ตอนที่แล้วตอนที่ 834 การสอบสวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 836 การโจมตีคาดไม่ถึง

ตอนที่ 835 ฆ่าพวกมัน!


“เจ้ามีข้อสงสัยอะไรไหม?”

ทหารหัวหน้าสังเกตว่าเมลิซซาและจอห์นสันทำสีหน้าประหลาดจึงถามพวกเขา

เมลิซซาสงบจิตใจได้เร็วและแสดงสีหน้าเจ็บปวด “ข้ารู้สึกเศร้าใจที่ได้ยินว่าลุงโจนาธานประสบภัยพิบัติ  ข้ากำลังจะไปเยี่ยมลุงโจนาธานพอดีแต่คาดไม่ถึงเลย...”

หัวหน้ากลุ่มทหารคิดทันทีเป็นเรื่องพอเข้าใจได้ กลุ่มการค้าเมซฟิลด์และกลุ่มการค้าตะวันตกจะไม่เคยพบกันมาก่อนได้ยังไง?  เป็นเรื่องธรรมดาที่เมลิซซาและโจนาธานจะมีการรู้จักกัน

หัวหน้าทหารเตรียมจะนำหน่วยของเขาออกไปเมื่อตาของเขาชำเลืองไปเห็นหน่วยคุ้มกันรอบเรือขนส่ง

พวกเขามีรูปร่างน่ากลัวและดูไม่เหมือนจะตั้งกระบวนป้องกัน

หัวหน้ากลุ่มทหารถามทันที “พวกนี้เป็นใคร?”

เมลิซซาตอบสนองได้เร็ว“กลุ่มทหารรับจ้างที่เราจ้าง เราไม่ได้พาคนคุ้มกันมามากพอและได้ยินว่าไม่มีความปลอดภัย ดังนั้นเราได้แต่จ้างพวกเขา”

ความสงสัยของหัวหน้าทหารกลุ่มนั้นหายไปทันที

เหตุภัยพิบัติเมืองอาเธอร์ทำให้ผู้ประกอบการค้าหลายรายหลบหนีเป็นเรื่องกะทันเกินไปที่ทางองค์กรคงไม่มีเวลาพอจะรวมกำลังคน และด้วยความกังวลถึงความปลอดภัย  พวกเขาได้แต่จ้างทหารรับจ้าง  ‘ดูเหมือนกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะรู้ตัวค่อนข้างช้าและทำได้แต่เพียงหาทหารรับจ้างธรรมดา’

นอกจากทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่ที่มีชื่อเสียงแล้วทหารรับจ้างส่วนใหญ่จะยากจนและอ่อนแอ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตรอดอยู่ได้ พวกเขามักจะรับงานอื่นไปด้วย อย่างเช่นมีทหารรับจ้างหลายคนเป็นคนงานเหมืองด้วยเช่นกัน

‘นักฆ่าเหล่านั้นยังคงปล้นคลังสินค้าของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก  พวกเขาน่าจะติดอาวุธเป็นกองทัพมาตรฐานและไม่น่าอนาถเหมือนคนพวกนี้’

“โปรดมั่นใจได้เราจะจัดการฆาตกรพวกนั้นอย่างรวดเร็ว”

หัวหน้ากลุ่มทหารยืดอกเขามีความต้องการจะปกป้องเมลิซซาคนงาม เขาก็เหมือนวัวตัวผู้ที่มีความภูมิใจ และตบอกตัวเอง

เมลิซซาตอบอย่างจริงจัง  “ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญของท่าน!”

หัวหน้ากลุ่มทหารออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ  แต่เขาไม่มีอะไรอื่นจะพูด แม้ว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะไม่ทรงอำนาจเท่ากับกลุ่มการค้าตะวันตก  แต่ก็ไม่ใช่บันไดในสังคมที่เขาสามารถไต่ขึ้นไปได้

ถังเทียนมองดูทหารที่จากออกไปโดยไม่หยุดชะงัก

เมื่อเขาได้ยินเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับบุรุษที่ใช้ดาบเป็นประกายงดงามเขาใช้อุบายซ่อนจี๋เจ๋อไว้ในกลุ่มคน ซือหม่าเซี่ยวไม่ได้เรียกโกวอวี้ออกมาในฐานะบุรุษที่มีเป้าหมายสูงส่งเพื่อตนเอง เขาไม่ต้องการพึ่งพาโกวอวี้มากเกินไป และฝึกฝนโดยไม่ย่อท้อ

“พวกเจ้าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุโศกนาฏกรรมในเมืองอาเธอร์ใช่ไหม?”

หน้าของเมลิซซาซีดขาว นางรู้สึกว่านางโง่มากที่เชื่อมโยงเรื่องเช่นนั้นไม่ได้ มีแต่เพียงโจรที่ทรงพลังขนาดนั้นจึงจะสามารถฆ่าหน่วยของอ้าวเติ้งได้!

“ใช่แล้ว”ถังเทียนพูดด้วยความรู้สึกปกติ จากนั้นกล่าว “แจ้งคนที่เหลือด้วยเราจะปักหลักอยู่ที่นี่”

‘ปักหลัก?’

เมลิซซาสับสน ‘ทำไมเขาต้องการจะปักหลักและอยู่ต่อกะทันหันเล่า?’  ถังเทียนไม่พูดอะไรอีก  เขารั้งจี๋เจ๋อฝูเจิ้งจือและซือหม่าเซี่ยวไว้ข้างหนึ่ง

เมลิซซาไม่กล้าคัดค้านคำพูดของเขา  และได้แต่กลับเข้าขบวน เมื่อนางมาถึงความคิดร้ายกาจผ่านวาบเข้ามาในใจนาง และนางตะลึงกับการคาดคิดของนางเอง

ความหนาวยะเยือกถึงขั้วกระดูกแล่นผ่านไปทั่วตัวนางทำให้นางนิ่งอึ้งอยู่กับที่

‘พวกเขา..กำลังจะ...เอา..ชนะกองพลกงล้อ

ถังเทียนพูดเบาๆ กับสามคน “ข้าเปลี่ยนใจแล้วข้าจะลงมือคืนนี้และกำจัดพวกเขา ตอนนี้หน่วยสุญญตายังไม่มีเรือรบ  ถ้าเราเผชิญหน้ากับพวกเขา  เราคงจะลำบากแน่เราจำเป็นต้องกำจัดกองทัพนี้ก่อน ซือหม่าเซี่ยวท่านรั้งอยู่และคอยคุ้มกันขบวนนี้ไว้”

ราวกับว่าพวกเขาตื่นเต้น จี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือเปล่งรังสีฆ่าฟันและพูดพร้อมกัน“ฆ่าพวกเขาให้หมด!”

พวกเขาเพิ่งออกมาจากแดนบาปและยังไม่เผชิญกับกองทัพจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เลยซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาสนใจ  นอกจากนั้นพวกเขายังมีความก้าวหน้ากับการฝึกฝนพวกเขายิ่งมีความกระตือรือร้นจะทดสอบตนเอง

ซือหม่าเซี่ยวมองดูถังเทียนและกล่าว  “ข้าไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น”

เขาเห็นสายตาที่เข้มงวดของถังเทียนเปล่งประกายเยือกเย็นซึ่งต่างจากเด็กหนุ่มที่เสียงดังและเหมือนขวานผ่าซากตามปกติเหมือนกับว่าเป็นสองคนที่บุคลิกแตกต่างกัน

‘มีแต่ช่วงเวลาอย่างนั้นเจ้าถึงจะแสดงอำนาจที่สง่างามและโดดเด่นในฐานะราชาแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่เท่านั้น’

ซือหม่าเซี่ยวไม่ลืมวิธีที่ถังเทียนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ซึ่งต้องผ่านการสู้รบครั้งแล้วครั้งเล่า ได้ชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า  สิ่งที่ทำให้ซือหม่าเซี่ยวตกใจก็คือเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเหมือนกับว่า...เขาเสียใจที่ไม่ได้มีส่วนสู้รบที่จะมีมาถึง

‘ทรงพลังมาก!’

ซือหม่าเซี่ยคิดอยู่เสมอว่าความสามารถในการควบคุมของเขาโดดเด่นมากขึ้นกว่าคนที่เหลือ  แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าจะได้รับอิทธิพลจากถังเทียน  แต่เขารีบกลับคืนเป็นปกติสายตาแจ่มใสทันที  ‘กองพลเกราะเทพเจ้าเป็นอันหนึ่งเดียวกัน  ถ้าข้าไปด้วย มีแต่จะส่งผลต่อพวกเขาถังเทียนตัดสินใจถูกต้องแล้ว’

‘แต่...’

‘เขาสมกับเป็นพญาหมีแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่จริงๆ!’

ซือหม่าเซี่ยวเต็มไปด้วยความชื่นชม

“ให้ทุกคนพักเอาแรงให้เต็มที่  เราจะเคลื่อนไหวเมื่อถึงเวลามืด”

ถังเทียนสั่ง,เป็นการพักครั้งแรกที่กองพลเกราะเทพเจ้ามีนับแต่เริ่มฝึกฝน

ทุกคนเหยียดตัวลงบนพื้นที่รอบๆ  และในไม่กี่วินาที ก็ได้ยินเสียงกรน

บนเรือขนส่ง เมลิซซามองดูภาพด้วยความตะลึงและคิดเยาะเย้ยตนเอง “บางทีข้าคงคิดมากไป พวกเขาเหนื่อยหนักขนาดนั้น”

หน้าของชายชรายังคงเคร่งเครียด  “ไม่, พวกเขาเตรียมจะลงมือกับกองพลกงล้อจริงๆ”

“หา!” เมลิซซาตกใจ  “แต่,จากท่าทางพวกเขาที่เห็นตอนนี้...”

“พวกเขากำลังพักฟื้นฟูแรง”  ชายชรากล่าว หน้าของเขายิ่งขมวดหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  แต่ลึกลงไปในดวงตาของเขาเหมือนมีประกายแสงเจิดจ้า  “เมลิซซาต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น, อย่าเป็นศัตรูกับพวกเขา

“ทำไมข้าจะต้องเป็นศัตรูกับพวกเขาด้วย?”  เมลิซซาตกใจกับคำพูดของปู่นาง  นางไม่เคยคิดจะกลายเป็นศัตรูกับโจรประหลาด  หลังจากผ่านไปสองสามวัน  นางเข้าใจว่าพวกเขาน่ากลัวเพียงไหน แต่เจตนาที่แฝงอยู่ในคำพูดของปู่นางทำให้นางสั่น  หลังจากลังเลเล็กน้อย นางอดถามไม่ได้  “แต่พวกเขาล่วงเกินกลุ่มการค้าตะวันตก...”

“กลุ่มการค้าตะวันตก?”  ชายชราส่ายศีรษะช้าๆ  “พวกเขาเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของตำนานนี้”

เมลิซซาตกตะลึง และแม้แต่จอห์นสันที่ปกติจะใจเย็นก็ยังมีท่าทางเหลือเชื่อ  กลุ่มการค้าตะวันตกเป็นองค์กรขนาดใหญ่นักสู้นับไม่ถ้วนแทบจะคลานมาแทบเท้าพวกเขา และมันเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่มีหนวดมากมายนับไม่ถ้วนซึ่งเกาะยึดภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิงไว้

แม้แต่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ได้แต่แหงนคอมองพวกเขา

ตกยามราตรี

เมลิซซานอนไม่หลับ ใจของนางนึกถึงคำพูดของปู่นางที่บอกกับนางไว้ตอนกลางวันตลอดเวลา  ถ้าเป็นคนอื่น นางคงได้แค่นเสียงและไม่สนใจพวกเขา  แต่เนื่องจากปู่ของนางพูดถึงพวกเขา  นางจะละเลยได้อย่างไร

“จอห์นสัน,เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?”

จอห์นสันก็ได้รับผลกระทบหนักพอกัน  แต่ความคิดของเขาเรียบง่ายกว่ามาก  “คุณหนู, ไม่ต้องคิดมากเกินไปก็แค่คอยดูต่อไป ถ้าเราสามารถเห็นตำนานนี้กับตาจริงๆ ก็นับว่าเป็นเกียรติของเรา”

เมลิซซาได้คิด  ‘นั่นสินะ  ทำไมข้าต้องกังวลมากด้วยเล่า? ข้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับโจรเหล่านี้, ข้าสามารถมองดูอยู่ด้านข้างได้’

ทันใดนั้น,จอห์นสันและนางให้ความสนใจความเคลื่อนไหวใกล้ๆ

พวกโจรที่กำลังหลับเสียงดังยืนขึ้นทุกคน พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวและเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเมลิซซาและจอห์นสันจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเตรียมตัว  แต่พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าเป็นระเบียบวินัยมาก

จี๋เจ๋อควงดาบพิศวงในมือ ขณะที่ฝูเจิ้งจือขยับปรับตำแหน่งกระบี่พญาเขียวของเขา...

ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างฉลาดไม่มีใครแสดงความสับสนให้เห็น พวกเขาทำได้ละเอียดและแม่นยำ

ในทั้งกระบวนการ ไม่มีใครพูดอะไรความน่าเกรงขามสุดจะพรรณนากระจายอยู่ในอากาศยามราตรี

“พวกเจ้าทุกคนพร้อมหรือยัง?”

หน้าของถังเทียนไม่ได้มีรอยยิ้มไร้เดียงสาของเขาตามปกติ  มีแต่ความเข้มงวดจริงจัง

ไม่มีใครพูด แต่พวกเขาทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว ตาของพวกเขาเป็นประกายในราตรีเหมือนดวงดาว แต่รังสีฆ่าฟันทำให้พวกเขาดูเหมือนสัตว์ร้ายที่พร้อมจะโจมตี

ในยามราตรี กลุ่มของสัตว์ร้ายหมอบอยู่บนพื้นทั้งหมดมีแววตาที่ดุร้าย

คนผู้หนึ่งเหาะขึ้นไปในท้องฟ้า  ถังเทียนนั่นเอง

ปังเสียงระเบิดดังต่ำและทุ้มมากระเบิดปลดปล่อยเสียงออกมา  คนทั้ง 200คนปลดปล่อยพลังและกระโจนขึ้นจากพื้นพร้อมกัน

ควั่บ ทั้งหมดหายไปพร้อมกัน

ในท้องฟ้า เงาทั้งสองร้อยเร่งความเร็วเหมือนกับฝูงนกอินทรีดำทะยานขึ้นท้องฟ้า

ไม่มีคำสั่ง ไม่มีเสียงสั่งมีเพียงแต่เสียงพวกเขาแหวกอากาศ ทั้ง 200 คนรวมกันเป็นหนึ่งและด้วยความเร็วสูง  เกิดเงาภาพลวงตา 200เงาในอากาศ

และพวกเขาหายไปทันที

ในครู่ต่อมา พวกเขาปรากฏอยู่รอบตัวถังเทียน

ความเปลี่ยนแปลงความเร็วที่สูงขึ้นทันทีและเยือกเย็นเกิดภาพขัดแย้งรุนแรงทำให้ผู้คนต้องกลั้นหายใจ

รัศมีขนาดเล็กฉายออกมาในท่ามกลางกลุ่มทันทีเหมือนดวงอาทิตย์ลอยขึ้นจากพื้นแสงส่องสว่างผ่านความมืด

เมลิซซาและจอห์นสันถูกความตกใจครอบงำขณะที่พวกเขาจ้องมองหมัดของถังเทียน

หมัดของถังเทียนเหมือนกับดวงอาทิตย์ เขาเป็นเหมือนกับเทพสงครามจุติลงมายังพื้นพิภพอีกครั้ง

‘นั่นคือ...’

เมลิซซาจอห์นสันและคนที่เหลือตะลึงกับภาพหมัดสะเทือนสวรรค์อีกครั้งฉากภาพน่ากลัวของดวงอาทิตย์พุ่งลงมายังโลกทำให้เหมือนกับวันสิ้นโลกทหารยามที่อ่อนแอตกตะลึงไปหมดเหมือนกับว่าพวกเขาหายเข้าไปในแสง

รัศมีแสงฉายเจิดจ้าอยู่ในท้องฟ้ายามราตรี

รัศมีสว่างบนหมดหมองลงเหมือนเหล็กที่ร้อนจนแดงแต่ฉากภาพที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น มันกลายเป็นเหมือนมีชีวิตเหมือนกับเหล็กหลอมที่ไหลไปตามตัวถังเทียนยืดออกเป็นลายเส้นแสงขวางไปตามลำตัวของเขา

เมลิซซาเอามือปิดปาก กลัวว่านางจะส่งเสียงตลอดทั้งตัวนางสั่นด้วยความกลัว

เมื่อรัศมีแสงที่เหมือนของเหลวมาถึงศีรษะของถังเทียนมันก็ไหลลง และด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันคลุมไปทั้งหน้าถังเทียนอย่างรวดเร็ว

ในขณะนั้นสิ่งที่สายตาพวกเขาเห็นก็คือคู่สายตาที่ไม่มีความรู้สึกของเทพแรงกดดันที่รุนแรงครอบคลุมทั้งโลก

ตุ้บ

หนึ่งในทหารที่กำลังสั่นตั้งแต่ศีรษะจนจรดเท้ารู้สึกว่าเขาของพวกเขาแกว่งและเขาคุกข่าลง  เสียงตุ้บๆ ดังออกมาทุกคนความคิดว่างเปล่า พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นสั่นราวกับเจ้าเข้า เมลิซซาได้แต่ฝืนตัวเองอย่างหนัก นางทรุดตัวลงกับดาดฟ้า

เพียงแต่จอห์นสันและทหารที่แข็งแกร่งอีกสองสามคนพยายามฝืนตัวเองอย่างขมขื่น

อากาศหนาแน่นยามราตรีดูเหมือนกับว่าเทพอสูรปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา

อากาศรอบตัวเขาดูเหมือนจะบิดเบี้ยวเหมือนกับว่ามีด้ายที่มองไม่เห็นกระจายออก

ด้านข้างถังเทียนร่างของจี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือสว่างด้วยแสงรัศมี ตามมาจากนั้นแสงเริ่มแผ่กระจาย

คนทั้ง 200 คนเหมือนกับโคมไฟ 200ดวงสว่างขึ้นทีละดวงๆ

เมื่อคนสุดท้ายสว่างขึ้นกองพลเกราะเทพเจ้าในท้องฟ้าเหมือนกับดวงดาวที่กลั่นตัวเข้าด้วยกันรัศมีครอบงำและแรงกดดันที่พวกเขาปล่อยท่วมท้นมหาศาลรัศมีของพวกเขาทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งกลายเป็นไร้ขอบเขต  เหมือนกับว่าสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ที่ผ่านกาลเวลาเดินออกมารัศมีที่ครอบคลุมและเปี่ยมล้นจนสายลมหยุดนิ่ง แสงจันทร์สูญเสียความงามท้องฟ้าอยู่ภายใต้เท้าพวกเขา และดาวอยู่ใต้ปีกพวกเขา

เกราะเทพเจ้าและทหารมาแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด