ตอนที่ 36
อเล็กซ์เดินทางกลับจนมาถึงโรงแรม เสร็จแล้วเขาก็รีบทำสมาธิและรักษาอาการผิดปกทั้งหมดในร่างกาย
จากสิ่งที่เขาเจอเมื่อซักครู่ มันย้ำเตือนให้เขารู้และจดจำได้ว่า โลกใบนี้มันอันตรายสุดพรรณนาแค่ไหน
การเป็นผู้เล่นมีชีวิตไม่จำกัด จึงไม่ซีเรียส แต่การเป็นผู้คนในโลกนี้พร้อมมีชีวิตเดียว มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
…..
วันรุ่งขึ้น
อเล็กซ์ยังคงฝึกฝนทักษะ ดวงตาจักระ และทักษะอื่นๆต่อไป
แต่ในช่วงสายๆ ก็มีคนมาเยี่ยมเขาถึงภายในโรงแรม เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่พร้อมการหัวเราะเสียงดังที่เป็นเอกลักษณ์
" ฮ่าๆๆ เจ้าหนู ทำไมเจ้าไม่ไปที่สมาคมเลย ข้ารอเจ้าอยู่นาน ให้ผู้ใหญ่มาหาแบบนี้ เจ้ามีมารยาทบ้างไหม ห๊ะ !!! "
" ข้าว่าจะเข้าไปวันนี้เหมือนกัน กำหนดการคือพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือ ? "
" ใช่ แต่เจ้าก็ต้องรู้รายละเอียดต่างๆก่อนไม่ใช่หรือไง ?… "
รองหัวหน้าสมาคมถือวิสาสะเข้ามานั่งบนเก้าอี้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งอเล็กซ์ก็ต้องมีมารยาท และรินน้ำชาให้อีกฝ่าย
" ขอบคุณท่านมากที่อุตส่าห์มาเตือน แล้วท่านช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการนี้ให้ข้าฟังหน่อยสิ "
" ฮ่าๆๆๆ …. ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง …. "
อเล็กซ์นั่งฟังรายละเอียด ว่ามีกลุ่มไหนเข้าร่วมบ้าง ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมนักตกปลาจำนวนหนึ่ง
ต่อมาก็มีพวก สมาคมนักผจญภัย ทหารรับจ้าง และกองกำลังเมือง รวมทั้งมีพวกทหารเรือแบบที่อเล็กซ์คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการที่ใหญ่มากเลยทีเดียว
" แล้วเจ้านักรบในวันนั้นเป็นไงบ้าง ? "
" หึ ไอเจ้านั่นถูก หัวหน้าของมันเองสำเร็จโทษสังหารไปแล้ว "
อเล็กซ์ที่ได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจ นี้เป็นมาตราการที่โหดร้ายมาก
แต่สิ่งนี้มันจำเป็น เพราะมันก็จะทำให้ ทหารรับจ้าง เขี้ยวหมาป่า สามารถดำรงอยู่ไปได้
แล้วก็โทษว่า เจ้านักรบคนนั้นก่อเรื่องทั้งหมดโดยเจตนา และทางกองทหารรับจ้างไม่ต้องรับผิดชอบแม้แต่นิดเดียว
อเล็กซ์ถามถึงเรื่องนี้เล็กน้อย และเขาก็ไม่คิดสนใจอีก ถามว่าเจ้าพวกนั้นคุกคามเขาไหม ?
ด้วยสถานะของอเล็กซ์ในเวลานี้ พวกมันแทบจะไม่สามารถมาคุกคามเขาได้เลย
ถ้าพวกมันไม่คิดลืมความแค้นนี้ พวกมันอยากจะมาหาเรื่องก็ให้เข้ามา เขาพร้อมเสมอ เขากลัวแต่พวกมันจะไม่มาซะมากกว่า….
อเล็กซ์พูดคุยกับรองหัวหน้าสมาคมอีกซักพัก อีกฝ่ายจึงเดินทางกลับไป
อเล็กซ์ก็ออกจากโรงแรมเพื่อไปเดินฝึก ทักษะ ดวงตาจักระ ต่อภายในเมือง
ในเวลานั้น เขาก็เห็นชายชราหลังค่อมกำลังจะเดินสวนกับเขา
' คุ้นมาก '
ในช่วงสั้นๆที่พวกเขาเดินผ่านกัน อีกฝ่ายก็ยื่นกระดาษให้กับเขา อเล็กซ์จึงรับมาและเดินไปหลบในมุมหนึ่งเพื่ออ่าน
( พบกันที่เดิม )
มันเป็นเพียงข้อความสั้นๆ แต่อีกฝ่ายก็คือ ชายที่มีคลาสนักสืบ ที่มีความแค้นกับเจ้ากระทิงคนนั้นแน่นอน
อเล็กซ์ขบคิดเล็กน้อย แต่เขาก็เดินทางไปตามนัด
เขามีความสนใจในความสามารถของอีกฝ่าย แถมเรื่องยังไปพัวพันกับพวกกองกำลังใต้ดิน
ซึ่งเจ้าพวกนั้นก็ถือเป็นเป้าหมายในการฝึกฝนที่ดี โดยเฉพาะเจ้ากระทิง ที่ได้ยินว่าก็เป็นนักสู้มือเปล่าที่ทรงพลัง
….
อเล็กซ์มาถึงบาร์เก่าๆแห่งเดิม เขาเข้าไปด้านใน แต่คราวนี้เขาไม่ได้ทำรหัสลับ
เพียงแค่สั่งเครื่องดื่มและจิบเล็กน้อย เพียงไม่นานก็มีชายผมยาวที่สวมผ้าโผกหัว และมีผ้าพันคอ ส่วนใบหน้าก็มีรอยสีที่คล้ายรอยสัก ซึ่งดูเนียนตามาก
ซึ่งโดยรวมแล้ว ทั้งหมดก็คือการปลอมตัว ซึ่งอเล็กซ์ที่ได้เห็น เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายมีฝืมือค่อนข้างดีในเรื่องนี้มากเลยทีเดียว
" ยินดีด้วย ที่ท่านเป็นสมาชิกระดับเงินของสมาคมนักตกปลา แต่ถ้าเป็นเช่นนี้…. "
" ….. ท่านคงไม่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้ากระทิงแล้วสินะ และพวกมันก็คงไม่อยากมีเรื่องกับท่านแล้ว "
" ใครบอกกัน ? รู้ไหมปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะข้าโจมตีพวกมันก่อนตั้งแต่เริ่ม "
คำตอบของอเล็กซ์ทำให้อีกฝั่งประหลาดใจ แต่เขาก็รู้สึกใจชื้นเช่นกันที่รู้สึกมีความหวัง
" ข้าได้ยินเช่นนี้ก็วางใจ ในเวลานี้ข้ากำลังหดหู่ใจพอดี เพราะอิทธิพลของเจ้ากระทิง มันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คนที่อยากเป็นศัตรูกับมันก็น้อยลงเรื่อยๆเช่นกัน "
อเล็กซ์สัมผัสได้ถึงความโกรธและความหดหู่ใจของอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่นำพา พร้อมยิ้มตอบกลับไป
" ยิ่งพวกมันมีอิทธิพลยิ่งใหญ่สิยิ่งดี มันยิ่งท้าทายมากขึ้นไม่ใช่หรือ ? "
" เหอะ เจ้าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก คงจะมองไปในทางเช่นนั้น แต่ข้าแม้แต่จะออกหมัดต่อสู้ก็ไม่กล้า การให้มองเช่นนั้นแบบเจ้าคงไม่ได้หรอก "
" ทุกคนก็ไม่ใช่ว่ามีความสามารถต่อสู้เป็นหลักเสียหน่อย เจ้ามีความสามารถในการสืบข้อมูลและปลอมตัวไม่ใช่หรือ ? เจ้าพอมีข้อมูลที่ทำให้อีกฝ่ายเสียหายอย่างหนักไหมหล่ะ ? "
อเล็กซ์ไม่ได้เป็นพวกพูดปลอบใจคนที่ไม่มีจิตใจจะต่อสู้ ให้ลุกขึ้นมาเข้มแข็ง แต่เขาก็มองเรื่องความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป
ความสามารถในการต่อสู้ อาจจะมีความสามารถแค่ต่อสู้ แต่ถึงยังไงในโลกนี้ก็มีเรื่องข้อมูล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องใส่ใจเช่นกัน
" แน่นอน ข้ามี แม้เราจะสยบเจ้ากระทิงในครั้งเดียวไม่ได้ แต่ก็สามารถตัดขาธุรกิจมืดของพวกมันได้ "
" โอ้ งั้นบอกมาสิ ว่าธุรกิจพวกมันคืออะไร หรือพวกมันจะเคลื่อนไหวตอนไหน ? "
" คืนนี้เลย แต่ข้าไม่รู้เวลาแน่ชัด ว่าพวกมันจะเดินทางตอนไหน เราควรจะรวบรวมคนที่เกลียดชังพวกมันไปดักซุ่ม แล้วโจมตีด้วยกัน "
" ฮ่าๆๆ ไม่จำเป็น ข้าจะบุกไปเองเพียงลำพัง มันจะเคลื่อนไหวสะดวกกว่า เจ้าบอกข้อมูลข้ามาก็พอ "
ชายในชุดปลอมตัวประหลาดใจ แม้อเล็กซ์จะเป็นอัจฉริยะขนาดไหน แต่การกระทำบ้าบิ่นขนาดนี้ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีซักเท่าไหร่
" บุกไปคนเดียว ? เจ้ามีคลาสขั้น 3 หรือไง ? "
" เอาเป็นว่าเจ้าบอกข้อมูลมาก็พอ ข้าจะตัดสินใจไปไหม มันเรื่องของข้า อย่าลืมว่าเรายังไม่ได้ร่วมมือกันจริงๆนะ … "
" …. ถ้าเจ้าไม่อยากเล่า เรื่องนี้ก็จบกันไป "
อเล็กซ์กล่าวจบ เขาก็เตรียมตัวที่จะลุกเดินจากไป
แต่อีกฝ่ายก็รีบร้องเรียกเอาไว้ หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้พูดคุยกันถึงรายละเอียดต่างๆ
" พวกมันมีการเดินทางโดยใช้เส้นทางน้ำด้วย ? "
" ใช่ มันเป็นเพียงเส้นทางสั้นๆ เพราะมันต้องเลี่ยงเส้นทางหลัก "
" ฮ่าๆ งั้นก็ง่ายขึ้นมาก ข้าจะบุกโจมตีพวกมันผ่านเส้นทางแม่น้ำนั่น "
" เจ้าแน่ใจนะ ? ขบวนสินค้านี้ แม้จะไม่มีระดับเจ้ากระทิง แต่ก็มีระดับหัวหน้าจำนวนมาก "
" เห้อ เจ้านี้พูดมากจริงๆ เพียงรอดูเท่านั้นก็พอ แล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ "
อเล็กซ์ฟังรายละเอียดทั้งหมดเรียบร้อย เขาก็บอกลากับอีกฝ่ายพร้อมออกจากบาร์
' ก่อนที่จะบุกวังเบฟอก วันนี้เราก็ไปฝึกกับเจ้าพวกแก๊งใต้ดินนี้ก่อนแล้วกัน '
ในการหาเรื่องพวกแก๊งอาชญากรพวกนี้ อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
แต่พวกมันเป็นกองกำลังเดียว ที่อเล็กซ์จะสามารถต่อสู้ได้แบบจริงจังถึงชีวิตจริงๆ
และแม้จะลงมือถึงขั้นสังหาร ก็ไม่มีใครว่าได้ พวกมันเป็นเป้าซ้อมมือที่ดีที่สุด
แถมในการต่อสู้ครั้งนี้ มีแม่น้ำเป็นชัยภูมิ เขาก็มีสิทธิ์ชนะได้มากขึ้น
แต่ถึงแม้จะสู้ไม่ได้ ก็สามารถใช้น้ำเพื่อหลบหนีได้
แม้รองหัวหน้าสมาคม ยังตามเขาไม่ทัน เมื่ออยู่ใต้น้ำเลย แล้วพวกแก๊งอันธพาลเหล่านั้นจะทำได้ยังไง ?
อเล็กซ์เดินทางกลับถึงโรงแรม เสร็จแล้วเขาก็คิดหาทางเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนนี้ ดูเหมือนเขาจะต้องเตรียมการหลายอย่างหน่อย จึงเดินไปหาซื้อของ
……
เวลาผ่านไป จนยามค่ำคืนที่ฟ้ามืดสนิท
ในแม่น้ำสายหนึ่ง ที่มีความกว้างไม่มากนัก มีกองเรือที่มีตะเกียงไฟน้อยๆแล่นผ่านอย่างเงียบเชียบ
ภายในกองเรือ ประกอบไปด้วยลูกสมุนที่เป็นทั้งคนเรือและเป็นแรงงานในการขนย้ายสิ่งต่างๆ
ในขณะที่หัวเรือลำใหญ่ มีระดับหัวหน้าในการปฏิบัติการครั้งนี้ พวกเขาล้วนมีคลาสขั้นสองเป็นอย่างต่ำ
แต่ละคนล้วนสลับกันตรวจตรา และทำความสะอาดอาวุธประจำตัวกันอย่างตั้งใจ ทุกคนดูตื่นตัวให้กับค่ำคืนนี้
" ลูกพี่ ไอรัส พี่คิดว่าพวกเราจะถูกลอบโจมตีในคืนนี้หรือไม่ ? "
ในมุมหนึ่งของบรรดายอดฝีมือ มีชายวัยเกือบ 30 สองคน คนหนึ่งดูมีท่าทางตื่นเต้นและมักสอบถามคนที่อยู่ข้างกายเสมอ เพราะว่าเขานั้นเป็นระดับหัวหน้าที่ใหม่สุดในที่แห่งนี้
" มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ ในช่วงไม่กี่วันก่อน ก็พึ่งได้รับรายงานมาว่า มีขุนโจรที่กำลังส่งสินค้าประเภททาสไปยังเมืองนอกฏหมาย แต่ก็ถูกใครบางคนโจมตีซะราบคาบ ไม่รู้ว่าทราบเส้นทางเดินทางได้ยังไง อาจจะมีหนอนในกองโจรพวกมันก็ได้ "
" อื้ม ผมก็ได้ยินว่าเจ้านั่น เอาขุนโจรไปส่งทางการได้แบบเป็นๆ สร้างความโกรธแค้นให้พวกกองโจรโดยรอบเป็นอย่างมาก "
" ใช่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกนี้ เราจึงต้องเตรียมตัวเอาไว้เสมอ "
นอกจากชายสองคนนี้ ยอดฝีมือคนก็มีกิจกรรมระบายความเครียดเป็นของตัวเอง บางคนตรวจสอบขัดเงาาอาวุธและชุดเกราะ บางคนก็งีบหลับ หรือคุยเล่นกันเหมือนทั้งสองคนนี้
ตราบใดที่ยังไม่มีสิ่งใดผิดปกติ พวกเขาก็ยังสามารถจับกลุ่มกัน เพื่ออยู่ด้านในเรือนี้ได้
" เห้ย เกิดเสียงดังอะไรขึ้นข้างนอก "
จู่ๆพวกคนด้านในที่หูดี ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกไกลๆจากด้านนอก ลูกสมุนที่เฝ้าเวรใกล้ๆ จึงถูกสั่งให้ไปตรวจสอบ
เพียงผ่านไปครู่เดียว สมุนยามคนนั้นก็พาสมุนอีกคนเข้ามาหา
" เกิดอะไรขึ้น ? "
" ข้าน้อยก็ไม่ทราบ เห็นเพียงแค่ว่าเรือด้านหลัง จู่ๆแสงไฟก็มืดดับลงไป ผมตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครตอบ "
" บ้าจริง นักล่า เจ้านำหน้าไปตรวจสอบสิ หากเจอศัตรูก็ลอบยิงได้ทันที ส่วนพวกที่เหลือเตรียมตัวต่อสู้และระวังตัวให้ดี "
พวกยอดฝีมือทั้งหมดรับคำสั่งหัวหน้าปฏิบัติการ จึงหยิบอาวุธขึ้นมาพร้อมเข้าร่วมการต่อสู้
พวกเขาเหมือนกลุ่มคนที่เคยฝึกและผ่านประสบการณ์พวกนี้มาหลายครั้ง
คลาส นักล่า สองคนในกลุ่ม ก็รับคำสั่งและพุ่งตัวออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว พร้อมหยิบธนูติดตัวไปด้วย
นักล่าสองคนเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว จนผ่านกองเรือมาถึงเรือลำสุดท้าย ก่อนที่จะถึงเรือเจ้าปัญหา
ซึ่งพวกเขาก็เห็นจริงๆว่า เรือลำนั้นไฟดับจนหมดทั้งลำเรือ
แต่สิ่งที่น่าแปลกมากๆคือ เรือลำนั้นไม่มีเสียงใดตอบกลับมา แสดงว่าพวกสมุนในเรือ อาจจะถูกโจมตีหรือถูกสังหารหมดแล้ว
แต่ทำไม ? ทำไม ? ทำไมเรือมันยังเคลื่อนที่ไปด้านหน้าและติดตามเรือที่เหลือมาได้ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้สั่งคนงานให้หยุดเรือเลย
นี้เป็นเหตุการณ์ที่ประหลาดมาก ถ้าเป็นโลกยุคปัจจุบัน พวกเขาคงจะคิดว่าถูกพวกภูติผี หรือเจ้าป่า เจ้าเขา เล่นงานเอาเสียแล้ว
" เจ้าได้ยินเสียงใดหรือไม่ ? "
" ไม่เลย แทบจะไม่ได้ยินเสียงใดจากอีกฝั่งเรือเลย มันเหมือนเรือลำนั้นได้กลายเป็นเรือผีไปแล้ว "
คลาสนักล่า เป็นคลาสที่มีความสามารถทางด้านประสาทสัมผัสสูง โดยเฉพาะดวงตา หู และจมูก
พวกเขาส่วนใหญ่ อาจจะเติบโตจากการเป็นพรานป่า ใช้ธนูและอาศัยอยู่ในป่าเป็นหลัก
ทำให้มีประสาทสัมผัสที่สูงมาก เรียกได้ว่าสูงกว่าคลาสอื่นๆมาก
แต่โลกใบนี้ก็สมดุลเสมอ พวกเขาล้วนแลกมาด้วยความอ่อนแอและบอบบาง ฉบับสายโจมตีระยะไกล ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่ง