ตอนที่แล้วตอนที่ 765 เราจะพักอย่างสงบได้อย่างไร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 767 ข้าคือหน้ากากผี

ตอนที่ 766 กระบี่อมตะ


รัศมีแสงที่ฉายออกมาจากห้องทำให้อิงอู๋ฟงตกใจ

‘เกิดอะไรขึ้น?’

เขารั้งรัศมีของเขากลับไม่กล้าจะเปิดเผยอะไรออกไป และยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด  เขาฝึกฝนกฎนอกสารบบ เรียกว่าเห็ดภูตพราย  ผิวกฎธรรมชาติของเขาดูเหมือนกับเห็ด  และนั่นเป็นที่มาของชื่อ พลังที่สะท้อนออกมาจากผิวกฎอ่อนโยนและสงวนและพลังพรางตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพรางและเก็บงำรัศมี

ถังเทียนค่อยๆลืมตาและรู้ได้ว่าน้ำตายังนองหน้าของเขา

‘ฝันหรอกหรือ?’

‘แต่มันชัดเจนมาก  ข้าจำได้ทุกรายละเอียด’

ทันใดนั้นเขาก้มหน้ามองดู  แต่ก็ต้องตะลึงทันที  ที่ระหว่างนิ้วของเขาดอกไม้สีน้ำเงินสว่างถูกคีบจับไว้

‘เสี่ยวหลาน...’

ถังเทียนรู้สึกชาหัว  เขารู้สึกว่าผมขนของเขาตั้งชัน  ‘ไม่ใช่ความฝันหรอกหรือ?’

ดอกไม้น้ำเงินในมือของเขาสว่างวาบทันทีและแสงสีน้ำเงินคลุมไปทั้งห้อง

‘แย่แล้ว!’

‘เจ้าพยายามจะทำอะไร?’

ถังเทียนตกใจและตั้งท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผาโดยไม่รู้ตัว แต่แสงสีน้ำเงินยังคงฉายต่อเนื่อง แต่ถังเทียนไม่รู้สึกว่ามันกำลังเปล่งแสง ลำแสงกวาดผ่านใจที่ใสเหมือนแก้วของเขา และร่างพร่าเลือนร่างหนึ่งมองเห็นได้ในมุมของผนังด้านนอก

หัวใจถังเทียนตื่นเต้น  แสงสีน้ำเงินยิงไปที่มุมอย่างเงียบงัน

เหมือนกับว่ามันสามารถทะลวงได้ทุกอย่าง

อิงอู๋ฟงกำลังรอเวลาลอบทำร้ายบุรุษหน้ากากผีอยู่ข้างนอกอย่างเงียบงัน  แสงน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากภายในบ้านมีความรุนแรงมาก  ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ  ขณะนั้นเองความรู้สึกถึงอันตรายพลุ่งขึ้นมาในใจเขา  มือสังหารมีสัญชาตญาณต่ออันตราย

เขาไม่คิดให้เสียเวลาหมุนตัวเตรียมหลบหนี  เนื่องจากสัญชาตญาณต่ออันตรายช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้งแล้ว

ผนังที่อยู่ต่อหน้าเขาสว่างวาบด้วยแสงน้ำเงิน แสงน้ำเงินดูเหมือนจะมีพลังที่สามารถจับวิญญาณคนได้  และมันดูมีเสน่ห์จับใจทำให้เขาใจเต้นรัว

‘นี่...’

แสงน้ำเงินพุ่งออกมาจากผนังกำแพง  มันไวมาก อิงอู๋ฟงถูกความตกใจครอบงำทำได้แต่เพียงยกกระบี่หยินวัฒนะ

ดอกไม้ที่งดงามอย่างแปลกประหลาดทิ้งตัวลงบนตัวกระบี่ของกระบี่หยินวัฒนะ

ดวงตาของอิงอู๋ฟงเบิกกว้าง ในขณะต่อมาแสงสีน้ำเงินเปล่งออกมาอย่างไม่มีคำเตือน

เขาชะล่าใจทำให้ตาพร่ามองภาพไม่เห็น เขาส่งเสียงคราง และไม่สนอะไรอื่นอีกและเปลี่ยนเป็นควันหลบหนีไปข้างนอก

แม้ว่าเขาไม่สามารถเห็นได้  แต่อิงอู๋ฟงเข้าใจสถานที่ดีและเตรียมแผนสำหรับหนีไว้แล้ว เขาไม่บินขึ้นอากาศ เขาเป็นมือสังหารที่มีประสบการณ์และเข้าใจชัดว่าทันทีที่บินขึ้นไปในท้องฟ้าเขาจะเปิดเผยตนเองต่อศัตรูและตกอยู่ในวงล้อม

อิงอู๋ฟงรู้ว่าเขาทำงานล้มเหลวแล้ว  พลังของบุรุษหน้ากากผีเกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก

สำหรับมือสังหารนั่นคือความผิดพลาดมหันต์อย่างมิต้องสงสัย

มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในใจเขาก็คือหนี

อิงอู๋ฟงที่กำลังหลบหนีรู้สึกเหมือนกับสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองเขา  ทำให้ผมขนบนตัวเขาลุกชัน  เขาตกใจ โดยไม่คิดอะไรเขาทิ้งตัวลงในมุมๆ หนึ่งและชักกระบี่หยินวัฒนะในชุดยาวของเขาและกางม่านพลังปกป้องเขาไว้

วูบบบ,ม่านกระบี่สีเทาขยายออก กรวดสีเทานับไม่ถ้วนลอยเข้ามาโดยรอบ

กรวดสีเทาระเบิดทันที

ปังปัง ปัง

เมื่อได้ยินเสียงระเบิดสปอร์ที่คุ้นเคยดังขึ้น   ใจที่อึดอัดของอิงอู๋ฟงพลันสงบ

ทุกสปอร์ที่ระเบิดออกมาจะปล่อยไหมบางที่ยุ่งเหยิงและในพริบตา มันปล่อยม่านไหมออกมาหนาแน่น สปอร์ทั้งหมดนี้มีความทนทานมากและจุดสำคัญก็คือจำนวนของมัน  แม้ว่าดอกไม้น้ำเงินจะแปลกก็ตาม  แต่จะทำลายผ่านได้หลายชั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ

อิงอู๋ฟงผู้สงบลงค่อยเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น  เขาแนบตัวไปตามกำแพงไปได้เร็วมาก

ทันใดนั้นหน้าเขาเปลี่ยนทันที

ม่านไหมด้านหลังเขาฉีกขาด  ‘เป็นไปได้ยังไง...’

เขาบิดเอวหลบตามสัญชาตญาณ  แต่เขารู้สึกเจ็บที่อก และร่างของเขาแข็งทื่อ

‘เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...’

คำเหล่านี้ที่เขานึกออกได้ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขา การมองเห็นของเขาค่อยๆ ฟื้นกลับมามองดูที่ดอกไม้น้ำเงินที่หยุดอยู่ข้างหน้าเขา มีเลือดหยดออกมาจากดอกไม้ เป็นสีน้ำเงินสดใส

มันลอยอยู่เงียบๆข้างหน้าเขา

เมื่อเลือดหยดสุดท้ายไหลออก  อิงอู๋ฟงก็ล้มลง

ร่างของเขามีแผลน้ำเงินเล็ก  สีน้ำเงินเริ่มแผ่กระจายไปอย่างรวดเร็วมันแผ่กระจายไปทั้งตัว ศพของอิงอู๋ฟงกลายเป็นแก้วผลึก

ศพผลึกสีน้ำเงินแตกสลายอย่างรวดเร็ว

ลมพัดผ่านมาวูบหนึ่งกวาดพื้นจนว่างเปล่า เหลือกแต่เพียงกระบี่สีเทา

ดอกไม้น้ำเงินเปลี่ยนเป็นฝนดอกไม้หมุนเป็นเกลียวม้วนเอากระบี่หยินวัฒนะบินกลับไปที่ห้องของถังเทียน

ในที่ไกลออกไปบุรุษสองคนสังเกตดูเหตุการณ์อยู่ตลอดด้วยสีหน้าซีดขาว

“อิงอู๋ฟงแพ้...”  คนที่พูดเป็นบุรุษวัยกลางคนร่างอ้วน  เขาสวมชุดหรูหราเหมือนกับพ่อค้า

บุรุษอีกคนหนึ่งเป็นคนแก่มีใบหน้าที่ผ่านชีวิตที่ยากลำบากมือของเขาหยาบหนา  และดูไม่ต่างพวกกุลีเพียงแต่ตาของเขามีประกายแปลกประหลาด เขาคิดอยู่นานจากนั้นพูด “ท่านเหวินจำดอกไม้นั่นได้ไหม?”

บุรุษร่างอ้วนค่อยฝืนยิ้มและกล่าว  “กล่าวกันว่าเทพอสูรหกมุทราของปรมาจารย์หลี่มีดอกท่วมสวรรค์”

ตาสีน้ำตาลของบุรุษชราดูมีชีวิตชีวา “ท่านเหวินคิดจริงๆหรือว่าเจ้าเด็กนั่นคือผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่?”

บุรุษอ้วนมองดูชายชราและพูดอย่างเฉื่อยชา  “ผู้เฒ่าจู, โปรดอย่าเข้าใจผิด ไม่สำคัญว่าข้าคิดอะไรอยู่สิ่งที่สำคัญคือคนอื่นจะคิดยังไงต่างหาก”

ชายชราไม่ตอบ

เขาคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดรวมทั้งความล้มเหลว  เขาใช้อิงอู๋ฟงเนื่องจากเขาเชื่อว่าด้วยพลังของอิงอู๋ฟง เขาสามารถโยนหินถามทางได้  ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้  อย่างนั้นไม่ว่าเขาจะเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่จริงหรือไม่ก็จะไม่สำคัญ เนื่องจากคนตายไม่มีทางสืบทอดได้

แต่ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เขาคาดการณ์ไว้  ไม่รวมเลยว่าอิงอู๋ฟงจะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย ดอกไม้ที่แปลกประหลาดและน่ากลัวทำให้เขาเสียวสันหลัง

นั่นเป็นวิชาอะไร?

ตำนานของปรมาจารย์หลี่ไม่เคยทำให้ผู้คนลืมเลือน  ตำนานของดอกสวรรค์ยังมีคนเล่าสืบต่อกันมา

“เรามาดูกันว่าหลูเซิงเซียงจะมีปฏิริยาอย่างไร”  ชายชรากล่าว

หัวหน้าเหวินรู้ว่าผู้เฒ่าจูหมายความว่ายังไง หลูเทียนเหวินไม่ปรากฏตัวมานานแล้วและตระกูลต่างๆคาดว่าเขาต้องพบกับหายนะ  พวกเขาหลายคนสงสัยว่าหลูเซิงเซียงยังคงนั่งรอได้ยังไง  เมืองพายุปัจจุบันนี้มียอดฝีมือหลายคน ทั้งหมดกำลังรอให้บุรุษหน้ากากผีเข้าไปติดกับดัก  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง คนอ้วนเหวินไม่เชื่อว่าเมืองพายุจะสามารถหยุดบุรุษหน้ากากผีได้  แต่เขาไม่ปฏิเสธชายชรา โต้แย้งไปก็ไม่มีความหมาย

นอกจากนี้พลังความสามารถของบุรุษหน้ากากผีทำให้เขาตื่นตัวมาก  เนื่องจากเขาเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ได้ชัด

บทบาทของการเป็นผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่ดูเหมือนสำคัญ  แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แม้แต่น้อย  ปัจจัยสำคัญคือพลังของบุรุษหน้ากากผี  ไม่มีพลังของเขาแล้วใช้ชื่อของผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่ก็แค่หาที่ตายและแม้จะไม่มีชื่อแต่มีความแข็งแกร่งอย่างเดียว เขาก็กวาดไปทั่วแดนบาปได้อยู่แล้ว

ผู้เฒ่าจูได้รับผลจากชื่อของผู้สืบทอดของสืบทอดปรมาจารย์หลี่  แต่ท่านเหวินกลับตื่นตัวมากขึ้น และเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของบุรุษหน้ากากผีไม่ใช่อยู่ที่แดนบาป

ไม่เคยมีใครเคยมองแดนบาปที่น่าสงสาร

แต่ถ้าบุรุษหน้ากากผีสามารถกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แค่คิดดูแล้วบุรุษอ้วนนามท่านเหวินก็สั่นแล้ว

ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ชื่อที่อยู่ไกลมาก  เรื่องเล่าของบรรพบุรุษ ท่านเหวินผู้เกิดและรุ่งเรืองได้ในแดนบาปไม่ได้มีความปรารถนาถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง  แต่เขารู้อย่างหนึ่งว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่แห้งแล้งกันดารเหมือนแดนบาป

บุรุษหน้ากากผีไม่ใช่เป็นคนของทวีปกวงหมิงมิฉะนั้นเขาคงออกไปนานแล้ว

และถ้าบุรุษหน้ากากผีกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จริง  เขาคงจะสู้กับทวีปกวงหมิงแน่นอน

เมื่อคิดเรื่องนี้แล้วท่านเหวินมีความลังเลใจอยู่บ้าง พลังของทวีปกวงหมิงฝังแน่นอยู่ในใจของคนแดนบาปมานานแล้ว  บุรุษหน้ากากผีสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรือ?

เมื่อคิดเรื่องนั้นแล้วท่านเหวินรู้สึกว่าระดับความสำเร็จพอได้บ้าง ไม่สิ มีน้อยมาก ‘ระดับความสำเร็จน้อยขนาดนั้นไม่มีน้ำหนักควรใส่ใจแต่ทำไมใจข้าเต้นแรงนักเล่า?

ท่านเหวินงุนงง

ถังเทียนไม่รู้ว่ามีคนสำคัญสองคนสังเกตดูเขาอยู่  เนื่องจากขณะนั้นเขาตกใจกับความสามารถของเสี่ยวหลาน  การกระทำของอิงอู๋ฟงไม่สามารถหลบพ้นไปจากพลังจิตกระจกของเขาได้ แต่ถังเทียนต้องชื่นชมฝีมือและประสบการณ์ของอิงอู๋ฟง

ถ้าเขาลงมือเองเขาคงทำได้ไม่ดีเท่าเสี่ยวหลาน

เลือดที่หยดลงจากดอกไม้ที่งดงามเป็นภาพที่ทำให้หัวใจของทุกคนเย็นสะท้าน

ดอกไม้น้ำเงินลากกระบี่หยินอมตะกลับมาที่ห้องของถังเทียน  และโยนให้ถังเทียนและกลีบดอกที่เต็มทั้งห้องหายไปทันทีกลับเข้าไปรวมกับเสี่ยวหลานซึ่งกลับเข้าไปในร่างของถังเทียน

ถังเทียนตรวจสอบร่างกายเขาทันที

เมื่อเขาเห็นเสี่ยวหลานครั้งแรก  เขายังคงสงสัยว่าเขาอยู่ในภาพลวงตา  แต่ถ้าเป็นภาพลวงตาจริง  อย่างนั้นเสี่ยวหลานคืออะไร?

หลังจากตรวจร่างกายของเขาแล้ว  เขาก็ยิ่งสับสนเพิ่มขึ้น

สภาพใจเหมือนแก้วเป็นเหมือนแก้วผลึกและโปร่งใสไม่มีละอองธุลีมีต้นไม้อ่อนสะดุดตาอยู่ภายในนั้น

‘อา..ไม่ใช่ภาพลวงตา’

ถังเทียนกลัว‘ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา  อย่างนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทะเลสันติภาพ...’

ทันใดนั้นสายตาของเขามองดูที่ร่างของเทพอสูรหกมุทราและเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด เขาตะลึงทันที

ในฝ่ามือของมุทรากระบี่กำสรวลซึ่งมีหมอกเสียงอยู่มีกระบี่บรอนซ์เล่มเล็กแหวกว่ายอยู่โดยรอบเหมือนกับปลา

‘นั่นคือ..’

ถังเทียนตื่นเต้นอยู่ในใจและกระบี่บรอนซ์เล่มเล็กลอยเข้าหาเขา กระบี่บรอนซ์เล่มเล็กมีกลิ่นอายของทหารดาวกางเขนใต้  บนตัวกระบี่เต็มไปด้วยรอยร้าว ทำให้ถังเทียนจำวิญญาณวีรชนที่คล้ายกับตุ๊กตากระเบื้องที่เหมือนเอาชิ้นส่วนมาประกอบใหม่ได้อีกครั้ง

เขาลูบกระบี่โดยไม่รู้ตัวและจิตสำนึกที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในใจเขา

ตัวกระบี่มีแถวข้อความเล็กๆ

“จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง”

เมื่อถังเทียนเห็นข้อความนี้เสียงคร่ำครวญร่ำร้องดังก้องเข้ามาในหูของเขาอีก

“เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตายจะให้เราพักผ่อนอย่างสงบได้ยังไง!’

และ“กองทัพดาวกางเขนใต้ จงก้าวต่อไป!”

ถังเทียนถือกระบี่บรอนซ์เล่มน้อยที่เต็มไปด้วยรอยร้าวและพึมพำกับตนเอง  “จากวันนี้เป็นต้นไปเจ้าเรียกว่ากระบี่อมตะ ตราบใดที่หัวใจข้ายังมีชีวิต พวกเจ้าเหล่าวิญญาณวีรชนก็จะไม่ตาย วิญญาณวีรชนของคนรุ่นก่อน จงสู้พร้อมกับข้า!”

เหมือนกับว่ามันรู้สึกได้ถึงคำพูดของถังเทียน  กระบี่อมตะสั่นสะท้านไม่หยุดเสียงโห่ร้องกึกก้องเคร่งขรึมปนด้วยความรู้สึกเศร้า ความตั้งใจสู้ทะลักออกเหมือนมีเพลิงนรกแผดเผาอยู่ในตัวเขาทำให้เขารู้สึกมีอิสระและกล้าหาญ

ทะเลสันติภาพเลือนรางปรากฏข้างหน้าถังเทียนอีกครั้ง ฉากภาพคลื่นวิญญาณวีรชนระลอกแล้วระลอกเล่าพุ่งเข้าใส่ม่านพลังป้องกันในโดมท้องฟ้าแตกกระจายและฉีกร่างออก   ร่างที่เหมือนตุ๊กตาเคลือบทั้งหมดมีความมุ่งมั่นทั้งนั้น หัวใจทุกดวงสะท้านยินดี

ความเชื่อมั่นตลอดหมื่นปีในรอบศตวรรษหลายรอบหัวใจความมุ่งมั่นเพื่อกองทัพไม่เคยทำให้วิญญาณวีรชนเหล่านี้ตาย

ถังเทียนที่กำลังร้องไห้เข้าใจในที่สุดถึงสาเหตุที่เขาถูกดึงเข้าไปในภาพลวงตา ไม่ใช่เพราะเสี่ยวหลานหรือวิญญาณวีรชนอมตะ แต่เป็นเพราะเขาคือเจ้าของกองทัพดาวกางเขนใต้!

“ไม่จำเป็นต้องให้พวกท่านปกป้อง  จงพักอย่างสงบเถิด”

“เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตาย  จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด