ตอนที่ 35

อเล็กซ์เดินทางมาถึงเขตการค้าเพื่อจะมองหาสถานที่ใช้เงินที่มีเกิน 100 เหรียญทอง แต่เขาก็พบว่าในเวลานี้ มีสายตาจำนวนมากกำลังตรวจสอบเขาอยู่

ซึ่งมันก็คงจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะยิ่งมีชื่อเสียง ก็จะมีสายตาที่จับจ้องอยู่ตลอด นี้เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับให้ได้

' ดูเหมือน เราต้องหาทางทำอะไรกับใบหน้า เราจะได้เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกขึ้นในอนาคต '

แต่แผนการนั้นเป็นเรื่องราวในอนาคต เขาพอมีทางให้ตัวเองปกปิดใบหน้า โดยที่ไม่ต้องถูกจับตามองเวลาเดินไปไหนมาไหนได้อยู่….

….

ผ่านไป 3 วัน

ในเวลานี้ อเล็กซ์กำลังนั่งอยู่ภายในห้องเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบรรยากาศภายในที่เงียบสงบมาก

แถมมันยังต่างจากโลกภายนอก ตรงที่มีจำนวนพลังมานาในสถานที่แห่งนี้หนาแน่นมาก

สถานที่แห่งนี้ก็คือ ห้องแห่งพลังมานา ที่มีค่าเข้าใช้งานสูงถึง 35 เหรียญทอง ต่อ 1 ชั่วโมง

มันเป็นหอคอยสูง ซึ่งตั้งอยู่ข้างซ้ายของห้องสมุดหลักของเมือง และอยู่ทางขวาของสภาเวทมนต์ภายในเมืองแห่งนี้

มันคือหอคอยสูงใหญ่ ที่ต้องใช้ทั้งนักก่อสร้างระดับสูง ที่ชำนาญถึงขั้นรู้พวกศาสตร์ฮวงจุ้ย ที่จะชักนำพลังเข้ามาภายในตัวอาคาร

แถมยังประกอบไปด้วย คลาสสายอาชีพมากมายเพื่อสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา

ไม่ว่าจะเป็น นักลงอักขระรูน นักเล่นแร่แปรธาตุ ช่างตีเหล็ก วิศวกร หรือแม้แต่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่

แถมยังต้องใช้วัสดุระดับสูง เพื่อเปิดการใช้งาน มันจึงทำให้สถานที่แห่งนี้ ต้องมีค่าใช้จ่ายในระดับมหาศาล

ซึ่งมันเป็นสถานที่ ที่ให้เหล่านักเวทย์มาใช้งาน เพื่อเข้าถึงพลังมานาในปริมาณที่เข้มข้นขึ้น เพื่อทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝนทักษะ เพราะมันต้องใช้พลังมานาเป็นส่วนประกอบหลัก

ทางด้านอเล็กซ์ เขากำลังนำมือไว้กลางอกในท่าควบคุมจักระ พร้อมเพ่งออร่าจักระที่มีไปไว้ที่ดวงตา

พลังจักระนั้น พื้นฐานของมัน ที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด คือการนำมันผ่านความรู้สึกไปยังสถานะด้านลบ เพื่อจัดการให้กลับมาเป็นปกติ

แต่การชักนำจักระเข้าสู่ส่วนต่างๆในร่างกายทั้งๆที่มันไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

แน่นอนมันจะทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นมาซะเอง มันคล้ายกับอาการที่เรียกว่าการ ' ล้น ' เกินจากความปกติ

แต่อเล็กซ์ก็ยังคงนำจักระเข้าที่ดวงตาทั้งสอง จนมันเริ่มปรากฏความร้อนลวกบริเวณแก้วตาทั้งสองข้าง

แต่ด้วยความต้านทานความเจ็บปวด ( III ) มันจึงหลงเหลือเพียงความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย และเขาก็สามารถทนมันได้อย่างง่ายดาย

ด้วยพลังมานามหาศาลภายในห้อง มันก็ทำให้อเล็กซ์สามารถเข้าถึงขอบเขตสมาธิได้ลึกขึ้นด้วย

ในเวลานี้เขาจึงมีสถานะ สมาธิระดับ 5 มันจะช่วยเร่งกระบวนการฝึกฝนในด้านพลังจิตเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้าอเล็กซ์ได้ใช้เงินไปกับการซื้อยาล้มเหลวให้เจ้าเฟล ส่วนที่เหลือเขาก็นำเงิน มาลงกับการใช้งานที่นี้แทบทั้งหมด เพื่อพัฒนาตัวเองให้เร็วขึ้น

จนเขาได้รับทักษะของคลาส นักสู้ รวมถึงคลาส นินชเพิ่มขึ้น

ส่วนในวันนี้ เขาเพียงแค่เพ่งเวลาและจักระทั้งหมดเพื่อปลดล็อคทักษะ ดวงตาจักระ

' ความเจ็บเริ่มลดลงแล้ว '

อเล็กซ์เริ่มส่งพลังจักระอัดเพิ่มเติมเข้าไป จนในที่สุด ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มผสานเข้ากับจักระเป็นหนึ่งเดียวกัน

[ ได้รับ ทักษะ :  ดวงตาจักระ ( เริ่มต้น ) ]

คำอธิบาย : ใช้พลังจักระเข้าสู่ดวงตา เพื่อเปลี่ยนดวงตาให้สามารถมองเห็นกระแสแห่งพลังงานทั้ง 3 , รวมถึงสามารถมองเห็นทุกสิ่งแม้ไม่มีแสง ( แต่เมื่อใช้ดวงตาจักระสีสันทั้งหมดจะหายไป )

เมื่อการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา ดวงตาของอเล็กซ์ก็มีกระแสสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นมา แต่คนอื่นๆจะมองไม่เห็นถึงสิ่งนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ใช้จักระเช่นเดียวกัน

' ทักษะที่เกียวข้องกับจักระ ล้วนผลาญทั้งพลังชีวิต พลังมานา พลังกาย เราจึงต้องฝึกฝนความชำนาญ มันถึงจะทำให้การใช้พลังลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น '

ความชำนาญ แบ่งออกเป็นระดับ เริ่มต้น , พื้นฐาน , เชี่ยวชาญ , แตกฉาน และสุดท้ายคือ บรรลุ

ยิ่งมีการมีความชำนาญมากเท่าไหร่ อัตราการใช้พลังงานก็จะลดลง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพทักษะให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ

ถ้าทักษะไหนมีการคูลดาวน์ด้วยแล้วหล่ะก็ ความชำนาญที่เพิ่มขึ้น ก็อาจจะลดเวลาในส่วนนั้นลงได้ด้วย

ดังนั้นความชำนาญ ถือเป็นสิ่งหนึ่ง ที่ทั้งผู้เล่นและผู้คนในโลกนี้ควรต้องใส่ใจ รวมถึงอเล็กซ์ในเวลานี้ด้วยเช่นกัน

แต่ด้วยความสามารถของ ปัญญากระจ่าง ทำให้ประสิทธิภาพของทุกทักษะจักระ แทบจะใช้งานง่ายขึ้นมากๆ

หลังจากได้รับทักษะ ดวงตาจักระมา อเล็กซ์ก็เพ่งมองไปรอบข้าง ตามจริงสถานที่แห่งนี้เป็นห้องที่ทำจากหินสีเทา

ซึ่งอเล็กซ์ต้องการอยู่แบบมืดๆ เพื่อทำให้มีสมาธิเพิ่มขึ้น จึงทำให้การจะมองเห็นรอบด้านนั้นยากมาก

แต่ในเวลานี้เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งรอบข้าง แม้มันจะเป็นภาพขาวดำก็ตาม

ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นสีใดๆเลย เขาเห็นกระแสสีฟ้าที่ล่องลอยอยู่ตามอากาศโดยรอบ

เมื่อเขาหันมามองที่มือตัวเอง เขาก็พบว่ามือของเขา มันเหมือนมีเส้นใยสี ประกอบไปด้วย สีแดงอ่อน สีฟ้า และสีส้มน้ำตาล

' สีฟ้าที่เราเห็นในอากาศคือพลังมานาของห้องแห่งนี้ ส่วนสีในตัวเราคือ การประกอบกันของพลังงานทั้ง 3 ในร่างกายเรา '

อเล็กซ์ทดลองเพ่งมองทุกสิ่งรอบตัวจนพอใจ เขาก็เริ่มหยุดทักษะลง

ด้วยความชำนาญที่อยู่แค่เริ่มต้น การผลาญพลังงานของมันจึงมหาศาล แต่ทางที่ดีเขาก็ควรฝึกมันให้ไปอยู่ระดับ พื้นฐานให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้เหมาะสมในการใช้งานจริง

เพราะก่อนหน้านี้ อเล็กซ์ก็จะใช้ทักษะที่มีความชำนาญไปถึงระดับ พื้นฐานแล้วเท่านั้น

อัตราการผลาญพลังของทั้งสองระดับต่างกันอย่างสิ้นเชิง แถมตามจริงจะพัฒนามันก็ไม่ได้ยาก จึงต้องเร่งทำนับตั้งแต่วินาทีนี้

" พรึ่บ "

ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น พร้อมกระแสมานาในอากาศก็เริ่มจางหายไป

นี้เป็นสัญญาณว่า 1 ชั่วโมงในห้องพลังมานาได้หมดลงแล้ว

อเล็กซ์ก็สามารถปลดล็อคทักษะได้สำเร็จพอดี เขาจึงอยากจะไปฝึกฝนพร้อมทดสอบประสิทธิภาพว่าต่างจากสมัยเป็นผู้เล่นไหม

เขาจึงเดินออกจากหอคอยที่หรูหรา พร้อมเดินไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน

' ดวงตาจักระ '

อเล็กซ์นำมือข้างหนึ่งมาไว้บริเวณอก เพราะอย่างที่เคยบอก แม้จะมีความสามารถ ปัญญากระจ่าง

แต่ถ้าเป็นทักษะใหญ่ หรือความชำนาญยังไม่สูงพอ อเล็กซ์จะต้องใช้มือมาเป็นท่าทางควบคุมจักระ

มันก็ถือว่าเป็นข้อเสียอีกข้อหนึ่งของ คลาส นินชู เพราะเมื่อเรายกมือขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ควบคุมจักระ

ศัตรูก็จะสามารถตั้งรับการโจมตีได้ทันที ดังนั้นทักษะง่ายๆควรที่จะฝึกฝนให้มันชำนาญให้หมด เพื่อในการต่อสู้จริง จะได้ไม่เกิดการเสียเปรียบฝ่ายตรงข้าม

อเล็กซ์เดินตามท้องถนน พร้อมทำมือแปลกๆ ทำให้ผู้คนโดยรอบมองอย่างประหลาดใจ

แต่ในเขตที่อเล็กซ์อยู่ในเวลานี้ คือเขตของเหล่านักเวทย์ พวกเขาอาจจะมีพวกแปลกๆโผล่มาบ้างก็ไม่น่าประหลาดใจซักเท่าไหร่ พวกเขาจึงหันไปทำกิจกรรมตัวเองต่อ

' ผู้คนในสถานที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่จะมีไอสีฟ้ามากกว่าสีอื่น นี้แสดงให้เห็นถึงพลังของคลาสพวกนักเวทย์ ที่มีพลังมานาเป็นหลัก '

อเล็กซ์ตรวจสอบผลของทักษะ ดวงตาจักระ ทำให้รู้ว่า มันก็ยังคงเหมือนกับสมัยที่เขายังเป็นผู้เล่นอยู่

อเล็กซ์เดินตรวจผู้คนไปตามท้องถนนเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อพัฒนาความชำนาญของทักษะ ดวงตาจักระ

หากฝึกมันเงียบๆ สู้มาฝึกโดยการใช้สังเกตุผู้คนจริงๆ มันก็อาจจะมีประโยชน์กว่า

' หืม ???? '

อเล็กซ์ส่งเสียงร้องประหลาดภายในใจอย่างแตกตื่น เพราะเขามองไปเห็นบางอย่างในมุมหนึ่ง

ซึ่งมันเป็นโซนตลาดข้างทาง ที่มีพวกหมอดู นักพยากรณ์ นักดูดวงชะตา ซึ่งมีแต่หญิงชราในบริเวณนี้

สำหรับผู้คนส่วนใหญ่ที่อเล็กซ์มองเห็นผ่านๆ พวกเขามีออร่าสีฟ้าที่อ่อนจางเท่านั้น หรือบางคนก็แทบไม่มีเลย

แต่ท่ามกลางหมอดูจำนวนมาก มีหญิงชราคนหนึ่งที่หลังค่อม สวมหมวกทรงกรวย มีใบหน้าที่เหี่ยวย่น ดวงตาดูหมองหม่นผิดปกติ

ดูจากภายนอกก็คล้ายพวกหมอดูแก่ๆทั่วไป ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด

แต่ออร่าสีฟ้าที่อเล็กซ์ตรวจสอบได้ มันควบแน่นจนแทบจะกลายเป็นแสงสีน้ำเงินเข้ม พร้อมแสงสีแดงรอบข้างที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง

' หญิงชราคนนี้อันตรายสุดจะพรรณนา '

อเล็กซ์รีบชักสายตากลับอย่างรวดเร็ว เหงื่อของเขาไหลเต็มหน้าผากและแผ่นหลัง

หลังจากนั้นเขาก็รีบออกเดินอย่างรวดเร็ว เพื่อให้พ้นระยะสายตาของอีกฝ่าย

เพียงช่วงเวลาก่อนที่เขาเลี้ยวเข้าทางแยกถนน เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดำมืดมหาศาลแบบท่วมท้นพุ่งใส่เขา จากทางด้านหลัง

จู่ๆอเล็กซ์ก็ทรุดตัวลงกับพื้น เขาสัมผัสได้ถึงความกลัวมหาศาลภายในจิตใจของตัวเอง

อเล็กซ์รีบเคลื่อนไหว พร้อมใช้หลังพิงกำแพง ถัดมาก็เรียกหน้าจอขึ้นมาดู

มันมีค่าสถานะสีแดงดำที่โดดเด่นปรากฏขึ้นบนหน้าจอว่า

คำสาปแห่งความกลัว !!!!

' ยัยแก่นั่นเป็นแม่มดดำ ( Black Witch ) แถมทรงพลังมาก '

อเล็กซ์รู้สึกได้ถึงร่างกายตัวเองกำลังสั่นพร่า พร้อมตื่นตระหนกภายในใจอย่างรุนแรง และควบคุมไม่ได้ ราวกับร่างกายกำลังโดนปีศาจสิงสู่

ประสาทสัมผัสทั้งหมดแทบจะกรีดร้อง เขาเริ่มหันซ้ายหันขวาเพราะหูแว่ว เหมือนได้ยินทั้งเสียงกรีดร้องและคนเรียก

เมื่อมองไปในมุมหนึ่งของกำแพง เขาพบกับภาพเงาสีดำกำลังยืนมองมาที่เขา ซึ่งครู่ต่อมา มันก็ปรากฏกลายเป็นใบหน้าตัวของเขาเอง ที่กำลังจ้องมองมา พร้อมฉีกยิ้มจนแก้มแทบจะกลายเป็นทรงจันทร์เสี้ยว

อเล็กซ์จึงนำมือมากุมหัวตามสัญชาตญาณ พร้อมคลานถอยหลังอย่างหวาดผวา แม้เขาจะยังไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้หญิงชรานั่น

แต่เขาก็โดนคำสาปเล่นงานเข้าอย่างง่ายดาย

อาการของอเล็กซ์เริ่มหนักขึ้น จนเริ่มมีสถานะ ปวดหัว แม้พลังมานาจะไม่ลดลง

ทั้งยังมีสถานะ ภาพหลอน , หูแว่ว , แพนิค , สั่นระรัว , วิตกจริต , เครียดรุนแรง , เหนื่อยล้า , อ่อนไหว , สับสน , วิตกกังวล , เศร้าหมอง พร้อมด้วยค่าสถานะด้านลบอีกมหาศาล

ซึ่งค่าสถาะเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แม่มดดำกระทำ แตเป็นเพราะร่างกายของอเล็กซ์ตอบสนองเกินไปต่างหาก

ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ค่าสถานะอีกมหาศาลจะตามมา จนเขากลายเป็นบ้าในที่สุด

หากไม่มีบาทหลวงที่ทรงพลังพอๆกัน หรือยาชำระจิตใจระดับสูง เขาอาจจะตายเพราะร่างกายตัวเองหวาดกลัวเกินไป จนเกิดเป็นปฏิกิริยาทำร้ายตัวเอง

แต่อเล็กซ์ก็เริ่มใช้ทักษะ ดึงสติ ทำให้กลับคืนสู่ร่างกายปกติอย่างกระทันหันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

แต่เขาก็รู้สึกคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียน แต่ว่าก็รีบฝืนเอาไว้แบบสุดตัว

เขาเริ่มนั่งขัดสมาธิข้างกำแพง พร้อมนำมือมาวางไว้บนอก เพื่อเร่งการควบคุมจักระให้ถึงขีดสุด

ออร่าจักระเริ่มถูกนำไปตามความรู้สึกผิดปกติในร่างกาย จนมันพบเข้ากับออร่าสีแดงทมิฬที่น่ากลัว

พลังทั้งสองจึงต่อสู้กันภายในหัวอเล็กซ์ แต่คำสาปนี้แม้จะร้ายกาจ

แต่เป็นพลังงานคำสาปที่หากปะทะตรงๆก็ไม่ได้ร้ายกาจนัก ความร้ายกาจของมันคือ เป็นพลังทางจิตที่ยากจะสัมผัสถึง

แต่ด้วยทักษะ ควบคุมจักระ ที่มาถึงค่าความชำนาญระดับ เชี่ยวชาญแล้ว

มันจึงสามารถต่อต้านต้นเหตุของปัญหาได้ อาการทั้งหมดของร่างกายที่พุ่งขึ้นไปสูง ก็เริ่มหยุดลงไป

แม้จะบอกว่าอเล็กซ์จะมีประสบการณ์จนเผชิญหน้ากับความกลัวได้ทุกรูปแบบ และเขาก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น

แต่ความกลัวเมื่อซักครู่มันเกิดภายในร่างกาย มันชักนำจากภายใน มันจึงมีประสิทธิภาพแม้แต่กับอเล็กซ์เองก็ตาม

แม้จะกำจัดสถานะ คำสาปแห่งความกลัวไปแล้ว แต่พวกค่าสถานะที่ร่างกายสร้างขึ้นก็ยังอยู่

แต่อเล็กซ์ไม่มัวเสียเวลามาชำระล้าง สถานะพวกนั้นตอนนี้แน่ เขาอยากจะออกห่างจากเขตพวกนักเวทนี้ให้เร็วที่สุด

' บ้าจริง เราเพียงอยากตรวจสอบทักษะ ดวงตาจักระ ไม่คิดว่าจะไปพบเจอตอเข้า '

ในโลกใบนี้ มียอดฝีมือเร้นกายจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนมีคลาสลับ และต้องการปกปิดตัวเอง

การที่อเล็กซ์เหมือนจะสัมผัสได้ถึงตัวตนอีกฝ่าย แม่มดดำที่แสนร้ายกาจจึงสาปเขาทันที

' พลังคำสาป !! แถมเราไม่มีค่าต้านทานสถานะทางด้านจิตใจมากนัก '

ก่อนหน้าอเล็กซ์พบเจอแต่พวกโจมตีกายภาพ ดังนั้นจึงไม่มีค่าต้านทานพวกสายพลังจิตเลย

แถมคลาสของเขาก็ไม่ได้มีความสามารถในการต้านทานพวกนั้น

คลาสสายพลังจิต ล้วนเป็นสายแก้ทางพวกสายกายภาพอยู่แล้ว เพราะคลาสเหล่าานั้นมีพลังป้องกันทางจิตต่ำ

แต่ในทางกลับกัน แม่มดพวกนี้ทำอะไรพวกคลาส สายนักเวทย์ได้ค่อนข้างน้อย เพราะพวกนักเวทย์ก็มีพลังทางจิต หรือความสามารถ ต้านทานทางจิตเช่นกัน

แต่อเล็กซ์ก็พอมีความสามารถเช่น ปัญญากระจ่าง ที่สามารถทำให้รักษาสติไว้ได้ส่วนหนึ่ง

อเล็กซ์จดจำได้ คู่ต่อสู้ที่พวกผู้เล่นไม่อยากเจอที่สุดก็คือ แม่มดดำ

เพราะพวกเธอมีสิ่งที่ทำให้เหล่าผู้เล่นหวาดกลัวอย่างยิ่ง มันก็คือการติดค่าสถานะถึงดวงวิญญาณ

ทำให้เมื่อฟื้นคืนชีพ ค่าประสบการณ์จะลดลงแบบมหาศาล

ซึ่งในระดับสูง มันมักจะมีการโจมตีแบบนี้ ที่ทำให้พวกผู้เล่นขยาด และไม่อยากเข้าไปใกล้

ในสมัยผู้เล่น การเจอกับตัวตนที่สุดยอดขนาดนี้ ต่อให้ตาย ก็สามารถเอาไปโม้ได้ไม่รู้จบ แต่อเล็กซ์มีชีวิตเดียว การเจอกับตัวตนระดับนี้ มันนับว่าเป็นหายนะอย่างแท้จริง….

ผมจะอัพที่เด็กดีนำนะฮะ