ตอนที่แล้วตอนที่ 974 เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 976 ข้าอยากแสดงฝีมือบ้าง!

ตอนที่ 975 พลิกฟ้าคว่ำดิน


ทางผ่านมิติ...

ในทางผ่านมิติที่ใกล้จะพังทลายราชาจื่อฟง ราชาชิงหลางและพวกนักสู้ปราณฟ้าอื่นคิดไม่ถึงว่าจะไม่มีใครอยู่ที่นี่

มารสัมฤทธิ์ฟ้าที่เข้ามาก่อนและราชาสองหน้าที่ไล่ล่าติดตามเข้าไปเล่า? สิ่งที่ทำให้ราชาจื่อฟงสงสัยก็คือตามเวลาที่เย่ว์ไตตันออกมาไม่มีเหตุผลที่เวลาจะคลาดกับราชาสองหน้า..หรือว่าราชาสองหน้ายอมให้เย่ว์ไตตันฆ่าหรือ?

ราชาชิงหลางและราชาโหลวลั่วเข้าไปในโลกศิลาเป็นคนแรก

และไม่นานนักพวกเขาก็กลับมา

และส่ายหน้า

หมายความว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในโลกศิลาแม้แต่ในเขตมิติโลกแดนดาวก็ไม่มี

“มารสัมฤทธิ์ฟ้าและสหายของเขารวมทั้งฮุยไท่หลางและอาวุธเทพร่างอสูรอาจได้รับการช่วยเหลืออยู่ในโลกคัมภีร์ของคุณชายไตตันก็ได้  พวกเขาก็อยากจะพูดเช่นนั้นแต่ราชาสองหน้าหายไปไหน?  ต่อให้คุณชายไตตันทรงพลังมากกว่าแต่ไม่มีเหตุผลว่าจะฆ่าราชาสองหน้าได้!”  ราชาจื่อฟงฟื้นฟูพลังแล้วขณะที่เขาถ่ายทอดพลังเพื่อรักษาจูกวงและคุยถึงสถานการณ์การต่อสู้กับราชาชิงหลางและนักสู้อื่น

“ข้างในมีวงเวทเทเลพอร์ตและมีวงเวทสามวงอยู่ภายใต้ศพเทพเดิม” ราชาชิงหลางลังเลแต่ก็พูดออกมาในที่สุด

“เจ้าหมายความว่า...?”  ราชาจื่อฟงคาดเดาได้ถูก

“วงเวทเทเลพอร์ตบางทีอาจเป็นเส้นทางผ่าน  พามารสัมฤทธิ์ฮุยไท่หลางและราชาสองหน้าเข้าสู่พื้นที่เก็บคัมภีร์เทพ  บางทีพวกเขาอาจจะเข้าไปแล้ว  และคุณชายไตตันภายใต้การควบคุมของท่านหมิงลี่ฮ่าวคงจะสลัดหลุดการไล่ล่าของจ้าวสุริยากลับมาที่ทะเลคลั่งได้”  ราชาโหลวลั่วแสดงความคิดเห็นคำพูดของเขาทำให้ทุกคนหัวใจเร่าร้อน

คัมภีร์เทพ!

แม้ว่าทุกคนจะรู้อยู่เต็มอกว่าคัมภีร์เทพเป็นสิ่งที่มิอาจหมายปองได้

ที่สำคัญนั่นคือคัมภีร์เทพแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้รับแต่การได้ร่วมเดินทางครั้งนี้นับว่าชีวิตไม่สูญเปล่าแล้ว

ทุกคนสงบใจลงได้ชั่วขณะหนึ่งมองหน้ากันเองในท้ายที่สุดพวกเขาตัดสินใจทำอย่างเดียวกันโดยไม่ต้องปรึกษา  ความจริงทุกคนต้องการเข้าไป  แต่พวกเขาอายเกินกว่าจะแสดงความเห็นต่อหน้าทุกคนว่ากันเรื่องพลังความแข็งแกร่งแล้ว ทุกคนไม่มีโอกาสเข้าสู้พื้นที่เก็บคัมภีร์เทพ  นั่นเป็นการต่อสู้ระหว่างคุณชายไตตันกับจ้าวสุริยา  เว้นแต่ทั้งสองจะเสียชีวิตในการต่อสู้  ราชาเฉินม่อพระยาราชสีห์และแปดขุนพลบริวารก็จะต้องตายให้หมด ไม่อย่างนั้นจะถึงคราวระดับนักรบอย่างพวกเขาได้อย่างไร

คุณชายฉางฟงประคองจักรพรรดิฟู่โฉวหัวเราะลั่น  “ไปกันเถอะทำไมเราไม่ไปดูคัมภีร์เทพกันสักหน่อยเล่า? ถ้าหากข้าได้เห็น แม้ตาย ก็ตายตาหลับ”

เขาประคองจักรพรรดิฟู่โฉวเดินขึ้นหน้าอย่างห้าวหาญ

“ไปกันเถอะ!”ราชาชิงหลางและราชาโหลวลั่วลังเลเล็กน้อยเมื่อพวกเขาเห็นใครสักคนหนึ่งเดินนำหน้าพวกเขาดีใจและเดินตามไปทันที

“แล้วเจ้าเล่า?”  ราชาจื่อฟงประคองหญิงงามจูกวงเขาต้องการจะติดตามไปดู แต่พบว่าจงกวน ไป๋หม่า เฮยถูและคนอื่นๆ ยังคงนั่งรอดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะไปต่อ เขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย  ถ้าคนพวกนี้ไม่เข้าไป ใครจะได้ความดีความชอบถ้าคุณชายไตตันทราบคงต้องโกรธแน่ ตัวเขาเองเป็นเพราะได้กลุ่มทหารเหล่านี้ร่วมทางไม่อย่างนั้นคงตายไปนานแล้ว

“เราจะรอคุณชายอยู่ที่นี่  พวกท่านไปเถอะ!”จงกวนได้รับบาดเจ็บหลายแห่งได้แต่ฝืนใจยิ้ม “ถ้าคุณชายไม่กลับมา เราก็ไม่สมควรมีชีวิตต่อไป ถ้าท่านจะเมตตาโปรดช่วยฝังศพข้าในภายหลังก็ได้!”

“ดี, จื่อฟงขอล่วงหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง” ราชาจื่อฟงเข้าใจดีว่าองครักษ์ผู้ภักดีและอุทิศตนเหล่านี้จะไม่ยอมอยู่ห่างจากคุณชายไตตันไกลเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะอ่อนแอเกินไปเกรงว่าองครักษ์พวกนี้คงจะอยู่ด้านข้างทะเลคลั่งและต้องปะทะกับแปดขุนพลบริวารอย่างสิ้นหวัง  คุณชายไตตันแข็งแกร่งมากแต่นอกจากราชาเฉินม่อแล้ว เขาต้องสู้กับศัตรูผู้น่ากลัวอย่างจ้าวสุริยา“ทุกคนได้รับบาดเจ็บกันหมด ทหารเหล่านี้ไม่ยินดีจะจากไป นั่นคือเหตุผล

ราชาจื่อฟงเองก็อยากอยู่และรอคอยเย่ว์หยางร่วมกับทหารผู้ภักดีเหล่านี้

สถานะที่แท้จริงของคุณชายไตตัน  แม้ว่าจะเป็นผู้นำกบฏจากหอทงเทียนแต่ก็ยังดีกว่าครอบครัวและสหายของเขามากนัก

หญิงงามจูกวงหายใจอกสะท้อนขึ้นลงนางต้องการจะเข้าไปในพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพตามคำพูดนางก็คือ ถ้าเข้าไปยังที่เก็บคัมภีร์เทพและได้เห็นคัมภีร์เทพของจริงจากนั้นค่อยกลับมารอคุณชายไตตันก็ยังไม่สาย

หญิงงามจูกวงไม่ถึงกับขอร้องเร่งรัด

แค่มองราชาจื่อฟงด้วยสีหน้ามุ่งหวังและอึดอัดไปพร้อมกัน

ใจของราชาจื่อฟงหวั่นไหวกับท่าทีนางเขาตัดสินใจลาจงกวนและทหารผู้ภักดีแล้วพานางเข้าไปในพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพ

“ฝ่าบาท, พวกเราอ่อนแอต่ำต้อยและไร้ประโยชน์จึงต้องขอรั้งอยู่” พ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองความจริงก็ต้องการเข้าไปยังที่เก็บคัมภีร์เทพแต่พวกเขาทุกคนรู้พลังตัวเองดี อย่าว่าแต่บ่าวไพร่อย่างพวกเขาเลยแม้แต่ราชาจื่อฟงเองเข้าไปยังพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพก็เกรงว่ายังยากจะปกป้องตัวเองไม่ต่างอะไรกับมดแมลงนับว่าเป็นการเสี่ยงมากกว่า การอยู่ในที่ทางผ่านมิตินี้ยังดีกว่าอยู่กับพวกเขาอย่างน้อยก็ยังปลอดภัย

“ก็ดีเหมือนกัน พวกเจ้ารออยู่ที่นี่...” ราชาจื่อฟงรู้สึกได้ว่าพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองมีความภักดีอย่างแท้จริงเพียงแต่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เขาประคองหญิงงามจูกวงเข้าไปในพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพตามหลังคนอื่นไปอีก

หัวหน้าพ่อบ้านเย่เลือกอยู่รอข้างหลังนับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลว

เมื่อเห็นราชาชิงหลางและนักสู้คนอื่นๆจากวงเวทเทเลพอร์ต เข้าสู่โลกที่เก็บคัมภีร์เทพ ราชาจื่อฟงยังคงลังเลเล็กน้อย

จะเข้าไปหรือหันหลังกลับรอให้คุณชายไตตันได้ชัยชนะก่อน?  คุณชายไตตันออกไปต่อสู้ด้วยตนเองเขาเข้าไปในโลกคัมภีร์เทพที่ไม่รู้จักนี่จะเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไปหรือไม่?หากพบกับราชาสองหน้าหรือจ้าวสุริยา จะมิเป็นการฆ่าตัวตายหรอกหรือ?

หญิงงามจูกวงไม่ได้เร่งรัดเขาแค่ใช้ดวงตากลมโตมองหน้าเขา

นางรออย่างอดทน

ปกติมีน้อยเรื่องที่ทำให้นางกระตือรือร้นดีใจในฐานะบุรุษของนาง จะไม่ลงน้ำลุยเพื่อนางหรือ?

ราชาจื่อฟงจุมพิตหน้าผากที่ขาวผ่องราวกับหยกขาวของจูกวงและเช็ดรอยเปื้อนเลือดที่หน้าของนางอย่างนุ่มนวล ทำให้ใบหน้านางดูผ่องใสกระตือรือร้นเขาประคองนางอย่างระมัดระวังราวกับว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดขณะย่างเท้าเข้าวงเวทเทเลพอร์ตปณิธานเทพ

ทะเลคลั่ง

เย่ว์หยางและราชาเฉินม่อยังคงจ้องมองหน้ากันอยู่

เช่นเดียวกับที่เขาเคยจ้องมองจ้าวสุริยามาก่อนเขาจ้องมองราชาเฉินม่อ ขณะที่ราชาเฉินม่อจ้องมองเด็กหนุ่มผู้อันตรายนี้อย่างจริงจัง!

รอบๆตัวเย่ว์หยางค่อยๆ ปรากฏดวงดาวกระพริบวูบวาบโดยไม่รู้ตัว  แม้ว่าตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวันแต่ไม่ทราบว่าท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงเหมือนยามราตรีตั้งแต่เมื่อใด  ดวงดาวดวงแล้วดวงเล่าเหมือนกับนัยน์ตาเด็กไร้เดียงสากำลังจ้องมองทอประกายสงสัย และในที่สุดพื้นผิวทะเลคลั่งทั้งหมดประดับไปด้วยดวงดาวที่งดงาม

ดาวเหล่านั้นมีทุกขนาดดูเหมือนจริงและสว่างไสวกว่าดาวแท้ๆ

เป็นทางช้างเผือกที่งดงาม

ดาราจักรเต็มไปด้วยดวงดาวนับพันล้านดวง

มันเกิดมาโคจรรอบตัวเย่ว์หยางทั้งยังโคจรรอบๆทะเลคลั่ง

พื้นผิวทะเลคลั่งกลายเป็นทะเลสันติที่สงบเงียบอีกครั้งผิวทะเลราบเรียบสะท้อนให้เห็นดวงดาวทอประกายในท้องฟ้าจนยากจำแนกได้ว่าที่ใดคือท้องฟ้าที่ใดคือผิวทะเล

เย่ว์หยางพลิกมือ

ผิวของทะเลสาบและดวงดาวในท้องฟ้าดูเหมือนสลับกันอย่างแปลกประหลาด

โลกทั้งโลกพลิกกลับกลายเป็นท้องฟ้ากลับมาอยู่ข้างล่างทะเลอยู่ด้านบน

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไม่ต่างไปจากผิวทะเล  เมื่อคนหัวหกคะเมนเลือดเหงื่อหยดขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

แทนที่จะเป็นน้ำทะเลมันสะท้อนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหมือนกระจกเงาน้ำใสสะท้อนดวงดาวนับพันราวกับทะเลด้านบนเต็มไปด้วยดวงดาว

“ฝีมือไม่เท่าไหร่”  แต่ในใจของพระยาราชสีห์ตกใจยิ่งนัก  เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางทำได้อย่างไร  พลิกโลกกลับหัวกลับหาง  ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวพลิกมาอยู่ข้างล่างพื้นน้ำกลับไปอยู่ข้างบนรวมทั้งทุกคนที่อยู่ในทะเลคลั่ง แต่พื้นผิวไม่เปลี่ยนแปลงราวกับว่าความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางนี้เป็นอุบายหลอกเด็กสามขวบ

“เหรอ?” เย่ว์หยางยิ้มเยาะที่มุมปาก

เขาพลิกมืออีกครั้ง

ท้องฟ้ากับพื้นโลกสลับด้านกันอีกครั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและพื้นผิวทะเลกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง

หางตาของราชาเฉินม่อกระตุกอีกครั้ง  เพราะการเปลี่ยนแปลงของเย่ว์หยางทั้งสองครั้งเขามองไม่เห็นข้อบกพร่องเลยสักครั้ง

ถ้าเป็นจ้าวสุริยาอย่างนั้นเขาอาจมองเห็นข้อบกพร่องและทำลายทักษะสนามพลังของเย่ว์ไตตันได้โดยตรงก็เป็นได้  เห็นได้ชัดว่าทักษะแฝงเร้นของเย่ว์ไตตันผู้นี้ก็คือสนามพลังดาราราย แต่ไม่มีทางทำลายได้นี่คือความห่างชั้นที่ใหญ่ที่สุดของสุดยอดนักสู้

เย่ว์หยางยังคงยิ้มไม่เปลี่ยนแปลงเขาพลิกมืออีกครั้ง

นี่เป็นเรื่องที่ทำให้พระยาราชสีห์รำคาญที่สุด

โลกนี้

ภายใต้ฝ่ามือของเย่ว์หยางเริ่มปั่นหมุนเหมือนกับกังหันสิบรอบ ร้อยรอบจนถึงพันรอบ..ในที่สุดแม้แต่นักสู้แข็งแกร่งอย่างพระยาราชสีห์ไม่สามารถจำแนกได้ถูกว่าตรงไหนคือท้องฟ้าประดับดาวตรงไหนเป็นทะเล

ในกรณีนี้ถ้าเย่ว์ไตตันเริ่มโจมตีผลที่ตามมาย่อมมิอาจคาดคิดได้เลย

พระยาราชสีห์และราชาจินกวนกำหมัดแน่นและแปดขุนพลยิ่งตื่นเต้นมองดูราชาเฉินม่อทีละคน

ราชาเฉินม่อไม่สามารถมองเห็นความลึกลับได้  เขาได้แต่รักษาสภาพจิตใจตนเองไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า พื้นดินหรือผิวทะเล พลังจิตของเขาเองยังคงเหมือนเดิม  แต่เขาตระหนักได้อีกจุดหนึ่งว่า เย่วไตตันใช้สนามพลังดารารายนี้ไม่ใช่เพื่อเจาะจงตัวของเขาเอง แต่เป็นสหายและบริวารของเขาอาจกล่าวได้ว่าโลกพลิกกลับตาลปัตรใช้เพื่อฆ่าพระยาราชสีห์และราชาจินกวนและแปดขุนพลบริวาร!

เขาโบกมือและใช้ทักษะแฝงเร้นแสงศรัทธานำทางของตนเอง

แปดขุนพลบริวารรีบกลับมาอยู่ที่ด้านหลังเขาทันที

พระยาราชสีห์และราชาจินกวนแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พลังแสงศรัทธานำทางดึงกลับไป แต่พวกเขารู้ว่าราชาเฉินม่อไม่ต้องการให้พวกเขาเสียหน้าจึงไม่พูดอะไรและค่อยเดินเข้ามาใกล้ราชาเฉินม่ออย่างเงียบงัน

เมื่อคนเหล่านี้มารวมตัวจึงมีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาพร้อมจะตอบโต้คืน

เย่ว์หยางยิ้ม

เขาทำท่าต้อนรับอย่างสุภาพเหมือนกับเจ้าภาพที่แสนดีออกมาต้อนรับอาคันตุกะผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น  “ยินดีต้อนรับสู่หอทงเทียน  ที่นี่คือบันไดสวรรค์ชั้นห้า สถานที่เรียบง่ายแต่ก็นับว่าดีสำหรับเราผู้เป็นเจ้าภาพ!”

“หอทงเทียน? บันไดสวรรค์ชั้นห้า?” พระยาราชสีห์สีหน้าเปลี่ยนไป

“นี่เป็นสิ่งที่ข้าตั้งใจใช้ต้อนรับทุกคน  แค่นี้ต้องประหลาดใจด้วยหรือ?”  เย่ว์หยางยิ้มกว้าง

เขามีทางลัด

เมื่อท่านยิ้มนั่นจะทำให้ท่านมีหน้าตาดูดี แต่มีข้อเสียอยู่เล็กน้อยก็คือ ถึงหล่อแต่ก็แย่ เพราะทำให้หลายคนไม่พอใจ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด