บทที่ 309: เนื้อที่ข้าย่างด้วยมือของข้าเองจะไม่สูญเปล่า
“ได้สิ!”
หลงหลิงเอ๋อที่ได้รับสัญญาณจากหยินชาง ในไม่ช้านางก็ตอบกลับชายแปลกหน้าเสียงหวาน
เมื่อเหล่าหลินได้ยินเช่นนี้ก็ชะงักไปทันที
จากนั้นเขารีบหันกลับไปมองเด็กหญิงอย่างตื่นเต้น
“สาวน้อย เจ้าเห็นด้วยจริง ๆ หรือ?”
ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา เขาพูดถึงเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง แต่สาวน้อยกำลังจะไปตามหาคนในครอบครัวของตน เดิมทีเขาคิดเอาไว้ว่าจะทุบนางให้หมดสติ แล้วค่อยพานางกลับไปที่เผ่าหากนางไม่ยอมตกลงอีก
เมื่อถึงเวลาที่เด็กน้อยเข้าไปในเผ่า นางจะไม่สามารถออกมาได้อีกต่อไป อย่างมากนางอาจจะแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีพักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็จะทำใจให้ชินไปเอง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้วางแผนที่จะหาคู่ครองในชีวิตนี้อยู่แล้ว
ดังนั้นการมีสาวน้อยแสนฉลาดอย่างเด็กคนนี้ให้เลี้ยงดู มันก็ไม่เลว
“ใช่แล้ว ท่านปู่หลิน ตอนนี้เรายังหาคนในเผ่าของเราไม่พบเลยและเราก็ไม่มีที่ไป เพราะฉะนั้นเราจะกลับไปที่เผ่ากับท่านปู่หลิน” หลงหลิงเอ๋อพยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้มไร้เดียงสาในขณะที่นางทำหน้าแบบเด็กรู้ความคนหนึ่ง
ประกอบกับใบหน้าเล็ก ๆ นั้นแดงระเรื่อเพราะต้องลมหนาวจนปลายจมูกเปลี่ยนเป็นสีชมพู นางทำท่าคล้ายกับว่าในตอนแรกนางอาจจะคิดผิด เมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่คนเดียวในต่างถิ่นนางจึงยอมอ่อนข้อ
พอเหล่าหลินเห็นท่าทางของเด็กหญิงตัวน้อย ใจเขาก็แทบละลาย
“เอาล่ะ ๆ งั้นตามอาหลินมา อาหลินสัญญาว่าจะขุนเจ้าให้อ้วนเลย อาหลินจะไม่ให้เจ้าอดอยากแน่นอน” เขารู้ว่าสาวน้อยคนนี้ฉลาด และนางต้องเป็นห่วงอนาคตว่าจะต้องลำบากหรือไม่
ทันใดนั้นเขาก็ตบหน้าอกพร้อมพูดให้ความมั่นใจกับอีกฝ่าย
“ขอบคุณ ท่านปู่หลิน” หลงหลิงเอ๋อยิ้มหวานเผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเต็มปาก
ปัจจุบันทั้ง 2 คนต่างเรียกกันตามที่ตนเองต้องการจึงทำให้ไม่มีใครยอมใคร ทว่าพวกเขาก็เข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ
บัดนี้ตอนที่เหล่าหลินได้ยินที่เด็กหญิงเรียกตัวเองว่าท่านปู่ เขาก็ไม่ได้รีบร้อนให้นางแก้ไขวิธีเรียกตน
ถึงอย่างไรถ้านางยังอยู่ในเผ่าของเขา ในอนาคตเขาจะมีเวลาแก้ไขคำเรียกนี้ได้อีกมากมาย
ถัดมา หลงหลิงเอ๋อดึงแขนเสื้อของหยินชางให้เดินตามไปด้วย ซึ่งเขาเม้มริมฝีปากเดินไปหาชายแก่อย่างไม่เต็มใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย
“อะแฮ่ม...”
เหล่าหลินเหลือบมองเด็กหนุ่มที่สาวน้อยจับมือเขาไว้แน่นแล้วกระแอมไอ
“ตกลง เจ้ามาด้วยก็ได้” ชายมีหนวดเคราตอบด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนัก
เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนี้บอบบางน่าทะนุถนอม อีกทั้งยังน่ารักและอ่อนหวาน แม้ว่าบางครั้งนางจะดูอารมณ์ร้ายไปสักหน่อย แต่เขาก็ชอบเวลาที่นางมองมา และเขาก็เต็มใจที่จะเลี้ยงดูนางให้เติบใหญ่
ส่วนเด็กผู้ชายที่มีรูปร่างเหมือนกระบอกไม้ไผ่คนนี้... ช่างมันเถอะ ถือเสียว่าเขาเก็บสุนัขข้างทางมาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงาให้สาวน้อยและเพื่อไม่ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจ
ทางด้านหลงหลิงเอ๋อ เมื่อชายชราตอบตกลง นางก็หัวเราะอย่างมีความสุข ทันใดนั้นนางเอามือสัมผัสท้องของตัวเองแล้วมุมปากก็หุบลงก่อนจะถามอย่างเขินอายว่า
“ท่านปู่หลิน ข้าหิว เราหาอะไรกินก่อนไปได้ไหม?”
“ได้เลย!”
ขณะนี้เหล่าหลินมีความสุขที่เด็กหญิงยอมเข้าร่วมเผ่า เขาจึงเชื่อฟังนางมากขึ้นและให้นางได้ทำตามต้องการ
แม้ว่าพวกเขากำลังจะไปถึงเผ่า แต่เขาก็ยังหยุดพักเพื่อก่อไฟย่างเนื้อตามคำขอของคนตัวเล็ก
ตอนนี้เหล่าหลินยังเหลือเนื้อแมวหลาย 10 ชิ้นซึ่งมันเพียงพอที่จะให้ทั้ง 3 คนกินจนอิ่ม
“หนูน้อย เรากินของที่มีอยู่ให้อิ่มท้องไปก่อน รอเรากลับไปถึงเผ่า อาหลินจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้เจ้ากินเอง” ชายวัยกลางคนพูดขณะก่อไฟ
“ขอบคุณ ท่านปู่หลิน!”
หลงหลิงเอ๋อขอบคุณอีกคนด้วยเสียงไพเราะ พร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดแขนของเขาอย่างมีความสุข
“ท่านปู่หลิน ตลอดทางที่ผ่านมาท่านดูแลพวกเราดีขนาดนี้ ข้าก็อยากจะตอบแทนท่านบ้าง ให้ข้าช่วยท่านย่างเนื้อดีไหม?”
เหล่าหลินมีหน้าตาเบิกบานทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขาพึงพอใจที่เด็กหญิงยินดีที่จะเข้าใกล้ตนแบบเต็มใจ
“สาวน้อย เจ้าย่างเนื้อเป็นด้วยหรือ?”
“แน่นอน นอกจากแม่ของข้าแล้ว ข้าก็เป็นคนที่ย่างเนื้อได้อร่อยที่สุดในครอบครัวของเรา” หลงหลิงเอ๋อเชิดคางขึ้นด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ
“ตกลง ถ้าเจ้าอยากจะทำ ข้าก็ไม่ขัด”
เหล่าหลินไม่อยากขัดขวางและทำให้นางเสียใจ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที
ในเมื่อเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เสนออยากจะย่างเนื้อเอง เพราะฉะนั้นเขาต้องยอมรับอีกฝ่าย
หลังจากที่เหล่าหลินก่อไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลงหลิงเอ๋อก็กระตือรือร้นที่จะไปย่างเนื้อ แต่เนื่องจากฟืนมีไม่เพียงพอ เขาจึงต้องไปเก็บฟืนมาเพิ่ม
สาวน้อยจึงใช้โอกาสนี้หยิบใบไม้ 1 กำมือออกมาจากอก ก่อนจะบดขยี้มันและนำไปลูบเนื้อ จากนั้นนางก็รอจนกว่าน้ำในใบไม้จะซึมทั่วเนื้อ แล้วจึงโยนใบไม้เข้าไปในกองไฟ
ในไม่ช้าชายชราก็กลับมา แล้วเด็กหญิงก็ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนหยินชางที่อยู่ข้าง ๆ ช่วยนางย่างเนื้ออย่างขยันขันแข็ง
“ท่านปู่หลิน เนื้อชิ้นนี้ย่างเสร็จแล้ว เชิญท่านกินก่อน!” เมื่อหลงหลิงเอ๋อเห็นอีกฝ่ายกลับมาแล้ว นางก็ยื่นเนื้อให้เขาพร้อมกับหรี่ตาแสดงท่าทางอ้อนวอนขอคำชม
ในขณะที่เด็กหนุ่มหันศีรษะไปมองที่เนื้อชิ้นนั้นแบบไม่วางตา
นั่นทำให้เหล่าหลินรู้สึกเหมือนถูกขโมยสมบัติไป จากนั้นเขารับเนื้อมาแล้วรีบหันหลังให้หยินชาง ก่อนจะยกมือลูบผมของหลงหลิงเอ๋อด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะ เนื้อย่างของสาวน้อยจะต้องอร่อยแน่ ๆ”
หลังจากพูดจบเขาก็กัดเนื้อคำใหญ่และเคี้ยวอย่างแรง
“เป็นยังไงบ้างท่านปู่หลิน อร่อยไหม?” คนตัวเล็กถามพลางกะพริบตากลมโต ขณะที่กุมใบหน้ามองคนที่กำลังลิ้มรสฝีมือตัวเองแบบมีความหวัง
“อืม! รสชาติดีทีเดียว สาวน้อย เจ้าเก่งจริง ๆ...”
แม้ว่าเหล่าหลินจะได้ลิ้มรสขมและจิตใต้สำนึกบอกให้เขาคายมันออกมา แต่พอเห็นสายตาคาดหวังของเด็กน้อย เขาก็กลืนมันลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินคำชมก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น
ครู่ต่อมา นางวิ่งไปหาหยินชางแล้วหยิบเนื้อเสียบไม้ทั้งหมดเพื่อส่งให้ชายชรา
จากนั้นนางยิ้มและพูดว่า
“ท่านปู่หลิน ถ้าท่านชอบก็กินเยอะ ๆ สิ ข้าย่างเนื้อพวกนี้เตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะเลย ท่านกินให้หมดเลยนะ”
คำพูดของเด็กหญิงส่งผลให้มุมปากของเหล่าหลินกระตุก ยามนี้เขาอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ท้ายที่สุดแล้ว สาวน้อยแสนไร้เดียงสาอุตส่าห์ย่างเนื้อให้เขาด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม เขาจึงต้องฝืนทนกินเนื้อย่างรสขมจนหมดไม่ให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
ทางด้านหยินชางมองสายตาเจ้าเล่ห์ของหลงหลิงเอ๋อ ก่อนที่เขาจะรีบหลุบตาลงแอบอมยิ้ม
ไม่นานทั้ง 3 คนก็กินอาหารจนอิ่มท้อง
ขณะนั้นเหล่าหลินเรอเปรี้ยวออกมา ไม่นานเขาก็เก็บข้าวของเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อ
แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาก้มตัวลงในขณะที่กุมท้องอันปั่นป่วนก่อนจะมีเสียงดังออกมา
ปู้ดดดด! ป้าดดดด!
“...”
หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางบีบจมูกพลางขยับถอยห่างชายแก่ออกไปหลายเมตร
“ท่านปู่หลิน ท่านเป็นอะไรไป ท่านรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?” สาวน้อยถามด้วยความเป็นห่วง
บัดนี้เหล่าหลินทำหน้ากระอักกระอ่วนขณะตอบอย่างลำบากใจว่า
“ข้าไม่เป็นไร เจ้ารอข้าที่นี่นะ แล้วข้าจะรีบกลับมา อย่าเดินเพ่นพ่านไปไหนเสียล่ะ!”
หลังจากพูดจบเขาก็วิ่งหนีไปพร้อมกับเอามือกุมท้องไว้
จนกระทั่งชายชราหายลับไปจากสายตา หลงหลิงเอ๋อก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“เป็นตาแก่ที่แปลกมาก เขาคิดว่าตัวเองอายุยังน้อยอยู่หรือไงถึงชอบให้ข้าเรียกเขาว่าอาหลินอยู่นั่น”
ทางด้านหยินชางมองเด็กหญิงด้วยสีหน้างุนงง ราวกับต้องการถามว่า: เขาเป็นอะไรไป?
“ใบไม้ที่ข้าเพิ่งเก็บมาเรียกว่าใบมะขามแขก* แม่ของข้าบอกข้าก่อนหน้านี้ว่าการกินใบไม้ชนิดนี้จะทำให้ท้องเสีย ข้าเห็นมันขึ้นอยู่ระหว่างทาง ข้าก็เลยเก็บมา” หลงหลิงเอ๋ออธิบายพลางยิ้มแบบคนเจ้าเล่ห์
*มะขามแขก ใบและฝัก รสเปรี้ยว ใช้เป็นยาถ่าย ใบจะไซ้ท้องมากกว่าฝัก (อาการไซ้ท้อง คือ ไม่สบายท้อง ปวดมวนเนื่องจากรับประทาน) แก้อาการท้องผูก
โชคดีที่นางเจอใบมะขามแขกแล้วเก็บมากำมือหนึ่ง แผนนี้จึงได้ผล!
เมื่อนางพูดจบแล้วก็ดึงแขนเสื้อของเด็กหนุ่มเพื่อวิ่งไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับเหล่าหลิน
“ไปกันเร็ว รีบหนีตอนที่ตาแก่นั่นไม่อยู่เถอะ”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: แจ๋วมาก! หลิงเอ๋อฉลาดไหวพริบดีสุด ๆ