ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ผี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 คําพูดสุดท้ายที่คุณปู่ทิ้งไว้?

ตอนที่ 8 สิงร่าง


ฉันกํากริชกระดาษไว้ในมือและพูดในใจว่า "อย่าตกใจ อย่าตกใจ” ทันใดนั้น หลิวฉีฉี ก็ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ

เธอเอียงศีรษะมา แล้วน้ําลายฟูมเต็มปาก แล้วหัวเราะคิกคิกใส่ฉัน

สิ่งที่ฉันเห็นมันทำลายภาพลักษณ์ที่สวยงาม ของ หลิวฉีๆหายไปหมดเลย เธอเป็นเหมือนดอกไม้ประจําชั้นเรียนของเรามาโดยตลอด แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนคนบ้าบนถนน

หลิวฉีฉี วิ่งตรงมาที่ฉัน ฉันขมวดคิ้วและไม่รู้จะทําอย่างไร

เธอเข้ามาจับมือฉันและกัดฉันอย่างสุดแรง

"อา!"

ฉันพูดว่า “เธอเป็นสุนัขบ้าหรือยังงัย” ฉันต่อยเข้าไปที่หน้าเธออย่างแรง แต่เธอก็ไม่สะทกสะท้าน ราวกับว่าเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย

ไม่นานเลือดที่แขนฉันก็พุ่งขึ้นมา ฉันรู้ว่าตอนนี้ หลิวฉีฉี ถูกผีสิง ถ้าเป็นเช่นนั้น หลิวฉีฉี  อาจกัดฉันจนตายจริงๆ

ฉันมองไปที่ผีที่อยู่ข้างหลังของหลิวฉีฉี ผีตัวนี้ก็ยังยิ้มแปลกๆหลอนๆเหมือนเดิม ซึ่งฉันทำอะไรไม่ได้เลย

ฉันผลักหลิวฉีฉีออกไปด้วยแรงทั้งหมดของฉัน ฉันหันหลังกลับและต้องการจะวิ่งหนี แต่หลิวฉีฉี กลับพุ่งเข้ามาและกอดฉันไว้แน่นจากด้านหลัง

มันเจ๋งมาก ฉันรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังบนหน้าอกของหลิวฉีฉี จากด้านหลังอย่างชัดเจน ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ฉันอยากให้มันเกิดขึ้นนานๆ

ฉันก็รู้สึกว่าการจับผีมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ทันทีที่ฉันคิดฉันก็รู้สึกว่าฟันคู่หนึ่งกำลังกัดมาที่คอของฉัน เธอกัดฉันตรงหลอดเลือดแดง ถ้าฉันปล่อยไว้แบบนี้สักพักฉันคงตายแน่ๆ

ฉันหันกลับมาแล้วเผชิญหน้ากับเธอ แต่เธอยังคงกัดคอของฉันอยู่ ฉันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เธอกอดฉันแน่น และไม่เปิดโอกาสให้ฉันทำอย่างอื่นได้เลย

ทันใดนั้น พี่จิ่งฟงก็รีบวิ่งเข้ามาจากนอกประตู เขาถือกระดาษยันต์สีเหลืองไว้ในมือและติดไว้ที่ด้านหลังศีรษะของหลิวฉีฉี ร่างกายของหลิวฉีฉีราวกับว่าเธอสูญเสียกําลัง เธอหมดแรงและฉันก็กอดเธอ

ผีร้ายตัวนั้นก็หลบหนีออกจากห้องไปเมื่อพี่จิ่งฟงเข้ามา

“เร็วเข้า เราต้องรีบไล่ตามผีตัวนั้นไป”

ฉันอุ้มหลิวฉีฉีไปนอนบนเตียง แล้วก็รีบวิ่งตามพี่จิ่งฟงไป

"คุณไปทางขวา และฉันไปทางซ้าย จําไว้ว่าคนที่ถูกผีสิงจะ

มีลักษณะพิเศษที่ฉันเคยบอก แม้ว่าคุณจะอยู่ในเส้นทางแห่งความตาย ตราบใดที่ผียังแฝงอยู่ในร่างมนุษย์ คุณก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้” ผีตัวนั้นหายไปอย่างไร้ร่องลอย

ฉันเดินปิดแขนที่ถูกกัด และมองไปที่กริชกระดาษในมือของฉัน

บางทีฉันอาจจะประมาทและพยายามมากเกินไปในตอนนี้

และฉันก็บีบกริชกระดาษจนเป็นก้อนกระดาษ

ฉันเดินช้าๆ ไปที่ด้านหน้าของทางเดิน ฉันเอาหูแนบไปฟังเสียงในแต่ละห้อง พยายามหาความแตกต่าง แต่ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างปกติ

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าดังมาจากทิศทางของทางเดิน ฉันหันหน้าไปมอง นั่นคือ เจนนี่ เธอสวมชุดกระโปรงสีชมพู เธอกำลังมองกระเป๋าใบใหม่ทางขวามือของเธอด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดี แต่ตรงกันข้าม ฉันอารมณ์ไม่ดี เพราะฉันเห็นผีดุร้ายในชุดสีแดงกำลังลอยอยู่ข้างหลังเธอ

ฉันเหมือนเป็นอัมพาต ฉันได้แต่คิดว่าทำไมเธอถึงออกมาเดินเล่นกลางดึก ฉันเตือนเธอไม่ทัน ฉันเห็นวิญญาณผู้หญิงคนนั้นกำลังเข้าสิงร่างของเจนนี่

เหมือนกับที่ พี่จิ่งฟงพูดจริงๆ นิ้วเท้าของเธออยู่บนพื้นและส้นเท้าของเธอยกขึ้น  แต่ถึงแม้ส้นเท้าของเธอจะยกขึ้น เธอก็รู้สึกเหมือนแค่กำลังเหยียบอะไรบางอย่าง

ในไม่ช้าฉันก็เห็นหน้าของเจนนี่ค่อยๆซีดลง

ฉันกําลังคิดว่าจะทํายังงัยดี  เจนนี่ก็วิ่งพุ่งตรงเข้ามาที่ฉันด้วย

ฟันและกรงเล็บของเธอ ฉันเลยเตะไปทีท้องของเธอ แต่ฉันรู้สึกว่าเหมือนฉันเตะไปบนแผ่นเหล็กหนาๆ ฉันกระเดนกลับมาสองสามก้าว

ฉันรู้สึกชาๆที่เท้า ฉันมองไปที่เจนนี่ เธอกำลังจะกระโจนใส่ฉันอีกรอบ ฉันทำอะไรไม่ถูก ฉันเลยกัดลิ้นของฉันให้เลือดไหลออก

แล้วฉันก็พ้นเลือดใส่บนหน้าของเจนนี่

(อย่าเชื่อสิ่งที่ฉันพูดง่ายๆ  มันเจ็บมากมาก คุณสามารถลองกัดลิ้นเบา ๆ เพื่อให้รู้สึกได้)

ความพยายามของฉันในที่สุดก็เห็นผล ผีผู้หญิงเสื้อสีแดงลอยออกมาจากร่างของเจนนี่ แล้วหล่นกระแทกลงบนพื้น

มันได้ผล เลือด ที่ออกมาจากปลายลิ้นมันมีพลังจริงๆ

แน่นอน ตอนนี้ฉันไม่สนใจเจนนี่เลย  สายตาของฉันตอนนี้พุ่งตรงไปที่ผีสาวชุดแดง

ขณะที่ตาของฉันจดจ่ออยู่กับผีชุดแดงตัวนี้ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย และทันใดนั้นสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป ฉันเหมือนอยู่ในห้องที่มีผู้หญิงสวยๆล้อมรอบ ตาฉันพร่ามัว

"สุดหล่อ มานั่งลงก่อนสิ" ผู้หญิงสวยเหล่านั้นมองมาที่ฉันทีละคน ฉันกลืนน้ําลายของฉัน ฉันไม่เคยเห็นของดีแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต เจ๋งมาก ฉันอยากตะครุบทันที ฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังกอดฉันอยู่

ฉันหันศีรษะไปดูและเห็นว่าเป็นนักพรตลัทธิเต๋า นี่พี่จิ่งฟงนิ

ก่อนที่ฉันจะรู้สึกตัว พี่จิ่งฟงก็ตบฉันไปหลายที เมื่อฉันได้สติแล้วลืมตาขึ้น สาวสวยเหล่านั้นก็หายไป สิ่งเดียวที่มีอยู่ก็คือผีที่สวมชุดสีแดงเท่านั้น

"พี่จิงเฟิง เป็นอะไรหรือเปล่า มันเกิดอะไรขึ้นฉัน”

"คุณตกอยู่ในภาพลวงตาของภูติผี"

พี่จิ่งฟงจ้องมาที่ฉัน ทันใดนั้นก็หยิบตาข่ายขนาดใหญ่ที่ทําจากเชือกสีแดงออกมาแล้วหมุนไปที่ผีดุร้าย

ผีตัวนี้ดูเหมือนจะหมดพลัง ซึ่งต่างกันกับในตอนแรกมาก

ท้ายที่สุดมันได้รับบาดเจ็บจากยันต์ของพี่จิ่งฟง

และถูกเลือดจากปลายลิ้นของฉัน  มันต้องเจ็บหนักแน่ๆ

ตาข่ายนี้ดึงวิญญาณที่สวมชุดสีแดงไปติดกับผนังห้อง และมันก็ล้มลง ใยตาข่ายสีแดงขนาดใหญ่ราวกับใยแมงมุม กดผีร้ายลงกับพื้น และผีร้ายก็ดิ้นรนที่จะหนี แต่มันก็ไม่ได้ผล

“พี่จิ่งฟง พี่จัดการกับเธอได้แล้วใช่มั้ย ?”  ฉันเดินไปข้างๆพี่จิ่งฟงแล้วถามด้วย ความกังวลใจ

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ” พี่จิ่งฟงส่ายหัว

“วิญญานผีร้ายตัวนี้มีความแค้นมากเกินไป มีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่จะจัดการกับเธอได้

วิธีแรกคือ การตีวิญญาณของเธอให้แตกสลายโดยตรง แต่มันยากเกินไป

วิธีที่สองคือ ช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความโกรธแค้นนี้

“จะช่วยเธอยังไง?” ฉันถามด้วยความสงสัย

“ขึ้นไปที่ด้านบนของอาคารก่อนอยู่ตรงนี้เดี๋ยวจะมีคนมาเห็น”

พี่จิ่งฟง คว้าตาข่ายสีแดงที่ขังผีแล้ววิ่งไปที่บันได

ตอนนี้นักเรียนหลายคนโผล่หัวออกมาดู

แต่แน่นอนว่า พวกเขามองไม่เห็นผี

ฉันเดินตามพี่จิ่งฟงขึ้นไปบนสุดของอาคาร

พี่จิ่งฟงถามฉันว่า คุณท่องมนต์แห่งการจากไปได้มั้ย

ฉันส่ายหัว “ไม่ ฉันไม่รู้จักมนต์นี้”

พี่จิงเฟิงวิ่งมาหาฉัน แล้วยื่นตาข่ายที่ขังผีให้ฉันแล้วพูดว่า

“เร็วเข้า ถ้าฉันช่วยผีตัวนี้ไม่ทันเวลา เดวพลังของมันจะฟื้นคืน  ถือ จับมันไว้”

ฉันจับตาข่ายอย่างแน่นหนา ผีตัวนี้อยู่ในตาข่าย หดตัวเป็นลูกบอล และมันเบามาก ไม่มีน้ำหนักเลย

“ดึงความโกรธแค้นที่อยู่ในใจ เพื่อก่อเกิดเป็นจิตที่บริสุทธิ์ ในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ นะโม อมิตาภะ โปเย โปโรเย”

พี่จิ่งฟง นั่งขัดสมาธิเหมือนพระสงฆ์ เขาประสานมือเข้าด้วยกัน และท่องมนต์คาถา

ขณะที่พี่จิ่งฟงเริ่มสวดคาถา ผีดุร้ายตัวนี้ ก็ดิ้นและคํารามอยู่ตลอดเวลา ฉันคิดว่าเธอถูกขังอยู่ในตาข่ายและไม่สามารถทําร้ายฉันได้อย่างแน่นอน ฉันแค่หลับตา แล้วฉันก็จะมองไม่เห็นมัน

ผีดุร้ายในชุดสีแดงค่อยๆ เอามือคลุมหัวของเขาและทันใดนั้น พลังชั่วร้ายเป็นกลุ่มควันสีดําก็ค่อยๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังของเธอ

กลุ่มควันสีดำเหล่านี้ลอยเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว แล้วปกคลุมไปทั่วร่างกายของฉันในทันที

…………..

หลินหลินเป็นเด็กสาวหน้าตาดีที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม และพ่อแม่ของเธอก็ฝากความหวังไว้ที่เธอเป็นอย่างมาก

หลินหลินได้พบกับแฟนตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เขาไม่หล่อแต่ใจดีมาก เขาซื้ออาหารให้กินและส่งไปหลินหลินกลับบ้านทุกวัน

ตอนแรกหลินหลินแค่อยากจะสนุกๆไปวันๆ  แต่เธอไม่คาดคิดว่าเธอจะตกหลุมรักเขาอย่างช้าๆ

ในไม่ช้า หลินหลิน ก็ตกหลุมรักชายที่ชื่อ ซูฉิน คนนี้จริงๆ

แม้แต่ในระหว่างคาบเรียน เธอก็อดใจรอไม่ไหวที่จะได้เจอหน้ากัน

ไม่นานหลังจากจบมัธยมปลายปีที่สามก็มีการประกาศผลการเรียน เกรดของหลินหลินก็ดีมาก เธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหัวและมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้เลย

แต่เกรดการเรียนของซูฉินแย่มาก

“หลินหลิน เธออย่าไปเรียนโรงเรียนพวกนั้นเลย ถ้าคุณจากไปและทิ้งฉันไว้คนเดียว ฉันจะติดต่อคุณได้อย่างไรในอนาคต

คุณเชื่อเรื่องความสัมพันธ์ทางไกลไหม”

ซูฉินเรียกหลินหลินมาคุยหนึ่งวันก่อนที่จะมีการสอบเข้าวิทยาลัย

หลินหลินก็ลังเลในคำพูดนั้น

ซูฉินรู้จักหลินหลินเป็นอย่างดี เขาจึงพูดว่า "ฉันจะหาเงินมาเลี้ยงดูคุณเอง เชื่อฉัน"

“คุณจะเป็นคนที่ฉันรักที่สุด ถ้าฉันนอกใจคุณในสักวัน ฉันขอให้ฉันถูกฟ้าผ่าตายอย่างน่าสยดสยอง”

หลินหลินเชื่อในความรักของ ซูฉิน เธอจึงไม่ตั้งใจทำข้อสอบแล้วเธอก็สอบตกจริงๆ

แต่ในที่สุดหลินหลินก็พบมหาวิทยาลัยธรรมดาๆ ในเมือง

ในขณะที่ซูฉินไม่ได้เรียนต่อ แต่เขาเลือกที่จะไปทำงานที่เขาคิดว่ามีอนาคตสำหรับเขา

หลังจากนั้นทุกวันที่หลินหลินกลับมาถึงบ้านเช่า

เขาได้ยินคำพูดจากปากซูฉินในทุกๆวันว่าเขาไปทุบตีคนอื่นมา และไปรับน้องชายสองสามคนไปเที่ยวด้วยกัน

แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือซูฉินยังคงชอบในตัวของเขา  และนั่น ก็เพียงพอแล้ว หลินหลินคิดแบบนั้น

บุคลิกของซูฉินเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ หลินหลิน ก็เริ่มตั้งครรภ์เมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ซูฉินรู้ เขาก็เริ่มเปลี่ยไปและไปพบผู้หญิงอื่นข้างนอก

“ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ตอนนี้ฉันคงไม่อยู่ในสภาพแบบนี้  ไม่เป็นไรสำหรับเขาที่จะนอกใจฉัน แต่นี่เขาต้องการฆ่าลูกของเรา ฉันต้องการให้เขาตาย! เขาเป็นขยะ!”

.....

ฉันเห็นช่วงเวลาที่หลินหลิน กระโดดลงจากอาคารด้วยความโกรธแค้น

ในใจของเธอมีแต่ความเจ็บปวดจนอธิบายไม่ได้

และในที่สุดความโกรธแค้นที่เธอมี ก็ค่อยๆลดลง ปรากฎว่าเธอไม่ต้องการฆ่าใครและเธอก็น่าสงสารมากๆ

ฉันมองลงไปที่หลินหลินซึ่งนั่งยองๆอยู่บนพื้น ในเวลานี้ชุดสีแดงบนตัวของเธอเปลี่ยนมาเป็นสีขาว เธอมองมาที่ฉันและยิ้ม

เท้าของหลินหลินเริ่มโปร่งแสงเป็นสีขาวกระจายไปในอากาศ

“พี่ชายทั้งสอง ขอบคุณที่ไม่ปล่อยให้ฉันทำอะไรผิด

ฉันขอบคุณจริงๆที่ช่วยปลดปล่อยฉัน”

ฉันหวังให้พี่ทั้งสองช่วยฉันเป็นครั้งสุดท้าย" หลินหลินมองมาที่ฉันและพี่จิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม

"ฉันหวังว่าพี่ทั้งสองคนจะนำเถ้าถ่านของฉันกลับไปให้พ่อแม่ของฉัน และฝากบอกกับพวกเขาว่าลูกสาวคนนี้ขอโทษที่ไม่เชื่อฟังคำพูดของพวกเขาตั้งแต่แรก ตอนนี้มันสายเกินไป ฉันของโทษจริงๆ"

ขณะที่หลินหลินร้องไห้ ฉันก็ขมวดคิ้วแล้วมองดูดวงวิญญาณของเธอค่อยๆเลือนลอยหายในอากาศ

“มันจบลงแล้ว” ฉันถอนหายใจ และในที่สุดหัวใจของฉันก็ผ่อนคลาย

พี่จิ่งฟงขมวดคิ้วมองมาที่ฉันและพูดว่า "ถึงวาระแล้ว"

"คุณหมายถึงอะไร" ฉันถามแปลก ๆ

พี่จิ่งฟงชี้ไปที่แขนขวาของฉันแล้วพูดว่า "ดูสิ"

ฉันมองไปข้างมือขวาและเห็นรอยดําบนแขนที่ดูเหมือนงูกัด

"นี่คืออะไร" ฉันขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

“เมื่อครู่นี้ พลังชั่วร้ายได้พุ่งเข้าใส่คุณ”

“ตอนนี้พลังชั่วร้ายอยู่ที่เส้นลมปราณของมือขวาของคุณ ภายในสามวัน พลังชั่วร้ายนี้จะโจมตีหัวใจของคุณแน่นอน . คุณจะตายทันที”พี่จิ่งฟง พูด ขมวดคิ้วและมองไปที่แขนของฉัน

"อะไรนะ?  คุณมียาแก้พิษหรือไม่? ฉันขอยาแก้พิษหน่อย”

พี่จิ่งฟงส่ายหัว: "วิญญาณชั่วร้ายแตกต่างจากพิษศพ พิษศพเป็นสารพิษที่เกิดและสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้พิษ

แต่วิญญาณชั่วร้ายนี้มองไม่เห็น ฉันมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะแก้วิญญาณชั่วร้ายนี้ได้

วิญญาณชั่วร้ายได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถแก้ไขได้"

"ฉันทำได้เพียงผนึกวิญญาณชั่วร้ายนี้ด้วยเครื่องราง คนเดียวที่สามารถปลดปล่อยวิญญาณชั่วร้ายนี้ได้ต้องเป็นผู้สืบทอดเวทมนต์แห่งวิชาทั้งห้า"

พี่จิ่งฟงพูดแล้วเขาหยิบพู่กันออกมาวาดยันต์ที่ดูซับซ้อนมาก

หลังจากที่เขาวาดเสร็จ หน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

"เอายันต์นี้ติดตัวไว้ เก็บไว้กับตัวตลอดเวลาห้ามเอาออก”

“ฉันไม่รู้ว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหน ฉันจะหาผู้สืบทอดที่คุณพูดถึงได้อย่างไร” ฉันถาม

“ในสมัยโบราณ มีศาสตร์อยู่ 5 อย่าง ได้แก่ ภูเขา ยา โชคชะตา โหงวเฮ้ง และการทำนาย”

“แม้ว่าศาสตร์ทั้ง 5 นี้จะมีหลายร้อยแขนง แต่มีอยู่ 5 เล่มที่

ได้รับการถ่ายทอดสูงสุดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากลัทธิเต๋าโบราณ  หนังสือ 5 เล่มล้วนเป็นเล่มที่ถ่ายทอดมาโดยตรง”

“ไม่ว่าคุณจะหามันเจอหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของคุณเอง”

พี่จิ่งฟงมองมาที่ฉันและถอนหายใจ

“ว้าว ตอนแรกฉันคิดว่าผีผู้หญิงเป็นผีที่ดี แต่สุดท้ายฉันก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นผีที่ดุร้าย”

อย่าโทษเธอเลย เธอคงไม่รู้ว่าพลังอันชั่วร้ายในร่างของเธอจะเข้าสิงร่างคุณ"   จิ่งฟงส่ายหัว

"หนังสือในมือคุณคือหนังสือภูเขา เป็นหนังสือที่บันทึกวิธีการจับ ผีและกำจัดปีศาจ”

"ยันต์ของฉันสามารถระงับวิญญาณชั่วร้ายได้ไม่เกินสามปีเท่านั้น

หากคุณไม่สามารถหาผู้สืบทอดทักษะทางการแพทย์ได้ภายในสามปี คุณจะตาย” จิ่งฟงตบไหล่ฉัน



นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันมาเที่ยวเฉยๆ แต่ดันมาเจอผีกับศฟ แล้วสุดท้ายก็ถูกพลังชั่วร้ายเล่นงาน ถ้าหาคนผู้นั้นไม่เจอ ฉันอยู่ได้แค่สามปี นี่มันอะไรกัน จีนมีประชากร 1.3 พันล้านคนทะเลอันกว้างใหญ่ ฉันจะหาทายาทคนนั้นได้ที่ไหน? ….

โปรดติดตามตอนต่อไป

แปลโดย Theblack108









































0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด