ตอนที่ 38

ในช่วงจังหวะที่เงาดำชกเข้าใส่ปรมาจารย์ดาบจนกระเด็น จู่ๆก็มีเส้นเงาประหลาดปรากฏที่พื้น พร้อมตรงเข้าใส่ร่างเงาสีดำอย่างกระทันหัน กลายเป็นภาพการต่อสู้กันของเงาท่ามกลางความมืด

ถึงอย่างนั้นร่างเงาก็สามารถเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็ถูกเส้นเงาบนพื้นแทงจนได้รับบาดแผลที่ขาเล็กน้อย

แต่เส้นเงาที่พื้นก็ราวกับดาบที่ยืดม้วนตัวเองได้ มันจึงทำการโจมตีราวกับอสรพิษร้าย

มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็คือหัวหน้าของปฏิบัติการนี้ เขากำลังยืนอยู่ตรงบริเวณบันได

พร้อมสะบัดดาบไปมา เส้นเงาดาบที่พื้นก็เชื่อมออกมาจากตัวเขา ซึ่งเมื่อเขาเคลื่อนไหว ดาบเงาบนพื้นก็สะบัดไปมาตามเจ้าของ

นี้คือคลาสลับขั้นสอง ผู้ใช้คมมีดเงา ( Shadowblade )

เขาสามารถใช้เงาของตัวเอง ยืดหดพุ่งไปโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้ เรียกได้ว่าเป็นสายลอบโจมตีที่น่ากลัวมาก

ในจังหวะต่อมา พวกยอดฝีมือก็ไม่คิดจะให้ศัตรูมีเวลาหายใจ นักรบเกราะหนักคนหนึ่งจึงใช้ทักษะ พุ่งชน เพื่อรบกวนสมาธิในการหลบคมมีดเงาของอีกฝ่าย

แต่ร่างเงาดำเพียงเบี่ยงตัวหลบได้อย่างง่ายดาย พร้อมกระโดดม้วนตัวส่งลูกถีบ ใส่นักรบเกราะหนักจากด้านหลัง จนกระเด็นเซไปกระแทกตัวเรืออย่างแรง ด้วยน้ำหนักของชุดเกราะและแรงพุ่งของตัวเอง

เสร็จแล้วเขาก็หันมารับมือกับคมมีดเงาบนพื้น แต่ถึงอย่างนั้นคมมีดเงาก็ร้ายกาจมาก

ทำให้ช่วงขาของร่างเงาโดนเฉือนหลายจุด ราวกับอสรพิษที่จ้องแต่จะฉกกัด

แต่ถึงอย่างนั้น บาดแผลเพียงแค่นี้ไม่ได้ทำให้ร่างเงาชะงักเลย เขาค่อยๆลดระยะเข้าใส่ผู้ใช้คมมีดเงาเรื่อยๆ

ในช่วงจังหวะที่เขากำลังจะประชิดตัวอีกฝ่าย และผู้ใช้คมมีดเงาเกือบต้องนำดาบจริงมารับมือ

ก็มีประกายแสงสีส้ม พุ่งผ่านอากาศเข้าใส่เงาสีดำอย่างแรง ประกายความร้อนรุนแรงกระจายไปทั่วทั้งใต้ท้องเรือ

" ตู้มมม "

ร่างเงาโดนเปลวไฟระเบิดเข้าใส่อย่างแรง จนเขากระเด็นถอยไปด้านหลัง แต่ก็สามารถม้วนตัวและกลับมายืนได้ ซึ่งตามตัวมีรอยไฟไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

" โฮ่ เจ้าเป็นใครกัน ฝีมือขนาดนี้ มาโจมตีขบวนสินค้าเล็กๆนี้ทำไม "

ชายชราเห็นว่าลูกไฟทีเผลอที่เขายิงเข้าใส่อย่างจัง ยังทำให้อีกฝ่ายหมดสภาพไม่ได้ เขาจึงอยากที่จะลองพูดคุยกับอีกฝ่าย เผื่อได้รับข้อมูลเพิ่ม

แต่ร่างเงาก็สะบัดตัว พร้อมพุ่งไปในทิศทางหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่ยอดฝีมือคลาส นักพรตพักรักษาตัวเองอยู่

เขาพุ่งโจมตีจนอีกฝ่ายจนหมดสภาพ พร้อมล็อคตัวเอาไว้ เหมือนตั้งใจใช้เป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันลูกไฟเมื่อครู่

" ท่าน คอลตัน ข้าคิดว่าเราควรจัดการศัตรูโดยเร็ว ข้าสัมผัสไม่ได้ถึงขีดจำกัดของอีกฝ่ายเลย หากปล่อยไว้เป็นเช่นนี้ ต่อไปพวกเราแย่แน่ "

หัวหน้าปฏิบัติการที่มีคลาส ผู้ใช้คมมีดเงา กล่าวกับชายชรา คอลตัน

หรือนักเวทย์อาวุโส ที่มีการชำนาญด้านเวทมนต์ธาตุไฟสูง เขาถือเป็นไพ่ตายในปฏิบัติการนี้

ในจังหวะต่อมา นักรบที่ล้มไปก่อนหน้า ก็ลุกขึ้นมาพร้อมเตรียมตัวช่วยเหลืออีกครั้ง

ในตอนนั้นร่างเงา จู่ๆก็พุ่งเข้าใส่อย่างกระทันหัน พร้อมชู ร่างมนุษย์ของคลาสนักพรตเอาไว้เป็นโล่เนื้อ

แต่ก็ถูกคมมีดเงาที่อำมหิตแทงทะลุหัวใจ คลาสนักพรตทันที ทำให้โล่เนื้อหมดสภาพจนกลายเป็นภาระแทน

หัวหน้าปฏิบัติการจำใจ ต้องลงมือสังหารสหายของตนอย่างเลือดเย็น เพื่อมองภาพรวมที่สำคัญกว่า

" อย่าที่จะคิดตื้นๆ "

ร่างเงาโยนคลาสนักพรตเข้าใส่ด้านหน้าพร้อมวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ในจังหวะนั้น นักรบก็พยายามพุ่งเข้ามาปะทะด้วยอีกครั้ง แต่ร่างเงาก็ใช้ความเร็วฝ่ามาได้อย่างง่ายดาย

ใครเขาอยากจะไปปะทะกับตัวแทงค์ให้เสียเวลากัน ?

คมมีดเงาก็หดตัว พุ่งโจมตีใหม่อีกทันที

ส่วนนักเวทย์เพลิงด้านหลังก็เริ่มใช้บอลไฟที่รุนแรงอีกครั้ง เพียงชั่วพริบตาก็ปล่อยยิงลูกไฟออกไปอย่างรุนแรง

ร่างเงาที่กำลังคอยหลบคมมีดเงา แต่เมื่อเขาเห็นนักเวทย์ชราเตรียมใช้ลูกเพลิงโจมตี เขาจึงยกมือขึ้นไว้บริเวณหน้าอก

พร้อมพองแก้มด้วยท่าทางประหลาด ถัดมาก็มีมวลน้ำมหาศาลผิดปกติ ออกจากปากของเขา

กระสุนน้ำปะทะกับบอลเพลิง จนเกิดระเบิดใส่กันอย่างรุนแรง จนสภาพแวดล้อมเกิดควันและไอน้ำทั่วทั้งบริเวณ

ในชั่วพริบตาต่อมา หัวหน้าปฏิบัติการก็เกิดความกลัวในจิตใจ เขาหดคมมีดเงากลับมา

พร้อมยกดาบขึ้นตามสัญชาตญาณรับหมัดที่พุ่งตรงเข้ามาใส่ แถมใช้เงาใต้เท้าแอบลอบโจมตีบนล่างพร้อมกันอย่างชาญฉลาด

' ขาขาดไปซะ '

ในจังหวะที่กำลังจะปะทะกัน ร่างเงาก็กระโดดเย่งตัวสั้นๆ พร้อมม้วนตัวและส่งลูกถีบเข้าเต็มกลางหน้าอก

เรียกได้ว่าเป็นการสวนที่มีประสิทธิภาพ แถมหลบการโจมตีได้พร้อมกัน

ผู้ใช้คมมีดเงาไม่ได้ทนทานเหมือนพวกนักรบ เพียงแค่ถูกแรงกระเด็นไปกระแทกกำแพง เขาก็แทบจะหมดสติแล้ว

แต่อีกฝ่ายก็ตามประชิดด้วยทักษะ พุ่งไปด้านหน้า พร้อมซัดหมัดตรงเข้าใส่ทันที

หมัดกระแทกเข้าใส่กลางหน้าอก ส่งผลให้กระดูกช่วงอกแตกทันที พร้อมพลังทะลวงที่ทำให้อวัยภายในเสียหาย พลังชีวิตจึงลดฮวบและตายลงในทันที

คราวนี้ จึงเหลือเพียงนักรบและนักเวทย์ไฟ

ทำให้นักรบที่มองสถานการณ์ออก รีบใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อปกป้องนักเวทย์ไฟคนนี้เอาไว้สุดชีวิต

เพราะนี้คือทางรอดทางเดียวของพวกเขาแล้ว คอมโบระหว่างนักรบและนักเวทย์ ถือคอมโบพื้นฐานอยู่แล้ว

" ยอมรับจริงๆ ว่าเจ้านั้นเป็นศัตรูที่ร้ายกาจมาก มันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า แต่เป็นทั้งประสบการณ์และพรสวรรค์ที่เหนือธรรมดา "

นักเวทย์ไฟ โคลตั้น ก็ไม่อยากที่จะยอมรับนัก แต่เขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่คุกคามมากคนหนึ่ง ตลอดระยะเวลาอายุ 50 ปีของเขา

เมื่อเขากล่าวจบ ก็เริ่มกระบวนการใช้ไม้เท้าเคาะกระแทกที่พื้น ถัดมาก็มีสนามเพลิงปรากฏขึ้นที่พื้น

นักรบที่คอยคุ้มกันก็เหงื่อตก เพราะอานุภาพของเวทย์ไฟนี้ส่งผลต่อเขาด้วยเช่นกัน

" แน่จริงก็เข้ามา !! "

นักเวทย์ไฟกล่าวอย่างอหังการ เขาค่อนข้างมั่นใจในสนามพลังนี้ เพราะมันจะเร่งพลังไฟของเขาให้ถึงขีดสุด

เรือเริ่มติดไฟมากขึ้น แต่ใครจะสนสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาเพียงมองไปยังศัตรูของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้น

ในเวลานี้เมื่อเปลวไฟร้อนแรงปรากฏขึ้น พวกเขาก็เริ่มมองเห็นร่างเงาชัดเจนเล็กน้อย

เพราะก่อนหน้าทั้งมืด แถมอีกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

รูปร่างของอีกฝ่ายไม่สูงมากนัก ร่างกายทุกส่วนนอกจากผ้าคลุมดำ ผิวหนังทุกส่วนก็พันไว้ด้วยผ้าสีดำ ทำให้มองลักษณะอื่นๆไม่ออกเลย….

….

อเล็กซ์รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เพราะก่อนหน้าใช้พลังมานาไปจำนวนมาก แม้เขาจะพยายามประหยัดการใช้ทักษะให้น้อยลงแล้ว

แต่ทักษะทั้ง คุกน้ำ , กระสุนน้ำ พวกมันล้วนแต่ใช้พลังมานาค่อนข้างเยอะ เขาลุยมาถึงขนาดนี้ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว

ก่อนหน้าเขาต่อสู้ใต้ท้องเรือแคบๆ แม้จะทำให้ตัวเองดูเสี่ยงและเสียเปรียบ แต่เขาก็คิดว่ามันเป็นการฝึกฝนการรับมือที่ดี ซึ่งศัตรูก็ทำได้ไม่เลว

" ตึกๆๆ "

อเล็กซ์เริ่มก้าวเดินอย่างช้าๆ ท่ามกลางเปลวไฟที่กำลังร้อนละอุ แต่เปลวไฟพวกนี้ สำหรับเขาเป็นเพียงแค่ลมร้อนจางๆเท่านั้น

เขามีค่าต้านทานธาตุ ไฟ ดิน น้ำแข็ง ลม อยู่ในระดับที่ ( II ) แล้ว ทำให้มีค่าต้านทานค่อนข้างมาก บวกกับค่าความทนทานที่สูง แค่สนามพลังไฟแคนี้ ทำสิ่งใดเขาไม่ได้มากเท่าไหร่

" เราคงไม่สามารถตกลงกันได้แล้วสินะ แต่เจ้าคิดจะบีบนักเวทย์เพลิงให้จนมุมจริงๆหรือไง ? เจ้าจะได้อะไรจากการที่เราทั้งคู่ ลงมือฆ่ากันตายกันไปข้างหนึ่ง ? "

" ได้อะไร ? สนใจทำไม ? ทุ่มให้สุดตัวเถอะ เพราะถ้าตายไปโดยไม่พยายามซักหน่อย เมื่ออยู่ในภพหน้า เจ้าอาจจะร้องไห้และเสียใจเอา "

" อวดดี !!! "

เปลวเพลิงรอบข้างยิ่งร้อนแรงขึ้น ทำให้พวกไม้ในเรือเริ่มติดไฟ ซึ่งมันทำให้พลังของอาณาเขตไฟเริ่มรุนแรงขึ้น

ซึ่งอเล็กซ์ก็สามารถสัมผัสได้ และรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้คำพูดถ่วงเวลา แต่ทุกสิ่งก็กำลังอยู่ในการควบคุมของเขา

อเล็กซ์รีบใช้ทักษะ พุ่งไปด้านหน้า และมาประชิดนักรบที่ขวางทางอยู่

ก่อนหน้าเขาไม่สนใจอีกฝ่าย เพราะการจัดการนักรบที่อึดสุดก่อนเป็นเรื่องที่โง่เขลา

แต่ในเวลานี้ เขามีเวลาปะทะกันตรงๆ แม้อีกฝ่ายจะอึดและแข็งแกร่ง แต่ความเชื่องช้าก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนอยู่ดี

ดาบเล่มใหญ่ถูกแทงออกมาโดยนักรบ เพื่อพยายามสกัดกั้นอีกฝ่าย

แต่ก็ถูกเบี่ยงปัดอย่างง่ายดาย เมื่อเข้าไปประชิดตัว ก็มีโล่ที่ขวางส่วนต่างๆเอาไว้ เรียกได้ว่านักรบเล่นกลยุทธ์เต่าในกระดองทันที

แต่อเล็กซ์ก็ชกหมัดตรงเข้าใส่โล่อย่างแรง ทำให้คลื่นหมัดทำให้แขนชา พร้อมเคลื่อนตัวเข้าประชิดผ่านโล่ไปได้

พร้อมที่เขาใช้มือโอบคออีกฝ่ายเอาไว้ พร้อมใช้ทักษะของ นักสู้ ที่พึ่งได้รับมาใหม่

ทักษะ ตีเข่า ( กระแทก ) ( พื้นฐาน )

คำอธิบาย : เพิ่มพลังจากการใช้ท่าตีเข่า + 140% ( เพิ่มพลังกระแทก + 30% )

เข่ากระแทกเข้าเต็มใบหน้าอีกฝ่าย แม้จะมีหมวกเล็กบางๆอยู่ แต่มันก็บุบพร้อมทำให้เหล็กหนีบหน้าและเกือบหมดสติทันที

" ปืนใหญ่เพลิงคำรามม !!! "

ในจังหวะนั้น นักเวทย์ไฟก็คำรามเสียงดัง พร้อมเปลวไฟรอบข้างก็รวมตัวและพุ่งเข้าใส่ทางอเล็กซ์

แต่อเล็กซ์ก็ชูร่างของนักรบไปรับแรงกระแทกก่อน ส่วนเขาก็ปกปิดส่วนใบหน้าโดยเฉพาะดวงตาเอาไว้

พลังปืนใหญ่เพลิงรุนแรงมาก มันเทียบได้กับปืนใหญ่ 5 กระบอก พลังความร้อนก็ราวกับพายุสุริยะ

ลำแสงเพลิงทะลุไปทางบันไดเรือจนเกิดรูทะลวงขนาดใหญ่ พร้อมรอยไหม้ในบริเวณรอบๆ

" ฮ่าๆๆๆ ได้ปลดปล่อยทักษะนี้ มันชั่งรู้สึกดีจริงๆ "

คอลตั้นหัวเราะด้วยเสียงชายชราที่อ่อนแรง แต่แล้วเขาก็ประหลาดใจที่ได้ยินเสียงบางอย่างตอบกลับมา ราวกับหนังสยองขวัญ

" ฮ่าๆๆๆๆๆ ช่างเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงจริงๆ เล่นเอาประทับใจเลย "

เสียงหัวเราะที่ดูบิดเบี้ยวดังขึ้น ทำให้ชายชราตัวสั่นเทา เพราะเขามั่นใจว่าพลังปืนใหญ่เพลิงโดนเข้าใส่อีกฝ่ายจังๆ

เมื่อกลุ่มควันหายไป ก็เห็นบุคคลร่างเล็กยืนอยู่ เมื่อมองดีๆก็พบเห็นสภาพที่เต็มไปด้วยแผลพุพอง

พร้อมผิวหนังที่ไหม้เกรียม ใบหน้ารอบๆดวงตาล้วนเละเทะ ดูเหมือนพวกผีดิบในหนังสยองขวัญ

" แกๆๆ แกรอดอยู่ได้ยังไง "

" ฮ่าๆๆ น่าเสียดายที่ค่าต้านทานธาตุไฟไม่เพิ่มขึ้น แต่ผลลัพธ์นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราทนทานแค่ไหน "

คอลตั้นไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร แปลว่ามันจงใจรับปืนใหญ่เพลิงเพราะต้องการฝึกฝนตัวเองหรอ ? คนแบบนี้มีอยู่ในโลกได้ยังไง ?

" Spell Slot เจ้าหมดจากเวทย์เมื่อครู่แล้วสินะ "

Spell Slot คือแต้มอย่างหนึ่งที่มีในหน้าจอค่าสถานะ ซึ่งอเล็กซ์มีมันเพียงแค่ [] ช่องเดียว

มันคือขีดจำกัดของผู้ใช้เวทย์ แม้จะมีมานาสูง แต่ทุกครั้งที่ใช้พลังเวทย์ที่รุนแรง

จะต้องมี Spell Slot ด้วย เพื่อไม่ใช่นักเวทย์โกงจนเกินไป แต่ในช่วงหลังๆ นักเวทย์ก็มี Spell Slot มหาศาลจนมีใช้เหลือเฟือเช่นกัน

แต่ด้วยเวทย์ล่าสุดที่อีกฝ่ายร่าย ทำให้ตอนนี้ไม่เหลือสิ่งใดแล้ว การจะฟื้นคืนกลับมาต้องใช้เวลาหลายนาที

อเล็กซ์เซเล็กน้อย แต่เขาก็นำมือมาผสานไว้ที่หน้าอก พร้อมโคจรพลังจักระ

ทำให้สิ่งที่นักเวทย์ชราเห็นต่อมา ได้กลายเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อในสายตา ราวกับเห็นภาพหลอน

" ปีศาจ แกมันปีศาจ มนุษย์ทำเช่นนั้นได้ยังไง "

ภาพที่เขาเห็นคือ ผิวหนังที่เสื่อมจากการโดนความร้อน ค่อยๆสมานกันในระดับที่ตามองเห็น

มันราวกับมีเส้นใยบางอย่างพยายามเชื่อมและสร้างเซลล์ผิวหนังขึ้นมาใหม่ เกิดเป็นภาพที่น่ากลัวกว่าการเห็นคนถูกเผาเสียอีก

ในโลกใบนี้ไม่ได้มีโทรทัศน์ให้คนได้พบเห็นอย่างปกติ ภาพที่ดูสยองแบบนี้ มันจึงเป็นภาพที่น่ากลัวมาก