ตอนที่แล้วตอนที่ 766 กระบี่อมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 768 อาจเป็นข้า

ตอนที่ 767 ข้าคือหน้ากากผี


ถังเทียนฉวยโอกาสเมื่อท้องฟ้ายังมืดอยู่พาสวี่เย่เดินทางออกจากเมืองบูรพาอมตะ

เขาไม่ต้องการรอต่อไป

วิญญาณวีรชนในทะเลสันติภาพทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องรีบแข่งกับเวลา

ความรุ่งเรืองและความศรัทธาของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่เป็นของปิง,อาซิ่น, ลั่วซือ, วิญญาณวีรชนอมตะ พวกเขาจะสู้ร่วมกัน  พวกเขาจะตายเพื่อกันและกันภายใต้เครื่องหมายเดียวกัน  พวกเขาโห่ร้องและเร่าร้อนด้วยความเชื่อมั่น

สง่าราศีความรุ่งเรืองสามารถสัมผัสได้จริงๆ  แต่เป็นความรุ่งเรืองของอดีต  เป็นเกียรติยศของปูชนียบุคคลของเขาและไม่ใช่เพียงเท่านั้น แม้ปัจจุบันนี้เขาก็ยังเป็นผู้ครอบครองกองทัพดาวกางเขนใต้

เขาได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้ง  แม้ว่าจะมีอารมณ์ตื้นตันกับพวกเขาก็ตาม แต่เขาไม่อิจฉาพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

เพราะเขามีศักดิ์ศรีความรุ่งเรืองเป็นของตนเอง พี่น้องของเขาผู้ยินดีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับเขา พี่น้องผู้ที่เขาสามารถจากไปได้อย่างไม่ต้องกังวล  พวกเขาผ่านไฟสงครามมาแล้วผ่านการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาแล้ว  พวกเขามีความเชื่อมั่นที่เหมือนกันและสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกันมา

พวกเขาเขียนประวัติศาสตร์ของตนเอง  หนังสือของพวกเขาเอง  ตำนานของพวกเขาเอง

มีแต่เพียงผู้กล้าเท่านั้นที่จะชนะ

‘ปัจจุบันนี้เราผ่านความล้มเหลวและเหตุการณ์มามากเพียงไหนแล้ว?’

‘ความล้มเหลวแบบไหนจะเทียบได้กับสู้เพื่อพวกเขาเองในรอบร้อยปีต่อครั้ง? ความเศร้าโศกแบบไหนจะเทียบได้กับบุรุษที่ถูกผนึกอยู่ในโลงน้ำแข็งร้องโหยหวนทุกวันทุกคืนมาตลอดหลายพันปี?’

ถังเทียนมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  ลมเย็นพอๆ กับน้ำแข็งเหมือนดาบเฉียดผ่านเขาไปขณะที่หัวใจของเขาเหมือนมีเพลิงปรารถนาลุกโหม

‘ต่อให้ทั้งโลกต่อต้านข้า  ต่อให้ร่างข้าแตกสลายกระจัดกระจายไป  ต่อให้ข้าไม่มีอะไร  ข้าจะไม่กลัว’

‘ผู้อาวุโสแห่งกองทัพดาวกางเขนใต้โปรดคอยดู  เราจะแข็งแกร่งด้วยเหมือนกัน!’

สวี่เย่ถูกถังเทียนประคองไว้ทำให้เขารู้สึกละอาย บริวารแบบไหนกันที่ต้องให้เจ้านายประคองพาเดินทาง?  เขาพยายามคิดหาวิธีให้ถังเทียนปล่อยเขาลง  แต่ถังเทียนไม่สนใจอะไรทุกอย่าง

สวี่เย่กำลังคิด  “หรือว่านายท่านถูกบางอย่างกระตุ้น?”

สภาพของถังเทียนในตอนนี้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย  เขาสำเร็จมุทราสามปางจากหกปางของเทพอสูรหกมุทรานั่นคือมุทราหมัดพิโรธจะช่วยให้ตลอดทั้งร่างของเขามีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล  มุทราหัตถ์เด็ดบุปผาช่วยสภาวจิตของเขาใสกระจ่างไม่มีมลทินและยังมีมุทรากระบี่กำสรวลทำให้เขาเข้าถึงความรู้สึกต่างๆ ได้

ก่อนจะสำเร็จมุทรากระบี่กำสรวล  ถังเทียนไม่เคยคาดถึงความโดดเด่นเฉพาะตัวของมุทรากระบี่กำสรวลที่แท้ก็คือ‘แรงสั่นสะเทือน’ กระบี่อมตะเล่มเล็กเคลื่อนไหวเงียบงันปล่อยคลื่นพลังผันผวนที่แปลกประหลาดช้าๆ

ความผันผวนนั้นมีความถี่ที่สูงมากยังเหนือมากกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน

ความสามารถสร้างบาดแผลของการสั่นสะเทือนความถี่สูงนั้นน่าประหลาด  ถังเทียนรู้เรื่องนี้ แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าแรงสั่นสะเทือนนั้นจะสร้างมาจากร่างของเขา

สัมผัสรู้ของแรงสั่นสะเทือนทั่วร่างกายทั้งหมดทำให้เขารู้สึกชา ถ้าไม่ใช่เพราะแสงสีแดงของมุทราหมัดพิโรธที่คอยปรับสภาพร่างกายของเขาทำให้อวัยวะภายในของเขาทั้งหมดแข็งแรงขึ้น แรงสั่นสะเทือนคงจะทำร้ายเขาบาดเจ็บได้

แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ถังเทียนก็ยังรู้สึกไม่ดี

ตามปกติการโจมตีด้วยเสียงยากจะทำร้ายอวัยวะภายในของถังเทียนให้บาดเจ็บได้  เลือดเนื้อและกระดูกของถังเทียนแข็งแรงมากและพลังสั่นสะเทือนที่มาถึงร่างของเขาจะถูกสลายพลังลงไปมากเมื่อเข้าร่างเขาดังนั้นจึงกลายเป็นพลังโจมตีที่อ่อนแอ

แต่พลังสั่นสะเทือนที่มาจากภายในร่างกายของเขาสร้างผลกระทบต่ออวัยวะภายในทำให้ถังเทียนไม่มีทางเลือก แต่ในเวลาอันรวดเร็ว ถังเทียนพบความมหัศจรรย์ของมุทรากระบี่กำสรวลมันสามารถเสริมความแข็งแกร่งปรับสภาพอวัยวะภายในของเขาผ่านแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่องซึ่งยากจะปรับสภาพได้

ถังเทียนรู้ว่านั่นหมายความว่ายังไงพลังกายของเขาไม่ใช่ว่าจะไม่มีรากฐาน พลังนั้นเดิมที่มาจากอวัยวะภายในเหมือนกับการเสริมความแข็งแรงต้นไม้ซึ่งจะเติบโตได้ดีกว่าตามธรรมชาติ

ความรู้สึกชาจากร่างของเขาถังเทียนผลักดันไปข้างหน้า

เขากวาดทุกสิ่งทุกอย่างระลอกผันผวนที่มองไม่เห็นออกไปเหมือนกับระลอกน้ำ ถังเทียนรู้สึกได้ชัดเจนถึงพื้นที่รอบตัวเขาแตกเป็นเสี่ยงจากแรงสั่นสะเทือน

‘พลังของข้าก้าวหน้าอีกแล้ว!’

ถังเทียนเพิ่มความเร็วจนถึงจุดที่เร็วราวกับสะบัดกระบี่

สวี่เย่รู้สึกตกใจ  เขารู้สึกเหมือนกับว่านายท่านเร็วราวกับสายฟ้าสายลมปะทะหน้าเขาอย่างแรงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น

‘รวดเร็วมาก!  นายท่านบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ?  เป็นไปได้ยังไงที่เขา....’

สวี่เย่ตะลึงอย่างสิ้นเชิง

ในความมืดรูปเค้าเมืองพายุค่อยๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น ตาของสวี่เย่เบิกกว้างทันที  ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าสว่างขึ้นและลมที่พัดโกรกใส่ตัวเขาแรงกล้าขึ้น เจ้านายเขาเร่งความเร็ว

เมื่อถังเทียนเห็นเมืองพายุใกล้เข้ามาความตั้งใจต่อสู้ในใจเขาท่วมท้น แค่เพียงพลิกมือเขาพุ่งออกไปอีก 300 เมตร

สวี่เย่ต้องฝืนทำตัวเองให้มั่นคง  หน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ  ‘นายท่าน..คือว่า..”

ถังเทียนเพิ่มความเร็วอย่างกระตือรือร้นเหมือนไส้ตะเกียงถูกเร่งไฟ เขาบินไปเหนือเมืองพายุ

เมื่อมองลงไปที่เมืองพายุเบื้องล่างเขาในยามราตรีและเขารู้สึกถึงความพลุกพล่านต้องการต่อสู้ในใจเขาได้หน้ากากผีที่ลายเส้นสีเลือดดูน่าหวาดกลัวสยองขวัญด้านหลังหน้ากากเป็นดวงตาที่ลึกเหมือนคุโชนด้วยเพลิงสีแดงตาของเขาสะดุดตาอยู่ในความมืด

‘เจ้าถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับโลกนี้’

เพราะเหตุผลบางอย่างประโยคนี้ผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน และปากของเขากระตุก

‘อย่างนั้นก็เริ่มกัน’

ถังเทียนชูแขนขวาและปล่อยพลังไร้ลักษณ์ไปทุกตำแหน่งโดยมีแขนของเขาเป็นศูนย์กลาง แรงสั่นสะเทือนของมุทราดาบพิโรธมีความเฉพาะแบบมากเว้นแต่ถังเทียนจงใจปล่อยออกมา ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครสัมผัสรู้สึกได้

แขนที่ยกขึ้นสับลงทันทีและรังสีพลังที่ฟันออกไปเต็มไปด้วยระลอกเล็กๆ นับไม่ถ้วนยิงไปที่กำแพงเมือง

ปัง!

แรงฟันฝังลึกเข้าไปในกำแพง  แรงสั่นสะเทือนความถี่สูงสะเทือนไปทั้งกำแพงทำให้กำแพงที่มั่นคงแข็งแรงพังทลายเหมือนกับขนมกรอบ ฝุ่นผงคลุ้งกระจาย

ถังเทียนชมดูราวกับว่าเขาไม่ใช่คนปล่อยพลังโจมตี

เมื่อฝุ่นผงสลายไปเหลือกำแพงหนึ่งในสามตั้งตระหง่านให้เห็น หลุมใหญ่ทอดยาวเกินกว่า 150เมตรและลึกเกิน 15 เมตรปรากฏคล้ายกับบาดแผลที่น่ากลัว

เมืองพายุที่อยู่ในความมืดและเงียบสงบตื่นตระหนกทันที  ทุกบ้านเริ่มจุดไฟสว่าง  สัญญาณเตือนภัยแหลมสูงถูกเปิดออก  และหลายร่างบินออกมาในอากาศจากทุกมุมเมือง

‘เกิดอะไรขึ้น?  ใครบางคนโจมตีเรา?’

ถังเทียนยังคงอยู่ในความมืดไม่ได้เคลื่อนไหว  เขาไม่ตั้งใจจะซ่อนตัว

“ข้าคือหน้ากากผี”

เสียงลึกที่ดังกึกก้องเหมือนฟ้าคำรามดังไปทั้งเมืองพายุ  ไม่มีความยินดี หรือโกรธแต่ก็ดังกลบเสียงตะโกนอื่น

ทั่วทั้งเมืองพายุตกอยู่ในความเงียบทันที

นักสู้จากเมืองพายุที่รีบออกมาตระหนักได้ทันทีว่ามีร่างหนึ่งยืนเด่นเหนือพวกเขา  หน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป เมื่อพวกเขาเห็นรอยฟันขนาดมหึมาใต้บุรุษหน้ากากผีพวกเขาทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ

บุรุษหน้ากากผี!

ไม่ใช่เรื่องลับในเมืองพายุที่ตระกูลฝูต้องการกำจัดบุรุษหน้ากากผี มีข่าวลือมากมายของบุรุษหน้ากากผีแพร่กระจายในช่วงสองสามวันมานี้ แต่เกือบทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นผู้รับสืบทอดของปรมาจารย์หลี่และหลายคนพูดล้อเล่นหยอกล้อเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวลาที่พวกเขาว่าง

ส่วนใหญ่พวกเขาหาว่าบุรุษหน้ากากผีโกหก

นักต้มตุ๋นที่ใช้เล่ห์ลิ้นรู้วิธีวางท่า แต่เมื่อพบกับตัวจริง เขาจะต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

ต้องเป็นพวกหลอกลวงแอบอ้างแน่!

นักสู้ส่วนใหญ่พอจ้องมองรอยฟันที่น่ากลัวบนพื้นหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวทันที แต่มีบ้างบางคนที่จ้องมองถังเทียนด้วยนัยน์ตาที่เหมือนมีเปลวไฟ

ตระกูลฝูถือครองอำนาจในเมืองพายุ  และพวกเขาคือยอดฝีมือเชี่ยวชาญที่แท้จริง  ถ้าหนึ่งในพวกเขากำจัดบุรุษหน้ากากผีได้  ตระกูลฝูจะให้รางวัลพวกเขาอย่างหนักแน่นอน

ตราบใดที่มีการพยายามอย่างหนัก  ตระกูลฝูไม่เคยใจแคบ

เป็นเหยื่อแบบไหนก็ยังดีกว่าเป็นพวกหลอกลวง

ไม่มีใครเห็นว่ารอยมีดใหญ่บนพื้นเป็นเพราะบุรุษหน้ากากผีสร้างเองหรือไม่ คนฉลาดบางคนคิดถึงสองสามวิธีที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดรอยฟันลึก  สองสามคนตัดสินใจว่าบุรุษหน้ากากผีโกหก  และต้องการทำหลุมใหญ่เพื่อขู่ขวัญให้คนกลัว

น่าตลกเป็นบ้า!

“เรามีคนมากกว่า”

ไม่มีใครรู้ว่าใครตะโกนคำพูดนั้นออกมา  แต่ทำให้ความกล้าของทุกคนเพิ่มขึ้นทันที  และแม้แต่คนที่ลังเลใจตอนแรกทิ้งความกังวลออกไป  ‘ใช่แล้ว  เราอยู่ในเมืองพายุ  เราได้เปรียบจำนวนคน  ต่อให้บุรุษหน้ากากผีแข็งแกร่ง แล้วไงเล่?’

ในขณะนั้นคนเกินกว่าสี่สิบกระโจนเข้าหาถังเทียนจากทุกทิศทาง

หน้ากากผีที่มีรอยเปื้อนเลือดยังคงเงียบสงบ ตาแดงของเขาจ้องมองนักสู้ที่กำลังเข้ามาอย่างเฉยเมย มือของพวกเขาทุกคนปลดปล่อยรัศมีแพรวพราวที่ผสานเข้าด้วยกันป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี

ถังเทียนไม่เคยมีความคิดหลบ

เขาตั้งท่ามุทรากระบี่กำสรวลและกระบี่บรอนซ์เล็กลอยอยู่ข้าหน้าเขา

เขาใช้นิ้วเดียวเพื่อเคลื่อนไหวกระบี่

ติง!

ระลอกที่ละเอียดไร้ลักษณ์ขยายวงออกไปเงียบๆทุกตำแหน่ง

ไม่ว่าระลอกผ่านไปถึงไหนพื้นที่เหมือนกับจะแตกออกเหมือนแก้ว

นักสู้ผู้เตรียมจะโจมตีเขากลายเป็นเฉื่อยชาเสียงคำรามของเขาหายไป รัศมีที่สร้างจากกฎธรรมชาติหยุดนิ่งและมีสีหน้าชะงักค้างน่ากลัว

รอยเลือดเล็กๆรอยหนึ่งปรากฏบนใบหน้าของหนึ่งในนักสู้ หลังจากนั้นก็มีรอยเลือดปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนแนวใยแมงมุมสีแดง  ทั้งหมดมองดูเหมือนตุ๊กตาเคลือบแตกที่เอากลับเข้ามาประกอบใหม่

ชี่..โพละ

เสียงเบาดังออกมา  และพวกเขาระเบิดเหมือนกับลูกแตงโม

รอยเลือดนับไม่ถ้วนระเบิดพร้อมกันและกฎธรรมชาติที่สูญเสียการควบคุมก็ระเบิด  บอลแสงแพรวพราวล้อมร่างบุรุษหน้ากากผีและท่ามกลางแสงเลือดฉีดพุ่งออก มองดูเหมือนพระอาทิตย์โลหิต

เมืองพายุสว่างราวกับตอนกลางวัน

ทุกคนตะลึงอยู่กับที่เพราะความกลัว

นักสู้สี่สิบกว่าคนไม่ทันได้แสดงฝีมือก็สลายกลายเป็นธุลี

แต่สำหรับนักสู้ที่กำลังเสียใจว่าพวกเขาลงมือช้ากำลังยินดีกับโชคของตนเอง  บุรุษหน้ากากผีน่ากลัวมากจริงๆลงมือครั้งเดียวก็สังหารนักสู้ไปถึงสี่สิบคน

‘กระบี่เล็กนั่นคืออะไร  นั่นเป็นวิชาแบบไหน?  ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!’

‘แต่บุรุษหน้ากากผีไม่น่าจะรอดจากระเบิดที่รุนแรงนั้น...’

ส่วนใหญ่ของนักสู้ทั้งสี่สิบคนล้วนเป็นหัวกะทิฝีมือดีได้รู้แจ้งผิวกฎธรรมชาติ เพราะกฎธรรมชาติของพวกเขาสูญเสียการควบคุมและระเบิดพร้อมกันแรงระเบิดทรงพลังมาก และแม้พวกเขาที่สังเกตุแต่ไกลก็ยังกลัวแรงระเบิด

ระเบิดและแสงจางลงหมองลงและสลายไปในที่สุด

สีหน้าของทุกคนชะงักค้างกลายเป็นความกลัวทันที

ความร้อนที่เกิดจากแรงระเบิดไม่ได้หายไป  และภายในมิติที่บิดเบี้ยวมีร่างหนึ่งสวมหน้ากากที่มองเห็นได้อย่างพร่าเลือน

เขามองลงมาทางพวกเขาอย่างเฉยเมย

“คนที่เอาบริวารข้าไปจองจำจะต้องตาย”

เสียงของเขาราบเรียบเหมือนกับว่าประกาศของเขาเป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่สนใจจะซ่อนรังสีฆ่าฟัน ซึ่งแผ่กระจายคลุมทั่วเมืองเหมือนสายลมทำให้รู้สึกถึงความเย็นซ่านไปตามสันหลัง

ทั่วทั้งเมืองพายุตกอยู่ในความเงียบราวกับป่าช้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด