บทที่ 27 - แบ่งชีวิต
นักเวทย์เฒ่าในชุดคลุมขาวเดินมาข้างหน้าผมแล้วลูบหัวผม
“เด็กโง่ ไม่ต้องเศร้าโศกให้มากนัก ให้อาจารย์ดูสัตว์เวทย์ของเธอก่อน บางทีอาจารย์อาจยังสามารถช่วยมันได้”
“จริงรึ? นี่ครับ” ผมมีความหวังขึ้นมา ส่งเสี่ยวจินให้เขา
“ไม่ว่าจะอย่างไร อาจารย์ต้องทำให้มันฟื้น ทั้งหมดที่ผมต้องการคือให้เสี่ยวจินกลับมามีชีวิต ผมไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว ได้โปรด! ผมขอร้องล่ะ” ผมจับมือ นักเวทย์เฒ่า ขอร้องอย่างหมดหวัง
นักเวทย์เฒ่าไม่ได้ตอบ เขาวางมือลงบนร่างของเสี่ยวจินแล้วรัศมีสีขาวค่อย ๆ สว่างขึ้น มันไม่ได้สว่างจนแสบตาแต่มีความอ่อนโยน หลังจากนั้นไม่นานแสงสีขาวก็คลุมตัวเสี่ยวจินจนหมด มันดูเหมือนเวทย์ฟื้นฟูวิญญาณของผม แต่มันมีบางอย่างที่ต่างออกไป
หลังจากรอด้วยความกระวนกระวายอยู่พักใหญ่ นักเวทย์เฒ่ายกมือออกจากร่างของเสี่ยวจินพร้อมถอนหายใจออกมา
ความหวังของผมหล่นหายลงเหวไปในทันที “มันเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? มันไม่มีความหวังในการทำให้มันฟื้นแล้วเหรอ? ผมถามอย่างหมดความอดทน
“เด็กน้อย ไม่ต้องกังวล ฟังอาจารย์ สัตว์เวทย์ของเธอเป็นสัตว์เวทย์ประเภทเติบโตที่ดีที่สุดที่อาจารย์เคยเห็นมา ถ้าเธอไม่แน่ใจว่ามันจะสามารถป้องกันตัวเองได้ ทำไมเธอถึงส่งมันออกมา? อาจารย์คนก่อนของเธอไม่เคยบอกเธอเหรอ?”
ผมก้มหัวของผมลงอย่างอับอาย “เขาบอกผมแล้ว แต่ผม...ผมตอนนั้นแตกตื่นเกินไป ผมลืม”
“ไม่ต้องโทษตัวเอง เธอควรต้องรับผิดชอบในส่วนของโชคร้ายที่เธอนำมันมาสู่ตัวเองแทน”
“แล้วเรายังสามารถรักษาเสี่ยวจินได้ไหมครับ?”
“บางทีได้ บางทีอาจจะไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับเธอ” นักเวทย์เฒ่ามองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย
“ผม!? ถ้าอย่างนั้นรีบบอกผมว่าผมต้องทำอะไร”
“ตอนนี้ สถานการณ์เป็นแบบนี้ เมื่อสักครู่นี้ อาจารย์ตรวจอาการของสัตว์เวทย์ของเธอแล้ว อาการบาดเจ็บของมันได้เวทย์ฟื้นฟูวิญญาณธาตุของเธอรักษาเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามันใช้พลังชีวิตของมันหมดไปแล้วตอนที่โดนสัตว์เวทย์ของไห่รื่อโจมตีครั้งสุดท้าย ปัญหาหลักคือจะหาพลังชีวิตที่พอเพียงสำหรับมันที่จะรอดชีวิต และปลุกมันให้ฟื้นสติขึ้นมาได้อย่างไร”
หลังจากผมเห็นนักเวทย์เฒ่าพูดจบ ผมรีบขัดจังหวะ “แล้วผมต้องทำอะไร?”
“ก่อนที่อาจารย์จะบอกเธอ อาจารย์ต้องถามคำถามเธอก่อน”
“ถาม?”
“เธอรักสัตว์เวทย์ของเธอมั้ย?”
“แน่นอนผมรักมัน มันเหมือนคนในครอบครัวของผม” ผมตาแดง ๆ ตอนที่พูด
“ดี! แล้วเธอยินดีที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้มันมั้ย? แม้แต่ชีวิตของเธอเอง?”
โดยไม่มีความลังเลแม้สักนิดเดียว ผมตอบกลับ “ผมยอม ถ้าจะทำให้มันฟื้น ผมยอมทำทุกอย่าง”
มองดูความมุ่งมั่นที่ผมแสดงออกมา นักเวทย์เฒ่าเผยรอยยิ้มยอมรับเล็ก ๆ “ดี ดีมาก เพื่อที่จะชุบชีวิตมัน เธอต้องให้พลังชีวิตกับมัน นั่นคือเธอต้องยอมแบ่งพลังชีวิตของเธอ และแบ่งให้มัน พูดอีกอย่างก็คือ มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ หลังจากใช้พลังชีวิตของเธอแล้วจะสามารถปลุกสติของมันขึ้นมาได้ มีเธอคนเดียวที่ทำอย่างนี้ได้”
แยกพลังชีวิตของผม และแบ่งให้มัน? ผมจะทำได้ยังไง? แล้วมันจะมีผลกระทบยังไงในอนาคต?”
“ถ้าเธอทำสำเร็จ มีหลายอย่างที่อาจารย์มั่นใจ ข้อแรก ในอนาคตไม่มีทางที่เธอจะมีสัตว์เวทย์ตัวอื่นได้อีก ข้อที่ 2 ชีวิตของมันจะผูกอยู่กับเธอ ถ้าเธอตายมันจะตายด้วย และข้อที่ 3” นักเวทย์เฒ่าหยุดพูดชั่วครู่ “พลังชีวิตของเธอจะลดลงครึ่งหนึ่ง”
“ลดลงครึ่งหนึ่ง? ผมเข้าใจ 2 ข้อแรก แต่ลดลงครึ่งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร? มันจะส่งผลยังไง?”
“อธิบายง่าย ๆ ถ้าอายุไขของเธอโดยปกติแล้วคือ 120 ปี (อายุไขโดยเฉลี่ยของมนุษย์) แต่เธอแบ่งพลังชีวิตให้สัตว์เวทย์ของเธอ อายุไขของเธอจะเหลือเพียง 60 ปี เธอพร้อมจะสละอายุไข 60 ปีเพื่อชุบชีวิตของมันมั้ย?”
ผมมองไปที่เสี่ยวจิน ร่างของมันยังมีสีขาว แต่แถบสีทองเริ่มจะจางลงไปแล้ว ผมลูบหัวมัน
ด้วยการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ผมตอบ “ผมยอม” ตั้งแต่ตอนนั้น บุตรแห่งแสงและคู่หูแห่งชีวิต ได้เริ่มต้นทำสัญญานิรันดร์กาล
“เด็กดี เธอไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง!” นักเวทย์เฒ่าพอใจ “สบายใจได้ ต่อไป อาจารย์จะหาวิธีช่วยเพิ่มอายุไขของเธอให้ ตอนนี้พวกเราเริ่มได้แล้ว”
ผมพยักหน้า
พวกเราเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ นักเวทย์เฒ่าร่ายเวทย์ป้องกันอันแข็งแกร่งป้องกันไว้โดยรอบ
“เราจะเริ่มเลย” ผมพยักหน้าไปทางเขา
ผมนำร่างของเสี่ยวจินไปวางตรงกลางของเวทย์รูป 6 เหลี่ยมกลางห้องอย่างระมัดระวัง มองไปที่มันอย่างเป็นห่วง หลังจากนั้นผมยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาสูงเท่าระดับหัวของตัวเอง เริ่มต้นร่ายเวทย์ที่ร่ายได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตของผม ‘แบ่งชีวิต’
นักเวทย์ชราเล่าว่ามันเป็นเวทย์โบราณที่เขาพบมันจารึกอยู่บนแผ่นหินในซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง เขาไม่เคยใช้เวทย์นี้มาก่อน และไม่แน่ใจผลลัพธ์จริง ๆ ว่ามันมีอะไรบ้าง เขาไม่คิดเลยว่าเวทย์นี้จะมีส่วนช่วยผมอย่างมากตอนที่ผมเป็นมหาเมธีเวทย์ในอนาคต การใช้เวทย์นี้ทำให้ผมเข้าใจธรรมชาติของธาตุแสง ‘รักและเสียสละ’
“โอ้! พระเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ผู้ยิ่งใหญ่! ข้าร้องของความช่วยเหลือของท่าน ด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุดได้โปรดเปิดต้นกำเนิดแห่งชีวิตของข้า ข้าต้องการทำสัญญานิรันดร์กาลกับสิ่งมีชีวิตเบื้องหน้า สัญญาแบ่งชีวิต!”
หลังจากจบคำร่าย ร่างของผมเริ่มสว่างขึ้นด้วยแสงสีขาวนวลอ่อนโยน มันสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จนปกคลุมไปทั่วร่างของผม แสงสีขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง ตอนนี้ผมเหมือนกลายเป็นดวงดาว เมื่อรัศมีสีทองสว่างจนถึงที่สุด จุดสะสมพลังที่หว่างคิ้วของผมปรากฏแสงสีทองพุ่งออกมามุ่งตรงไปหาเสี่ยวจิน แสงสีทองปกคลุมร่างของเสี่ยวจิน รวมตัวกับเป็นบอลแสงและลอยขึ้นจากพื้น ก่อนที่จะลอยหายเข้ามาในร่างกายของผม
แสงรอบ ๆ ตัวผมเริ่มจางลงและค่อย ๆ หายไป ผมเริ่มรู้สึกอ่อนแอลงอย่างมากจนรู้สึกผิดปกติ แต่ผมรับรู้ได้ถึงตัวตนของเสี่ยวจิน ผมร้องเรียกมันเบา ๆ ในห้วงความคิด “เสี่ยวจิน แกกลับมาแล้ว” ก้อนแสงสีทองที่อยู่ในร่างกายผมสั่นเล็กน้อย ความรู้สึกที่อบอุ่นพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของแสงสีทอง ผมรู้ได้ทันที เสี่ยวจิน มันกลับมาแล้ว ด้วยใจที่สงบลง ตาผมค่อย ๆ ปิดลงแล้วหมดสติไป