ตอนที่แล้วตอนที่ 1366 ข้ามาแล้ว...
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1368 วันอาหารหมาป่าฟ้า?

ตอนที่ 1367 จงสั่นกลัวภายใต้ความพิโรธของข้า


ทะเลมรณะที่มืดมิดน่าสะพรึงกลัวไม่มีความผันผวนไม่เกิดแม้แต่ฟองอากาศ

การเผาผลาญตัวเองของตงฟางเป็นการทำลายตนเองโดยตรง

จากนั้นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เฮ้อ...”  ปีศาจเฒ่าประมาณร้อยคนเห็นทะเลมรณะเป็นเช่นนั้นพวกเขาโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก

แม้ว่าตงฟางจะเป็นคนร้ายกาจชั่วร้ายไม่น่าให้อภัยเป็นคนทรยศที่ทุกคนสามารถประหารฆ่าได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามสิ่งที่ตงฟางมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ก็คือตงฟางเป็นชาวหอทงเทียน  ไม่มีใครรู้ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างตงฟางจะกลับมาฟื้นฟูหอทงเทียนหรือไม่ไม่มีใครสามารถรับรองตงฟางได้ เขายังเป็นผู้ทรยศแม้ในช่วงเวลาสุดท้าย!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเสียชีวิตเขาเผาผลาญร่างและพุ่งลงทะเลมรนณะคล้ายกับตำนานที่ว่า  ‘ทะเลมรณะระเหยเหือดแห้ง’

ตอนนี้เห็นทุกอย่างเป็นปกติ

ไม่มีอะไรผิดปกติ

พวกเขาเชื่อว่าตงฟางผู้นี้มีความเลวร้ายตั้งศีรษะจรดเท้าเป็นคนทรยศที่เยียวยาไม่หายอย่างแท้จริง เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อล้างแค้นอย่างไม่หยุดยั้ง

“น่าเสียดายจริงๆ” มีบางคนลอบถอนหายใจเสียดายว่ากุนซืออย่างตงฟางไม่ควรต้องมาฆ่าตัวตายในช่วงเวลาที่สำคัญนี้  นี่เป็นการกระทำที่หักมือตนเองอย่างโง่เง่าตงฟางผู้มีปัญญาเลิศสามารถเพิ่มพลังอำนาจได้นี่คือพลังเทพมากมายที่ไม่สามารถแทนได้ ทะเลมรณะที่กว้างใหญ่สามารถรองรับตงฟางได้อย่างสบายๆ  แต่ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เทพทั้งหมดในทะเลมรณะไม่สามารถสบายใจได้ และพวกเขาทุกคนไม่สามารถออกไปได้กันหมด  และด้วยเหตุนี้ตงฟางจึงฆ่าตัวตายอย่างเด็ดเดี่ยวและผลักดันการต่อสู้ต่อไปอย่างมิอาจย้อนคืนได้  บางทีคนฉลาดอย่างเขาได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนที่จะเข้ามาในแกนสมดุลโลกก็คงคำนวณไว้แล้วว่าเขาจะพบจุดจบที่นี่ไม่น่าแปลกใจเลยที่สีหน้าของเขายากจะอธิบายได้

“ตายได้ดี” นอกจากนี้ยังมีคนคิดว่าถ้าตงฟางยังไม่ตาย อาจมีอะไรเกิดขึ้นอีกก็ได้  ตอนนี้เขาตายไปแล้วทุกอย่างมั่นคงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายก็ตามแต่คนอันตรายมากแบบนี้ยังมั่นใจในการตายมากกว่าการจะยอมอยู่

จื้อจุนยังทำหน้าเฉยเมย

เย่ว์หยางก็เหมือน

มังกรปีศาจถอนหายใจยาว “น่าผิดหวังมากเหลือเกิน ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าผู้นี้จะรู้สำนึกผิดชอบชั่วดีและหันปลายหอกกลับไปตอบโต้ได้”

คำพูดของเขาเป็นเหตุให้เจี้ยนจางเซิงที่กำลังนอนรอความตายสะท้อนใจ  แม้ว่าเขาคิดว่าตงฟางจะเปลี่ยนมาสู้ตายและมาที่ทะเลมรณะเพื่อทำให้ทะเลมรณะเหือดแห้งปูเส้นทางนำไปสู่ตำแหน่งเทพจอมราชันย์  คาดไม่ถึงเลยว่าการตายแบบนี้ไม่ทำให้ทะเลมรณะเกิดแม้แต่ฟองอากาศได้ดูแล้วช่างน่าผิดหวังนัก

“น่าขัน”มีแต่เทพพิทักษ์ทะเลมรณะเท่านั้นที่มองด้วยอาการหยิ่งยโส

ในใจของเขาไม่ว่าตงฟางจะเป็นคนทรยศหรือมีเจตนาแอบแฝงก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

เผาตนเองเป็นไฟโดดลงทะเลมรณะต้องการให้ทะเลมรณะเหือดแห้งหรือ? นี่มันเรื่องตลก

อย่าว่าแต่ตงฟางเลยในกลุ่มเทพนักสู้ที่อยู่โลกแกนสมดุลโลกนี้ แม้จะมีจำนวนคนมากกว่าหลายสิบเท่า เผาตนเองกระโดดลงในทะเลมรณะอีกเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจถึงคำว่า ระเหยทะเลให้เหือดแห้ง

อย่างนั้นก็มีแต่เพียง ‘ภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเป็นไปได้!

เนื่องจากภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์มีผู้อาวุโสหรือนักสู้ระดับเทพจากหอทงเทียนมากมายเมื่อพลังเทพหรือพลังกฎสวรรค์ถูกทำลาย จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่มิอาจคาดเดาได้เกิดขึ้นแน่นอน ขอเพียงโยนภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ลงในทะเลมรณะได้จริงเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำให้เข้าใจคำอุปมาของเทพเจ้าเกี่ยวกับการระเหยแห้งของทะเลมรณะที่ไม่มีทางเป็นอะไรอย่างอื่นไปได้  แม้พลังเทพที่ภูเขากวงหมิงที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังกว่าในแดนสวรรค์เมื่อถูกโยนลงในทะเลมรณะ  มันสามารถกลืนกินพลังทั้งหมดได้  ตงฟางก็ยังต้องพบจุดจบในที่นั้น!

อย่างไรก็ตาม การตายของตงฟางเพราะหมากฆ่าตัวตาย เป็นการจบสิ่งที่ตนเองได้เริ่มไว้ไม่มีวี่แววของการปกปิดแอบแฝง เทพพิทักษ์แห่งทะเลมรณะยอมรับการมีอยู่ของตงฟางอย่างไม่เต็มใจนัก

มิฉะนั้นเขาจะลงมือประหารผู้ทรยศหอทงเทียนที่เป็นทั้งกุนซือและมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายผู้นี้ด้วยมือตนเอง

ตงฟางมีพลังไม่มากพอ

นี่คือเหตุผลที่เขากับเทียนอี้เห็นด้วยอย่างแท้จริงและยอมรับเหตุผลของตงฟางประการที่สองคือภูมิปัญญาของเขา

“ล่วงหน้าไปก่อน”ในสายตาของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมีแต่ต้องเดินหน้าความตายของตงฟางไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อย

“เลิกล้มความคิดซะ!”  เทพพิทักษ์แห่งทะเลมรณะพยายามต้านทานแขนยักษ์ทั้งหกพยายามค้ำป้องกันภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิไร้เทียมทานแผดเผาพลังชีวิตของเขาและเดินหน้าต่อแลกกับการจบชีวิตตนเองภายใต้การป้องกันของเขาไม่มีเปลี่ยนแปลงหรือข้ามขั้นตอนได้

การประลองกำลังของยักษ์ใหญ่ทั้งสอง

ยังคงดำเนินต่อไป

เป็นการประลองชะตาของทั้งสอง

เชื่อได้ว่าการประลองกำลังอย่างนี้จะไม่มีการหยุดจนกว่าจะล้มลงไปข้างหนึ่ง

ในตอนนี้ไม่ว่าใครจะไปห้ามก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ในการประลองกำลังนี้นอกจากตัดสินความเป็นความตาย

เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงมีสีหน้าเฉยเมยเขาไม่ได้มองไปที่มังกรปีศาจไม่ได้มองไปที่ร่างโชกเลือดของจื้อจุนบนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แต่มองเย่ว์หยางอย่างเยือกเย็น “คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าผู้เป็นเทพผู้นี้เอง  ตราบใดที่เจ้าเตรียมตัวพร้อมตอนนั้นเราจะเริ่มสู้กันทันที ถ้าเจ้ารู้สึกว่าจำเป็น ก็จงเตรียมตัวก่อนได้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยมาเริ่มสู้กันก็ยังไม่สาย”

เขาไม่กังวล

ยิ่งทอดเวลาต่อสู้ออกไปนาน เขาก็ยิ่งเป็นผลดีกับเขา

หากไม่ใช่เพราะการสำเร็จเป็นเทพจอมราชันย์ต้องการทั้งพลังที่เพียงพอและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่อย่างนั้นในเส้นทางโบราณเขาสามารถฆ่าเด็กหนุ่มผู้ไม่มีชื่อเสียงนี้ได้ภายในไม่กี่วินาที  เขายังมีข้อสงสัยจนถึงตอนนี้ว่าทำไมผู้มีคุณสมบัติอื่นในการเข้าประลองชะตาถึงไม่ใช่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีแต่กลับเป็นศิษย์ของนาง เด็กหนุ่มคนนี้แม้ว่าเขาจะขึ้นชั้นมาเป็นนักสู้ระดับเทพในตอนนี้ เขาก็ยังไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเทียนอี้ได้... ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขาเกิดมาในฐานะมนุษย์ซึ่งอ่อนแอที่สุดในหอทงเทียนทวีปมังกรทะยานเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอยิ่งกว่ามดในแดนสวรรค์เสียอีก!

ไม่จำเป็นต้องฆ่า บางทีการตัดศีรษะของเขาในโลกแห่งแกนสมดุลโลกเป็นการเริ่มประลองชะตาก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเด็กคนนี้สามารถเอามาใช้บูชายัญในการเลื่อนไปเป็นเทพจอมราชันย์ของเทียนอี้ได้

ดี  ตัดสินใจแล้ว!

ในสายตาของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเย่ว์หยางเหมือนปลาที่อยู่ในข้อง

“ดูสารรูปเจ้าสิ เป็นพี่ใหญ่ประสาอะไรกัน”เย่ว์หยางไม่ได้มองเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแต่กลับจับร่างรุ่งริ่งของมังกรปีศาจจากเหวข้างล่างโยนไปบนเขาเทพศักดิ์สิทธิ์เสียงปัง  มังกรปีศาจโมโหจนอยากกระอักเลือดแต่ขณะนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่หักห้ามความคิดจิตใจมันหดหู่จนอยากจะกระอักเลือดตายจบสิ้นชีวิต

“แล้วท่านเล่า ยังไม่ตายไม่ใช่หรือ?ถ้ายังไม่ตายก็ลุกขึ้นยกโดมค้ำฟ้าให้เราคุณชายต่อไป!ท่านทำอะไรอยู่บนพื้น? ผู้อาวุโสนี่คืองานท่านไม่ใช่หรือ? ลุกขึ้น!” เย่ว์หยางเตะเอวเจี้ยนจางเซิง

“ผู้อาวุโสอย่างข้าจะไม่ทำงานให้  นอกจากนี้ ข้าไม่สามารถลุก.....”  เจี้ยนจางเซิงไม่ตั้งใจจะบอกว่าเขาเอวหัก

มิฉะนั้น บุรุษผู้จริงจังกับชีวิตจะไม่สามารถพูดถึงความเจ็บปวดแบบนี้

ชี่ตันจื้อยิ่งดูน่าอนาถ

ไม่มีใครช่วยเขาได้

แต่เขาเพิ่งหายใจได้เฮือกเดียวเพราะตอนเริ่มแรกเขาต้องการขวางเส้นทางอย่างไม่ประมาณความสามารถตนเองถูกจักรพรรดิไร้เทียมทานเหยียบและเตะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เย่ว์หยางมองดูร่างเทพที่กำลังสลายเหลืออยู่เพียงเสี้ยววิญญาณที่คอยค้ำโดมฟ้าของเทพธิดาบุปผาเขาเตะเอวของเจี้ยนจางเซิง  “ลุกไม่ได้ทำไมยังมีชีวิตอยู่?  เสียเวลาเปล่าจริงๆมาตายเพื่อเราคุณชายก่อน!”

เด็กหนุ่มข้ามโลกจอมโหดเตะร่างเจี้ยนจางเซิงลอยหมุนคว้างในกลางอากาศสิบตลบปล่อยให้ร่วงลงพื้นอย่างหนักหน่วง

เจี้ยนจางเซิงโมโห

พรวดพราดลุกขึ้นสบถด่าเสียงลั่น  “ปากเจ้าเรียกเราว่าเป็นผู้อาวุโสแต่การกระทำของเด็กน้อยเจ้าเกินเลยไปหรือไม่ เจ้าเหยียบย่ำข้าไม่เลิกราคิดว่าข้าเป็นสุนัขเฝ้าบ้านของเจ้าหรือ? หือ? เอวข้า หายเจ็บแล้วหรือ?”

ทางด้านชี่ตันจื้อรีบลุกขึ้นราวกับติดสปริงเขาพบว่ากระดูกที่แหลกละเอียดทั้งร่างซึ่งถูกร่างเทพที่แฝงไปด้วยพลังกฎสวรรค์เหยียบเกือบตายกลับฟื้นฟูหายดีแล้ว

“สุนัขเฝ้าบ้านของข้าคุณชายหน้าตาดีกว่านี้เยอะอย่างท่านมาขออาหารข้า คงไม่มีวันได้หรอก!”  เย่ว์หยางหมุนตัวเดินจากไป

“ไอ้เด็กบ้า...”  เจี้ยนจางเซิงโมโห ต้องการสู้เสี่ยงชีวิตกับเจ้าเด็กนี่

แต่สุดท้ายเขาถอนหายใจโล่งอก

เขาข่มอารมณ์จนหน้าแดง

เขาพึมพำในใจ“ดีว่าข้าใจกว้าง ไม่ถือสือเรื่องร้ายๆ ในอดีตจะยกโทษให้เด็กน้อยเจ้าสักครั้ง ถ้าต่อไปเจ้าทำอย่างนี้อีก ข้าจะเบือนหน้าหนีทันทีรอจนอารมณ์โมโหลดลงแล้วเขารีบเข้าไปแบกโดมท้องฟ้าอีกครั้ง!

เทพธิดาบุปผาแทบไม่สามารถแบกรับได้อีกต่อไปเหลืออยู่แต่เพียงรัศมีจิตวิญญาณของนางเท่านั้น

ชี่ตันจื้อมองดูเจี้ยนจางเซิงจากนั้นมองไปทางฝั่งตรงข้ามที่มีปีศาจเฒ่าเป็นร้อย เขาลังเลไม่รู้จะทำอย่างไร

“บัดซบ, เจ้ายังคิดว่าจะกลับไปหาฝ่ายพวกเขาได้อีกหรือ?”  เจี้ยนจางเซิงอยากตบหน้าเขาจริงๆ จะเป็นวีรบุรุษย่อมไม่ถือสาความคิดตนเองว่าจะตายดีหรือตายร้ายก็ช่าง

“กลับมาเถอะ ไม่เป็นไร เรายังเป็นฝ่ายเดียวกัน....”

“กลับใจซะและเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือ ชี่ตันจื้อ!”

“เจ้าไม่ได้ทำการต่อต้านเราเราจะมองเจ้าเป็นศัตรูได้อย่างไร เจ้าโง่เจี้ยนจางเซิงนั่นต่างหากที่เป็นศัตรูของเรา!”

“เจ้าก็มองเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันอยู่แล้วอยู่ในที่เดียวกับพวกเขามีแต่จะต้องจบลงที่ความตาย รีบฟื้นฟูร่างตนเองและกลับไปจำศีลในทะเลมรณะอยู่ให้ไกลจากสงครามนี่

เหล่าเทพฝ่ายทะเลมรณะต่างตะโกนเพื่อให้เจี้ยนจางเซิงและชี่ตันจื้อแตกคอกัน

ชี่ตันจื้อเข้าร่วมกับศัตรู กำลังที่เพิ่มขึ้นมามีไม่มากแทบไม่ควรแก่การเหลียวแล

แต่ทุกคนอึดอัดใจมาก

ทำไมเจ้าถึงยืนยันอยากเป็นวีรบุรุษ?

ต่างจากเจี้ยนจางเซิงที่หันหลังให้พวกเขาและเป็นไปไม่ได้ที่ย้อนกลับไปอย่างแน่นอน การช่วงชิงตัวชี่ตันจื้อยังคงมีแนวโน้มเป็นไปได้มากกว่า แม้ว่าชี่ตันจื้อจะจากไปแต่เจี้ยนจางเซิงต้องโจมตีเข่นฆ่า

แล้วแต่เจ้า ถ้าการดึงเจ้ามาอยู่ฝ่ายวีรบุรุษจะทำให้เจ้าไม่พอใจ

ชี่ตันจื้อก้มหน้า พูดด้วยเสียงเบากับเจี้ยนจางเซิง  “ขอโทษ....”

“บัดซบ!”  เจี้ยนจางเซิงตวาดลั่น  “งั้นก็ไปเลย ไปตายไกลๆ ข้า  คนที่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ข้าไม่รู้จักเจ้า!”

“เจ้างี่เง่า, ใครกันไม่รู้จักคิดเอง  ข้าเองก็คิดเป็น อยู่ฝ่ายวีรบุรุษหรือ?ก็แค่คิดไม่เร็วเท่าเจ้าเท่านั้น เจ้าคิดจริงๆ หรือว่ามีแต่เจ้าที่อยากเป็นวีรบุรุษ?”  ชี่ตันจื้อโมโหเจี้ยนจางเซิง  “เออ, ข้าไม่รู้จักเจ้าก็ได้คนงี่เง่าอย่างเจ้าสูงส่งนักหรือ?”

“ข้าเลอะเลือนเอง ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป”  เจี้ยนจางเซิงมีสีหน้าสดชื่นทันที  “มา มาใกล้ๆ ถ้าจะตาย เราจะตายด้วยกัน คู่หู!”

“คู่หู...” ชี่ตันจื้อฟังคำพูดนี้แล้วขนลุกแทบร่วงลงกับพื้น

อีกด้านหนึ่งของภูเขา

เย่ว์หยางเดินมาถึงหน้าจื้อจุน

จื้อจุนไม่สามารถเข้าใจเด็กคนนี้ได้ทั้งหมดเด็กคนนี้ไม่ต้องการเรียกพี่เรียกน้องกับตัวนางเองอย่างนั้นหรือ?

เย่ว์หยางไม่ได้พูด แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยแววทุกข์ใจเป็นเหมือนความทุกข์เจ็บปวดค่อยๆ เอ่อท้นออกมาจากใจ เขาอยากจะพูดออกมาแต่ทันใดนั้นเขาไม่สามารถพูดได้ดังใจ

เขากางแขนและกอดจื้อจุนไว้แน่น

นี่เป็นความกระตือรือร้นเริ่มทำครั้งแรกของเขา

ไม่มีความคิดอื่นใดรบกวน

คิดแค่อยากกอดนางแน่นๆ

จื้อจุนสั่นเล็กน้อยและดวงตาที่เย็นชาเริ่มอ่อนลงบ้าง

มือที่เปื้อนเลือดของนางขยับขึ้นช้าๆพยายามที่จะลูบไล้ใบหน้าของเขาเพื่อปลอบประโลมบรรเทาทุกข์ให้เขาแต่นางมีความเข้มแข็งความแน่วแน่ไม่ยอมให้มีร่องรอยของความอ่อนแอนางตบที่เสื้อนอกเย่ว์หยางแรงๆ “ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ข้ายังไม่ตายสักหน่อย!”

“สบายใจได้!”เย่ว์หยางตบที่เสื้อนอกจื้อจุนเบาๆ “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่!”

“อะไรนะ?” จื้อจุนประหลาดใจเล็กน้อย และไม่เข้าใจความหมายของเจ้าเด็กผู้นี้!

“ข้า สิ่งที่ข้าต้องการบอกก็คือ โปรดมองดูข้าให้ดีเพราะที่นี่มีข้าก็เพียงพอ” ในขณะที่จื้อจุนผลักเขาออกไปเย่ว์หยางก้มหัวและจูบนาง จื้อจุนหลบหลีก แต่เขายังแตะริมฝีปากของนางได้การกระทำที่กล้านี้ทำให้จื้อจุนตกใจและยืนนิ่งกับที่  เย่ว์หยางไม่มีความกลัวเหมือนอย่างเคยตรงกันข้าม ความกล้าของพุ่งสูงชนิดที่แทบจะระเบิดออกมาจากตัว  “โปรดดูความโกรธเกรี้ยวและการตัดสินของข้า! ทุกคนที่บังอาจหมิ่นเกียรติส่วนบุคคลของท่าน มองว่าเป็นมดแมลง  ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นเทพระดับใด มันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง!”

“เจ้าน่ะหรือ ทำไมล่ะ?” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแค่นเสียงเย็นชา

“เพราะข้าคือศิษย์ที่นางสอนมา  เพราะข้าคือบุรุษที่สำคัญที่สุดในชีวิตนาง!” ดวงตาของเย่ว์หยางแทบมีไฟพวยพุ่งขณะเขาตะโกนออกมา  ต่อหน้าเทพพิทักษ์เขากวงหมิง และหน้าพวกเทพมารจากทะเลมรณะ เจตจำนงของเขาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งโลกแกนสมดุลโลก  ความโกรธของเขาจุดชนวนพลังเทพของเขาในทันทีรุนแรงยิ่งใหญ่กว่าแรงระเบิดของภูเขาไฟหลายล้านเท่า ภาคพื้นแตกออกมาทันที

ภายใต้การจ้องมองอย่างนึกไม่ถึงของเทพแห่งทะเลมรณะร่างเทพของเย่ว์หยางยืดขยายทันที ความสูงหมื่นเมตร พวกที่จ้องมองดูตกตะลึงทันที

มังกรปีศาจตาทั้งสองเบิกค้าง

แม้แต่เทพพิทักษ์เขากวงหมิงก็แทบไม่อยากเชื่อความจริงนี้ทันที

บัลลังก์เทพนิรันดร์ กฎสวรรค์ราชันย์ที่ไม่มีใครเอาชนะได้เทพค่ายทะเลมรณะแตกหนีฮือราวกับหนู ไม่มีใครกล้าสบตาเย่ว์หยาง

จื้อจุนพบว่าบุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้านางเติบโตโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนเขาจะใหญ่กว่าภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์  เขาสามารถแบกยกได้อย่างง่ายได้

แม้แต่อาการบาดเจ็บของนางและการล่วงเกินศักดิ์ศรีของนางทำให้เขาโกรธโมโห

อินทรีหนุ่มเติบโตแล้ว และจะสยายปีกบินไปจนสุดขอบฟ้า

กลายเป็นราชาที่น่าภาคภูมิใจ

ใช่แล้ว

เขาไม่ใช่เด็กน้อยที่นางพบเห็นที่ชั้นหนึ่งหอทงเทียนอีกแล้ว  เขาเติบโตอย่างแท้จริง

นางเคยเสียน้ำตาตั้งแต่สมัยเด็กแต่ตอนนี้น้ำตานางคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัวในก้นบึ้งของหัวใจนางรู้สึกได้รับการเอาใจใส่อย่างไม่เคยมีมาก่อนความรู้สึกนี้เอ่อท้นอยู่ในใจนางทำให้นางอึดอัด แต่นางจำต้องยอมรับ

ท่านแม่...

นี่คือบุรุษที่สามารถค้ำทั้งโลกและสวรรค์อย่างที่ท่านพูดถึงตอนที่อยู่ในบันไดสวรรค์ใช่ไหม?

นี่คือความปรารถนาของท่านและท่านป้าที่สวดภาวนาอย่างหนักอดทนจนถึงที่สุด ยอมตายดีกว่าเสียใจอย่างสิ้นหวังใช่ไหม? นี่คือน้องชายที่ท่านพูดถึงที่สามารถค้ำฟ้าไว้ได้ใช่ไหม!

“ข้าจะต้องจัดการพวกมดแมลงอย่างพวกเจ้าทั่วโลกแกนสมดุลโลกมาระบายอารมณ์โกรธของข้าเย่ว์หยางเงื้อหมัดและทุบไปเบื้องหน้าทรงพลังพอๆ กับเทพพิทักษ์เขากวงหมิงเขาไม่กล้าเพิกเฉยต่อความกราดเกรี้ยวนี้ รีบหลบฉากออกไปด้านข้างนักสู้ระดับเทพที่ซ่อนตัวอยู่ลึกๆที่พื้นคิดว่าพวกเขาปลอดภัยและคิดว่าคนนอกคงไม่รู้อะไร กลับถูกเย่ว์หยางใช้พลังขุดขึ้นมา

เย่ว์หยางไม่สนใจเสียงโอดครวญเจ็บปวดและการดิ้นรนต่อสู้อย่างอ่อนแรงของพวกเขา

นิ้วทั้งห้ารวบเข้าหากัน

ใช้พลังเทพทำลายโดยตรง

การทำลายล้างนิรันดรไม่ว่าร่างกายหรือจิตวิญญาณล้วนถูกทำลายกลับไปสู่สภาพโกลาหล

เนตรทิพย์ของเขาจับจ้องไปที่ปีศาจเฒ่าฝ่ายทะเลมรณะที่พากันหวาดกลัวจนแทบหายใจไม่ออก “นี่แค่เริ่มต้น การพิพากษาเพิ่งเริ่มขึ้น จงสั่นกลัวภายใต้ความพิโรธของข้า.....”

***** *** *****

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด