ตอนที่แล้วตอนที่ 973 พลัดพรากตลอดกาล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 975 พลิกฟ้าคว่ำดิน

ตอนที่ 974 เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตาย


ทะเลเลือดพลันระเบิด  พลังทำลายล้างกวาดได้ทั้งสวรรค์และโลกหล้า....

เมฆสิงห์ทองในท้องฟ้าถูกพลังแสงโลหิตแทรกซึมกระจายกลายเป็นแสงสีทองหายไปในทะเลแสงโลหิต  ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอสูรพิทักษ์ที่ไม่มีวันตายมันจะไม่มีทางรอดได้ในท่ามกลางพลังทำลายล้างของทะเลแสงโลหิต

คลื่นของทะเลคลั่งโหมกระหน่ำอย่างหนัก

คลื่นเดือดพล่าน

มิอาจสงบได้อยู่เป็นเวลานาน

ที่ด้านข้างของราชาเฉินม่อแปดขุนพลบริวารรวมตัวกันอยู่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ภายในพลังของอสูรค้ำจุนอสูรพิทักษ์ของราชาเฉินม่อและทักษะแฝงเร้นศรัทธา สนามพลังอธิษฐานพลังพิเศษสามชั้นซือเหริน ผู้เฒ่าเครายาว บุรุษอ้วน โนม จอมเกียจคร้าน คนเถื่อนและจอมหักหลังและคนอื่นพากันรอดภัยพิบัติทะเลโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วต้องทุ่มราคาด้วยชีวิต

“ปัง!” จอมหักหลังตกใจแต่เขาพบว่าได้รับการปกป้องจากราชาเฉินม่อ หลังจากเขาปลอดภัย เขาแค่นเสียงด่าทอทันที

“ประเมินฝีมือตัวเองสูงเกินไปเสียแล้ว”  โนมหัวเราะเช่นกัน

“ฮึ..” ราชาเฉินม่อเหมือนกับภูผายิ่งใหญ่คอยปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาในท่ามกลางความเงียบ เขาไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะ ไม่แสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยาม  แม้ขณะที่ยืนอยู่ในท่ามกลางทะเลคลั่งจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแผดเผาพลังหยกศิลาล้วนแหลกลาญ เป็นการส่งท้าย

มีร่างคนสองคนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

พวกเขาคือราชาจินกวนที่แขนขวาหักและพระยาราชสีห์ที่อสูรพิทักษ์ถูกฆ่า

ขณะนั้นราชาทั้งสองเนื่องจากจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วระเบิดตัวเอง พวกเขาอยู่ในรัศมีระเบิดและเป็นสองคนแรกที่ถูกแรงระเบิดจากทะเลแสงโลหิตโจมตีแม้จะไม่ถึงกับเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำร้ายพวกเขาจนแทบไม่เหลือพลัง

ภาพมารโลหิตเหนือท้องฟ้าค่อยๆสลายหายไปช้าๆ

ในเวลานี้ไม่มีความโกรธบนใบหน้าของเขาอีกต่อไป

มีแต่การแสดงถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาด

นั่นคือการปล่อยวาง...การปล่อยวางเช่นนั้นเหมือนกับความปรารถนาที่ซ่อนเร้นปกปิดมานานหลายปี ในที่สุดก็สมหวังเสร็จสิ้นกล่าวให้ถูกก็คือการปลดปล่อยจิตวิญญาณ ผ่อนคลายสบายใจ มีความสุขสุดจะพรรณนาต่อหน้าหลายๆคน  คนเราเมื่อใกล้จะตาย กลับได้สติก่อนตาย

สีแดงโลหิตที่ภาพปีศาจเปล่งออกมาไม่มีความโกรธชังไม่มีความกระหายเลือดอีกต่อไป

แม้ว่าหน้าของเขาจะไม่มีรอยยิ้มแต่ใบหน้าภาพฉายปีศาจโลหิตกลับมีรอยยิ้ม

ภาพนั้นค่อยๆ จางลง

จักรพรรดิฟู่โฉวถูกพลังแสงทะเลโลหิตคลุมทั้งร่าง

ร่างของเขาลอยใกล้เข้ามาทุกขณะ

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังแสงโลหิตป้องกันร่างของเขาไว้ทำให้เขายังไม่ตายเขาลืมตาและเห็นภาพมารโลหิตลอยเข้ามาใกล้และเปลี่ยนไปเป็นหน้าของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วดูเหมือนต้องการพูด  แต่ไม่มีเสียง

ดูเหมือนว่าเขาต้องการยื่นมือเข้ามาสวมกอดจักรพรรดิฟู่โฉว

แต่ว่าเขาไม่มีร่างหยาบแล้ว

ก่อนนั้นเขาระเบิดร่างเป็นผุยผงในทะเลโลหิต ในเวลานี้ร่างพลังงานของเขาสร้างจากพลังแสงโลหิตเช่นเดียวกับพลังโลหิตที่คลุมรอบตัวจักรพรรดิฟู่โฉว  แต่ขณะที่นิ้วของเขาจะสัมผัสร่างของจักรพรรดิฟู่โฉวร่างพลังงานของเขาก็สลายหายไปกับสายลมทะเลคลั่งพอไม่มีสนามพลังกดดันคอยข่มจำกัดพลัง จึงสะท้อนพลังเสียงดังกึกก้องสายลมพัดกระชากร่างพลังงานของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วร่างของเขาเริ่มเลือนรางและหายใจ สิ่งสุดท้ายจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังเจตปณิธานรักษาภาพศีรษะ ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อยเหมือนกับต้องการจะพูดความในใจกับจักรพรรดิฟู่โฉวที่เขาไม่เคยบอกมาก่อน

“น่ารำคาญจริงๆ อย่างไรก็ตามพวกเจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากทะเลคลั่งนี่ได้เลย”  พระยาราชสีห์หงุดหงิดเมฆสิงห์ทองอสูรพิทักษ์ของเขาแม้ว่าไม่อาจฆ่าตายได้จริงๆ แต่พลังรบของเมฆสิงห์ทองได้ลดลงอย่างมากภายใต้แรงระเบิดทำลายล้างรุนแรง และไม่อาจเรียกใช้มันได้อีกเป็นเวลานาน

“ตายซะเถอะ” ราชาจินกวนยิ่งไม่พอใจมากกว่า

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วได้หักเขนของเขาต่อหน้าทุกคน

เขาสูญเสียแขนที่ผสานเข้ากับดาบทองศักดิ์สิทธิ์ของเขาการสูญเสียแขนทำให้พลังของเขาลดลง 30%  พลังเดิมของเขาเทียบได้กับพระยาราชสีห์ตอนนี้พลังของเขาตามหลังพระยาราชสีห์

พระยาราชสีห์สูญเสียเมฆสิงห์ทอง  แต่ยังดีที่นั่นเป็นอสูรพิทักษ์ และมันจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้า

ถ้าท่านสูญเสียแขนไป  พลังของท่านจะลดลงอย่างมาก

เรื่องที่ราชาจินกวนกังวลที่สุดก็คือราชาสองหน้ามีพัฒนาการที่เร็วมากและพลังจะไล่ตามเขาทันในเวลาไม่กี่ปี ถ้าพลังของเขาได้รับความเสียหายต่อเนื่องอีกราชาสองหน้าจะต้องแทนที่เขาอย่างมิต้องสงสัย

ราชาจินกวนใช้แขนซ้ายที่เหลือวาดรูปเครื่องหมายโล่อักขระรูนในอากาศว่างเปล่า ปากของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเหมือนกับพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิฟู่โฉวเขาหมุนตัวกลับมาป้องกันโล่ทองที่ราชาจินกวนกระแทกลงมาหมายจะฆ่าทั้งสองคน  โล่ปะทะที่ศีรษะของร่างพลังงานของจักรพรรดิ

จักรพรรดิฟู่โฉวมองดูจากด้านล่างโดยเขาไม่อาจป้องกันได้

เขาไม่พูดอะไร

ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น

หางตาของเขาปรากฏน้ำตารินไหล

เป้าหมายที่เขาเกลียดชังมากที่สุดที่เขาต้องการแก้แค้นได้ตายไปต่อหน้าต่อตาเขา แต่เขากลับไม่มีความสุขหรือพอใจเลย กลับมีแต่ความเสียใจ เจ็บปวดจนพูดไม่ออก!

“ฆ่าเขาซะ...” ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ข้างที่จมลงในทะเลสาบพุ่งออกมาจากน้ำเหมือนกับปลาและเหมือนกับปลาที่ถูกชาวประมงตกขึ้นมาจากน้ำและตกอยู่ในมือของราชาจินกวนโดยมิผิดพลาด  ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมรับเจ้านายเช่นนี้มันส่งเสียงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่มันไม่อาจต้านทานพลังของราชาจินกวนได้ มันดิ้นรนส่งเสียงหึ่งๆเป็นครั้งคราวเหมือนกับปลาใหญ่ที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือชาวประมงจากนั้นจึงค่อยสงบลงทีละน้อยไม่ดิ้นรนอีก แต่ปิดผนึกปณิธานเอาไว้ และมันปฏิเสธจะยอมรับเจ้านายใหม่  ราชาจินกวนไม่สนใจมัน  เขารู้ว่าตราบเท่าที่มันถูกพลังข่มเป็นเวลานานดาบแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ จะช้าจะเร็วจะต้องถูกครอบงำ!  เขาคาดดาบแสงไว้กับเข็มขัดโบกมือสั่งแปดขุนพลบริวารให้ฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้าของเก่าดาบแสงอย่างไร้ความปราณี

“ขอรับ” จอมหักหลังและจอมโฉดกระโดดออกมารับคำสั่งตั้งใจชิงความดีความชอบ

ถ้าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่อยู่ในสภาพปางตายอย่างนั้น พวกเขาต่อให้มีหลายคนย่อมไม่กล้าเคลื่อนไหวแน่นอน  แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่นักสู้ฝีมือดีระดับขุนพลเลยแม้แต่นักสู้ปราณฟ้า แม้กระทั่งนักสู้ปราณดินก็ยังสามารถโจมตีระเบิดโล่แสงโลหิตที่คลุมร่างและฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวได้!

จักรพรรดิฟู่โฉวค่อยๆ หลับตา

สำหรับการตายเป็นเรื่องที่เขาคาดไว้แล้ว

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาหวังว่าจะได้ตายจากทะเลแสงโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแทนที่จะตายด้วยน้ำมือคนพวกนี้

แม้ว่าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะสามารถยืดชีวิตให้เขาหนึ่งนาทีจะมีความหมายอะไร? แทนที่จะตายอย่างทรมานในเงื้อมมือของพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ตายในทะเลแสงโลหิตยังจะดีกว่า  แน่นอนว่าความตายนั้นเลือกไม่ได้  นอกจากนี้การรอคอยนี้ ก็คงไม่นานเกินไป  ศัตรูคงไม่ยอมเสียเวลาและคงจะลงมือในทันที

“อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน, เด็กคนนี้เป็นหนี้เงินข้ามากมาย  พวกเจ้าถามเจ้าหนี้อย่างข้าก่อนหรือยัง?”  ในทะเลคลั่งมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัวคลื่นทะเลคลั่งดูเหมือนจะกลัวเขาสงบลงทันทีเหมือนกับลูกสุนัขหลบอยู่ที่มุมห้องด้วยความกลัว

“อะไร, อะไรกัน?”อย่าว่าแต่ทะเลคลั่งเท่านั้นที่กลัว แม้แต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวนก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน

“เจ้าเด็กนี่......”ราชาเฉินม่อหรี่ตาจนแคบเท่าเข็ม

ซือเหรินและขุนพลบริวารอื่นงงจนทำอะไรไม่ถูก

ตกตะลึง

พวกเขาไม่อยากเชื่อกับการปรากฏตัวของคนข้างหน้า

แน่นอนว่าผู้มาก็คือเย่ว์หยางที่จ้าวสุริยาเรียกว่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่!

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเขายิ้มด้วยริมฝีปากแดงฟันขาวผ่อนคลายสบายๆ เฉิดฉันเหมือนดวงอาทิตย์ เหมือนกับว่าเขาเพิ่งไปดื่มกินงานเลี้ยงแล้วเพิ่งกลับมา

เมื่อเย่ว์หยางปรากฏตัว  ด้านหลังของเขาปรากฏร่างบุรุษผมงู ราชาจื่อฟงหญิงงามจูกวง ราชาชิงหลางและคนอื่นๆ ปรากฏตัวโดยไม่มีการขาดหายไป

กลับกลายเป็นว่าพวกเขาตั้งมากมายหลายคน

ไม่มีใครตาย

ตาของราชาเฉินม่อยังคงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง

มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รู้จักความน่ากลัวของบุรุษคนนี้ ตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่หนีพ้นจากการโจมตีของจ้าวสุริยาเท่านั้น  แต่ยังช่วยกลุ่มสหายได้ต่อหน้าต่อตาของเขา จุดที่สำคัญที่สุดก็คือข้อวิตกกังวลนี้สามารถพิสูจน์ได้ไหม? พิสูจน์ว่าจ้าวสุริยายังจะไม่ยอมแพ้ในตอนนี้  แม้ว่าราชาเฉินม่อจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเด็กหนุ่มนี้ล้มจ้าวสุริยาได้อย่างไร?  อย่างไรก็ตามรอยยิ้มอันผ่อนคลาย ราชาเฉินม่อมีความเข้าใจ แม้ว่าราชาเฉินม่อจะค้นไม่เจอว่าเด็กหนุ่มนี้ไม่ถูกจ้าวสุริยากักตัวไว้ได้อย่างไร  แต่เขายังมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย  ราชาเฉินม่อเข้าใจว่าเจ้าเด็กนี่ไม่เป็นไร   เขาเกรงว่าเขาจะปรากฏตัวในเวลานี้

“เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตายทำให้พวกเจ้าผิดหวัง” เย่ว์หยางยังยิ้มและกล่าวขอโทษอย่างดูจริงใจ

“ราชาสองหน้าเล่า?”  ราชาจินกวนตกใจ  เขาถามถึงราชาสองหน้าที่ไปตามจับมารสัมฤทธิ์ฟ้า ความจริงเขาต้องการถามถึงจ้าวสุริยามากกว่า  แต่เขาไม่กล้าคิดถึงความล้มเหลวของจ้าวสุริยา

“หา, เจ้าคิดหรือว่าคนใช้สถานะต่ำอย่างเขาจะต้องให้เราคุณชายไปรับหน้าเขาด้วยตัวเอง? แค่คนคุ้มกันข้ากับสุนัขเฝ้าบ้านของข้าก็เพียงพอแล้ว  ข้าไม่อยากทำอะไรรุนแรงเกินไป”  ไม่ทราบว่าเย่ว์หยางล้วงพัดจีบออกมาจากไหน  เขาคลี่พัดพูดพลางส่ายหัวพลางท่าทางเหมือนกับคุณชายเจ้าสำราญเดินตามท้องถนน

พระยาราชสีห์ต้องการจะพูดแต่ราชาเฉินม่อยื่นมือห้ามทันที

เขายืนอยู่หน้าเย่ว์หยางโดยตรง

นอกจากเขาแล้วไม่มีคนอื่นเป็นคู่ต่อสู้เย่ว์หยางได้

แม้แต่พระยาราชสีห์ผู้กล้าที่สุดราชาจินกวนผู้หยิ่งภูมิใจที่สุดก็ยังแอบรู้สึกกลัวเด็กหนุ่มผู้เจ้าเล่ห์นี้ไม่ได้

แต่เด็กหนุ่มนี่แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังกักตัวเขาเอาไว้ไม่ได้หรือนี่คือเด็กหนุ่มที่เอาชนะซิวคงและจิ่วเซียวในสามจอมภพแดนสวรรค์นี่คือเด็กหนุ่มผู้รบชนะเผ่าเก้าแสงและสังหารจักรพรรดินีฟ้าได้โดยตรงเสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวด้านหลังราชาจินกวน

ราชาจินกวนสวมทั้งเกราะทองมีทั้งโล่ทอง

เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็ว

และโจมตีทันที

แม้ว่าราชาจินกวนจะถูกปีศาจอสรพิษน้อยจ้องมองด้วยดวงตากลมโตและถูกพันธนาการด้วยทักษะแฝงเร้นของเธอแต่เขาก็หลุดพันธนาการได้

เสี่ยวเหวินหลีเอื้อมมือดึงดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เอวของราชาจินกวนออกมาได้อย่างสบายไม่เร่งร้อนความเคลื่อนไหวสบายๆ ของเธอเหมือนเป็นการตบหน้าของราชาจินกวนโดยตรง

หลังจากดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ได้รับอิสรภาพมันได้รับพลังงานสนับสนุนจากเสี่ยวเหวินหลี

กลายเป็นดาบแสงสีเงิน

มันฉายรัศมีออกมา

มันทะลุโล่พลังแสงโลหิตและพาจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้านายมันบินไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยด้านหลังเย่ว์หยาง

บุรุษผมงูกระโดดสุดกำลังรับร่างจักรพรรดิฟู่โฉวและกลับมา  ขณะที่ราชาจื่อฟงราชาชิงหลางและคนอื่นไม่รู้จะทำอะไร เขาตวาดด่า “พวกเจ้าโง่หรือเปล่า, รีบกลับไปที่ทางผ่านมิติ ออกไปจากตรงนี้อย่าเพิ่มภาระให้เย่ว์ไตตัน...”

คราวนี้ราชาจื่อฟงและราชาชิงหลางค่อยรู้สึกตัว

และรีบหนีไปที่ทางเข้ามิติทันที

พระยาราชสีห์เงยหน้ามองดูราชาเฉินม่อและพบว่าราชาเฉินม่อคล้ายกับจ้าวสุริยาตอนที่มองเย่ว์หยางเขารีบไปยืนข้างราชาจินกวนที่กำลังฟื้นฟูพลังต่อสู้ และรับหน้าที่ต้านทานศัตรูตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าปีศาจอสรพิษน้อยซึ่งเงียบสงบอยู่นานนั้นไม่ใช่อสูรเทพธรรมดาอย่างที่เห็นแต่เป็นนางพญาผู้พิชิตในร่างเด็ก

ขุนพลคนโฉดคำรามลั่นท้องฟ้าและวิ่งเข้าหานักสู้ปราณฟ้าอย่างราชาชิงหลาง

แม้ว่าจะไม่มีทางทำอะไรคุณชายไตตันได้  แต่ฆ่าราชาชิงหลาง พวกเขาทำได้ไม่มีปัญหา  คนตัวใหญ่ คนตัวผอมนี้จะเลือกคู่ต่อสู้เอง

เฟี้ยว!

ธนูทองดอกหนึ่งปักเข้าที่ต้นขาของคนโฉด

ในทันใดนั้นต้นขาที่หนาใหญ่เหมือนกับขาช้างกลายเป็นเสาศิลาทันที

ไม่รู้ว่าด้านหลังของเสี่ยวเหวินหลีมีสี่อสูรพิทักษ์ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใด,  สี่อสูรพิทักษ์? อสูรพิทักษ์แต่ละตนมีระดับพลังใกล้เคียงอสูรเทพ  อย่าว่าแต่นักรบระดับแปดขุนพลนี้เลย  แม้แต่พระยาราชสีห์ ราชาจินกวนเมื่อเห็นเมดูซาศิลา นางเงือกวายุ นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็งหัวใจพวกเขาตกวูบ

ศึกนี้หนักหนาสาหัสจริงๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด