ตอนที่แล้วตอนที่ 796 กองทัพแรกของแดนบาป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 798 เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง

ตอนที่ 797 อสูรสงคราม


ป้อมพิทักษ์สมุทรปกคลุมไปด้วยรัศมีแพรวพราว

กองเรือรบหนาแน่นเหมือนกับฝูงตั๊กแตนรายล้อมป้อมรบเอาไว้ และแสงรังสีที่ยิงออกมาจากเรือรบเหมือนกับฝนที่เทลงมาต่อเนื่อง  ป้อมพิทักษ์สมุทรไม่ได้เสียเปรียบ ลำแสงหนารุนแรงยิงออกมาเป็นประกายกระบี่โจมตีเรือที่รุมล้อมอย่างดุเดือด

เรือรบจะระเบิดให้เห็นเป็นครั้งคราวแสงสว่างวาบเหมือนดวงอาทิตย์สะท้อนประกายในทะเลพลังงาน  เมื่อรัศมีแสงสลัวลงกลุ่มเปลวเพลิงสีส้มเหมือนกับดอกไม้บานตรึงซากเรือที่เหลือ

ทหารที่ถูกไฟไหม้ร้องโหยหวนและกระโดดออกจากเปลวเพลิงพุ่งลงทะเลพลังงาน

การสู้รบรุนแรง

หน้าของโกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร  เขามองดูการสู้รบอย่างไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา

แม่ทัพที่รายล้อมเขากำหมัดแน่นและหน้าของพวกเขาซีดขาว  สงครามปิดล้อมรุนแรงอย่างที่สุด   ไม่มีทางถอย ไม่มีพื้นที่สำหรับแผนการคลื่อนไหว  พื้นที่ทุกตารางนิ้วมีแต่การสู้รบเต็มไปหมด  และจะชนะได้ก็โดยละเลงเลือดและมุ่งมั่นเท่านั้น

ไม่มีใครประเมินการสู้รบต่ำ และนอกจากนี้ศัตรูยังเป็นผู้มีชื่อเสียงผ่านการสู้รบ  เซี่ยอวี่อันมีชื่อเสียงในทางตั้งรับ  แต่ไม่มีใครคัดค้านการตัดสินใจของโกวเฉิงเวิ่นเต้าสำหรับทวีปกวงหมิง ทุกวินาทีมีค่าจนเขาต้องยอมเสียสละ

ป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นแกนหลักที่มั่นคงมากและเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรู เป็นฝันร้ายสำหรับทุกคนที่จะโจมตี แต่เมื่อตีแตกได้ แนวป้องกันทั้งหมดจะพังทลายและพวกเขาจะสามารถรุกเข้าทวีปซางโจวได้ทันที

ตั้งแต่แรกเริ่มเตรียมการ  เขาไม่เคยคิดเรื่องป้องกัน และการเตรียมการทั้งหมดของเขามีขึ้นเพื่อโจมตี  สำหรับการบาดเจ็บล้มตาย เขาไม่เคยสนใจอยู่แล้วเพราะเขารู้ว่าระดับสูงก็ไม่สนใจเช่นกัน

ตราบใดที่พวกเขาสามารถโค่นล้มทวีปซางโจวได้ในเวลารวดเร็วที่สุด  จะไม่มีปัญหา

เวลาอย่างนั้นไม่ว่าอะไรก็คุ้มค่าถ้าพวกเขาเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาสั้นๆ

ตั้งแต่พวกเขาเริ่มเตรียมการแผนการของเขาทั้งหมดเกี่ยวกับเป้าหมายเช่นนี้ ในสายตาของคนอื่น โกวเฉิงเวิ่นเต้าบ้าและระห่ำ แต่น้อยคนนักจะทราบถึงการเตรียมการไว้ก่อนของเขา

เขาตรวจสอบอย่างรอบคอบถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดในการล้อมตีและทดลองการป้องกันและการโจมตีตอบโต้ที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่ทวีปซางโจวมี  ในที่สุดก็ร่างเป็นแผนโจมตีแตกต่างกันได้ถึง 62แผน

ปัจจุบันพัฒนาการสู้รบไม่เหนือไปกว่าที่เขาคาด

เขาไม่ได้พอใจหรือทำเป็นตาบอดเอาแต่เชื่อมั่นในตนเองเกินไป  ไม่ว่าแผนการจะแข็งแกร่งสักปานใดไม่มีทางครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นหมื่นเป็นพันที่อาจเกิดขึ้นได้ในสมรภูมิรบ  และเมื่อก้าวเข้าสู่สมรภูมิ  เขาก็ต้องปล่อยให้การสู้รบของเขาเป็นไปในแบบบ้าระห่ำ

แต่ครั้งนี้การเตรียมตัวของเขาไม่ได้อะไรเลย

ในขั้นตอนแผนของเขาป้อมพิทักษ์สมุทรปรากฏขึ้นมามากกว่าครั้งหนึ่ง ภูมิภาคใต้มีป้อมป้องกันอยู่น้อยมาก และตำแหน่งยุทธศาสตร์ของป้อมพิทักษ์สมุทรทำให้มันมีความสำคัญมาก  เพราะความสามารถต่อสู้ที่เป็นรองยืมความได้เปรียบจากพลังป้องกันของป้อม

ทวีปกวงหมิงได้แทรกซึมเข้าภูมิภาคใต้มาหลายปีและได้รับรายงานลับเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ และรู้ถึงความสำคัญอย่างยิ่งของป้อมพิทักษ์สมุทรที่มีต่อแง่ยุทธศาสตร์

“ถ้าเพียงแต่มันเป็นป้อมพิทักษ์สมุทรเก่านั้น”  ทหารผู้ช่วยกล่าว

แม่ทัพนายกองอื่นพยักหน้า  ก่อนที่เซี่ยอวี่อันจะเข้าควบคุม  ป้อมพิทักษ์สมุทรมีการป้องกันที่หละหลวมอ่อนแอทำเหมือนกับเป็นคลังสินค้าเก็บอาวุธราคาแพง เวลานั้นฝ่ายข่าวกรองเคยรายงานเรื่องนั่น กล่าวว่ากองโจรสลัดใดๆก็สามารถโค่นป้อมปราการที่ฟุ่มเฟือยนี้ได้ง่ายๆ

เพียงแต่หลังจากเซี่ยอวี่อันเข้าควบคุมทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

หลังจากทวีปกวงหมิงสูญเสียข้อมูลดีๆไปสองสามอย่างพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องจัดระเบียบโครงสร้างสถานที่ใหม่ของเซี่ยอวี่อัน  ในอดีตทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเช่นนั้นขณะที่เซี่ยอวี่อันยังเป็นใครอยู่ก็ไม่รู้ ดังนั้นจึงไม่มีใครใส่ใจ

แต่หลังจากสู้กับเขาไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของป้อมรบเท่านั้น  แต่ยังทำให้พวกเขากังวลได้

ในเงื้อมมือของคนที่เอาแต่กินและรอความตายป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นคลังสินค้าสีทองอร่าม แต่ในเงื้อมมือของแม่ทัพผู้ลือชื่อ คลังสินค้าที่ร่ำรวยและพิถีพิถันนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นป้อมรบที่น่ากลัว

เซี่ยอวี่อันผู้มีชื่อเสียงหลังการสู้รบเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ให้ข้อมูลทวีปกวงหมิง และรายละเอียดเกี่ยวกับเขาถูกส่งออกมาอย่างรวดเร็ว  แม้แต่ในส่วนงานหาลำไพ่พิเศษของเขาเมื่อเขายังเรียนอยู่ก็ยังเป็นเรื่องที่ได้รับการศึกษาอย่างหนัก

เมื่อพิมพ์เขียวของป้อมรบสองสามชิ้นถูกส่งลงไปยังแนวหน้า แม้แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าที่ดูเหมือนเป็นคนไร้อารมณ์ที่ระหว่างคิ้วของเขาก็ยังมีอาการกระตุก ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจถึงความร้ายกาจน่ากลัวของป้อมพิทักษ์สมุทร

โกวเฉิงเวิ่นเต้าพยักหน้า  “ชื่อเขาคู่ควรจริงๆ”

แม่ทัพนายกองที่รายรอบเขามองหน้ากันเอง  พวกเขาติดตามเจ้านายมานานและรู้ว่าเจ้านายยากนักจะชมศัตรูของเขาได้ สามารถได้รับคำยกย่องจากเขาได้เป็นเรื่องยากจะพบเห็นได้

หลังจากนั้นชั่วขณะ  ผู้ชายแม่ทัพรายงานอย่างตื่นเต้น  “นายท่าน! เรือรบล้อมโจมตีเข้าประจำตำแหน่งแล้ว!”

“เริ่มการล้อมโจมตี”  โกวเฉิงเวิ่นเต้าพูดอย่างเฉยเมย  เขาอดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นเหมือนเม่นในกระดองเต่าปล่อยให้เขาทำอะไรทุกอย่างตามใจอย่างช่วยไม่ได้

“ขอรับ!”

แม่ทัพนายกองที่ล้อมรอบมีสีหน้าตื่นเต้น  มีสีหน้าคาดหวังว่าจะได้ดูการแสดงดีๆ  กองเรือล้อมตีที่ช้าเป็นเต่าคลานมาถึงในที่สุดการทดลองที่พวกเขาได้ทำไว้ก่อนนั้นทำให้พวกเขารู้ว่าป้อมพิทักษ์สมุทรนั้นทนทานแค่ไหน

จิตวิญญาณในการสู้รบของโกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่ใช่สิ่งที่จะลอกเลียนให้กลัวกันได้  ไม่มีความสงสัยในมาตรฐานของเซี่ยอวี่อัน  แต่ขณะเดียวกันโกวเฉิงเวิ่นเต้าเองก็มีไม้ตาย

โกวเฉิงเวิ่นเต้ามีไม้ตายก็คือเรือรบล้อมตีที่เขานำมาด้วย

ป้อมพิทักษ์สมุทรได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับพวกเขา  พวกเขาต้องกำจัดเสี้ยนหนามที่ฝังลึกในที่นี้และทิ้งไปอย่างไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจจากกองเรือรบล้อมโจมตีที่มีความหมายพิเศษเพื่อเอาชนะป้อมพิทักษ์สมุทรให้ได้

กองเรือรบล้อมโจมตีนี้มีเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่22 ลำ  เรือล้อมโจมตีขนาดกลาง 70 ลำนับเป็นกองเรือที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด ถ้าเรือล้อมโจมตีมีความเคลื่อนไหวที่ช้า พลังป้องกันน้อยถูกลอบโจมตีนั่นคงจบกัน โกวเฉิงเวิ่นเต้าจึงนำกองเรือประเภทนี้มาด้วยตัวเอง  ดังนั้นแม้ว่าจะมีความเร็วช้า แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้

‘ตอนนี้ ได้เวลาที่ข้าจะแสดงไม้ตายแล้ว’

ขบวนเรือรบขนาดใหญ่ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้สมรภูมิ

กองเรือล้อมตีขนาดใหญ่ของทวีปกวงหมิงแตกต่างจากกองเรือล้อมตีขนาดเล็กที่โจมตีป้อมไพรกระบี่ กองเรือขนาดใหญ่เหล่านี้มีขนาดเหมือนเกาะลอยได้  และเป็นฝันร้ายของป้อมรบทั้งหมด

พวกมันเคลื่อนไหวกันช้ามากและพลังป้องกันก็อ่อนแอ แต่พลังยิงโจมตีของพวกมันรุนแรง อาจจะเกินจริงไปบ้าง เรือรบอื่นอ่อนแอไปเลยเมื่อเทียบกัน

เรือรบใหญ่ 22ลำเหมือนกับสัตว์ประหลาดขนาดมหึมา 22 ตัวกำลังอ้าปากใหญ่มหึมาไม่มีป้อมใดสามารถต้านทานการร่วมพลังโจมตีของพวกมันได้

เมื่อเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่เหล่านี้มาถึงสมรภูมิ  ทั่วทั้งเขตรบเงียบลงทันที

แต่ไหนแต่ไรการรบระหว่างฝ่ายรุกกับฝ่ายรับไม่เคยหยุด

ป้อมรบถือความได้เปรียบในเรื่องพลังป้องกันทำให้กองทัพขนาดใหญ่ไม่ได้เปรียบ แต่พวกเขามีศัตรูโดยธรรมชาติ นั่นก็คือเรือล้อมโจมตี อาวุธสงครามเหล่านี้สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีสิ่งก่อสร้างที่ใช้ป้องกันโดยเฉพาะปืนใหญ่มีอานุภาพยิงได้ไกลเป็นพิเศษ

ไม่ว่ากระดองเต่าจะแข็งทนทานปานใด  พวกเขาสามารถทำลายให้แตกได้

ถ้าต้องพูดกันก็คือเรือรบสำหรับล้อมตีเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของป้อมรบ  จากนั้นเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่เป็นอสูรร้ายสำหรับพวกเขาอย่างมิต้องสงสัย  และเป็นฝันร้ายของป้อมรบทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเซี่ยอวี่อันผู้เชี่ยวชาญในการตั้งรับเห็นอสูรสงครามกำลังใกล้เข้ามา  สีหน้าของเขาอดเปลี่ยนไปไม่ได้

เป็นครั้งแรกที่ความเชื่อมั่นเด็ดเดี่ยวของเขาคลอนแคลน

ทหารรอบตัวเขาทุกคนตะลึงเป็นไก่ตาแตก  สีหน้าทุกคนหวาดผวา

‘เรากำลังจะแพ้?’

เซี่ยอวี่อันมองดูอสูรสงครามร้ายที่คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ  หน้าของเขาซีด ไม่มีป้อมใดที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ภายใต้เรือรบล้อมโจมตีขนาดมหึมา 22ลำข้างหน้าเขา

เรือรบล้อมตีขนาดใหญ่คืออสูรสงครามดีๆนี่เอง แต่ยังเป็นอสูรร้ายกินทองอีกด้วย มูลค่าของเรือรบแต่ละลำมหาศาล พวกเขาไม่สงสัยเลยว่ามูลค่าใช้จ่ายที่ว่าแพงที่สุดในสงครามต้องหลบไป ทวีปกวงหมิงกำลังแสดงความมั่งคั่งจากเรือมหึมาทั้ง 22 ลำ

‘นี่คือความสิ้นหวังอย่างแท้จริง’

‘ความฝันที่จะกลายเป็นกองทัพทองของข้าจบลงเพียงเท่านี้หรือนี่?’

‘ความจริงข้าเองก็โลภเกินไป วันนี้ข้ามาจนถึงระดับนี้แล้ว และข้าไม่เคยยอมจำนนมาก่อนไม่ใช่หรือ?

‘ใช่แล้ว  ข้าไม่ยอมแพ้ในลักษณะนี้’

‘เส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย ข้าเดินผ่านความยากลำบากมากมายจนถึงที่นี่ สำหรับกองพลนางแอ่นของข้า จะมีมาถึงวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ’

ความฝันที่นึกไม่ถึงเมื่อครั้งในอดีตปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในใจของบุรุษวัยกลางคน

แรงบันดาลใจที่ตายไปนานแล้วโชติช่วงขึ้นเหมือนอาทิตย์อุทัย อดีตที่ผ่านไปเขาเสียเวลาเปล่า  ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

เลือดที่เยียบเย็นมานานแล้วในที่สุดก็อุ่นขึ้นมาอีกครั้งเขาเริ่มมีความปรารถนาและกระตือรือร้นอีกครั้งเหมือนเมื่อสมัยที่เขาอายุน้อย

‘นั่นแหละ ข้าเป็นอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว’

ปากของเซี่ยอวี่อันฝืนยิ้มได้  เขาเชิดหน้าอีกครั้ง ประกายเจิดจ้าในดวงตาเหมือนกับดวงอาทิตย์ฉายไล่ความมืดมัว

‘ต่อให้ข้าตายที่นี่  ก็ยังคุ้มค่า’

‘ดีกว่าตายอยู่บนเตียงคนป่วยรอลมหายใจเฮือกสุดท้าย

‘ดีกว่ากระเสือกกระสนไปตายในมุมมืดและกอดเข่าเสียใจกับชีวิตที่ผ่านมา’

‘ความฝันใครเล่าจะได้รับการเติมเต็มอย่างแน่นอน?’

‘ก็แค่การสู้รบของข้าไม่เคยหยุดเท่านั้นเอง’

“เตรียมตัวรบ”

เสียงอบอุ่นเป็นกันเองดังก้องไปทั้งป้อมพิทักษ์สมุทรทำให้ทหารที่สูญเสียกำลังใจเงยหน้าขึ้น

“ทุกท่าน,โปรดเตรียมตัวรบ”

เสียงที่คุ้นเคยของเจ้านายค่อยๆปลุกพวกเขาทุกคน

“การล้อมโจมตีจะต้องรุนแรงมาก  ทุกคนต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อม  แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีโอกาส,  หกชั่วโมง ตราบใดที่เราต้านได้หกชั่วโมงเรามีโอกาสกลับมาได้”

เสียงของเจ้านายดังอย่างใจเย็น  เหมือนกับว่าเขาพูดเรื่องธรรมดา

แต่, จะมีโอกาสจริงๆหรือ?

หลายคนมีสีหน้าสงสัย  ‘ทำไมเจ้านายถึงพูดว่าเรามีโอกาสในการเผชิญหน้ากับอสูรร้ายเหล่านั้น?’

“หกชั่วโมง ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าขอร้องทุกคนช่วยข้ายืนหยัดปกป้องที่อีกหกชั่วโมง”

เสียงของเซี่ยอวี่อันไม่ได้บังคับหรือแข็งขืนแต่จริงใจ  บุรุษที่สุภาพแต่มั่นคง บุรุษผู้คืบคลานได้ในโคลนและแช่ก้นร่วมกับพวกเขาทุกคน  บุรุษผู้ไม่พูดอย่างหยิ่งยโส  ไม่ว่ายังไงมักจะมองในแง่บวก

ก็อย่างผู้บัญชาการของพวกเขาทหารของกองพลนางแอ่นยังคงเงียบ พวกเขาไม่พูดอะไร พวกเขาไม่มีการอภิปรายใดๆ พวกเขากลับไปประจำตำแหน่งรบอย่างเงียบงัน เตรียมการรบที่จะมาถึงอย่างเงียบงัน

‘หกชั่วโมงใช่ไหม?’

‘งั้นมาป้องกันให้ได้หกชั่วโมง’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด