ตอนที่ 1369 มิติไม่สามารถโค่นล้มผู้ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อเหล่าเทพทะเลมรณะเห็นพวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไป
ไม่รอให้ปากหมาป่างับลงมือขนาดใหญ่ลอยออกมาจากท้องฟ้าและกดคางจับปากของหมาป่าฟ้าง้างไว้
เมื่อเสียงตวาดเกรี้ยวกราดดังกึกก้องไปทั่วโลกแกนสมดุลโลกเหล่าเทพแห่งทะเลมรณะตกใจเมื่อรู้ว่าภาพลวงไปหายไปและหมาป่าผู้หิวโหยดุร้ายถูกเทพพิทักษ์เขากวงหมิงทุบลงบนสะพานงูลอยฟ้า ในขณะที่สะพานแตกร้าวและถล่มหมาป่ายักษ์ต้องการจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ อย่างไรก็ตามในที่สุด เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงก็เตะร่างของมันร่วงลงไปในห้วงเหวลึก
คลื่นระเบิดจากแรกชนกระแทกทำให้เหวทั้งหมดสั่นสะเทือนและสะพานงูลอยฟ้าแตกสลายชิ้นส่วนกระจายอยู่ในกลางอากาศ
บึ้มบึ้ม บึ้ม!
เสียงดังยาวนานไม่มีจบสิ้น
“หมาเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยม”มังกรปีศาจชื่นชม แม้ว่ามันจะใช้ปากยักษ์โจมตีไม่ได้ผลแต่ฮุยไท่หลางทำได้ระดับนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
“กลัวจนปัสสาวะแทบราด”เจี้ยนจางเซิงลอบกลืนน้ำลายเอื๊อก เมื่อกี้นี้เขาเกือบคิดว่าโลกแกนสมดุลโลกคงถูกหมาป่ายักษ์กลืนกินไปหมดแล้วนี่มันคือหมาป่าแบบไหนกัน? นั่นคือหมาป่าปีศาจล้างโลกไม่ใช่หรือ? มันน่ากลัวเกินไปมันสามารถกัดกินโลกโดยไม่สนใจต่อการป้องกันอะไรเลยนี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“เจ้าหมาโง่!” เย่ว์หยางในฐานะเจ้านายไม่พอใจมัน
หลังจากฮุยไท่หลางดิ้นรนกลับมาจากเหวได้ในที่สุดเย่ว์หยางก็เตะร่างมันทันที “ข้าบอกให้เจ้างับเท้าของเขาคอยพัวพันศัตรู แต่เจ้ากลับอ้าปากซะกว้างแบบนี้ เจ้าจะทำอะไร? ถ้าเจ้าไม่มีความสามารถมากขนาดนั้นก็อย่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้ เจ้าสามารถกินคนผู้นั้นได้ในคำเดียวหรือ?เจ้าโง่ ไปอยู่ห่างๆ ข้า!”
ทันทีที่ฮุยไท่หลางเห็นเย่ว์หยางโกรธมากมันผงกหัวและกระดิกหางทำนองว่า “มันทำผิดพลาดเองการร่วมมือครั้งต่อไปจะต้องออกมาดีแน่
ตั่วตั่วบินออกมาจากบัลลังก์เทพและส่งสายตา
มันหวังว่านางจะพูดชมมันสักคำหรือสองคำ
แต่ตั่วตั่วไม่มองมันแกล้งเหมือนทำเป็นไม่รู้จักสหายผู้โง่เขลานี้
เย่ว์หยางตั้งท่าและชี้ไปทางเทพพิทักษ์เขากวงหมิงและตะโกน “แสดงให้ดูสาธิตให้ดูว่าที่ถูกต้องควรเป็นเช่นไร”
ฮุยไท่หลางคิดว่าถ้าไม่ประจบตอนนี้คงหาโอกาสทำได้ยาก มันรีบปรบมือ (อุ้งเท้า) และชูหัวแม่มือ(เท้า)ทำท่าแสดงแววตาที่ชื่นชมและเทิดทูนมันหวังว่าเย่ว์หยางจะทำได้ดีและลืมความผิดพลาดของมันก่อนนี้
ความเคลื่อนไหวของมันทำให้มังกรปีศาจเจี้ยนจางเซิงมองดูด้วยความรู้สึกพังทลาย “เจ้าอสูรตัวนี้ต่อต้านเจตจำนงฟ้า”
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงมองผิวเผินเขาดูแคลนแต่เกี่ยวกับบัลลังก์เทพนิรันดร์และร่างเทพสูงหมื่นเมตรดึงดูดความสนใจเขามากพอ ทันทีที่เย่ว์หยางเคลื่อนไหวเขาลุกขึ้นยืนทันทีและไม่เปิดโอกาสให้เย่ว์หยางได้รุกคืบ
ร่างเทพสูงสี่หมื่นเมตรอยู่ด้านตรงข้ามร่างสูงหมื่นเมตร
ผลสรุปจะเป็นเช่นไร?
กลุ่มเทพทะเลมรณะไม่จำเป็นต้องคาดเดาใดๆเขารู้ว่าผลชนะจะตกอยู่กับเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง
เป็นไปไม่ได้แม้แต่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่มีร่างเทพหมื่นเมตรก็ยังทำอะไรกับร่างเทพอีกฝ่ายที่มีขนาดหกหมื่นเมตรไม่ได้
ที่ใกล้กันนั้นร่างเทพขนาดใหญ่ของทั้งสองนั้นอยู่ใกล้ แขนทั้งสี่พยายามทำร้ายศัตรูอย่างหนัก
สะพานงูลอยฟ้าไม่สามารถรองรับการต่อสู้ระหว่างพวกเขาได้
แต่ละย่างก้าวที่เหยียบสะพาน
ล้วนแต่เหมือนกับการทุบทำลาย
โชคดีที่โลกแกนสมดุลโลกมีกฎสวรรค์โบราณคุ้มกันมิฉะนั้นการต่อสู้ของทั้งสองคงจะต้องทำลายโลกทั้งหมด
บางครั้งร่างเทพขนาดสี่หมื่นเมตรจับร่างเทพของเย่ว์หยางกดลงบางครั้งร่างเทพของเย่ว์หยางก็พยายามอย่างหนักเพื่อผลักศัตรูออกไป การโรมรันพันตูของร่างเทพขนาดใหญ่ทั้งสี่ร่างที่มีพลังระดับเดียวกันและการดำเนินการต่อสู้ในระยะประชิดนี้กลยุทธ์ต่อสู้ทั้งหมดไม่มีประโยชน์ มีแต่เพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะตัดสินได้
ด้วยพลังแข็งแกร่งและพลังสนับสนุนจากบัลลังก์เทพที่ทรงพลังของทั้งสองฝ่าย ความแตกต่างแห่งพลังแทบไม่มี
อย่างน้อยพวกเทพทะเลมรณะมองไม่เห็นว่าฝ่ายใดได้เปรียบ
ตอนนี้พวกเขาตระหนักถึงปัญหาได้ทันที
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ
แต่เด็กหนุ่มชื่อเย่ว์ไตตันที่อยู่ข้างหน้านี้ยังเป็นอัจฉริยะอีกคนหนึ่งเป็นผู้เยาว์ที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสของเขาเลย
พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมร่างเทพขนาดสี่หมื่นเมตรของเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงถึงไม่สามารถเอาชนะเย่ว์ไตตันได้? คนที่มาจากหอทงเทียนเป็นเช่นนี้หรือ?จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อสามารถต้านทานร่างเทพสูงหกหมื่นเมตรได้ เย่ว์ไตตันตอนนี้สามารถสู้กับร่างเทพสูงสี่หมื่นเมตร..ทำไมเป็นเช่นนั้น ทำไมพวกเขาถึงทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ออกมาได้?
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงและเทพพิทักษ์ทะเลมรณะมีพลังอำนาจสูงส่งจริงหรือ?
เมื่อเหล่าเทพแห่งทะเลมรณะไตร่ตรองถึงเรื่องนี้พวกเขามองหน้ากันเอง
และส่ายหน้าพร้อมกัน
เป็นไปไม่ได้!
เทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงและเทพพิทักษ์แห่งทะเลมรณะเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูง ถ้าพวกเขาฝีมือไม่ดี ยังจะมีพวกเทพกล้าเรียกตนเองว่าเป็นนักสู้อีกหรือ? แน่นอนว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเย่ว์ไตตันต้องมีไม้ตายลับช่วยชีวิตจึงสร้างผลเช่นนี้ออกได้
หลังจากพวกเทพทะเลมรณะคิดถึงความเป็นไปได้นี้มากขึ้น
คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถ่วงมีชีวิตอยู่นาน ดูเหมือนจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเย่ว์ไตตันจะต้องพ่ายแพ้การต่อสู้ประลองชะตาในไม่ช้าผลจึงจะออกมา
“อ่อนแอเกินไปเย่ว์ไตตันเจ้ามีระดับพลังเพียงแค่นี้เองหรือ?” เทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงหลังจาก หลังจากทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าเทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงพบว่าพลังเทพของเย่ว์หยางไม่ได้เหนือกว่า เขาอดลอบตกใจกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเย่ว์หยางมิได้และอดที่จะเย้ยหยันไม่ได้ “ด้วยพลังอย่างเจ้าในปัจจุบัน แต่เจ้ายังต้องการจะเอาชนะเราผู้เป็นเทพในสามชั่วโมงนี้จริงๆ หรือ? นั่นไม่ต่างอะไรกับมดเขย่าภูเขา มาเลยเย่ว์ไตตัน เจ้ามีอะไรก็จงนำออกมาสู้ทั้งหมด นี่คือการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวของเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายและสงครามชะตาได้เริ่มขึ้นแล้ว ถึงวาระที่เจ้าจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน เราผู้เป็นเทพให้โอกาสเจ้าได้ดิ้นรนต่อสู้!”
ร่างเทพความสูงสี่หมื่นเมตรได้เพิ่มแรงกดดันขึ้นอีกมาก แต่ก็ไม่สามารถล้มร่างเทพหมื่นเมตรของเย่ว์หยางลงได้
แต่เขายังมีความได้เปรียบอยู่มาก
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเพิ่มพลังขึ้นในทุกย่างก้าวร่างเทพหมื่นเมตรของเย่ว์หยางได้แต่ใช้แรงเพื่อป้องกันตัวอย่างเดียวยังแทบเป็นไปไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนพลังจากบัลลังก์เทพนิรันดร์คงเป็นเรื่องยากสำหรับเย่ว์หยางที่จะท้าทายเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง ที่สำคัญเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเป็นเทพอาวุโสที่มีอายุมาหลายหมื่นปีแล้ว
“หุบปาก!” เย่ว์หยางไม่แสดงความกลัวให้ปรากฏบนสีหน้าเลย
ร่างเทพหมื่นเมตรของเขาถอยร่นไปที่ขอบสะพานงูลอยฟ้าที่เพิ่งซ่อมแซมตัวเองเสร็จ ด้านหลังเป็นหุบเหวลึก
ต่อสู้เพื่อต้านทานศัตรูในภูมิประเทศแบบนี้ด้วยการรับสนับสนุนพลังจากบัลลังก์เทพนิรันดร์แม้ว่าเทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงจะแข็งแกร่งมากกว่าสิบเท่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผลักร่างเทพของเขา
เทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงย่อมรู้เรื่องนี้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเย่ว์หยางในเวลาอันสั้นการมีร่างเทพหมื่นเมตรและบัลลังก์เทพนิรันดร์อยู่ในมือทำให้เขาไม่สามารถลงมือฆ่าด้วยตัวเองได้ แต่จะสำคัญอะไร? ทางตันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา ตราบเท่าที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อล้มลงและตายเทพพิทักษ์ทะเลมรณะก็สามารถวางมือได้หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงเทียนอี้ก็สามารถมาถึงได้
เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างจะได้ผลสรุป
ตอนนี้เล่า?
ตราบเท่าที่กดศัตรูให้อยู่ที่ขอบหน้าผาสถานการณ์ของเขานับว่าดี
“พวกเจ้าไปล้อมสุนัขนั่นและเทพธิดาบุปผาไว้!” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงไม่พอใจที่เหล่าเทพทะเลมรณะเอาแต่ยืนดูอยู่ด้านข้าง
“ขอรับ”เหล่าเทพทะเลมรณะมีสีหน้าขมขื่นฝืนทน แต่พวกเขาไม่กล้าขัดขืนคำสั่งได้แต่ก้มหน้าทำตามเท่านั้น
เกี่ยวกับการล้อมสู้ฮุยไท่หลางและตั่วตั่วจริงๆ แล้วพวกเขาไม่อยากทำ เพราะทั้งสุนัขและเทพธิดาบุปผาดูเหมือนไม่ง่ายอย่างที่เห็น ก่อนหน้านี้หมาป่ากลืนโลกแทบจะกลืนเทพพิทักษ์เขากวงหมิงได้ในคำเดียวแม้ว่าจะทำไม่สำเร็จก็ตาม แต่การกลืนนักสู้ระดับเทพคนอื่นๆ ยังทำได้ง่ายอยู่ไม่ทราบว่าใครจะเป็นผู้โชคร้าย
ขณะที่เทพธิดาบุปผานั่นคือต้นดอกหนาม
เทพธิดาบุปผาที่มองเห็นเป็นสาวน้อยตัวเล็กที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายนางคือเครื่องจักรสังหารที่น่าสยดสยองไม่มีใครเทียบได้ ความประทับใจแรกที่เทพธิดาบุปผานี้ปรากฏสู่โลกภายนอกคือป้องกันมังกรปีศาจต้านทานเทพพิทักษ์แห่งภูเขากวงหมิงที่มีระดับนักสู้สูงสุด
ถ้าไม่ใช่เพราะนางยังไม่เติบโตเต็มที่ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับนาง?
แม้แต่เทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงก็ไม่หวังว่าเหล่าเทพทะเลมรณะจะต่อสู้เข่นฆ่าฮุยไท่หลางและตั่วตั่วได้ คำสั่งของเขาคำปิดล้อมกักตัวเอาไว้จำกัดการเสริมพลังให้เย่ว์หยางอย่างสิ้นเชิง
“ไปเถอะทุกคนลงมือพร้อมกัน” เฒ่าหน้าทารกถือไม้เท้ามังกรเดินนำหน้า เขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีทางเลือกที่สองอีกแล้ว ผลของการยืนดูเฉยๆ ไม่ว่าฝ่ายใดชนะเทพแห่งทะเลมรณะจะต้องถูกทำลายกันหมด ตราบเท่าที่เทียนอี้เจ้าตำหนักสูงสุดยังมาไม่ถึงการประลองชะตายังคงดำเนินต่อไป เหล่าเทพทะเลมรณะจะต้องลงมือ มิฉะนั้นเทพจอมราชันย์คนใหม่คงจะไม่รังเกียจกับการกวาดล้างโลกแกนสมดุลโลก
“เจ้าลุยเลย”ตั่วตั่วชี้นิ้วเรียวงามส่งฮุยไท่หลางออกไปรับคำท้า
ฮุยไท่หลางพอได้ยินคำพูดนางก็บุกเข้าหาทันที
ตัวของมันเป็นอสูรที่ชอบสู้อยู่แล้ว
ต่างจากพวกเทพทะเลมรณะซึ่งถูกบังคับให้สู้ ไม่เพียงแต่มันไม่บ่นไม่ร้องอุทธรณ์เท่านั้นแต่ยังพร้อมอ้าปากเคี้ยวกินอาหารอย่างมูมมาม
ตั่วตั่วบินไปที่สนามต่อสู้ของเจ้านาย การแยกตัวออกไปของนางพวกเทพทะเลมรณะแกล้งทำเป็นไม่เห็น ทุกคนทำตัวเป็นตาบอดตาใส
จัดการเจ้าหมานี่ก็ปวดหัวพออยู่แล้วทำไมต้องไปตอแยเทพธิดาบุปผานี้ด้วย .... ทันทีที่ตั่วตั่วแยกออกไปความมั่นใจของเหล่าเทพทะเลมรณะก็เพิ่มขึ้นมากไม่มีปัญหาสำหรับเหล่าเทพหลายสิบตนที่รุมล้อมสุนัขตัวเดียวเพียงแค่ระวังอย่าตกลงไปในปากและกลายเป็นอาหารของมันก็พอ!
ส่วนว่าใครจะเป็นอาหารของมันในที่สุดนั่นต้องดูว่าใครโชคร้ายที่สุด!
“ฮึ่ม,มาเลย!” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเห็นตั่วตั่วเขามาเขารีบแยกร่างขนาดแปดเมตรเพื่อหยุดยั้งนาง
ที่ปลายสะพานงูลอยฟ้ามีร่างเทพยักษ์สองร่างกำลังประลองกำลังกัน
ด้วยการสนับสนุนจากบัลลังก์เทพทั้งสองฝ่ายคงไม่คาดหวังว่าการต่อสู้แบบนั้นจะเป็นหนทางเดียวที่จะยุติการประลองชะตาได้ร่างแท้จริงของ สมบัติวิเศษและอสูรศึก กฎสวรรค์ ฯลฯ เป็นอาวุธที่ดีที่สุด ตั้งแต่แรกเริ่มเขาวางแผนปราบร่างเทพหมื่นเมตรของเย่ว์ไตตันจากนั้นเผชิญหน้าศัตรูด้วยร่างที่แท้จริงของเขา... เขายังเดาได้ถูกต้องว่าเย่ว์หยางวางแผนการต่อสู้ด้วยร่างที่แท้จริงแน่นอนว่าเมื่อตั่วตั่วมาถึงเขาก็พร้อมเรียกคัมภีร์เทพของตนออกมา
คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบได้กับคัมภีร์เทพเปล่งรัศมีเจิดจ้า
ฉายส่องไปทั่ว
กระจกนับไม่ถ้วนกระพริบในพื้นที่สุ่มๆของท้องฟ้าและพื้นดิน มีทั้งขนาดใหญ่และเล็กกลมและเป็นสี่เหลี่ยมและบางบานก็สวยงามไม่มีใดเทียบและบางบานก็ดูผิดปกติและแปลกประหลาด
แม้จะเป็นในโลกแกนสมดุลโลกโลกกระจกนี้ได้สร้างภาพลวงตาที่น่าทึ่งราวกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและแทบอื่นได้เดินทางไปยังอีกโลกหนึ่งเห็นได้ชัดว่าอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรเมื่อไม่นานนี้ แต่รู้สึกว่าอยู่ไกลเกินไปไกลกว่าดวงดาวในท้องฟ้าเสียอีก
การต่อสู้ก็ยังแยกออกไป
เมื่อคลื่นแรงระเบิดมาถึงขอบโลกกระจกก็ถูกทำลายและหายไปไม่เหลือร่องรอย
มีนักสู้ระดับเทพสวมชุดดอกไม้สวมหน้ากากครึ่งร้องไห้ครึ่งหัวเราะแปลกประหลาดออกมาจากกระจกที่น่าแปลกประหลาดที่หน้าผากของมันมีตัวอักขระว่า ‘ลึกลับ’ กำลังจ้องไปที่ตั่วตั่ว และในมือของเขาดึงเคียวสีดำที่ยาวเป็นพิเศษที่มีแสงกระพริบน่ากลัวออกมาจากบานกระจก ไม่ว่าจะเป็นเคียวดำหรือนักสู้ระดับเทพร่างกายนั้นเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ ความผิดเพี้ยนบิดเบือนลานตา โดยเฉพาะเมื่อลอยอยู่เหนือกระจกบางบานทำให้ร่างกายของมันยืดยาวขยายเป็นบางส่วนนับเป็นเรื่องแปลกจริงๆ
“ระวัง”ก่อนหน้านี้เย่ว์หยาง มุกเทพชะตานำทาง เขาผ่านโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าศัตรูไม่ได้ทุ่มเทพลังทั้งหมด แต่จงใจตรวจดูไพ่เด็ดในมือของเขาคราวนี้เขาเกรงว่าคงไม่ง่ายเหมือนคราวก่อน
“อืม”ตั่วตั่วรับมุกเทพชะตา ใบหน้าสง่าของนางมองไปทางศัตรูนักสู้ระดับเทพที่ลอยตัวเหนือบานกระจก
“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเย่ว์ไตตัน” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงพูดอย่างหยิ่งยโส“ความเจ็บปวดและความพ่ายแพ้ยังรอคอยเจ้าอยู่ ลองดูซิว่าเจ้าจะสามารถใช้อสูรศึกอาวุธเทพของเจ้าแก้ดาบอาญาที่อยู่เหนือหัวของเจ้าได้หรือไม่? เจ้านึกจริงหรือว่าข้าจะพ่ายแพ้เด็กน้อยอย่างเจ้า? น่าขันเป็นบ้า! ในแดนสวรรค์กล่าวกันว่ามิติไม่สามารถโค่นล้มราชันย์ได้ เจ้าเข้าใจความหมายนี้ไหม?”
มิติไม่สามารถทำอะไรราชันย์ได้
คำพูดนี้ฝ่าบาทหัวซิ่วรี่ก็พูดกับราชันย์ไร้ใจอย่างนี้เหมือนกัน
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะไม่เย่อหยิ่งเท่ากับเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแต่ราชันย์ไร้ใจก็มีความมั่นใจเพียงพอ แม้ว่าในเวลานี้เขายังคงถูกกักขังอยู่ในโลกแห่งความฝันอันยิ่งใหญ่และไม่สามารถหลุดพ้นได้ก็ตาม
******* ****