ตอนที่แล้วตอนที่ 795 พลังโจมตีที่น่าทึ่งของผิงเสี่ยวซาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 797 อสูรสงคราม

ตอนที่ 796 กองทัพแรกของแดนบาป


“พวกเจ้าทุกคนจะเม้มเอาไว้ทำไม!”

“ทุกคน, ยืนให้ถูกต้อง!”

……

ถังเทียนกำลังยืนอยู่บนหลังคาไม่ได้ดูฉากภาพวุ่นวายข้างล่างเขาเคี้ยวรากหญ้าเล่นในปาก ใช้แขนหนุนต่างหมอน ตาของเขาเหม่อมองท้องฟ้าสีเทา ไม่ได้คิดอะไร  ‘รากหญ้าในแดนบาปโคตรแข็งพอๆกับลวด  และรสชาติขมน่าขยะแขยง  ไม่หอมและสดชื่นเหมือนกับที่อื่นเลย’

‘ข้าอยู่ในแดนบาปมานานเกินไปแล้ว สงสัยจริงว่าทุกคนกำลังทำอะไรอยู่...’

ถังเทียนมีท่าทางเหม่อตาของเขากลับมีประกายอีกครั้ง และเขากำหมัด

‘ทุกคน, อดทนรออีกนิด ข้าพบวิธีออกจากแดนบาปแล้ว!’

‘รอให้ข้ากลับมาก่อน!’

ทันใดนั้นถังเทียนลุกขึ้นยืนและกระโดดลงมาจากหลังคา

หน้าของฝูเจิ้งจือแดง  เดี๋ยวบ่นตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างเป็นครั้งคราว  เขากำลังทำงานของเขาอย่างดีที่สุด  เมื่อคิดถึงแผนต่อไปของท่านหน้ากากผีตลอดทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยพลังงาน

กองทัพแรกของแดนบาป!

แค่เพียงชื่อก็พอทำให้เขาตื่นเต้นอย่างหนัก

จี๋เจ๋อมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นและเป็นคนหนุ่มที่เต็มไปด้วยศักยภาพที่ไม่จำกัด  เขาสนใจการเพิ่มพลังส่วนบุคคลมากกว่าและไม่ค่อยสนใจเรื่องกองทัพ แต่ฝูเจิ้งจือต่างออกไป การเพิ่มความแข็งแกร่งและพลังของเขาถึงขีดจำกัดแล้วและเขายากจะก้าวหน้าได้อีก เขาไม่ได้เป็นคนโดดเดี่ยว มีตระกูลฝูคอยหนุนหลังเขา ดังนั้นความคิดของเขาจึงละเอียดและค่อนข้างกังวลมากกว่าจี๋เจ๋อ

เขายอมแพ้บุรุษหน้ากากผีครั้งก่อนเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ  ฝูเจิ้งจือไม่มีเจตนาใดๆต่อบุรุษหน้ากากผี เนื่องจากเขารู้ตัวดีถึงพลังอำนาจที่ยากจะหยั่งถึงของสี่เมืองใหญ่ แม้ว่าบุรุษหน้ากากผีและหน่วยสุญญตาจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อคิดเรื่องการตอบโต้จากทั่วทั้งแดนบาปแล้ว  เขารู้สึกว่าบุรุษหน้ากากผีจะไม่สามารถชนะได้

เขารู้สึกกดดันมากกับอนาคตที่ไม่แน่นอน เหมือนกับว่าเขาสามารถเห็นผลที่ออกมาของเขาและของตระกูลฝู

จนกระทั่งบัดนี้ เมื่อท่านหน้ากากผีเรียกกองทัพทั้งเปิดเผยพลังที่น่ากลัวของมัน  นี่เหมือนกับดวงอาทิตย์ฉายแสงทะลุเมฆที่มืดครึ้มทำให้เขามองเห็นความหวัง ความหวังของเขาและของตระกูลฝู

เขาพบว่าหน่วยสุญญตายังคงเป็นกองทัพหนึ่ง  และเมื่อเห็นพวกเขาได้รับการดูแล  เขาถึงกับตกใจอย่างหนัก  แต่หน่วยสุญญตาก็ยังเป็นบุคคลภายนอกอยู่ดี และพวกเขามีหลายวิธีการที่ฝูเจิ้งจือยังคงไม่เข้าใจแท้จริงแล้วพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน  ผลสนองตอบของเขาก็คือหัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

หน่วยสุญญตายังไม่เพียงพอสำหรับเขา เนื่องจากแดนบาปเป็นสถานที่ซึ่งมีความสามารถในการสร้างกองทัพ

จนกระทั่งวันก่อน เมื่อท่านหน้ากากผีพาเขากับจี๋เจ๋อมาดูและประสบความสำเร็จในการสะท้อนผิวกฎธรรมชาติแสดงพลังที่น่าทึ่งทำให้เขาเข้าใจว่าแดนบาปกำลังจะเปลี่ยนไป เขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะนับว่าเป็นกองทัพได้ไหม หรือว่าตู้เค่อที่อยู่สนามพลังกฎธรรมชาติจะมีพลังมากเพียงไหน แต่เขารู้ว่าถ้ากองทัพที่พวกเขาสร้างสามารถท้าทายตู้เค่อได้  พวกเขาก็มีโอกาส

มันเป็นการเปิดเผย

เป็นเวลานานที่สุดแดนบาปมีความเข้าใจทั่วๆ ไปว่านักสู้ระดับสูงผู้ได้รับรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติคือคนที่ไม่สามารถเอาชนะโดยอาศัยพวกมากได้  การเอาชนะสุดยอดฝีมือที่มีสนามพลังกฎธรรมชาติพวกเขาจำเป็นต้องมียอดนักสู้อีกคนหนึ่งเช่นกัน

แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ แต่ผลกระทบที่รุนแรงที่เกิดขึ้นกับฝูเจิ้งจือทำให้เขาไม่สามารถหลับได้ทั้งคืน  เมื่อฝูเจิ้งจือเรียกความรู้สึกกลับมา  เขารู้ได้โดยเร็วถึงโอกาสที่มีอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน

กองทัพแรกของแดนบาปการสร้างครั้งสำคัญ สัตว์ประหลาดจัดตั้งที่จะโค่นแดนบาปได้ทั้งหมด!

ไม่ว่าพวกเขาจะท้าทายตู้เค่อหรือไม่ก็แสดงให้เห็นพลังไร้เทียมทานกับอนาคตที่รุ่งเรืองเฉิดฉาย

การเป็นผู้บัญชาการกองทัพแรกของแดนบาปความคิดเช่นนั้นน่าสนใจมาก ‘ไม่สิ,เป็นผู้อาวุโสคนแรกเลย!’ จี๋เจ๋อไม่มีความสนใจเรื่องกองทัพ เขารู้สึกว่าที่นายท่านต้องการอย่างแท้จริงก็คือบริวารที่ขยันขันแข็งอย่างตัวเขาเอง

‘ความคิดของท่านหน้ากากผีไม่เคยคิดจะอยู่ในแดนบาป’

‘และกองทัพแรกของแดนบาปต้องอาศัยเกราะเทพเจ้าของนายท่านมีเพียงนายท่านที่ควบคุมพวกเขาได้ นั่นก็หมายความว่ากองทัพแรกของแดนบาปกลายเป็นบริวารสายตรงของนายท่าน!’

บทสรุปนี้แทบทำให้ฝูเจิ้งจือสำลัก

อนาคตที่สว่างไสวทำให้เขากระตือรือร้น

ตราบใดที่คนอย่างฝูเจิ้งจือผู้รับหน้าที่เป็นผู้นำมาหลายสิบปีทำใจของเขาได้ชัดเจน  เขาคงจะได้แสดงทักษะและความสามารถของเขาได้ทันที เขาไม่ได้เลือกศิษย์จากตระกูลฝูเพราะความลำเอียง  แต่เป็นไปตามมาตรฐานอันตราย  และศิษย์ตระกูลฝูเพียงสามคนที่ถูกเลือกมาฝึกซ้อม

ตามมาตรฐานที่นายท่านมอบหมาย  เขาเลือก 20 คนอย่างระมัดระวัง

นายท่านต้องการนักสู้ที่มีผิวกฎธรรมชาติสมบูรณ์  ในแดนบาป ผิวกฎธรรมชาติที่สมบูรณ์เป็นจุดที่จำเป็นสำหรับนักสู้ผู้แข็งแกร่ง  ถ้ากฎธรรมชาติที่พวกเขาฝึกมาไม่เหมือนใครหรือถ้าพวกเขารับสืบทอดมาเฉพาะแบบพวกเขาสามารถทำให้ตัวเองอยู่ในรายชื่อนักสู้ในทำเนียบก็ได้

ส่วนใหญ่พวกเขาจะฝึกมาในกฎธรรมชาติทั่วไปและมีการสืบทอดกันตามปกติทำให้ไม่สามารถติดอันดับในทำเนียบนักสู้ได้ แต่ในตระกูลเล็ก พวกเขาเพียงพอจะเป็นแกนหลักได้

ในเมืองพายุ มีคน 50คนที่ได้คุณสมบัติตามนี้ แต่ฝูเจิ้งจือพอเห็นกองทัพแรกของแดนบาปแล้วเหมือนกับเป็นเป้าหมายในชีวิตของเขา  สร้างมาตรฐานให้เฉียบขาดขึ้น เขาเป็นคนที่เห็นได้ชัดถึงคุณสมบัติของแต่ละคน  เขาตัดพวกจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ออกไป  แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องกองทัพมากนัก  แต่ก็ยังรู้ว่าการเชื่อฟังคำสั่งคืออะไร  นอกจากนั้น ยิ่งอายุเยาว์ก็ยิ่งได้เปรียบ  พวกเขาแสดงออกถึงความยืดหยุ่นและมีศักยภาพ

และด้วยเงื่อนไขเพียงแค่นั้นกองทัพแรกของแดนบาปจึงถือกำเนิดขึ้น

‘ท่านหน้ากากผีจะต้องยินดีมากกับผลงานของข้า’  ฝูเจิ้งจือถอนหายใจโล่งออก

“คนน้อยเกินไปหรือเปล่า?”  จี๋เจ๋อถาม

ถังเทียนส่ายศีรษะ  “ไม่เลย”

เขาไม่แน่ใจชัดเท่าใดว่าผิวกฎทั้งหลายจะเชื่อมโยงกับเกราะเทพเจ้าของเขาได้มากเท่าใด

‘ข้าไม่มีเวลาจะเสีย’  เขาโบกมือ

“มาฝึกขั้นสุดท้ายกัน!”

********************

บ้านสกุลตู้เป็นสถานที่อันดับหนึ่งในแดนบาป  แต่ตู้เค่อไม่ชอบความสิ้นเปลือง ดังนั้นจึงดูเหมือนบ้านพักธรรมดา แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนแค่เพียงเพราะรูปร่างที่ทรุดโทรมอาคันตุกะทั้งหมดที่มาบ้านตระกูลตู้จะจอดรถโดยสารไว้สามช่วงถนนและเดินไปที่ประตูบ้านตระกูลตู้ด้วยความเคารพ  ไม่มีเรือกล้าบินเหนือบ้านตระกูลตู้

พื้นที่โดยรอบของบ้านตระกูลตู้เป็นเขตสงวนห้ามมิให้บิน พลเมืองทุกคนผู้อาศัยอยู่ภายในบริเวณนี้เป็นพลเมืองสามัญที่ใช้ชีวิตตามปกติพยายามทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว พวกเขาทั้งหมดไม่กลัวศักดิ์ศรีของบ้านตระกูลตู้และการจราจรตามปกติของมนุษย์ไปตามถนน ทำให้พื้นที่นั้นมีชีวิตชีวามาก  บ้านตระกูลตู้ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร

เมื่อตู้เค่อว่างเขาจะเพลิดเพลินกับการดื่มชาและใช้เวลาว่างในร้านน้ำชานอกบ้านเขา

ร้านน้ำชาขนาดใหญ่ไม่ได้สร้างห้องพิเศษให้เขาแต่อย่างใดและเจ้าของร้านไม่เคยเตรียมชาพิเศษให้เขาแต่อย่างใด  และมีแม้บางครั้งเมื่อพวกเขายุ่งมากจนเจ้าของร้านเผลอเรียกเขาให้ช่วยรินน้ำชาให้แขกก็มี

แต่มันเป็นวันพิเศษวันหนึ่งเจ้านายทำถั่วทอดจานพิเศษอย่างกระตือรือร้น เพราะแม่นางตู้ซินหวี่

ตู้ซินหวี่ขอบคุณเจ้าของร้านที่กำลังโบกมือให้และยิ้มเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี

ตู้เค่อบ่นอย่างไม่พอใจ  “แม้แต่ข้าก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างนั้น”

ตู้ซินหวี่เป็นหญิงงดงามนางมีผมยาวสลวยนั่งอยู่ด้านตรงข้ามตู้เค่อใช้มือทั้งสองประคองแก้วชาใบใหญ่อยู่เงียบๆนางเริ่มจิบชาช้าๆ นางคร้านจะเถียงคำพร่ำบ่นของพี่ชายนาง

‘เพราะเขาขอชาข้า ก็ต้องมีบางอย่าง’

“ตระกูลซูพ่ายแพ้”  ตู้เค่อกล่าว

ตู้ซินหวี่ไม่เงยหน้า  นางรู้ว่านั่นไม่ใช่จุดใหญ่ใจความต่อให้ตระกูลซูทั้งหมดถูกทำลาย พี่ชายนางก็คงไม่สนใจ

“ตระกูลซูส่งนักสู้ที่แข็งแกร่งสี่คนซึ่งมีอันดับอยู่ในทำเนียบนักสู้ไป” ตู้เค่อยกถ้วยชาข้างหน้าเขาและดื่มรวดเดียว  “หลูเซิงเซียงและฉินเจิ้นตาย,ซูเฟยถูกจับและทาสมรณะหนีไปได้ แต่แม้ด้วยพลังชีวิตอึดสุดท้ายที่เขามี  ข้าคิดว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นาน”

ตู้ซินหวี่ยังคงจิบชาของนางต่อ สถานการณ์เช่นนั้นอาจดูเหมือนตกอยู่ในมือของคนอื่น  แต่สำหรับตู้ซินหวี่ ยังไม่มีอะไรมาก  ‘ถ้าพี่ของนางเคลื่อนไหว  จะไม่มีใครรอดเลย’

“ศัตรูของพวกเขาคือหน่วยสุญญตา”

ตู้ซินหวี่หยุดและเงยหน้าขึ้น  “กองทัพ?”

ตู้เค่อดีใจเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขาจับปมของเรื่องได้  “ใช่แล้ว เป็นกองทัพ ถ้าว่ากันเรื่องจำนวนชัยชนะนี้ก็คงไม่น่าชื่นชมเลยจริงๆ หน่วยสุญญตาระดมกำลังหนึ่งพันคนขึ้นไป และพวกเขาได้รับบาดเจ็บบางส่วน  แต่พันคนเหล่านี้แค่รู้แจ้งสายใยกฎธรรมชาติ”

“มือสมัครเล่นพันคนที่รู้แค่เพียงการใช้สายใยกฎธรรมชาติเอาชนะสี่นักสู้ในทำเนียบนักสู้ได้น่ะหรือ?” ตู้ซินหวี่สรุป

“ไม่,แค่สอง” ตู้เค่อส่ายศีรษะ “ทาสมรณะสู้กับสวี่เย่,ทั้งสองคนความจริงฝีมือพอกันและสวี่เย่ได้แรงสนับสนุนจากแหวนหัวแม่มือมรณะและกุมความได้เปรียบ  ฉินเจิ้นถูกสตรีผู้ใช้กระบี่ฆ่าตาย แต่นายใช้เคล็ดการฟัน  และทุกท่าที่นางใช้จะปล่อยพลังสายรุ้งข้าคิดว่าข่าวลือเรื่องเกิดสายรุ้งขึ้นในเมืองจื่อจวนมีทางเป็นไปได้ที่ปลดปล่อยออกมาจากนาง  และคนที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของหน่วยสุญญตาจริงๆก็คือหลูเซิงเซียงกับซูเฟย”

ตู้ซินหวี่ถาม  “พวกเขาทำได้ยังไง พวกเขาใช้พวกมากเพื่อชดเชยการรู้แจ้งของพวกเขาหรือ?”

ในแดนบาปช่องว่างระหว่างขอบเขตไม่สามารถทำให้เต็มได้ด้วยจำนวน  นั่นเป็นความรู้พื้นฐานอย่างที่สุด นักสู้ผู้ได้รับการรู้แจ้งผิวกฎธรรมชาติจะกดข่มนักสู้ผู้รู้เพียงสายใยกฎธรรมอย่างสิ้นเชิง  ผิวกฎธรรมชาติ, สนามพลังกฎธรรมชาติความแตกต่างทุกระดับคือช่องว่างที่ไม่สามารถข้ามได้

นี่คือความเหลื่อมล้ำทำให้เกิดระบอบต่างๆในแดนบาป

แดนบาปมีเพียงผู้ปกครองคนเดียว  และนั่นก็คือบุรุษผู้ดื่มชาตู้เค่อ  สี่เมืองใหญ่เป็นเพียงผู้ปกครองในนาม  แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเบื่อให้ตู้เค่อปกครอง  จึงได้แบ่งอำนาจในการปกครอง

ตู้ซินหวี่รู้เรื่องนั้นชัดเจน  ถ้าจำนวนสามารถทำลายความเหลื่อมล้ำ นั่นก็หมายความว่าโครงสร้างของระบบของแดนบาปจะล่มสลายโดยสิ้นเชิง  และตำแหน่งของตู้เค่อจะไม่มั่นคง

สถานะของเขาในฐานะบุรุษอันดับหนึ่งได้รับการเคารพและปกป้องอย่างดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องห้าม

ตู้เค่อไม่เคยดูแคลนสติปัญญาของน้องสาวเขา  ไม่ต้องกลัวว่าอำนาจของเขาจะสั่นสะเทือนแต่เขากลับชื่นชมแทนว่า “พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆถึงขนาดว่าคนมีคนต้องการหยุดพวกเขา การระดมพลังของพวกเขาและการร่วมพลังกันเหนือกว่าที่เราคาดไว้มาก แม้ว่าพวกเขาจะรู้แจ้งเพียงสายใยกฎธรรมชาติ  แต่ว่าร่างของพวกเขาทรงพลัง  รูปแบบของพวกเขาก็คือใช้การตัดฟัน  แต่แฝงไปด้วยพลังมหาศาล  พวกเขาโจมตีเหมือนคลื่นโถมระลอกแล้วระลอกเล่าเร็วจนถึงจุดที่ผู้คนตะลึง หลูเซิงเซียงพ่ายแพ้ในลักษณะนั้น ซูเฟยก็เช่นกัน แม้ว่าการโจมตีของคู่ต่อสู้นางจะมีพลังทะลุทะลวง  แต่พวกเขาก็ทำได้พร้อมกันอย่างเป็นธรรมชาติ

“พวกเขาทำได้ยังไง?”  ตู้ซินหวี่อดย้อนถามไม่ได้

“กฎธรรมชาติ”  ตาของตู้เค่อเป็นประกาย  “ผู้บัญชาการของพวกเขาตาบอด  แต่กฎธรรมชาติของเขาพิเศษไม่เหมือนใคร  มีแนวเส้นดำหลายเส้นเหมือนกับชักใยแมลงมุม  เขาใช้ใยที่มองไม่เห็นนี้ควบคุมและโจมตี”

จากนั้นตู้ซินหวี่เข้าใจตู้เค่อ  “ดังนั้นท่านต้องการให้ข้าสร้างกองทัพ?”

“ถูกแล้ว!” ตู้เค่อไม่ปิดบังความตั้งใจ “กฎธรรมชาติของเจ้าเหมาะกับการสู้เช่นนั้นโดยธรรมชาติ  จะเป็นยังไง ถ้าแดนบาปมีกองทัพครั้งแรก  จะยิ่งใหญ่เพียงไหน”

“แล้วท่านเล่า?”  ตู้ซินหวี่ถาม

“ข้าจะเป็นผู้ช่วยเจ้า”  ตู้เค่อพูดอย่างประหลาดใจ  เขาเองก็มีความคิดเรื่องกองทัพ

“ข้าเข้าใจ”  ตู้ซินหวี่พยักหน้า

“งั้นเจ้าก็เห็นด้วย?”  ตู้เค่อไม่ปิดบังความตื่นเต้นของเขา  เขารู้ว่าไม่ง่ายที่จะโน้มน้าวน้องสาวของเขา

“ตอนนี้ข้าจะต้องเป็นผู้ช่วยเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของท่าน”

ตู้ซินหวี่ยืนขึ้นมองเห็นหลังที่งดงามของนาง

“คิดเงินด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด