ตอนที่แล้วบทที่ 24 – การประลองที่เลี่ยงไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 - การตายของเสี่ยวจิน

บทที่ 25 - การต่อสู้ของเสี่ยวจิน


ผมรวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมด และเริ่มร่ายเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของผม ‘คมดาบแสง’ ผมตั้งใจจะจบศึกนี้ด้วยการโจมตีเต็มที่ครั้งเดียว

ผมรู้สึกได้ว่าธาตุไฟรอบตัวผมกำลังบ้าคลั่ง ด้วยการที่ไห่รื่อเคลื่อนตัวไปรอบ ๆ ทั่วสนามกลายเป็นร้อนเหมือนไฟสุด ชั้นเพลิงหนารวมกันอยู่บนตัวของเขา ซ่อนเขาไว้หลังเปลวเพลิง ตอนนี้ไห่รื่อกลายเป็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่พุ่งไปพุ่งมาอยู่ในสนาม ผมเริ่มมองเห็นเขาไม่ชัด เลยใช้วิธีหลับตาแล้วใช้ความรู้สึกจับความเคลื่อนไหว และตำแหน่งของไห่รื่อ ผมรู้ว่าเขากำลังรวบรวมธาตุไฟ แล้วเมื่อเขาหยุดเคลื่อนไหว เขาจะปล่อยสุดยอดเวทย์โจมตีออกมาแน่นอน การประลองครั้งนี้ ไม่ใช่การประลองทักษะแล้ว ที่มันแย่ก็คือ พลังทั้งหมดของไห่รื่อแน่นอนว่าสูงกว่าพลังของผม

“พี่ใหญ่ ระวังด้วย นี่มันเวทย์ไฟระดับสูง ‘เพลิงคลั่ง’ ผมไม่เคยคิดว่ามันจะใช้แบบนี้ได้ ผมไม่เรียนเวทย์นี้เพราะมันร่ายเวทย์ช้าและใช้เวลานานในการปล่อยเวทย์” หม่าเคอตะโกนเข้ามาจากข้างนอก

“พี่ใหญ่ ทำไมพี่ใช้เวทย์ร้ายแรงขนาดนั้น? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะทำยังไง?” ดูเหมือนว่าเด็กสาวจะยังมีความเมตตา ผมซาบซึ้งนิดหน่อย

“น้องหญิง ไม่ต้องห่วง พี่คุมได้” เสียงไห่รื่อดังออกมาจากลูกไฟ

ดูเหมือนว่าเขาจะคุมอยู่ ฮ่าฮ่า สบายใจได้นิดหน่อย ลองดูว่าผมจะต้านทานเวทย์ที่ใช้เวลารวมพลังอย่างยาวนานได้หรือไม่

ผม ‘ขอร้อง’ ให้ธาตุแสงมารวมตัวกันได้มากพอที่จะใช้คมดาบแสงแล้ว (อย่างไรก็ตาม ผมได้รับการยอมรับจากธาตุแสง ดังนั้นความเร็วในการรวบรวมธาตุแสงของผมสูงมาก) ตอนนี้ ผมกำลังรอไห่รื่อ

ธาตุไฟที่กระจัดกระจายอยู่เริ่มไหลลงมาจากท้องฟ้า มารวมตัวกันอยู่หน้าผม เสียงของไห่รื่อดังจากบอลไฟลูกหนา “พวกเรามาจบการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยเวทย์เดียวแล้วกัน”

“เพลิงคลั่ง” สิ้นเสียงของไห่รื่อ กำแพงไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหาผม ดูโหดร้ายมาก

“คมดาบแสง” ธาตุแสงจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มรวมตัวกันเป็นดาบที่เปล่งประกายไปด้วยแสง พุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับกำแพงไฟ

พลังของคมดาบแสงแม้จะไม่ด้อยกว่าเพลิงคลั่ง แต่พลังเวทย์ของผมกลับน้อยกว่าของไห่รื่อ ดังนั้นคมดาบแสงของผมถูกกดดันด้วยเพลิงคลั่ง  แม้จะเป็นอย่างนั้น มันก็ยังหยุดการรุกคืบเข้ามาของเพลิงคลั่งได้ ผมแค่ต้องค่อย ๆ ผลักดันมันกลับไป

หลังจากที่เวทย์ทั้ง 2 ปะทะกัน ผมเริ่มรับรู้ถึงความแตกต่างของระดับพลังเวทย์ ผมใช้พลังทั้งหมดแล้วยังรู้สึกว่ายากที่จะต้านทานไว้ ผมอ้อนวอนเงียบ ๆ อยู่ในใจ “คุณลุงคุณป้าธาตุแสง ช่วยผมด้วย? ผมจะทนไม่ไหวแล้ว”

เหงื่อเริ่มซึมออกมาบนหน้าผากของผม กำแพงไฟอยู่ห่างจากผมเพียง 5 เมตร ดูจากท่าทางของไห่รื่อแล้ว เขายังเหลือพลังเก็บไว้ไม่น้อย

ธาตุแสงตอบรับต่อคำอ้อนวอนของผม พวกเขารวมตัวกันด้วยความเร็วที่มากขึ้นเล็กน้อย ความเร็วของการรวมพลังเวทย์ที่เพิ่มขึ้นทำให้ผมเริ่มได้เปรียบ ด้วยพลังของธาตุแสงที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ผมต้านทานได้นานมากขึ้นด้วย

ถึงตอนนี้ ไห่รื่อดูรู้สึกแปลกใจ เขาไม่คิดว่าเวทย์ของผมจะมีพลังระดับนี้ สามารถต้านทานการโจมตีได้นานขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เขาเริ่มรู้สึกว่าการรักษาการโจมตีของเพลิงคลั่งไว้ ต้องใช้พลังเวทย์ที่มากขึ้นอีก ผมยังทนอยู่ได้อย่างไร

“ดี! ดูเหมือนว่านายยังต้านไหว งั้นฉันจะให้นายเห็นว่าฉันจริง ๆ แล้วแข็งแกร่งแค่ไหน! ธาตุไฟ จงลุกโชน ด้วยเพลิงคลั่งอันไร้สิ้นสุด จงมอดไหม้!” นี่มันเวทย์เพิ่มพลังไฟ ถึงผมจะไม่รู้ชื่อของเวทย์นี้ ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี

จริง ๆ แล้วไห่รื่อถูกบังคับให้ใช้เวทย์นี้ เนื่องจากเขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถคงการโจมตีของเพลิงคลั่งให้นานกว่านี้ ถ้าเขาไม่เพิ่มพลังโจมตี คงโดนผมโต้กลับ

เพลิงคลั่งที่ถูกเสริมพลังด้วยเวทย์เพิ่มพลังไฟ ทำให้ผมรู้สึกว่าถูกกดดันเพิ่มเป็น 2 เท่า กำแพงไฟรุกคืบเข้ามาอย่างรวดเร็วมาถึงตรงหน้าผม ผมรู้สึกเหมือนอยู่บนขอบเหวแห่งความตาย ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

โล่ผลึกแสงบนตัวผมช่วยชะลอการรุกคืบของกำแพงไฟอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังขยับเข้ามาทีละนิด ทีละนิด เลือดเริ่มไหลออกมาที่มุมปากของผม ผมกำลังจะล้ม ไอ้บ้าไห่รื่อ แกพูดว่าแกสามารถควบคุมได้ แต่แกเลือกที่จะไม่ยอมหยุด

ไห่รื่อเห็นผมยังคงต้านทานต่อ แล้วใช้พลังเวทย์เฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่สะท้อนลงไปที่เพลิงคลั่ง ผมถูกส่งลอยออกไป กระแทกเข้าอย่างจังกับกำแพงป้องกัน เพลิงคลั่งเริ่มสลายตัวไป

“เป็นยังไงล่ะ เด็กสารเลว? พอใจหรือยัง? ฮ่าฮ่าฮ่า!” ไห่รื่อยิ้มภูมิใจ ทั้งที่กำลังหอบอยู่

“หืออ!!! คิดว่าตัวเองเก่งกว่าฉันหรือยังไง? แกมันมีอะไรดี?” ส่วนหนึ่งของผมไม่ยอมรับ เห็นไห่รื่อแสดงท่าทีภูมิใจ ทำให้ใจผมรู้สึก... อย่างไรก็ตาม ไห่รื่อแข็งแกร่งกว่าผม ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมรวมพลังเวทย์ได้เร็วกว่า ผมคงแพ้ง่าย และเร็วกว่านี้อีก

“อะไรดี? แกไม่ยอมรับ? ไม่ต้องแก้ตัว ถ้าแกแพ้ ก็คือแพ้”

น่าโมโหอะไรอย่างนี้! อา! จริงสิ ผมยังมีเสี่ยวจิน มันยังมีพลังอยู่ใช่มั้ย? ฮิฮิ อย่างไรก็ตามผมไม่ได้คิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ และก่อให้เกิดความผิดพลาดครั้งแรกในชีวิต ความผิดพลาดครั้งใหญ่ และเกือบฆ่าเสี่ยวจิน

“ฟังคำข้า ปรากฏตัวออกมา เสี่ยวจิน” ด้วยคำอัญเชิญ แสงสีขาวสว่างวาบ เสี่ยวจินปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าผม มันโยกตัวไปมาโดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าก่อนหน้านี้มันกำลังหลับลึกอยู่ (สัตว์เวทย์ของคุณโดยปกติจะหลับอยู่ในตัวของเจ้านาย ถ้าเจ้านายไม่อัญเชิญ มันจะไม่ตื่น)

“เสี่ยวจิน รีบเลย โจมตีหมอนั่น” ผมสื่อสารผ่านจิตสั่งให้เสี่ยวจินโจมตี

เสี่ยวจิน หันไปมองไห่รื่อ หลังจากนั้นก็ยิงธนูแสงใส่เขาทันที

ไห่รื่อถูกโจมตีเข้าอย่างจัง ตอนนี้เขาไม่มีพลังเวทย์เหลือแล้ว เขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “เด็กสารเลว แกยังมีสัตว์เวทย์? ฉันก็มีเหมือนกัน” ไห่รื่อดิ้นรนใช้เวทย์ลมพาตัวเขาหลบการโจมตี และอัญเชิญสัตว์เวทย์ของเขา

อา!! มันคือเสือเพลิงแดง ทรงพลังอะไรอย่างนี้! ดูเหมือนมันจะเป็นสัตว์เวทย์ระดับ 6 ไม่ดีแล้ว กลายเป็นว่าเขาก็มีสัตว์เวทย์เหมือนกัน (เกือบทุกคนมี เจ้าโง่!!) ผมต้องเรียกเสี่ยวจินกลับ

ขณะที่ผมกำลังจะเรียกเสี่ยวจินกลับ บางสิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขึ้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด