บทที่ 306: 2 พี่น้องรวมพลังกันหลอกล่อซีชา
“ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ทำให้พวกท่านต้องมีปัญหากับเขา” ลู่เมี่ยนเอ๋อขอโทษหูหมินกับหลงอวี้พร้อมกับตำหนิตัวเอง
ถ้าไม่ใช่เพราะนาง หลงอวี้ก็คงไม่ได้รับบาดเจ็บ และหูหมินก็คงไม่ต้องมีเรื่องกับซีชา
มิหนำซ้ำ ภูตกิ้งก่าคนนี้ดุร้าย หยิ่งยโสและไม่มีเหตุผล มันไม่มีทางปล่อยพวกนางไปง่าย ๆ แน่
“ไร้สาระ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของไอ้สวะนั่น มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย” แม่จิ้งจอกวัยกลางคนรู้สึกไม่เห็นด้วยกับคำพูดของกวางสาว
หลังจากพูดจบนางก็ไม่เปิดโอกาสให้ลู่เมี่ยนเอ๋อได้พูดอะไรอีก แล้วก้มหน้าลงถามหลานชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อวี้เอ๋อ เจ้าเป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนไหม?”
“ท่านยาย ข้าไม่เป็นอะไร” เด็กชายส่ายหัวก่อนจะยืนขึ้น
ปัจจุบันเลือดของซีชาเปรอะไปทั่วปากของเขา และตอนที่เขาถูกเตะจนล้มลงเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน มีเพียงอาการจุกเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อหูหมินได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ลู่เมี่ยนเอ๋อ ต่อจากนี้ไปเจ้าจะต้องอยู่กับข้าตลอด ถ้ามันกล้ามารังแกเจ้า ข้าจะเตะผ่าหมากไม่ให้มันมีลูกได้อีก มาดูกันว่าหลังจากนี้มันจะรังแกเจ้าได้อยู่ไหม”
“ขอบคุณท่านป้าหมิน ข้าจะจำไว้” หญิงสาวกัดริมฝีปากพร้อมพยักหน้าอย่างจริงจัง
นางจะพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องสร้างปัญหาให้กับคนอื่น
“หลงอวี้ ขอบคุณนะที่เจ้ามาช่วยข้าเมื่อกี้” ลู่เมี่ยนเอ๋อมองเด็กตัวน้อยด้วยสายตาซาบซึ้งและกล่าวขอบคุณ
อีกฝ่ายสูงเท่าเอวของนางเท่านั้น แต่เขาเป็นคนที่กล้าหาญมาก สมแล้วที่เขาเป็นลูกของเจียวเจียว!
แม้แต่เด็กยังกล้าเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยนางขนาดนี้ แล้วนางจะทำตัวอ่อนแอกว่าเด็กได้อย่างไร
ทางด้านหลงอวี้พยักหน้าให้กวางสาวก่อนจะวิ่งไปหยิบอาหารที่หกบนพื้นขึ้นมา
ตอนนี้เรื่องวุ่น ๆ จบลงแล้ว ซีชาเองก็ไม่ได้ส่งใครมาหาเรื่องพวกเขา อาจเป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บและทุกคนกำลังวุ่นอยู่กับการห้ามเลือดให้เจ้าตัวอยู่
ในช่วงเวลาพักผ่อน ภูตหญิงคนอื่นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรวมตัวกันเพื่อป้องกันไม่ให้ภูตหญิงในเผ่าถูกศัตรูรังแกตามลำพัง
ขณะเดียวกัน หลงเซียวไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีผู้คนมากนัก ดังนั้นเขาและพี่ชายคนโตจึงหาที่เงียบ ๆ เพื่อนั่งกินเนื้อรมควัน
“พี่ใหญ่ ถ้ามันหายจากอาการบาดเจ็บ มันจะต้องมาแก้แค้นพวกเราแน่นอน” น้องชายคนรองที่มักจะเงียบขรึมอยู่เสมอพูดขึ้นมา
“ใช่” หลงอวี้ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกเป็นปม
ตอนนี้เขาจะต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ภูตกิ้งก่ายักษ์นั่นไม่สามารถกลับมาตอบโต้พวกเขาได้อีก
แล้ว 2 พี่น้องก็หันมามองหน้ากัน โดยที่คนหนึ่งจ้องมองอย่างมีความนัย ส่วนอีกคนดวงตาฉายประกายแวววาว ในขณะที่ทั้งคู่มีความคิดตรงกัน
...
ในตอนที่ทุกคนกำลังจะออกเดินทางอีกครั้ง ภูตหนูก็มานับจำนวนเชลยทั้งหมด
หลังจากสู่เอ้อร์นับคนครบแล้วพบว่าไม่มีใครตกหล่นหายไป เขาก็กำลังจะเดินไปบอกซีชาเพื่อเริ่มออกเดินทางกันต่อ
ในขณะที่ชายร่างเตี้ยหันหลังกลับไป เขาก็พบว่ามีเด็กสายตาไม่ดีคนหนึ่งจับชายเสื้อเขาไว้
ระหว่างนั้นสู่เอ้อร์มองสหายที่เดินออกไปอย่างลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงกระซิบถามเด็กชายเสียงแผ่วเบา “เจ้ามีอะไรหรือเปล่า?”
ถัดมา เจ้าเด็กพิการพูดกับเขาว่า “ท่านลุง วันนี้พี่ชายและท่านยายของข้าทำร้ายซีชา ข้าขอโทษซีชาแทนพวกเขาด้วย ท่านช่วยขอร้องไม่ให้ซีชามาจัดการกับพวกเขาได้ไหม?” เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ครั้งก่อนพวกเจ้าทำให้ลูกพี่ซีชาโกรธ แถมครั้งนี้พวกเจ้าทำให้เขาบาดเจ็บอีกด้วย ฉะนั้นข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว ถึงเจ้าจะมาขอร้องข้ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไร หลังจากนี้พวกเจ้าก็ควรอยู่ห่างจากลูกพี่ซีชาเอาไว้ อย่าไปมีเรื่องกับเขาอีก” ภูตหนูอธิบายก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ถ้าอย่างนั้น...” หลงเซียวลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “ข้ามีข่าวบางอย่างจะบอกลูกพี่ซีชา ท่านช่วยไปบอกเขาแทนข้าได้ไหม?”
พอเด็กชายพูดจบ เขาก็ทำท่าเหมือนกับว่ากลัวอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบายว่า
“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเสบียง ข้าอยากชดเชยความผิดพลาดของข้าและต้องการให้ลูกพี่ซีชาไว้ชีวิตพี่ชายกับท่านยายของข้า”
“เอาเถอะ ว่ามาสิ เจ้าอยากจะให้ข้าบอกอะไรเขา?” สู่เอ้อร์พยักหน้ารับส่ง ๆ อย่างไรเสีย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เขาก็พอจะเจียดเวลาช่วยเหลือได้อยู่บ้าง
ครู่ถัดมา หลงเซียวค่อย ๆ หันหน้าไปมองรอบตัว เมื่อเห็นว่าคนอื่นไม่ได้สนใจพวกเขาทั้งคู่ เขาจึงพูดเสียงเบาลง
“เสบียงในเผ่าของเรานอกจากจะมีเนื้อรมควันกับผลไม้แล้ว ยังมีเนื้อหมักเกลือ เนื้อพวกนั้นมีรสชาติดีมาก ถ้าได้เติมเกลืออีกสักหน่อยมันก็จะยิ่งอร่อยมากขึ้น ท่านคงไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ก้นถุงหนังสัตว์”
เนื่องจากเขาแอบสังเกตบรรยากาศรอบตัวมา 2-3 วันแล้ว อีกทั้งภูตเหล่านี้ก็ไม่ได้นับเสบียงที่ปล้นมาได้อย่างระมัดระวัง
นอกจากเนื้อส่วนใหญ่ของเผ่าที่ถูกเก็บไว้กินเอง ที่เหลือก็มีแค่ผลไม้ชนิดต่าง ๆ
“เนื้อหมักเกลืองั้นรึ?” สู่เอ้อร์ทำหน้าตกใจ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจอีกครั้ง
“เผ่าของเจ้านี่มันฟุ่มเฟือยจริง ๆ!”
จากนั้นหลงเซียวเม้มริมฝีปากทำท่าเหมือนกำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญบางอย่างแล้วกระซิบพูดต่อว่า
“นอกจากนี้ เผ่าของเรามีวัตถุดิบสำคัญด้วย ซึ่งก็คือดอกเกลือ ขอแค่เราเอามันมาบดเป็นผง มันก็จะกลายเป็นเกลือ แล้วเราก็กินมันได้เหมือนกัน เผ่าของเราเลยใช้เกลือพวกนี้หมักเนื้อเอาไว้กิน”
“ในฤดูหนาวเช่นนี้เกลือน่าจะเป็นของที่ขาดแคลน ท่านช่วยไปบอกลูกพี่ซีชาได้ไหมว่าข้าขอแลกเกลือกับชีวิตของพี่ชายและท่านยายของข้า...”
เด็กชายประสานมือพูดขอร้องชายตรงหน้า
“นี่มัน...” สู่เอ้อร์ตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมารู้สึกตัวและพยักหน้าอย่างมีความสุข
“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะบอกเรื่องนี้กับลูกพี่ซีชาแทนเจ้าเอง เขาจะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ แล้วบางทีเขาอาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” ภูตหนูตัวเตี้ยตบไหล่เด็กน้อยเบา ๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปรายงานลูกพี่ของตน
เมื่อหลงเซียวมองไปที่แผ่นหลังอันพร่ามัวของสู่เอ้อร์ สีหน้าของเขาที่เคยขอร้องอ้อนวอนก็พลันหายไปกลายเป็นสีหน้าเฉยเมย แล้วเดินกลับไปยืนด้านข้างพี่ใหญ่
เวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนก็ออกเดินทางอีกครั้ง
“เรียบร้อยแล้วหรือ?”
“อืม ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพี่ใหญ่แล้วล่ะ”
ยามนี้หลงอวี้เข้ามาช่วยพยุงน้องชายคนรองเดินตามกลุ่มไปเงียบ ๆ โดยมีแค่เสียงหิมะที่ถูกเท้าบดละเอียดกลบเสียงพูดคุยของพวกเขาไป
...
เมื่อถึงยามที่พระอาทิตย์ตกดิน
กลุ่มภูตหยุดเดินทางแล้วตั้งค่ายพักแรมเพื่อเตรียมตัวนอนค้างคืน และวางแผนจะออกเดินทางอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากภูตกิ้งก่าที่เป็นผู้นำกลุ่มได้รับข่าวจากหลงเซียว เขาก็สั่งให้ลูกน้องเริ่มตรวจสอบเสบียงที่พวกตนยึดมา และแน่นอนว่าพวกเขาพบเนื้อหมักเหลือและดอกเกลือจำนวนมากอยู่ตรงก้นถุง
“เจ้าเด็กนั่นซ่อนของดีไว้มากมายจริง ๆ ครั้งนี้เพื่อเห็นแก่เกลือจำนวนมาก ข้าจะปล่อยพวกมันไป”
ซีชารู้สึกยินดีที่ได้เห็นเสบียงสำคัญ
เนื่องจากเกลือเป็นของที่มีค่ามาก แม้ว่ามันจะถูกยักยอกออกไปสักนิดสักหน่อย หัวหน้าก็คงจะไม่รู้
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะถูกตีจนเลือดอาบหน้า แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากเขาเดินทางมาทั้งวันมันก็เหลือเพียงบาดแผลตกสะเก็ดและจมูกที่บิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่พอได้เห็นของมีค่าตรงหน้าเขาก็หายเจ็บทันที
“มานี่ เอาเนื้อรมควันกับเกลือไป ข้าจะทำอาหารกินคืนนี้!”
ซีชาโบกมือเรียกลูกน้องให้มาขนเนื้อรมควันกับเกลือออกไปอีกทาง
แล้วเหยื่อสด ๆ ที่ถูกจับได้เมื่อ 2-3 วันก่อนก็ถูกนำมาย่างกินในมื้ออาหารมื้อนี้ โดยที่พวกมันถูกโรยด้วยเกลือกำใหญ่ ไม่นานภูตทั้งหลายก็นั่งกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
ในเวลาเดียวกัน ภูตคนอื่นทำได้เพียงจ้องมองคนกลุ่มนั้นอย่างอิจฉา
ปัจจุบันทุกคนออกเดินทางจากเผ่ามานานหลายวันแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาได้แต่ดื่มเลือดเพื่อเสริมแร่ธาตุในร่างกายระหว่างการเดินทาง อีกทั้งไม่มีใครเคยได้กินเนื้อสัตว์ที่มีรสชาติดี ๆ เลยสักคน
เนื่องจากซีชากินเกลือเข้าไปเป็นจำนวนมากจึงทำให้ร่างกายกระหายน้ำ เขาเลยต้องดื่มน้ำไปมากกว่า 2-3 ชามใหญ่ ก่อนจะเรอเสียงดังแล้วผล็อยหลับไปด้วยใบหน้าอิ่มเอม
…
ในค่ำคืนที่เงียบสงัด
ยามนี้ภูตทั้งหมดอยู่ในห้วงนิทรา
จู่ ๆ ซีชาก็นอนกระสับกระส่ายก่อนจะตื่นขึ้นมาด้วยความอยากปัสสาวะ เขาจึงเดินตรงไปยังที่มืดห่างไกลจากค่ายพักแรมแล้วถกกระโปรงหนังสัตว์ขึ้น
ทว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นร่างที่ตามมาข้างหลังตนเลยแม้แต่น้อย