ตอนที่แล้วตอนที่ 835 ฆ่าพวกมัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 837 ถังเทียนเคลื่อนไหว

ตอนที่ 836 การโจมตีคาดไม่ถึง


เพียงเมื่อถังเทียนและกองพลของเขาหายไปทำให้แรงกดดันที่รุนแรงและน่ากลัวครอบคลุมทั้งเรือหายไป

ทุกคนค่อยๆหายจากอาการตกใจกลัว ความว่างเปล่าในสายตาพวกเขาเขาค่อยหายไปหน้าของพวกเขาเริ่มมีสีเลือด แต่เรือขนส่งยังคงเงียบพวกเขายังไม่สามารถเบือนสายตาจากตำแหน่งที่ถังเทียนและพวกหายไป

เมลิซซาฟื้นจากความรู้สึกที่เหมือนกับฝันร้ายหอบหายใจ ตลอดทั้งตัวนางมีเหงื่อชุ่ม

นางไม่เคยคิดเลยว่าคนผู้หนึ่งและทหารของเขาสามารถสร้างรัศมีที่สง่างามขนาดนั้น

นางรู้สึกประหลาดใจเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว สังเกตว่าซือหม่าเซี่ยวมาถึงดาดฟ้าเรือโดยไม่รู้ตัวหน้าของซือหม่าเซี่ยวมีรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์ทำให้ความเครียดในตัวนางผ่อนคลาย

“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”

เมลิซซาถามอย่างยากลำบาก

ซือหม่าเซี่ยวอดยิ้มไม่ได้  “เราเป็นใคร? คำถามนั่น ค่อนข้างซับซ้อน”

จากนั้นเขานั่งลงข้างเมลิซซาอย่างเป็นธรรมชาติและกล่าว “แต่ข้าง่ายกว่า ข้าคือซือหม่าเซี่ยว”

เสียงของฝีเท้าดังขึ้นอีกครั้งและเสียงของชายชราดังขึ้นจากด้านหลัง “ข้าผู้อาวุโสแฟรงค์จากกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ยินดีที่ได้พบกับท่านซือหม่าเซี่ยว”

ซือหม่าเซี่ยวยืนคำนับตอบ

“ถ้าข้าไม่เห็นด้วยตาตนเอง ข้าคงไม่สามารถนึกภาพได้เลยว่ายังจะมีกองทัพที่ทรงพลังแบบนี้ในโลก”  แฟรงค์รู้สึกชื่นชม  ผลกระทบที่มีต่อชายชราผู้ฉลาดทำให้เขาสูญเสียความรู้สึกไปชั่วขณะหนึ่ง  และน้ำเสียงของเขามีร่องรอยหวาดหวั่น

“มันน่าหัวเราะแน่นอนถ้าท่านเห็นเช่นนั้น”  ซือหม่าเซี่ยวยิ้มเขินเหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกดีที่ได้ยินคำชมเชย “ความสามารถในการต่อสู้ของกองพลเกราะเทพเจ้ายังฟื้นไม่ถึงครึ่งจากตำแหน่งของพวกเขายังไม่สามารถเป็นอยู่เหมือนกับที่ท่านชมเชย”

ทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ

ใกล้ๆกันนี้ สีหน้าของจอห์นสันเหมือนกับว่าเขาเห็นผี สีหน้าของเมลิซซาเปลี่ยนไป

มีความสามารถต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างนั้นและแม้จะยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของพลังเดิม อย่างนั้นพลังของพวกเขาจะเป็นอย่างไรขณะที่ใช้พลัง 100%

ทั้งสองคนค่อนข้างสงสัยคำพูดของซือหม่าเซี่ยว การแสดงพลังของกองทัพเกราะเทพเจ้าอยู่เหนือกว่าที่พวกเขาคิดก็ยังมีขีดจำกัด  และถ้ามีแค่เพียงครึ่งเดียว อย่างนั้นพลังเต็มที่ของพวกเขาจะเหนือกว่าขีดจำกัดของมนุษย์เพียงไหน

เป็นไปได้ยังไงที่มีกองพลที่ทรงพลังอย่างนั้นในโลก?

เมื่อเห็นความสงสัยในดวงตาของพวกเขาซือหม่าเซี่ยวยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร

แต่แฟรงค์จับรายละเอียดได้  “กองพลเกราะเทพเจ้า?ข้าต้องขอโทษกับความรู้และความคิดคับแคบของข้า แต่ข้าสงสัยว่าทหารระดับสูงนี้มาจากที่ใด?”

ซือหม่าเซี่ยวหัวเราะ  แต่ไม่ตอบเขาเขาทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำถาม และถามว่า “ข้าสงสัยจริงว่าธุรกิจของท่านคุ้นเคยกับเมืองดินแดงหรือไม่?”

แฟรงค์ไม่รู้ว่าซือหม่าหมายถึงอะไรและตอบอย่างระมัดระวัง “เรามีร้านอยู่แห่งหนึ่งในเมืองดินแดง”

“อย่างนั้นข้าขอถามได้ไหมว่าธุรกิจของท่านสามารถช่วยอะไรเราได้บ้างไหม?” ซือหม่าเซี่ยวพูดอย่างอ่อนโยนทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังอาบน้ำในสายลมสดชื่น

หัวใจของแฟรงค์ตึงเครียด  “นั่นเป็นธรรมดา  ตราบใดที่เราสามารถทำได้ เราจะไม่ปฏิเสธ”

ซือหม่าเซี่ยวสามารถได้ยินความหมายค้างที่ซ่อนอยู่ในคำพูดแฟรงค์ที่มีต่อพวกเขา  แต่เขาไม่สนใจ มีความแตกต่างกันมากมายในเรื่องพลังระหว่างทั้งสองฝ่าย  และถ้าเขาไม่สามารถเข้าใจจังหวะของการสนทนา  เขาก็คงไม่ใช่ราชาแมงป่อง

เขาหัวเราะ“งั้นข้าหวังว่าธุรกิจของท่านจะสามารถซื้อเรือรบให้เราได้  ขณะที่ราคาก็คงจะรับมือได้ง่าย”

“เรือรบ?” แฟรงค์ถอนหายใจโล่งออก  “นั่นไม่เป็นปัญหาธุรกิจของข้ายังคงเกี่ยวข้องกับเรือรบ  ท่านไปเลือกเอาได้สองสามลำ  เราจะให้ท่านด้วยราคาที่ดีแน่นอน”

เป็นความแตกต่างสำหรับที่ที่พวกเขาอยู่ทวีปกวงหมิงจะเข้มงวดมากกับการทำธุรกิจที่ต้องร่วมกับภูมิภาคใต้ในเรื่องเรือรบ  แน่นอนนั่นเป็นที่ซึ่งทวีปกวงหมิงต้องควบคุมมากขึ้น  ภูมิภาคตะวันตกเป็นเรื่องแตกต่าง

ภูมิภาคตะวันตกเป็นพื้นที่กันดารและแห้งแล้งและการรักษาความปลอดภัยย่ำแย่ กลุ่มคนทำเหมืองมักจะติดตั้งอาวุธกับเรือขนส่งของตนเองเพื่อประกันความปลอดภัยของพวกเขา เรือทำเหมืองเหล่านี้ติดตั้งอาวุธสามารถพบเห็นได้ทั่วภูมิภาคตะวันตก  และมีเรือทำเหมืองขนาดใหญ่สองสามลำที่ติดตั้งอาวุธจนเข้าเกณฑ์เป็นเรือรบได้

แต่ธุรกิจที่เกี่ยวกับเรือรบในภูมิภาคตะวันตกเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหมด

ซือหม่าเซี่ยวประหลาดใจ  “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าองค์กรของท่านจะแข็งแกร่งมากขนาดนั้น!”

แฟรงค์รีบตอบ“เพื่อเลี้ยงชีวิต,  เพื่อเลี้ยงชีวิต”

เขาไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นเขาเป็นแกะอ้วนเนื่องจากจะมีแต่ปัญหา

ซือหม่าเซี่ยวยิ้ม  เขาไม่สนใจพวกเขามาก และดาดฟ้าเงียบลงทันที

เมลิซซาถามทันที “กองทัพของพวกเจ้ากำลังจะโจมตีกองพลกงล้อใช่ไหม?”

“ถูกแล้ว” ซือหม่าเซี่ยวยอมรับอย่างไม่ปิดบัง  “เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารพวกนั้นสร้างความยุ่งยากให้เรา  การกำจัดพวกเขาก่อนจะดีกว่า”

ดาดฟ้าเงียบอีกครั้ง

ความมั่นใจอย่างไม่แยแสของซือหม่าเซี่ยวทำให้พวกเขารู้สึกหนาวเย็น อีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นกองพลกงล้ออยู่ในสายตาพวกเขาด้วยซ้ำ

***********************

สายลมหวีดหวิวพัดผ่านหูพวกเขาถังเทียนกำลังนำหน้าด้วยความเร็วเต็มที่หลับตา สภาพจิตใจเขายังคงเยือกเย็นอย่างน่าประหลาด  พลังงานที่หนาแน่นและแข็งแรงทำให้ถังทียนมีความรู้สึกคุ้นเคย ความคุ้นเคยที่เขามีต่อพลังงานทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบจากมันเลย เขาสามารถควบคุมพลังงานโดยไม่ต้องใช้กำลังผ่านการใช้กฎธรรมชาติเหมือนแค่กระดิกนิ้วมือทุกอย่างก็เป็นไปได้ตามคิด

พลังงานที่ครอบคลุมอยู่รอบกองทัพกล้าแข็งมากพลังงานสายลมที่ก่อตัวขึ้นมาเฉพาะแบบ ขับเคลื่อนพวกเขาให้เคลื่อนที่ไวขึ้น

เทียบกับการควบคุมพลังงานความยากในการควบคุมกองพลเกราะเทพเจ้ามีมากมายห่างไกล และทั้งหมดที่เขาต้องตั้งสมาธิให้ดีก็คือใช้กฎธรรมชาติ  ทุกคนยังทำได้ไม่ดีและแม้การเชื่อมโยงกับทุกคนจะไม่สามารถทำได้เนื่องจากเขาสามารถเชื่อมโยงพวกเขาผ่านการควบคุมเกราะเทพเจ้าเท่านั้น

ถังเทียนไม่ได้หงุดหงิดกับเรื่องนี้ เขาจัดเรียงระเบียบความคิดวิธีการใช้สายใยกฎธรรมชาติราวกับว่าเขาแช่อยู่ในอีกโลกหนึ่ง

ทันใดนั้นเขาลืมตา

สายตาของเขาคมเหมือนกระบี่ทะลวงผ่านความมืดข้างหน้าเขา

ในขณะนั้นเกราะเทพเจ้าที่เหมือนกับภูตพรายซึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตื่นขึ้นอย่างเงียบงันเหมือนกับสัตว์ป่าดุร้ายกำลังเตรียมล่าเหยื่อ

เรือบินอยู่ข้างหน้าอย่างมั่นคงซิดนีย์เพิ่งจะเข้าพัก หลังจากคิดมาทั้งวัน เขารู้สึกเหนื่อยใจเขามองว่าเป็นภารกิจที่หนักมากไม่เพียงแต่เป็นภารกิจเสี่ยงตายที่มอบหมายโดยหัวหน้าเท่านั้น  แต่ที่สำคัญมากกว่าถ้าเขาสามารถได้รับความโปรดปรานจากกลุ่มการค้าตะวันตกได้ก็คงจะไม่ยากกับการยกระดับฐานะการอาชีพของเขา

ที่สำคัญคือภารกิจนี้อาจกล่าวได้ว่ายาก  แต่จะว่าง่ายก็ได้

ส่วนที่ยากก็คือหาตำแหน่งของอีกฝ่าย  ขณะที่พวกเขามีจำนวนเพียง 200 คน  พวกเขาสามารถซ่อนตัวในที่ใดง่ายๆ ก็ได้  และการหาพวกเขาจะเป็นเรื่องที่ท้าทายตราบใดที่พวกเขาจับตำแหน่งของพวกเขาได้ ภารกิจก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

ซิดนี่ย์จำได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งทรงพลังมาก  แต่จำนวนของเขาแตกต่างกันไกลด้วยความต่างกันขนาดนั้น แผนที่เป็นไปได้ก็คือยืมภูมิประเทศและสู้รบในเมือง

ถ้าพวกเขาเผชิญหน้ากันในที่เปิดกว้าง ศัตรูจะไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของพวกเขาแม้แต่ครั้งเดียว

ขณะนั้นเองจู่ๆซิดนีย์รู้สึกได้ถึงพลังผันผวนที่มองไม่เห็น ทำให้หน้าของเขาเปลี่ยนโดยไม่ทันได้คิดอะไร เขาโดยถลันตัวไปข้างหน้าจนมาถึงหน้าต่าง

“ศัตรุ....”

หลังจากที่กระโจนไปที่หน้าต่าง  เขาโห่ร้องต้องการจะปลุกทุกคน  แต่ช่วงเวลาต่อมาเขาหยุดเสียงทันทีทันใด  ตาของเขาเบิกโพลงขณะจ้องไปที่ข้างหน้า  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ความจริงเขาไม่เห็นอะไรรอบตัวเขาเลย!

หมอกเขียวแผ่ไปรอบตัวพวกเขา  แม้แต่เมื่อเขาเหยียดนิ้วทั้งห้าออกไปข้างหน้า  เขามองไม่เห็นมือของเขาอีกต่อไป  พร้อมกับความรู้สึกถึงอันตรายอย่างรุนแรง  เขาเปิดม่านพลังป้องกันตามสัญชาตญาณ

‘แย่แล้ว, พิษ!’

ชี่ชี่ ชี่

ฉากภาพที่น่าตกใจเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ม่านพลังป้องกันที่เขาเปิดใช้งานทันทีมีรูเข็มขนาดเล็กซึ่งขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง  เขาไม่เคยเห็นพิษที่กัดกร่อนม่านพลังมาก่อน  ในพริบตา รูเข็มหนาก็คลุมเต็มไปทั้งม่านพลัง

รัศมีสว่างแพรวพราวสีเขียวกระพริบวาบอยู่ในหมอกพิษ

ปัง!

หนึ่งในเรือขนส่งระเบิดกลายเป็นลูกไฟสีส้มขนาดใหญ่

ผู้โชคดีรอดชีวิตกระโดดออกจากกราบเรือทางหน้าต่าง

‘แย่แล้ว!’

ซิดนีย์สีหน้าเปลี่ยน

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาไม่ขาดสาย  ทหารทั้งหมดปกคลุมเต็มไปด้วยรูร่างของเขากำลังกัดกร่อนกลายเป็นทรายโดยหมอกสีเขียว  ฉากภาพน่าตกใจทำให้มือและเท้าของซิดนีย์เย็นเฉียบ

“ออกไป!  ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ตาของซิดนี่ย์แดงทันที  เนื่องจากเขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตะโกนเขาไม่รู้ว่าพิษสีเขียวคืออะไร แต่รู้ว่าถ้าเขายังรั้งอยู่อีกต่อไป พวกเขาจะต้องตายแน่นอน พวกเขาต้องการรอดออกไป

ปัง!

เรือระเบิดอีกหนึ่งลำ

เปลวเพลิงสว่างไสวที่สีตัดกับหมอกสีเขียวดูราวกับว่าพวกเขาอยู่ในนรก

เมื่อได้ยินสหายของพวกเขากรีดร้อง  ทหารภายในเรือขนส่งของตัวเขาเองไม่กล้าออกไป  ทั้งนั้นมีกันร้องคนและหลังจากได้ยินเสียงของซิดนี่ย์พวกเขาตื่นตัวกัน

ขอเพียงพวกเขาออกไปได้พวกเขาจะมีโอกาสชนะ

เรือลำเลียงทั้งหมดแล่นออกมาจากหมอกพิษเพื่อประโยชน์แรกเพื่อแยกพลังโจมตีของศัตรู พวกเร่งออกไปในทิศทางต่างๆ หลังจากเพลิงที่รุนแรงลุกโหมบดบังสายตาของเขาและร่างต่างๆที่ถูกเปลวไฟคลุมไว้ทำให้ทหารของกองพลกงล้อรู้สึกกลัว

สิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือแยกย้ายกันออกไป!

แยกย้ายกันทันที!

เรือลำเลียงหนึ่งในสี่กองเรือตกอยู่ในเปลวเพลิงลุกโหมและร่วงลงพื้นและอีกหนึ่งในสี่ได้รับความเสียหายรุนแรง  พวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้  ความเสียหายรุนแรงเป็นภาพที่น่าสยดสยองใช้เวลาไม่ถึงสามนาที เรือพวกนั้นกลายเป็นเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้กลายเป็นสงครามที่น่าสยดสยอง

หน้าของซิดนี่ย์กลายเป็นน่ากลัว  เขาเหมือนกับวัวที่โกรธ ดวงตาแดงก่ำ

เขาเฝ้าดูเรือของเขาเองระเบิดและเห็นบริวารเขาเองถูกเผาทั้งเป็นความเจ็บปวดอย่างไม่เคยมีมาก่อนครอบงำทั้งกายและใจ

จากนั้นเขาเห็นศัตรูของเขา  หน้าของเขาชะงักค้าง

ในท้องฟ้าห่างออกไปคน 200 คนลอยตัวอยู่เงียบๆเหมือนกับว่าการซุ่มโจมตีไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาแม้แต่น้อย เนื่องจากว่าพวกเขายังสงบและใจเย็น

โศกนาฏกรรมเมืองอาเธอร์!

ซิดนี่ย์คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆทั้งหมด แต่ไม่เคยคาดเลยว่าเขาจะต้องมาเจ็บตัวจากการซุ่มโจมตีอย่างกะทันหัน สำหรับเขาศัตรูไม่กล้าปะทะกับกองพลกงล้อโดยตรงซึ่งจะทำให้มีเปรียบ

‘ข้าไม่เคยคิดเลยว่า...’

ทันใดนั้นแสงประกายแพรวพราวสว่างวาบรอบตัวศัตรู

น้ำแข็งฟ้า,แดงเลือด, แสงเงิน...

“กลยุทธหมายเลข 43”

เสียงเยือกเย็นไม่แยแสที่ดูเหมือนปราศจากอารมณ์ดังเข้าหูของซิดนีย์ทันที

จุดประกายแสงแพรวพราวสว่างวาบขึ้นทันที ในดวงตาที่ว่างเปล่าจุดแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะควบแน่นเป็นสายฝนยิงกระหน่ำตรงมาทางพวกเขา  ฝนมีแสงสีต่างๆครอบคลุมไปทั้งอากาศระหว่างพวกเขา และเปลี่ยนเป็นวังวนสีต่างๆ

วังวนหลากสีสันเกิดและดูดพลังงานรอบตัวเขาอย่างรุนแรง และเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นเหมือนกังหัน ประกายแสงแปลบปลาบกระพริบวูบวาบทำให้รัศมีที่สวยงามสร้างวังวนอยู่โดยรอบ

“แยกย้ายกันเร็วเข้า!”

ซิดนี่ย์ตะโกนร้องอย่างสิ้นหวัง

ก่อนที่คำพูดของเขาจะกระจายออกไปแสงที่น่ากลัวยิงลงมาเหมือนดาวตก มันส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งเข้าหากองเรือ

ปังปัง ปัง!

เรือลำเลียงแตกกระจายเป็นชิ้นๆเหมือนกระดาษ ก่อนที่จะระเบิดออกไปเรือเหล่านั้นก็จมอยู่ในเปลวเพลิงประกายไฟนับไม่ถ้วนฉายกระจายอยู่ในท้องฟ้ากว้างไกลไม่มีที่สุด

หน้าของซิดนี่ย์ซีดขาวเหมือนกระดาษ  ไม่มีสีเลือดเหลืออยู่ในใบหน้าต่อไป  ใบหน้าของเขาซึมเซา

‘นั่นมัน…กลยุทธอะไรกัน?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด