ตอนที่แล้วตอนที่ 1369 มิติไม่สามารถโค่นล้มผู้ยิ่งใหญ่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1371 หอทงเทียนไปทางไหน?

ตอนที่ 1370 กระบี่อาญา ความวุ่นวาย


พวกเขาหวังว่าด้วยความพยายามของพวกเขา  พวกเขาจะสามารถช่วยเหลือเย่ว์หยางได้บ้างแม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม

“หือ?”

“ระวังเตรียมพร้อม!”

ในกลุ่มที่บุกตะลุยไปข้างหน้าหยุดทันที  เสวี่ยทันหลางมีปฏิกิริยารุนแรงที่สุดสีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเป็นพิเศษ และเขาขมวดคิ้ว

สภาพแวดล้อมโดยรอบเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด

อากาศแปรปรวนเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำ

มีแสงสีแดงฉายวาบขึ้นข้างหน้า

สว่างเจิดจ้า

จนดวงตาพร่า

เทพทวารบาลอันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำร้ายมานับไม่ถ้วนเทพทวารบาลจางเว่ยปรากฏตัวข้างหน้าด้วยสีหน้าหยิ่งผยองอีกครั้ง

คราวนี้แม้แต่คนอารมณ์ดีอย่างองค์ชายเทียนหลัวอดไม่ได้ที่บ่นออกมาบ้าง“ต้องฆ่าสักกี่ครั้งถึงจะตายจริงๆ  จางเว่ย!  ถ้าเจ้าเก่งจริงก็ก็มาสู้กับเราให้เต็มที่ลืมเรื่องที่เราฆ่าเจ้าซ้ำๆ ไปก่อนดีไหม?”

เจ้าอ้วนไห่บีบคั้นจางเว่ยมากหลายครั้งเหลือเกิน  เขารู้สึกว่าเขาสามารถสู้และฆ่าได้ดังนั้นเขาวิ่งเข้าไปก่อน  “ข้ามาแล้วเจ้าผู้นี้ชอบให้มีการทุบตี เราคุณชายจะทำให้เขาพอใจ

ไม่รอให้เขาตะโกนเสร็จ

แขนทั้งสองของจางเว่ยยิงธนูแสงออกมานับพัน

แสงเทพพุ่งผ่านพื้นที่อย่างรวดเร็วเย่คงและคนอื่นที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยต่างหลบหลีกส่งผลให้เหนื่อยล้าแต่เจ้าอ้วนไห่ที่กำลังพุ่งใส่ศัตรูไม่มีเวลาตอบโต้ ในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีเจ้าอ้วนไห่ก็ถูกพลังสังหารของจางเว่ยทำร้าย เลือดพุ่งกระจายเต็มพื้น

“ภูตผีที่พวกเจ้าได้พบมาก่อนหน้านั้นเป็นภาพลวงตาทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยราชันย์ไร้ใจร่วมมือกับตงฟางเพื่อใช้ลากถ่วงเวลาพวกเจ้า  พวกเจ้าคิดจริงๆหรือว่าจะเอาชนะนักสู้ระดับเทพได้ น่าขัน? ตอนนี้เป็นวันที่เก้าแล้ว แต่พวกเจ้าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่หนึ่งในพัน  แน่นอนว่าด้วยสติปัญญาของพวกเจ้า  พวกเจ้าไม่มีทางประสบผลสำเร็จได้  พวกเจ้าไม่มีทางทำลายเกมของตงฟางได้  หมากของพวกเจ้าแย่แล้ว  วันสุดท้ายของชีวิตมาถึงแล้ว  ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายนี้เราผู้เป็นเทพนี้จะยอมละกฎ ออกมาเพื่อมอบความตายให้กับเจ้า พวกเจ้าจะได้ตายอย่างภาคภูมิใจ!”  จางเว่ยเย่อหยิ่งเขาชี้นิ้วไปที่เย่คงและเสวี่ยทันหลาง “มาพร้อมๆ กันเลยสวะอย่างพวกเจ้าสามารถแก้ไขได้ในหนึ่งวินาทียกเว้นเย่ว์ไตตันที่ไดรับการสนับสนุนจากนางพญาผู้พิชิตแมลงเล็กน้อยอย่างพวกเจ้าข้าไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ”

“แย่แล้ว!” เย่คงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

จางเว่ยที่อยู่ข้างหน้านี้

เป็นภาพเหมือนกัน

แต่เทียบความแข็งแกร่งกับเมื่อก่อนแล้วต่างกันราวฟ้ากับดิน

เหมือนกับว่าบนภูเขาพวกเขาได้พบเสือจนได้ในที่สุด พวกเขาเอาชนะพวกภูตผีก่อนหน้านั้นหลายตัวจนในที่สุดร่างจริงก็ออกมาคิดบัญชี

เสวี่ยทันหลางส่งสัญญาณกับองค์ชายเทียนหลัว  ทั้งสองคนแยกกันทันทีคนหนึ่งซ้ายอีกคนหนึ่งอยู่ขวา บุกโจมตีจางเว่ยผู้หยิ่งผยองทันที

ในช่วงเวลาที่คิดว่าสำเร็จ

ม่านตาของเย่คงขยายเป็นสองเท่า

เพราะเขาพบว่าร่างจางเว่ยหายไปเหมือนควันเบาบางความเร็วในการสนองตอบของจางเว่ยเทียบกับเมื่อก่อน ต้องบอกว่าเร็วกว่าหลายเท่านอกจากนี้สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือร่างจริงของจางเว่ยมาปรากฏที่ด้านหลังตัวเขาอย่างคาดไม่ถึง

“ประตูนรกแดนสวรรค์!” จางเว่ยหายไปในทันทีและการโจมตีของเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวล้มเหลว เมื่อพวกเขาหันกลับไปดูก็พบกับประตูประหลาดสีดำบนท้องฟ้าที่กำลังจะเปิดออกมีเงานับพันสายคล้ายกับภาพจางเว่ยออกมาและพุ่งเข้าหาเย่คงกับพวกบนพื้นราวกับดาวตก  น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่าเวลานี้ร่างแท้ของจางเว่ยมายืนอยู่ด้านหลังเย่คงนานแล้ว

“ระวังด้านบน!”  พี่น้องตระกูลหลี่ตะโกนบอกด้วยความห่วงใย

“ไม่,น่าจะเป็นใต้พื้น...”  ในแววตาของเย่คงสะท้อนประกายแสงเขารู้สึกว่าบนพื้นมีเงาโปร่งแสงนับไม่ถ้วนของจางเว่ยกำลังวิ่งออกมาจากประตูโปร่งแสงสะท้อนกับเงาในท้องฟ้า มองผิวเผินไม้ตายการเคลื่อนไหวนี้อยู่ในท้องฟ้าแต่พลังงานที่แท้จริงกลับอยู่ตำแหน่งใต้พื้น

เสียงตะโกนของเขาสายเกินกว่าจะเปลี่ยนสถานการณ์ในสนามรบได้ทัน

นอกจากการลงมือกะทันหันของเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวยกเว้นเย่คงที่ป้องกันการโจมตีจากด้านใต้พื้น เป็นการใช้ทักษะแฝงเร้นของตนเองล้วนๆต้านรับ ส่วนคนอื่นร่วงลงกับพื้น

จางเว่ยมองดูเย่คงด้วยความประหลาดใจอยู่ในสนามรบแล้ว คนผู้นี้เป็นข้อยกเว้นจริง

เป็นตัวแปรเพียงคนเดียว

ตามศักยภาพเจ้าเด็กนี่ไม่น่าจะเทียบได้กับเจ้าเด็กน้ำแข็งได้  อย่างมากก็น่าจะเป็นอันดับสองหรืออันดับสามแต่ในเรื่องความสามารถเอาชีวิตรอด เขากลับเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มแม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่ความสามารถในการรักษาชีวิตรอดของเขากลับเหนียวแน่นอย่างคาดไม่ถึง โชคดีที่กลุ่มเด็กหนุ่มพวกนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนพลังเทพจากเย่ว์ไตตันมากเพียงพอ พละกำลังของพวกเขาหมดลงในช่วงการต่อสู้อย่างหนักสองสามวันที่ผ่านมา พวกเขาต้องการเอาชนะนักสู้ระดับเทพโดยอาศัยแค่ความเชื่อมั่นและจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้นหรือ?

ฮ่าฮ่าฮ่าไร้สาระสิ้นดี

อย่างไรก็ตามนี่คือความคิดที่ไร้เดียงสาของพวกมนุษย์ชั้นต่ำ คิดเอาเองว่าด้วยความสามารถของตนเองจะสามารถต่อต้านเจตจำนงฟ้า และเปลี่ยนผลการสู้รบได้...

“พวกเจ้ามีคำพูดใดจะสั่งเสียพูดออกมาได้เลย” ตอนนี้จางเว่ยผยองลำพอง เขามั่นใจมาก  แม้ว่าเขาไม่อาจเอาชนะเย่ว์ไตตันได้  แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของตัวเขาเองใครเลยจะรู้กันเล่าว่าเย่ว์ไตตันมีนางพญาผู้พิชิตผู้น่ากลัวคอยหนุนหลัง  แต่ยกเว้นเย่ว์ไตตันแล้ว คนอื่นๆในหอทงเทียนเป็นนักรบชั้นต่ำทั้งนั้น พวกเขายังจะสร้างปัญหาอะไรได้?  โดยหลักแล้วก็แค่ฆ่ามดแมลงอ่อนแอให้ได้มากที่สุดเท่านั้นพอ

“เดิมทีข้าไม่ต้องการยืมเลย” เย่คงถอนหายใจเบาๆ

“อะไรนะ?”จางเว่ยไม่เข้าว่าคำพูดของเย่คงหมายความถึงอะไร ความตายมาเยือนหน้าประตูแล้ว ยังจะพูดไร้สาระอีกหรือ?เจ้าผู้นี้กลัวจนบ้าไปแล้วหรือ?

“ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีถึงจะใช้หนี้หมด!” เสวี่ยทันหลางลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างเย็นชาร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่สีหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้ยังคงเหมือนเดิมราวกับว่าบาดแผลที่อยู่บนร่างกายนั้นไม่ใช่ตนเอง

“นี่คือพลังเทพนิรันดร์?ทรงพลังดีมาก!” องค์ชายเทียนหลัวหลับตาพึมพำ

“เจ้ากำลังว่าอะไร?”  จางเว่ยรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา

ไม่มีความกลัว

ไม่มีอาการตกใจกลัวตายหรือร่ำไห้ขอชีวิต

ตรงกันข้ามมิเพียงจะถอนหายใจแปลกๆอย่างอธิบายไม่ได้ อารมณ์ที่ว้าวุ่นของเขาหายไปไหน?สีหน้าแบบนี้ดูไม่เหมือนคนกำลังจะแพ้หรือกำลังจะตายพวกเขาไม่มีความรู้สึกอ่อนแอเลยหรือ?

เย่คงไม่มีการแสดงสีหน้าอารมณ์ใดๆทั้งนั้นแต่ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความแน่วแน่ที่ไม่มีอะไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงได้  “ข้าเข้าใจ เขาทำแบบนี้เพราะมีเหตุผล  แน่นอนว่าเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพ แม้จะเป็นเทพที่อ่อนแอที่สุดก็ตาม  อย่างไรก็ตามเราจะไม่ยอมแพ้เราจะพยายามอย่างหนักเพื่อตามเขาให้ทัน เราจะไม่ปล่อยให้เขาต้องเดินอย่างเดียวดาย”

พี่น้องตระกูลหลี่พยักหน้า  “ใช่แล้ว เราคือเพื่อนร่วมกลุ่มเดียวกัน!”

เจ้าอ้วนไห่เป็นคนสุดท้ายที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากเขาวิ่งไปหาสาวนางนวลสายลม ใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเขายังยิ้มออก  “เจ้าปลอดภัยหรือเปล่า?”

“ไปอยู่ห่างๆข้า!  อย่ามาใกล้ข้าเกินไปข้ารู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นหน้าเจ้า!”  สาวนางนวลสายลมทำท่าตกใจกลัวแทบตายรีบเผ่นออกมาห่างอีกสิบเมตรพลางโบกมือพัลวัล  “ขอร้องหยุดหัวเราะได้แล้ว รอยยิ้มเปื้อนเลือดบนใบหน้าของเจ้า เห็นแล้วข้าจะอาเจียน น่าขยะแขยงจริงๆอย่ามาใกล้ข้าตรงนี้อีก ไม่อย่างนั้นข้าอาจฆ่าตัวตายได้... อย่าบังคับข้าข้าเจ็บปวดทรมานมาก!”

“อย่ากลัวเลยยาหยี!  ข้าเข้าใจเจ้าดีข้าจะให้เวลาเจ้าได้ปรับตัว!”  เจ้าอ้วนไห่กำลังบอกว่าเขาเป็นคนเกรงใจคน

“จะอ้วก!”

สาวนางนวลสายลมอยากตายทันทีตัวนางเองมีสัมพันธ์กับคนแบบนี้ได้อย่างไร ชีวิตนี้ช่างน่าเศร้าเกินไป

จางเว่ยยิงแสงออกมาจากระหว่างแขนอีกครั้งแสงนั้นมองดูเหมือนกับลูกศร

ยิงซ้ำอีกครั้ง

ร่างที่เพิ่งถูกโจมตีแล้วยืนมั่นคงเหมือนภูเขาของเจ้าอ้วนไห่ถูกโจมตีอีกครั้งหนึ่ง

แม้ว่าจะมีบาดแผลทั่วตัวเลือดฉีดพุ่งอย่างรุนแรง แต่เขากลับยืนหยัดมั่นคงอยู่กับพื้นนัยน์ตาแดงก่ำราวกับสัตว์ร้ายจ้องมองจางเว่ยอย่างดื้อรั้นดุร้ายทำให้นักสู้ระดับเทพอย่างจางเว่ยสะท้านใจอย่างบอกไม่ถูก  ไม่เพียงแต่เจ้าอ้วนไห่เท่านั้นแต่ทุกคนรวมถึงเสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและคนอื่นๆ ล้วนเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันที่น่ากลัวนี้

“มดแมลงจะดิ้นรนต่อสู้หรือ?”จางเว่ยโมโห ในฐานะเทพที่ทรงพลัง เขาถูกมนุษย์ระดับล่างข่มขู่ได้หรือ?นี่มันเรื่องอะไรกัน?

“ข้า,เย่คงยินดีรับของขวัญแห่งพลังเทพชะตาไว้ และเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อชะตาของเทพจอมราชันย์ในอนาคต”  เย่คงยกมือขวาและทาบอกอย่างสง่างาม

“ใช่แล้วเราก็ต้องการอย่างเดียวกัน”

เช่นเดียวกับเย่คงเสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่เจ้าอ้วนไห่และสาวนางนวลสายลมล้วนทำเหมือนกัน

จางเว่ยไม่ทันได้อ้าปากพูดเขาพบด้วยความประหลาดใจว่า มดแมลงเหล่านี้ที่อยู่ในร่างมนุษย์เปล่งทะเลแห่งพลังเทพมากมายอย่างไม่มีทางกะประมาณได้  ในพริบตาพลังเทพได้ไหลเวียนไปทั่วร่างและหมุนวนเป็นเกลียวด้วยความเร็วสูงและประสานพลังกันอย่างหนาแน่น

พวกมนุษย์เหล่านี้สามารถสร้างบัลลังก์เทพได้หรือ?

ไม่,เป็นไปไม่ได้!

พวกเขาไม่มีเงื่อนไขเหล่านี้เลย  นอกจากนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่นักสู้ระดับเทพ และพวกเขามีของสุดยอดสมบัตินั้นได้อย่างไร?

“ประตู!” จางเว่ยตกใจ เขาเหยียดมือและเรียกประตูเทพออกมาข้างหน้า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าเขา  เขาไม่ยินดีจะอยู่ต่อเพื่อแสดงความสง่างามไม่ว่ามนุษย์เหล่านี้จะควบสร้างบัลลังก์เทพได้หรือไม่ไม่ว่าพวกเขาจะมีคุณสมบัติสร้างสิ่งนี้ได้หรือไม่เรื่องเหล่านี้ไม่อยู่ในหัวคิดของเขา เพราะพลังของศัตรูนั้นเหนือกว่าและครอบงำตัวเขาได้อย่างสิ้นเชิงถ้าเขายังรั้งอยู่ ผลลัพธ์มีประการเดียว นั่นคือต้องตาย!

เพื่อรับประกันความอยู่รอดรับประกันพลังเทพของเขาเอง ตอนนี้เขามีเป้าหมายเดียว

นั่นคือจากไป!

“เย่ว์ไตตันนี่เจ้าทำเพื่อพวกเขาใช่ไหม?  ดีมากเจ้ากับตงฟาง ราชันย์ไร้ใจและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้จงสู้กันไปเถอะสงครามของพวกเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า อย่าคิดว่าข้าจะลงมือทำให้เจ้าอีก เจ้าต้องการใช้ชีวิตข้าเทพทวารบาลไปเพิ่มน้ำหนักให้เจ้าหรือ?  ไม่ เป็นไปไม่ได้! ชีวิตและพลังเทพของข้าก็เป็นของข้า ข้าต้องการเป็นเทพที่อิสระไม่ใช่ตัวหมากที่ถูกเขี่ยทิ้งข้าจะไปจากที่นี่กลับสู่แดนสวรรค์บนที่ยอดเยี่ยมของข้าและสนุกกับทุกอย่างที่เป็นของข้า!”  จางเว่ยคำรามด้วยความโมโห

เขาต้องถือโอกาสที่เย่คงเสวี่ยทันหลางและคนอื่นๆ กำลังกลั่นสร้างบัลลังก์เทพ รีบผ่านเข้าประตูเทพหนีไป

ไม่ว่าจะเป็นหมากตัวใดก็ตามเขาไม่ต้องการเป็นทั้งนั้น

ชีวิตเท่านั้นสำคัญที่สุด

ปล่อยให้เย่ว์ไตตันกับเทียนอี้สู้กันจนตายไปเลยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเอง  สำหรับดินแดนชั้นต่ำอย่างหอทงเทียนไม่ว่ามันจะรุ่งเรืองหรือตกต่ำก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา

ในขณะที่จางเว่ยกำลังจะเข้าประตูเทพและคิดว่าเขาปลอดภัยปรากฏมือข้างหนึ่งข้างหน้าบีบคอเขาผู้เป็นนักสู้ระดับเทพโดยตรง

ต่อหน้าเย่คงเจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวและพวกนี่เป็นฉากภาพที่ทำให้พวกเขาตกใจ

พวกเขาตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษรูปงามคว้าจางเว่ยด้วยมือข้างเดียวและกระบี่เทพที่เปื้อนเลือดอยู่ในมือข้างหนึ่งเดินออกมาจากประตูเทพของจางเว่ยบางทีเขาอาจมองไปที่คนที่มองดู หรือเขาอาจจะไม่สนใจปฏิกิริยาของทุกคนบุรุษหนุ่มผู้นั้นวางกระบี่เทพลงบนพื้นจากนั้นใช้พลังที่โหดเหี้ยมอำมหิตบิดคอจางเว่ยจนขาด

จางเว่ยส่งเสียงครวญครางอ่อนล้า

แต่ไม่มีประโยชน์

ต่อหน้ามือกระบี่รูปงามที่เขาคิดว่าเป็นเทพผู้ทรงพลังมากเขาไม่อาจดิ้นรนต่อสู้ได้เลย

เขาทำได้แต่เพียงเปล่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวดจากนั้นศีรษะถูกบิดขาดและตายไปโดยพลังเทพของเขาถูกอีกฝ่ายดูดซับไปภายในชั่วอึดใจ

“เจ้าเจ้าเป็นใคร?”  แม้แต่เย่คงที่กล้าหาญมากก็ยังกลัวบุรุษแปลกหน้าคนนี้เขาไม่เคยปรากฏในความทรงจำของเขามาก่อนว่าคนผู้นี้เป็นใคร? ทำไมต้องฆ่าจางเว่ย?ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่

“บอกเย่ว์ไตตัน  ข้าเป็นหนี้เขาตอนนี้ข้าใช้คืนให้เขาแล้ว” มือกระบี่รูปงามโยนศพของจางเว่ยลงกับพื้นอย่างไม่ใยดีและโยนศีรษะอีกหลายหัวลงแทบเท้าของเย่คง จากนั้นชักกระบี่เทพตัดมิติทะลวงหายไปในความว่างเปล่าไม่เหลือร่องรอย

คนผู้นี้เป็นใครกัน?

ที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาเข้ามาในโลกหมากรุกของตงฟางและเข้ามาเปลี่ยนวงกตมิติเวลาหรือไม่?

เย่คงหันไปมองเจ้าอ้วนไห่แต่เจ้าอ้วนไห่ตอนนี้สับสนยิ่งกว่าหนอนโง่ส่ายหัวไปมาบ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจนัก

“อืม..นี่หน้าอย่างนี้...” องค์ชายเทียนหลัวมองดูหัวที่กลิ้งอยู่ใกล้เท้าหลายหัวทันใดนั้นเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ  “นี่ดูใบหน้านี้ นี่คือศีรษะของจีอู๋ลี่ไม่ใช่หรือ? โอว...พระเจ้า เหลือเชื่อจริงๆ จีอู๋ลี่ตายแล้วและศีรษะของเขาอยู่ใต้เท้าของเขา นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”

“ดูเหมือนว่าจีอู๋ลี่ไม่ใช่คนสถานะธรรมดา!”  เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาเข้ามาดู

“ถ้านี่คือจีอู๋ลี่  อย่างนั้นคนที่ฆ่าจีอู๋ลี่เล่า...”  เย่คงรู้สึกหวาดกลัวในใจ

“จอมปีศาจไคเทียน!”  เสวี่ยทันหลางตอบสนองทันที  “คนเมื่อครู่นี้คือจอมปีศาจไคเทียน!  เขาฆ่าจีอู๋ลี่เพื่อตอบแทนบุญคุณมีแต่เขาเท่านั้นที่ฆ่าจีอู๋ลี่ได้! อย่างไรก็ตามจอมปีศาจไคเทียนเพิ่งจะออกจากโลกคัมภีร์เทพแดนฝึกฝนหรือ?  ความเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก!”

“อา,จอมปีศาจไคเทียนทรงพลังมากขนาดนี้เชียวหรือ?” ในเวลานี้แม้แต่พี่น้องตระกูลหลี่ยังร้องออกมา

“จอมปีศาจไคเทียนร้ายกาจนั่นเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว!” เจ้าอ้วนไห่ไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ยังพูดตามที่คิด

“หุบปาก!” สาวนางนวลสายลมรู้สึกจนบัดนี้ว่าหัวใจนางเต้นแรงมากเนื่องจากจอมปีศาจไคเทียนแทรกแซงลงมือเข่นฆ่าต่อจากนี้ไปนางไม่อยากพูดถึงคนน่ากลัวเช่นนี้อีก

“แดนสวรรค์กำลังจะเกิดความโกลาหล!”  เย่คงไม่กล้าพูดเช่นนั้นแต่นี่เป็นเรื่องแน่นอน

จอมปีศาจไคเทียนกลับมาแล้วต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าไม่มีผลลัพธ์ที่ดี

ถ้าเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้และเย่ว์หยางล้มเหลวในการประลองชะตาตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะเอาอะไรไปต้านทานการตอบโต้ของจอมปีศาจไคเทียน?  นักสู้ระดับเทพอย่างจางเว่ยยังถูกสังหารในทันทีจะมีสักกี่คนในแดนสวรรค์ที่จะหยุดกระบี่เทพของจอมปีศาจไคเทียนได้?  ความทุกข์ยากของหอทงเทียนกำลังจะสิ้นสุดลงแต่ความทุกข์ยากในแดนสวรรค์กำลังจะเริ่มต้นเขาเกรงว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม?

******* ****

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด