ตอนที่แล้วตอนที่ 833 อัญมณีน้ำตาเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 835 ฆ่าพวกมัน!

ตอนที่ 834 การสอบสวน


“ข้าไม่สนใจว่าพวกมันเป็นใครและข้าไม่สนใจว่าพวกมันมาจากไหน ข้าแค่ต้องการเห็นศีรษะพวกมัน!”

เสียงที่โกรธและเคร่งเครียดดูเหมือนจะดังกรอกหูของเขาทำให้ซิดนีย์เรียกความรู้สึกของเขากลับมาได้ เขามองดูทหารรอบๆ เขา กำลังใจของพวกเขาสูงส่ง ขณะที่เขาแสดงสีหน้าพอใจ   การบุกตะลุยทางไกลไม่เคยเป็นงานง่าย  แต่เนื่องจากว่าเป็นงานเร่งด่วนเจ้านายให้เรือขนส่งที่ดีที่สุดกับพวกเขา เพื่อป้องกันพวกเขาจากความรู้สึกเจ็บปวดจากวิ่งรอก

ซิดนีย์เข้าใจความร้ายแรงของเรื่องราว

ความโกรธของเจ้านายไม่ใช่เรื่องที่เมืองอาเธอร์ถูกปล้น แต่เป็นเรื่องที่กลุ่มพ่อค้าตะวันตกถูกปล้นต่างหาก! ผู้อาวุโสสำนักอย่างโจนาธานถูกสังหาร และผู้คุ้มกันของกลุ่มพ่อค้าตะวันตกทั้งหมดที่ประจำอยู่ที่เมืองอาเธอร์ถูกสังหาร  และโกดังสินค้าของพวกเขาว่างเปล่าไม่เหลืออะไร

ซิดนีย์เองก็ตกใจอย่างหนักเพราะความอำมหิตของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ที่ตกใจมากกว่าก็คือพวกเขากล้าเข้ามาตอแยกลุ่มพ่อค้าตะวันตก  ในภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิง  ผู้ทรงอิทธิพลอำนาจอย่างนั้นปรากฏมานานเท่าใดแล้ว?ในภูมิภาคตะวันตกที่กันดารรกร้าง ไม่มีใครคิดต่อต้านกลุ่มพ่อค้าตะวันตก

ทหารของทวีปในภูมิภาคตะวันตกต่างๆและกลุ่มการค้าตะวันตกพยายามใช้ความสัมพันธ์ทุกประเภท และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติที่กองทัพจะปรากฏออกมาเพื่อช่วยกลุ่มการค้าตะวันตกเพื่อคลี่คลายข้อขัดแย้งหรือป้องกันเรือขนส่งของพวกเขา

ซิดนีย์รู้ว่าหัวหน้าของเขาเองมีสัมพันธ์ที่พิเศษกับกองพลภูมิภาคตะวันตกแม้ว่าเขาจะได้รับของขวัญราคาแพงบางส่วนจากกลุ่มการค้าตะวันตก

กลุ่มการค้าตะวันตกไม่เคยตระหนี่กับเรื่องเงิน และทุกคนเหมือนกับทำธุรกิจร่วมกันกับพวกเขา  ตัวอย่างเช่น การดำเนินการที่พวกเขากำลังทำกันอยู่  ถ้าพวกเขาสามารถกำจัดพวกโจรได้  กลุ่มการค้าตะวันตกจะตบรางวัลให้พวกเขาอย่างหนัก  เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นแล้วใจของซิดนีย์อดร้อนรุ่มเหมือนมีไฟลุกโชนมิได้

แต่ซิดนีย์ไม่บุ่มบ่ามไม่ใจร้อน รายงานมากมายเกี่ยวกับโจรจากเมืองอาเธอร์ถูกส่งมาที่เขา และปรากฏความจริงจังที่ยากจะเห็นได้อยู่ในดวงตาของเขา

แม้ว่าโจนาธานจะเป็นคนโลภ แต่บริวารของเขาอ้าวเติ้งเป็นขุนพลแม่ทัพที่โดดเด่น  ซิดนีย์รู้เพราะตัวเขาเองถ้าไม่ใช่เพราะอ้าวเติ้งได้รับบาดเจ็บ ซิดนีย์ไม่มีทางสู้กับเขาได้  แต่แม้เมื่ออ้าวเติ้งได้รับบาดเจ็บหนัก  สติปัญญาและประสบการณ์ของเขาก็ยังมีอยู่ และหน่วยคุ้มกันที่เขาฝึกด้วยตนเองก็โดดเด่นกว่าเพื่อนของเขา

แต่พวกเขาถูกฆ่าหมดโดยขุนพลวิญญาณตนเดียว!

ซิดนีย์ไม่ใช่คนโง่คนที่สามารถแสดงพลังของขุนพลวิญญาณที่ทรงพลังขนาดนั้นได้ จะต้องเป็นคนที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่คนที่เขาไม่ควรตอแยด้วย แต่ความตั้งใจของหัวหน้าของชัดเจนมาก ไม่ว่าศัตรูเป็นใคร เขามีงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือฆ่าพวกเขา

ใช่แล้วซิดนีย์ยังคงมีความกลัว แต่เขาไม่กลัว เนื่องจากกลุ่มการค้าตะวันตกทรงพลังมากในทวีปกวงหมิงไม่ว่าตระกูลที่เด็ดขาดหรือตระกูลชั้นสูงไม่มีทางคิดออก  อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะมีความแข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มการค้าตะวันตกแต่พวกเขาเลือกสู้ในทวีปทุ่งขาว นั่นคือความผิดพลาดร้ายแรงของพวกเขา

ในดินแดนแห้งแล้งและด้อยคุณภาพเหล่านี้  ไม่มีใครสามารถโยกคลอนอำนาจของกลุ่มการค้าตะวันตกได้

“นายท่าน, มีกองเรือขนส่งอยู่ข้างหน้า!”

คนลาดตระเวนคนหนึ่งรายงานซิดนีย์ตอบอย่างใจเย็น “ส่งคนไปตรวจสอบดูสองสามคน พวกเขาเป็นใคร”

จากรายงานโอกาสที่พวกเขาจะได้พบพวกโจรต่ำมากในตำแหน่งปัจจุบัน แต่ด้วยความรอบคอบซิดนีย์ส่งคนกลุ่มเล็กไปตรวจสอบดู

สายตาของเขารั้งกลับมาที่แผนที่ทวีปทุ่งขาว

*************

เมลิซซายืนอยู่บนดาดฟ้าเรือสายตาจับมองดูกลุ่มคนบ้าที่อยู่นอกเรือ ใช่, สำหรับนาง, พวกเขาเป็นกลุ่มคนบ้า

กลุ่มคนบ้าที่หว่านความกลัวให้คนอื่น

พอผ่านครึ่งทางของการถูกบังคับให้ไปเมืองดินแดง  เมลิซซาไม่โกรธอีกต่อไป ก็เหมือนกันทุกที่  ผู้คนนับถือพลัง  ความไร้เดียงสาและความไม่รู้ของนางเกือบคร่าชีวิตนาง  แต่ก็ทำให้นางฉลาดขึ้นและทำให้นิสัยเจ้าอารมณ์ของนางหมดไป  นางเตรียมตัวทำใจแม้ว่านางจะต้องรับทุกข์ก็ไม่สำคัญ แม้ว่าปู่ของนางจะปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความนับถือก็ตาม

แต่สิ่งที่นางประหลาดใจก็คือไม่มีหนึ่งในพวกเขาอยู่บนเรือจริงๆ

ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก ลมแรงหรือไม่ พวกโจรก็เคลื่อนไหวด้วยตนเองอย่างมุ่งมั่นตอนแรกเมลิซซาคิดว่าอีกฝ่ายเกลียดเรือ แต่หลังจากที่นางตระหนักว่าพวกเขากำลังอยู่ภายใต้การฝึกที่พิเศษ

เมลิซซาตะลึงกับเรื่องนั้น  แต่ไม่ใช่เฉพาะนางเท่านั้นลูกเรือทั้งหมดก็ตะลึงอย่างสิ้นเชิง

โจรพวกนั้นเคลื่อนไหวแปลกประหลาดสะดุดและร่วง บางครั้งก็ร่วง บางครั้งก็ลอยเหมือนเด็กกำลังเรียนรู้วิธีเดิน

หัวหน้าหน่วยคุ้มกันนางมีแววตาชื่นชมในตาเขาและแม้แต่ปู่นางก็ยังออกมาเตือนนางครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้นางสนใจพวกเขา  ยอดฝีมือข้างตัวนางทุกคนในตอนนี้เพลินกับการนั่งที่ดาดฟ้าดูการฝึกของพวกโจรการเคลื่อนไหวที่งุ่มง่ามของพวกโจรทั้งหมดเรียกเสียงหัวเราะเป็นระยะ  แต่เกือบตลอดเวลาบนดาดฟ้ามักเต็มไปด้วยความนับถือ เคร่งขรึม เยือกเย็นและเงียบงัน

ตรงกับบรรยากาศที่เข้มงวดบนดาดฟ้าเรือพวกโจรเองอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากอย่างยิ่ง หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ร่างของพวกเขาเต็มไปด้วยฝุ่นสกปรก พวกเขาเหมือนเต้าหูที่เลอะกลุ่มที่มีเสียงดังบางครั้งก็ทำให้คนอื่นคิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มผู้อพยพ

ถึงตรงจุดนี้ดูเหมือนพวกเขาเป็นโจรที่ดุร้ายที่สุด รุนแรง ก้าวร้าวที่มีกลิ่นอายอย่างนั้นเสมอ

แต่โจรเหล่านี้ที่อยู่ต่อหน้านางตั้งแต่วันที่พวกเขาได้พบมักจะรีบเร่งและฝึกโดยไม่หยุดนิ่งเป็นเวลาสามวันสามคืนมาแล้ว

เมลิซซาไม่เคยเห็นกลุ่มโจรแบบนี้มาก่อน

บุรุษหนุ่มที่นางเกลียดมักเคลื่อนขึ้นเคลื่อนลงอยู่ต่อหน้ากลุ่มตลอดตะโกนอย่างต่อเนื่องดังราวกับฟ้าผ่า  ทำให้คนบนเรือได้ยินเสียงเขาชัดเจนด้วยเนื้อความที่ไม่สามารถเข้าใจได้

“นี่พวกเจ้าใช้กฎธรรมชาติได้ยังไง?จะให้ข้าต้องบอกกี่ครั้งกัน?  พวกเจ้าทุกคนตั้งใจจะทำตัวโง่กว่าอาโมรี่หรือเปล่า?”

“ช้าเกินไป!  ช้าเกินไป!  ใช้กฎธรรมชาติของพวกเจ้าควบคุมพลังงาน!”

……

ใช่แล้วคำว่ากฎธรรมชาติใช้บ่อยมาก ถึงขั้นที่เมลิซซางง ในความทรงจำของเมลิซซากฎธรรมชาติเป็นคำระดับสูงที่ปล่อยออกมาได้เฉพาะนักสู้ระดับสูง

‘กฎธรรมชาติกลายเป็นคำธรรมดาสามัญตั้งแต่เมื่อใด?’

‘และพวกเขาเป็นกลุ่มโจรผู้ไม่สามารถควบคุมการบินได้อย่างถูกต้องอย่างนั้นหรือ

นางถามข้อสงสัยนี้กับหัวหน้าผู้คุ้มกัน  แม้ว่าจอห์นสันจะไม่ใช่ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งแต่เขาก็ยังมีความน่าเคารพระดับหนึ่ง และเขามีความรู้และตั้งใจมาก

“เขาต้องรู้แจ้งเรื่องกฎธรรมชาติแน่อน”  จอห์นสันกล่าว “เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยหมัดโจมตีนั้นโดยไม่มีกฎธรรมชาติและการรู้แจ้งกฎธรรมชาติของเขาดูเหมือนอยู่ในระดับที่ลึกซึ้งมาก  นักสู้อย่างนี้ไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน!”

เสียงของจอห์นสันเต็มไปด้วยความนับถือต่อถัเงทียนจากนั้นเขาพูดต่อ “แต่ด้วยเรื่องฝึกของเขาด้วยกฎธรรมชาติบริวารพวกนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก แต่หลังจากดูมาสองสามวันพลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก  ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อบริวารนี้แปลกประหลาดมาก...”

เขาลังเลเล็กน้อยจากนั้นกล่าว  “ดูเหมือนพลังของพวกเขาจะถูกผนึกไว้  และค่อยๆ ปลดปล่อยออกมา และกำลังฟื้นฟู”

“พลังสามารถถูกผนึกได้ด้วยหรือ?”  เมลิซซาตะลึง เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินชื่อนั้น

“ผู้น้อยนี้เพียงแต่คาดเดา” จอห์นสันยังคงรู้สึกว่าเขากำลังคิดมากเกินไป  จากนั้นเขาพูดว่า“ความแข็งแกร่งของคนผู้หนึ่งไม่สามารถผนึกไว้ได้ แต่ระดับความก้าวหน้าของพวกเขาช่างเหลือเชื่อจริงๆ ผู้น้อยสังเกตว่าจำนวนคนที่สามารถบินได้ตอนนี้มีถึงครึ่งแล้วนอกจากนี้สิ่งที่แปลกก็คือเมื่อพวกเขาเข้าใจวิธีการบินพลังความเข้มแข็งของพวกเขาเหมือนถูกปลดปล่อยออกมา”

ทันใดนั้นเขาลดเสียงลง“และบางคนในพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

สายตาของเขาหันไปที่จี๋เจ๋อ  ตั้งแต่ดาบพิศวงเรียนรู้การบินเหมือนกับว่าเขาถูกปลดปล่อยบางอย่างและกลายเป็นคนที่อันตรายมากบางครั้งเขาจะหันมามองดูพวกเขา และแค่เพียงเขาปรายตาผมขนทุกเส้นในตัวจอห์นสันก็ตั้งชัน

จอห์นสันรู้ว่าเขารู้สึกไม่ผิด  เขาเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์และความรู้สึกของเขาที่มีต่ออันตรายไม่ใช่สิ่งที่ทหารใหม่จะเทียบได้

เมลิซซามีสีหน้าประหลาดใจ  แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ขณะนั้นพวกโจรหยุดฝึกทันทีเป็นครั้งแรกที่พวกเขาหยุดฝึกในรอบหลายวัน

เมื่อสังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกไปเมลิซซาและจอห์นสันสังเกตว่ามีกองเรือปรากฏในระยะไกล เป็นเรือลำเลียงที่ใช้ทั่วไปโดยกองทัพ

จุดดำสองสามจุดบินเข้ามา

เมลิซซาสังเกตว่ารูปขบวนของพวกโจรเริ่มเปลี่ยนไปทำให้เมลิซซาผู้คุ้นเคยกับพวกเขาเริ่มเครียดนางรู้สึกได้ถึงร่องรอยอันตราย

นางลดเสียงและกล่าว  “เราควรจะไปห้ามอีกฝ่ายป้องกันไม่ให้พวกเขาสู้”

จอห์นสันเข้าใจทันที“ใช่แล้ว!”

ยิ่งเขาเข้าใจพวกโจรมากขึ้นเขาก็รู้สึกว่าพวกเขายากจะหยั่งถึง และรู้สึกว่าเขาเคารพพวกเขา  ตอนแรกเขายังหวังว่ากองทัพจะมาช่วยพวกเขา  แต่ในเวลาอันรวดเร็วเขาทิ้งความคิดน่าขันนั้นออกไป หลังจากผ่านไปสองสามวัน เขารู้ว่ากองทหารธรรมดาไม่มีทางต้านโจรได้ สำหรับกองทหารฝีมือดี นั่นเป็นระดับที่พวกเขาไม่สามารถระดมมาได้

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาจะกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมแน่นอน และบางทีกลายเป็นผู้สมคบคิดกับโจรใช้พวกเขาเป็นมีดคม

คงเป็นเรื่องโง่ถ้าจะพูดเหตุผลกับโจร!

ความสามารถในการฟังเสียงของถังเทียนโดดเด่นมาก  เขาได้ยินคำสนทนาของเมลิซซาและโจนาธานและไม่ห้ามพวกเขา แม้ว่าเขาต้องการจะทดสอบว่ากองทัพกวงหมิงแข็งแกร่งขนาดไหน แต่หลังจากคิดเรื่องหน่วยสุญญตาต้องการเรือรบ  เขาตัดสินใจข่มใจทันที

จอห์นสันบินเข้ามาตะโกนเสียงดัง  “นี่คือกลุ่มการค้าเมซฟิลด์และแม่นางเมลิซซา  พวกท่านเป็นใคร?”

หัวหน้าหน่วยสืบสวนประหลาดใจ  “ทำไมกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ถึงอยู่ที่นี่ได้?’  แต่เขารีบสงบใจได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับกลุ่มพ่อค้าตะวันตกแต่พวกเขาก็มีธุรกิจค่อนข้างกว้างขวาง

ผู้นำกลุ่มทหารตรวจสอบเอกสารของเมลิซซาจากนั้นสบายใจ  “เรามาจากกองพลกงล้อถูกส่งมาสืบสวนโศกนาฏกรรมที่เมืองอาเธอร์!  ถ้าพวกท่านพบคนต้องสงสัยอะไรโปรดรายงานให้ข้าทราบด้วย!”

โศกนาฏกรรมเมืองอาเธอร์!

เมลิซซาประหลาดใจ  “เราได้ยินเรื่องโศกนาฏกรรมเมืองอาเธอร์มาแต่คาดไม่ถึงเลยว่าพวกท่านจะมากันรวดเร็วนัก!”

“ที่เราพูดถึงนั่นคือกลุ่มการค้าตะวันตก”  ผู้นำยักไหล่ “แต่ก็ต้องให้ความระมัดระวังด้วยนี่คือกลุ่มนักฆ่ามีคนประมาณ 200 คนหนึ่งในนั้นกล่าวกันว่ามีวิญญาณสตรีที่แข็งแกร่งสวยงดงามมากแต่ว่าอำมหิต  อีกคนใช้ดาบโค้งเปล่งประกายพิศวง...”

‘บุรุษที่มีจำนวน 200 คนวิญญาณสตรีที่งดงาม และดาบเปล่งประกายพิศวง..’

เมลิซซาและจอห์นสันมองหน้ากันเองทั้งสองคนรู้ถึงความกลัวและตกใจในสายตาของพวกเขา

นายกองผู้นั้นคิดว่าทั้งสองคนตกใจกับความรุนแรงในเมืองอาเธอร์จึงพูดต่อ  “ถ้าองค์กรใดๆ พบอะไรเกี่ยวกับพวกเขาโปรดไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดและแจ้งเจ้าเมือง..”

เมลิซซาและจอห์นสันต้องการจะหันหน้าและหนีทันที

เกิดความเงียบแปลกประหลาด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด