ตอนที่แล้วบทที่ 25 - การต่อสู้ของเสี่ยวจิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 - แบ่งชีวิต

บทที่ 26 - การตายของเสี่ยวจิน


เสือเพลิงแดงของไห่รื่อ เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วส่งเสียงคำราม เหมือนกับลูกธนูสีแดง มันพุ่งเข้าใส่เสี่ยวจิน เสี่ยวจินรู้สึกหวาดกลัวแต่ยังร่ายเวทย์โล่ผลึกแสงไว้บนตัว แล้วยิงธนูแสงเข้าใส่เพื่อหยุดการพุ่งเข้าใส่ของเสือเพลิงแดง

ไม่ดีแล้ว! ผมรู้สึกได้ในทันทีว่าเสี่ยวจินกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมรู้สึกถึงความหวาดกลัวของมัน

“เสี่ยวจิน กลับมา” ผมต้องการเรียกเสี่ยวจินกลับ แต่มันสายเกินไปแล้ว

ธนูแสงของเสี่ยวจินเหมือนกับเป็นการเกาให้กับเสือเพลิงแดง มันไม่สนใจแม้แต่จะหลบลูกธนู ในชั่วเวลาที่เสี่ยวจินได้ยินเสียงผมเรียก และเริ่มจะถอยกลับเพื่อเข้าสู่ร่างกายของผม แต่เสือเพลิงแดงไม่เปิดโอกาสให้ มันร่ายเวทย์วงแหวนไฟล้อมตัวเสี่ยวจินไว้ ป้องกันไม่ให้มันหนีออกมา

เจ้าเสือเพลิงแดง ตะปบมาที่เสี่ยวจินอย่างดุร้าย พร้อมกับร่ายเวทย์ไฟระดับกลางอีก 3 เวทย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เห็นเสี่ยวจินตกอยู่ในอันตรายทำให้ผมรู้ตัวเป็นครั้งแรกว่าเสี่ยวจินสำคัญกับผมแค่ไหน แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันมาเพียงไม่กี่เดือน มันเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว

“ไม่!!” ผมตะโกนลั่น

ผมรวบรวมพลังเวทย์ที่เหลืออยู่และร่ายเวทย์โล่ผลึกแสงให้เสี่ยวจิน แต่ด้วยพลังเวทย์อันน้อยนิด มันจะส่งผลอะไรได้?

ตอนนี้ ไห่รื่อเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของเสือเพลิงแดง “หง (แดง) กลับมา มันจบแล้ว” เขารีบพยายามเรียกเสือเพลิงแดงของเขากลับ เสือเพลิงแดงทำท่าเหมือนจะชะงัก ก่อนจะพุ่งเข้าหาเสี่ยวจินโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลแม้แต่นิดเดียว

เวทย์ไฟพุ่งใส่เสี่ยวจินของผมอย่างโหดร้าย เสี่ยวจินร้องครวญครางออกมาก่อนที่จะถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง

“เสี่ยวจิน!” ผมร้องออกมาด้วยหัวใจที่แหลกสลาย แต่มันจะช่วยอะไรได้?

ผู้คนที่มองดูอยู่รอบ ๆ รู้สึกตกตะลึง พวกเขานึกไม่ถึงว่าการประลองชี้แนะครั้งนี้จะมีการตายเกิดขึ้น

“พี่ใหญ่” เพราะว่าเขาหยุดตกตะลึงและเห็นผมตกอยู่ในอันตราย หม่าเคอกระโจนเข้าใส่เสือเพลิงแดงทันที แต่มันไม่ทันการณ์แล้ว เขาเข้ามาสายเกินไป เสี่ยวจินถูกกลืนไปในเปลวเพลิงแล้ว

“ไห่รื่อ แกมันอำมหิตเกินไปแล้ว ถึงฉันจะตามจีบน้องสาวแก แกก็ไม่ควรทำเกินไปแบบนี้” หม่าเคอตะคอกใส่ไห่รื่อ

“ไม่ มันไม่ใช่ฉัน! หงหง มันไม่ฟังคำสั่งฉัน! หงหง รีบกลับมา” บางทีเสือเพลิงแดงอาจจะรู้สึกว่าเสี่ยวจินตายไปแล้ว ดังนั้นมันเลยฟังคำสั่งแล้วกลับเข้าไปในตัวของไห่รื่อ

ทุกคนยืนอึ้งเหมือนคนโง่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าสัตว์เวทย์มีความหมายอย่างไรกับเจ้าของ การตายของสัตว์เวทย์สร้างแรงกระแทกอย่างเปรียบเทียบไม่ได้ต่อเจ้าของของมัน

ผมกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง การมองเห็นของผมมืดลง แล้วผมก็หมดสติไป

“เสี่ยวจิน เสี่ยวจิน อย่าตายนะ!” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย มีคนจำนวนหนึ่งยืนอยู่รอบ ๆ สภาพของผมตอนนี้เหมือนคนตายซาก

“เสี่ยวจิน เสี่ยวจินอยู่ไหน? รีบเอาเสี่ยวจินกลับมา” ผมมองไปรอบ ๆ

“พี่ใหญ่ อย่าเสียใจไปเลย เสี่ยวจิน มัน...” หม่าเคอก้มหน้าลงตอนเอ่ยประโยคพวกนี้ออกมา

“ไม่! เสี่ยวจินต้องไม่ตาย มันต้องไม่ตาย”

“สัตว์เวทย์ของนายเป็นประเภทเติบโต มันเป็นความผิดของฉันเองที่ปล่อยหงออกมา สัตว์เวทย์ระดับขั้นจะโจมตีสัตว์เวทย์เติบโตทันทีที่มันเจอ” ตอนนี้ไห่รื่อไม่มีทีท่าหยิ่งผยองอีกแล้ว หัวของเขาตกลง

ผมหันหน้าไปมองไห่รื่อ “แก! แกนั่นแหละ! เอาเสี่ยวจินของฉันคืนมา”

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ดูแลตัวเองให้ดี ถ้าต่อไปต้องการอะไร บอกฉันได้เลย ไม่ต้องลังเล” ไห่รื่อ หันหน้าไปพูดกับไห่เย่ว “น้องหญิง ไปกันเถอะ”

ไห่เย่ว เดินเข้ามา “เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเรา พวกเราไม่ควรบังคับให้นายลงประลองชี้แนะ เราจะพยายามชดเชยให้สุดความสามารถ ฉันเสียใจด้วยกับการสูญเสียของนาย”

แม้แต่เสียงอันอ่อนโยนของไห่เย่วก็ไม่สามารถปลอบโยนหัวใจที่แตกสลายของผมได้ ผมตะโกนใส่เธอด้วยความโกรธ “ชดเชย? พวกแกจะชดเชยอะไรได้? พวกแกจะบอกว่าพวกแกทำให้เสี่ยวจินกลับมามีชีวิตได้อย่างนั้นหรือ? นี่มันชีวิต? นี่มันชีวิตเล็ก ๆ ที่น่ารัก” น้ำตาผมไหลอย่างควบคุมไม่ได้

“พี่ใหญ่ อย่าทำอย่างนี้เลย” หม่าเคอไม่รู้จักความกลัว เขายังปกป้องไห่เย่วจากคนที่อยู่ในสภาพโศกเศร้าอย่างผม

“แก! แกก็รู้จักแต่ตามจีบผู้หญิง ไม่ใช่ความผิดแกหรือยังไงที่เสี่ยวจินของฉันตาย เสี่ยวจิน เสี่ยวจินเป็นยังไงบ้าง? เสี่ยวจินอยู่ไหน?” ตอนนี้ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

หม่าเคอไม่กล้าพูดอะไร เขาถือถุงขนาดใหญ่แล้วส่งมาให้ผม

ผมแกะปากถุง เสี่ยวจินที่ปกติมีสีขาวราวหิมะ ตอนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายมันถูกไหม้เป็นสีดำ เหลือแต่แถบสีทองที่ยังพอมองเห็นได้ลาง ๆ

“เสี่ยวจิน ฮือฮือ” อย่างขมขื่น ผมเริ่มร้องไห้

“พี่ใหญ่ อย่าเป็นแบบนี้สิ”

“ออกไป! พวกแกออกไปให้หมด ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกแก”

หลังจากที่เห็นผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ทุกคนก้มหน้าเก็บความรู้สึกเศร้า แล้วเดินออกจากห้องไปทีละคน เจ้าผมเขียว กับเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คนที่ผมไม่คุ้นเคยมากนักก็ออกไปด้วย

ตอนนี้เหลือผมอยู่แค่คนเดียว ผมเริ่มรวบรวมพลังเวทย์ด้วยพลังทั้งหมด แล้วร่ายเวทย์ฟื้นฟูวิญญาณธาตุให้กับเสี่ยวจิน ร่างของเสี่ยวจินอาบไปด้วยธาตุแสง เปลี่ยนรอยไหม้ที่ดำกลับมาขาวราวหิมะอีกครั้ง แต่ผมรู้ การทำแบบนี้ไม่สามารถนำมันกลับมาจากความตายได้

“สิ่งที่เธอทำอยู่มันไม่ได้ผล...มันไร้ประโยชน์” หูของผมได้ยินเสียงแปลก ๆ ที่ฟังคุ้น ๆ

“ฉันบอกให้แกออกไป! ทำไมยังไม่ไปอีก? ฉันไม่ต้องการให้พวกแกมาดูแลฉัน!” ผมโวยวายอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์

“แม้ว่าฉันจะช่วยสัตว์เวทย์ของเธอได้? เธอก็ยังไม่ต้องการฉันที่นี่หรือ?”

“อะไรนะ?” ตัวผมสั่น ผมรีบเงยหน้าขึ้น หือ นี่มันเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด