ซวยแล้วไง! ดันไปเพิ่มอัตราการดรอปไอเท็มให้สูงสุดซะงั้น ตอนที่ 11 พยัคฆ์ราตรี
เทคนิคนี้พิเศษมาก
เขาพบว่าหลังจากที่เขาฝึกฝนไปได้แค่คืนเดียว ความสามารถทุกด้านกลับดีขึ้นเป็นอย่างมาก
จนสามารถกล่าวได้ว่าตราบใดที่ฝึกฝนเทคนิคนี้
เวลากลางคืนจะเป็นช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับยามกลางคืนอย่างแน่นอน!
"ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันกลายเป็นเทคนิคบังคับสำหรับยามกลางคืน..."
เซียวซียังคงมองลงมาที่แผ่นหยก
เงื่อนไขในการฝึกฝนเทคนิคนี้นั้นมีเพียงแค่สองข้อ
อันดับแรกเลยก็คือ ต้องฝึก “พยัคฆ์แดงนิทรา” ให้ได้ซะก่อน
เพราะเทคนิคนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของพยัคฆ์แดงนิทรา
หากไม่เคยฝึกฝนพยัคฆ์แดงนิทรามาก่อนก็จะไม่สามารถฝึกฝนเทคนิคนี้ได้
อันดับที่สอง การฝึกฝนเทคนิคนี้จะต้องดำเนินการในเวลากลางคืนเท่านั้น
หากเป็นเวลากลางวัน การฝึกฝนนั้นจะไม่สามารถแสดงผลออกมาได้
เซียวซีมองไปที่ท้องฟ้านอกหน้าต่าง
ในเวลานี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการฝึกฝนในข้อที่สอง
หลังจากที่เขาศึกษาอย่างรอบคอบแล้ว
เขาพบว่าเทคนิคนี้เหมือนกับพยัคฆ์แดงนิทราและแบ่งออกเป็นเก้าระดับซึ่งสอดคล้องกับศิลปะการต่อสู้ระดับที่เก้า
การฝึกฝนในแต่ละระดับจำเป็นต้องมีการโคจรลมปราณที่พิเศษในร่างกาย
ซึ่งการโคจรลมปราณของพยัคฆ์ราตรีนั้นแตกต่างจากการโคจรลมปราณของพยัคฆ์แดงนิทราอย่างสิ้นเชิง
การโคจรลมปราณโดยนับเป็นสัปดาห์ของพยัคฆ์แดงนิทรานั้น สามารถดำเนินการได้เฉพาะตอนที่กำลังฝึกฝนอยู่ และหลังจากการดำเนินการในแต่ละครั้งจะนำมาซึ่งการปรับปรุงร่างกายอย่างถาวร
แต่การโคจรลมปราณโดยนับเป็นสัปดาห์ของพยัคฆ์ราตรีนั้น สามารถทำงานในร่างกายโดยอัตโนมัติได้ แต่ก็แค่เฉพาะในตอนกลางคืนเท่านั้น และการปรับปรุงร่างกายที่เกิดขึ้นก็จะมีผลเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้นเช่นกัน นอกจากนี้แล้วการปรับปรุงร่างกายเหล่านี้ก็จะหายไปในช่วงเวลากลางวันด้วย
เซียวซีไม่มีความลังเลใดๆ หลังจากจดจำวิธีการเฉพาะของการโคจรลมปราณอย่างระมัดระวังแล้ว เขาก็หลับตาและเริ่มพยายามดำเนินการตามวัฏจักรนี้ทันที
แม้ว่าวิธีการฝึกฝนของพยัคฆ์ราตรีจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของพยัคฆ์แดงนิทรา แต่ทั้งสองเทคนิคนี้ก็ยังมีความแตกต่างกันอย่างมากในการโคจรลมปราณ
แม้จะมีความถนัดที่ใช้ได้ในปัจจุบันของเซียวซีแล้วก็ตาม
แต่การโคจรลมปราณรอบแรก ก็ยังมีข้อผิดพลาดมากมาย ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลว
เขาจึงสรุปสาเหตุของความล้มเหลวและเริ่มดำเนินการครั้งที่สองต่อไป
การโคจรลมปราณในครั้งที่สองนั้น ดีกว่าครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี
ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่...
ก็ยังล้มเหลว
แต่ในทุกๆความล้มเหลวนั้น ทำให้เซียวซีพบสาเหตุของปัญหา
เมื่อเขาทำเป็นครั้งที่ห้า
ปัญหาทั้งหมดก็ได้รับการแก้ไข และวัฏจักรแรกของสวรรค์ก็สำเร็จในบัดดล!
ทำให้เขาสามารถสำเร็จการฝึกระดับแรกของพยัคฆ์ราตรีได้ในทันที
ในขณะนี้ เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเส้นลมปราณในร่างกายของเขาเริ่มแสดงวงจรเฉพาะของพยัคฆ์ราตรีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ภายใต้การดำเนินการนี้
ไม่เพียงแต่เขาจะไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอนอีกต่อไป แต่เขายังรู้สึกว่าภายในร่างกายนั้นมีพลังงานที่ใช้แล้วไม่มีวันหมดในตอนกลางคืนอีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว จิตใจของเขาก็ยังแจ่มใสและรู้สึกคล่องตัวขึ้นอีกด้วย
ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นในทุกๆด้าน
ไม่เพียงแต่พละกำลังเท่านั้น แต่ยังมีความเร็ว ความแข็งแกร่ง พลังระเบิด รวมถึงความสามารถในการฟื้นตัว ฯลฯ พลังเหล่านี้ล้วนแข็งแกร่งขึ้นกว่าตัวเขาในตอนกลางวันมาก
"นี่คือทักษะพิเศษในตอนกลางคืนสินะ!"
เซียวซีรู้สึกดีขึ้นในตอนกลางคืน เขารู้สึกราวกับว่าตนเองคือปลาที่ได้กลับคืนสู่แม่น้ำ ร่างกายของเขาผ่อนคลายและยืดหยุ่นขึ้นมาก
สถานะนี้คงอยู่โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น การเคลื่อนไหวในร่างกายของเขาก็หยุดลง การปรับปรุงทั้งหมดภายในร่างกายของเขาหายไปในทันที และเขาก็กลับคืนสู่สถานะก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน
ยามกลางคืนที่กำลังฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีอยู่ก็ถูกบังคับให้หยุดฝึกเช่นกัน
พวกเขาเดินออกจากห้องทีละคน มารวมตัวกันและเริ่มพูดคุยกัน
หลังจากฝึกฝนมาทั้งคืน ยกเว้นเซียวซีแล้ว ไม่มีใครเชี่ยวชาญเทคนิคนี้เลย
ทุกคนต่างมีสีหน้าขมขื่นและคิดว่าการฝึกนี้ยากเกินไป
"เทคนิคนี้ยากกว่าพยัคฆ์แดงนิทรามาก ข้าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่จะฝึกฝนให้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้"
"ข้าเห็นด้วย สิ่งที่ลำบากที่สุดเลยก็คือเทคนิคนี้ฝึกฝนได้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้น จะฝึกฝนตอนกลางวันก็ทำไม่ได้"
“ถ้าผ่านไปสามวันแล้วยังฝึกฝนไม่สำเร็จอีก ชีวิตข้าคงจะลำบากมาก”
ขณะที่ทุกคนเอาแต่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากที่ไกลๆ
“พวกเจ้าไม่คิดหรือว่าตราบใดที่พวกเจ้าสามารถฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีภายในสามวันได้ พวกเจ้าก็จะอยู่รอดในภารกิจแรกได้”
ทุกคนหันไปมอง
ยามกลางคืนสามคนเดินยิ้มมาจากระยะไกล
เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนนี้ไม่ใช่ยามกลางคืนที่พึ่งมาใหม่ แต่เป็นผู้อาวุโสที่มีคุณสมบัติพิเศษ ผู้นำคือชายหนุ่มผมสั้นที่กำลังยิ้มและถอนหายใจ
"ตอนนั้นข้าก็ยังไร้เดียงสาเหมือนกับพวกเจ้า... เห้อ ช่างน่าคิดถึงจริงๆ"
ใบหน้าของทุกคนกลายเป็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ในทันที
เซียวซีขมวดคิ้วและมองไปที่ยามกลางคืนทั้งสามคนนั้น
“อย่าทำสีหน้าเช่นนั้นสิ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยพวกเจ้าซักหน่อย แต่มาเพื่อเตือนพวกเจ้าที่พึ่งเข้ามาใหม่ต่างหาก เตรียมใจไว้ให้ดีล่ะ”
ชายหนุ่มผมสั้นยิ้มและพูดว่า
“ข้าจะบอกอะไรให้ฟังนะ ไม่ว่าพวกเจ้าจะรอดในอีกสามวันข้างหน้าได้หรือไม่ แต่โชคของพวกเจ้านั้นจะสำคัญกว่าความแข็งแกร่งของตนเองอย่างแน่นอน”
“แม้ว่าพวกเจ้าจะสามารถฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีได้สำเร็จ แต่พยัคฆ์ราตรีในระดับแรกนั้นก็เป็นเพียง 30% ของความแข็งแกร่งของพวกเจ้าในตอนกลางวันอยู่ดี หากภารกิจที่พวกเจ้าได้รับดันเป็นภารกิจที่มีระดับยากที่สุด การที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาแค่ 30% นั้นก็คงไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาได้หรอก”
"พยัคฆ์ราตรีสามารถช่วยให้เจ้าอยู่รอดได้ง่ายขึ้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับระดับของภารกิจที่เจ้าได้รับด้วย"
หัวใจของทุกคนจมดิ่งลงไปอย่างช่วยไม่ได้
ใครคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยใบหน้าคิ้วขมวด
“หมายความว่าพวกข้าไม่สามารถเลือกงานได้อย่างอิสระหรือขอรับ?”
"อย่างที่เจ้าเข้าใจนั่นล่ะ"
ชายหนุ่มผมสั้นพยักหน้า
"ภารกิจจะถูกแจกจ่ายแบบสุ่ม และประเภทของภารกิจที่เจ้าจะได้รับนั้นก็ขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ"
"ถ้าเจ้าได้รับภารกิจการตรวจสอบที่เป็นระดับง่ายที่สุด มันก็ง่ายที่จะทำสำเร็จ แต่ถ้าภารกิจที่เจ้าได้รับมันดันเป็นระดับที่ยากที่สุดล่ะก็..."
"หึ นับประสาอะไรกับพวกเจ้า แม้แต่พวกข้าที่เป็นยามกลางคืนที่มีคุณสมบัติพิเศษยังทำไม่ได้เลย"
คำพูดของชายหนุ่มผมสั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบหนักอึ้งเป็นพิเศษ
ภารกิจที่ได้รับจะเป็นการสุ่ม!
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ต่างมีแนวโน้มที่จะได้รับภารกิจที่ยากที่สุดกันทั้งนั้น
ในเวลานี้ ไม่ใช่แค่หลายคนที่ยังฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีไม่สำเร็จนั้นรู้สึกกดดัน เพราะแม้แต่เซียวซีก็ยังรู้สึกกดดันไปด้วย
เขาเห็นว่าชายหนุ่มผมสั้นไม่ได้จงใจมาที่นี่เพื่อขู่พวกเขาด้วยคำพูดที่สร้างความตื่นตระหนก
เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดคือความจริง
แม้เซียวซีจะไม่รู้ว่าภารกิจที่ยากที่สุดคือภารกิจใด แต่ถ้าเป็นภารกิจที่แม้แต่ยามกลางคืนที่เป็นผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาแล้ว เกรงว่าจะมีความหวังแค่เพียงริบหรี่เท่านั้น!
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เร่งด่วนขึ้นมาอีกครั้ง
ด้วยบุคลิกของเขาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝากความหวังไว้กับโชค และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดิมพันว่าตัวเขาเองจะไม่ได้รับภารกิจที่ยากที่สุดไป
ตราบใดที่มีความเป็นไปได้แค่เพียงเล็กน้อยที่จะได้รับภารกิจที่ยากที่สุดอยู่ เขาก็ต้องแน่ใจว่าเขาจะมีวิธีรับมือที่เพียงพอเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาจริงๆ
และในตอนนี้เขาก็รู้อย่างแน่ชัดว่า...
แม้ว่าเขาจะฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีในตอนนี้ไป แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับภารกิจที่ยากที่สุดแล้ว มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี
เขาต้องการเทคนิคและความแข็งแกร่งที่มากขึ้น
แต่ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่สองวันเท่านั้น...
แม้ว่าเขาจะฝึกฝนพยัคฆ์ราตรีในตอนกลางคืน แต่เซียวซีก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถฝึกฝนจนมันไปถึงระดับที่สองภายในอีกสองคืนที่เหลือได้หรือไม่
ท้ายที่สุดแล้ว พยัคฆ์ราตรีเองก็มีความยากลำบากในการฝึกฝนเช่นกัน
ยิ่งฝึกก็ยิ่งยาก
นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะฝึกฝนมันจนถึงระดับที่สองได้แล้ว...
แต่การปรับปรุงร่างกายโดยใช้แค่พยัคฆ์ราตรีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะจัดการกับภารกิจที่ยากที่สุดได้
เซียวซีคิดอย่างรวดเร็ว
หลังจากคิดแล้วก็พบว่ามีวิธีเดียวที่จะปรับปรุงความแข็งแกร่งในอีกสองวันที่เหลือได้...
นั่นก็คือ การฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับศิลปะการต่อสู้!