคงมีเพียงหัวหน้าผู้นี้คนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้

ทว่ายังมีภูตที่รู้สึกงุนงงและตามไม่ทันสถานการณ์ “หัวหน้ามีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมข้าไม่รู้...”

นั่นทำให้ภูตที่อยู่ข้าง ๆ เคาะหัวคนถามทันที “เจ้าไม่ต้องถามให้มาก เด็กพวกนี้น่าจะถูกเก็บมาเลี้ยงหรือไม่ก็โดนลักพาตัวมาทั้งนั้น! หัวหน้าไม่มีแม้กระทั่งคู่ แล้วเขาจะไปเอาเด็กมาจากที่ไหนได้อีกล่ะ?”

เวลาต่อมา เหล่าหลินพาหลงหลิงเอ๋อเดินเข้าไปในเผ่าอย่างมีความสุข

อีกด้านหนึ่ง สู่ต้าได้ยินข่าวการกลับมาของหัวหน้า เขาจึงรีบวิ่งไปหาอีกฝ่ายเพราะอยากอวดผลงานต่อหน้าผู้เป็นนาย

“หัวหน้า เราพาฝูงภูตกลับมาระหว่างทาง มีทั้งผู้หญิงและเด็กจำนวนมากกลับมาด้วย ตอนนี้เรารอให้ท่านมาจัดแจงพวกเขา…”

ภูตหนูตัวเตี้ยเดินตามหลังเหล่าหลินพลางรายงานให้เขาทราบ

ในเวลาเดียวกัน ทั้งหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางกำลังนอนหมดสติอยู่บนหลังของภูตจิ้งจอกตัวใหญ่ และใบหน้าของพวกเขาฝังอยู่ในขนของมันจึงทำให้เขาจำทั้งคู่ไม่ได้

“ผู้หญิงกับเด็ก...”

คนเป็นหัวหน้าเผ่าชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของลูกน้อง

ถ้าอย่างนั้นเขาคงต้องไปจัดการพวกนางก่อน

ทางด้านสู่ต้าพยักหน้าหลายครั้ง เดิมทีเขากำลังจะขอรางวัลจากอีกคน ทว่าใบหน้าของเหล่าหลินก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเพราะเขาเริ่มรู้สึกมวนท้องราวกับว่ามีสิ่งแปลกปลอมยัดอยู่ในลำไส้ของตน

ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบส่งหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางให้กับภูตจิ้งจอกคนอื่นและวิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกโดยที่เขาพูดทิ้งท้ายไว้แค่ว่า

“ส่งเด็กพวกนี้ไปที่ถ้ำของข้า ข้าไม่มีเวลาแล้ว ไว้ค่อยคุยกัน!”

ส่วนสู่ต้าที่ถูกเมินมีสีหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเขาเห็นว่าภูตคนอื่นเอาแต่ไปรายล้อมเด็กทั้ง 2 เขาก็เดินแยกตัวออกไปด้วยใบหน้ามืดมน

...

“โอ๊ย... เจ็บคอจัง...”

หลงหลิงเอ๋อลืมตาตื่นขึ้นช้า ๆ เพราะรู้สึกเจ็บบริเวณหลังคอ เมื่อนางเปิดเปลือกตาขึ้น นางก็ตระหนักว่าตัวเองไม่ได้อยู่ท่ามกลางหิมะแล้ว ทันใดนั้นนางก็ผุดลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ

พอเด็กหญิงยืนขึ้นก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในถ้ำที่มีหน้าตาแปลกประหลาดแห่งหนึ่ง

ภายในถ้ำนั้นสะอาดและมีพื้นที่กว้างขวางมาก อีกทั้งด้านข้างนางมีหนังสัตว์สีสันสดใสสวยงามมากมาย รวมถึงน้ำสะอาดและอาหาร

เมื่อภูตจิ้งจอกที่เฝ้าทางเข้าถ้ำเห็นคนตัวเล็กตื่นขึ้นก็รีบเข้ามาทักทาย

“คุณหนู ท่านตื่นแล้ว ถ้าท่านต้องการอะไรก็เรียกข้าได้เลยนะ หัวหน้าสั่งไว้วว่าถ้าท่านต้องการอะไร ก็ให้ข้าจัดการหามาให้ทุกอย่าง”

หลงหลิงเอ๋อมองคนตรงหน้าอย่างระแวดระวัง

“ท่านเป็นใคร ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน ใครคือหัวหน้าของท่าน...”

สาวน้อยจำได้เพียงว่าตนถูกชายชราไล่ตามในป่า จากนั้นนางก็หมดสติไป

พอภูตจิ้งจอกเห็นสีหน้าหวาดระแวงของเด็กตรงหน้า เขาจึงทำหน้าอ่อนโยนขึ้นและอธิบายอย่างอดทน

“ข้าเป็นภูตจากเผ่าเล่ยเหอ ที่นี่คือเผ่าเล่ยเหอ หัวหน้าของเราคือหูหลิน เขาเป็นคนที่พาท่านกลับมา!”

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไม่น้าาาา อุตส่าห์หนีออกมาได้แล้วเชียว ; - ;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด