ตอนที่แล้วตอนที่ 21-6 มอบความไว้วางใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21-8 คำขอร้อง

ตอนที่ 21-7 ทวีปบลัดดรากอน


ภายในพิภพยูลาน ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สามารถฆ่าลินลี่ย์ได้  ไม่ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันใดๆ  จึงเป็นเป็นธรรมดาชีวิตของเขาไม่มีอะไรน่าห่วง

สามร้อยกว่าปีผ่านไปอย่างสงบสงบอย่างนี้ สามร้อยกว่าปีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากสำหรับปุถุชน  ช่วงเวลานี้มีคนตายและเกิดนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตามปราสาทเลือดมังกรแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ในโลกของเทพช่วงเวลาหนึ่งพันปีไม่มีอะไรนอกจากชั่วเวลาชั่วเดี๋ยวเดียว

“ลินลี่ย์!ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเจ้าจะดีเป็นพิเศษ” เดเลียเดินเล่นกับลินลี่ย์ตรงไปที่สวนด้านหลัง

“วันนี้, ข้าบรรลุระดับการฝึกฝนได้อีกเล็กน้อย”  ลินลี่ย์ยิ้ม

“โอว?เจ้าหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามรูปแบบจากกฎที่ต่างกันได้หรือ?”  เดเลียพูดด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ ยังไม่เร็วขนาดนั้น”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะ  “ชีพจรโลก วังวนอ่อนหยุ่น พลังโจมตีมิติแม้ว่าข้าจะฝึกจนถึงส่วนสุดท้ายของการหลอมรวมทั้งสามอย่างนี้  แต่ข้ายังติดอยู่ที่คอขวด  คอขวดขั้นสุดท้ายนี้ยากจะบรรลุผ่านไปได้”

เคล็ดลึกลับยิ่งมีมากก็จะติดอยู่ที่คอขวดและยากจะบรรลุผ่านมากขึ้น

ตัวอย่างเช่นคอขวดสำหรับการหลอมรวมหกเคล็ดลึกลับ  มียอดฝีมือมากเพียงไหนที่ติดอยู่ตรงนั้นไม่สามารถกลายเป็นพารากอนได้?

“อย่างนั้นเจ้าหมายถึงการบรรลุพลังแบบไหน?”  เดเลียถามด้วยความสงสัย

“เป็นความลึกลับของเคล็ดระเบิดของกฎธาตุไฟ  เคล็ดระเบิดยากที่จะหลอมรวมได้  แต่วันนี้ข้าหลอมรวมเข้ากับชีพจรโลกได้”  ลินลี่ย์พูดพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ  “อย่างไรก็ตาม ข้าต้องบอกไว้ก่อน ข้าฝึกได้ช้ามากกว่าที่คิดในช่วงสามร้อยปีที่ผ่านมา”  ที่สำคัญหลังจากกลายเป็นมหาเทพเขามีทะเลแห่งศรัทธาสนับสนุนเขา

ความเร็วในการสร้างมโนภาพและความเข้าใจของเขายังเร็วกว่าในอดีต

สามร้อยปีที่ผ่านมานี้บางทีอาจเทียบได้กับเกือบหมื่นปีก่อนที่กลายเป็นมหาเทพ

“ไม่ต้องรีบร้อน เวลาของเจ้ามีไม่จำกัด”  เดเลียพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“เจ้าไม่รีบร้อนแต่ปู่เบรุตและบลูไฟร์เล่า?” ลินลี่ย์จ้องเข้าไปในประตูสวนดอกไม้ เขาเห็นบุรุษหนุ่มผมสั้นกำลังหัวเราะขณะเดินเข้ามาหา  บุรุษหนุ่มนี้คล้ายลินลี่ย์ถึงหกเจ็ดส่วนเขาคือเวดบุตรของลินลี่ย์

“ท่านพ่อ ท่านแม่”  เวดหัวเราะ “วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองใหญ่ของทวีปบลัดดรากอนของเราท่านยังจะไม่ออกไปหรือ?”

“ทวีปบลัดดรากอน?”  ลินลี่ย์ตกใจ แต่จากนั้นเขาหัวเราะและพูดเหมือนเยาะตัวเอง  “ข้าลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันเทศกาลบลัดดรากอน”  หลังจากที่ลินลี่ย์กลายเป็นมหาเทพ  เขาสนทนากับเบรุตและบลูไฟร์  เมื่อพวกเขาพูดถึงทวีปยูลาน และทวีปบลูไฟร์ลินลี่ย์มีความตื่นเต้น ต้องการสร้างทวีปของตนเอง นั่นคือทวีปบลัดดรากอน

สามทวีปใหญ่เหล่านี้สร้างเป็นรูปสามเหลี่ยมอย่างบริบูรณ์

ตอนนั้นลินลี่ย์ทุ่มเทพลังมหาเทพของเขาและกลายเป็นว่าเกาะเล็กรอบทวีปยูลานและทวีปบลูไฟร์ทั้งหมดเคลื่อนเข้ามาในทวีปบลัดดรากอน  พลเมืองของเกาะทั้งหมดรวมกันแล้วเกือบสิบล้านคน นอกจากนี้ลินลี่ย์ยังย้ายอสูรเวทและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เข้ามาด้วย

ระหว่างสามร้อยปีมานี้เพราะเป็นทวีปกว้างใหญ่ และเพราะอสูรเวทถูกลินลี่ย์เอามาปล่อยในภาคตะวันตกของทวีปบลัดดรากอน  มนุษย์ที่นี่ไม่ต้องเผชิญกับศัตรูตามธรรมชาติ

ในช่วงเวลาสั้นๆสามร้อยปี ประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นพรวดพราดจากสิบล้านจนมีเกินร้อยล้าน  แต่แน่นอนระหว่างพัฒนาในช่วงสามร้อยปีมานี้จักรวรรดิบาลุคให้การสนับสนุนอย่างมาก ผ่านการค้าทางทะเลระหว่างสองทวีป  แม้ว่าจะอธิบายด้วยคำว่า ‘การค้า’แต่ในความเป็นจริงเป็นพวกเขาให้ความช่วยเหลือ

คนที่ย้ายไปที่ทวีปบลัดดรากอนตกลงใจว่าวันที่24 กันยายนจะถือว่าเป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลบลัดดรากอน

“ลินลี่ย์, พลเมืองทวีปบลัดดรากอนล้วนแต่เทิดทูนบูชาเจ้า  พวกเขาปฏิบัติกับเจ้าเหมือนกับเป็นเทพเจ้าที่แท้จริง  เป็นไปได้หรือที่เจ้าจะไม่ไปดูงานเฉลิมฉลองเทศกาลบลัดดรากอน?”เดเลียหัวเราะพร้อมกับเม้มปาก “แม้ว่าพลเมืองจะมีแค่ร้อยล้านซึ่งไม่ถือว่ามาก เนื่องจากขนาดของทวีปบลัดดรากอนค่อนข้างจะใหญ่มากกว่าอีกสองทวีป  นี่เป็นระดับการเติบโตที่ไม่มีการหยุดใช้เวลาอีกสองสามพันปี พลเมืองที่นี่จะมีมากกว่าทวีปบลูไฟร์”

“ท่านพ่อมีคนในตระกูลกำลังไปที่นั่นอีกมาก” เวดหัวเราะเช่นกัน

“ก็ดี เราจะไปดูกัน”

ทวีปยูลานทวีปบลูไฟร์ ทวีปบลัดดรากอน ระยะห่างระหว่างทวีปทั้งสามนี้สำหรับมนุษย์ธรรมดาถือว่ากว้างใหญ่  แต่สำหรับพวกเทพหรือแม้แต่เซียนทวีปเหล่านี้ถือว่าใกล้  มีระยะห่างห้าพันกิโลเมตรระหว่างทวีปทั้งสามโดยมีมหาสมุทรกั้นกลาง  ในพริบตาลินลี่ย์เดเลียออกจากทวีปยูลานและมาถึงทวีปบลัดดรากอน

เมืองอันดับหนึ่งของทวีปบลัดดรากอนก็คือบาลุคซิตี้  เมืองนี้ใช้ชื่อเดียวกับชื่อเมืองหลวงของจักรวรรดิบาลุค เมืองนี้อยู่ติดชายฝั่งทะเลตะวันออกของทวีปบลัดดรากอน  และยังเป็นเมืองที่ใกล้ทวีปยูลานมากที่สุด

เพราะชายแดนทะเลมีการพัฒนาเร็วมาก

เมืองอันดับหนึ่งนี้เจริญรุ่งเรืองพัฒนาเป็นนครใหญ่ที่มีพลเมืองหลายล้านคน  วันนี้เป็นวันเทศกาลบลัดดรากอนดังนั้นเมืองบาลุคซิตี้จึงมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ชาวเมืองชนบทที่ใกล้เคียงพากันเข้าเมืองเพื่อมีส่วนร่วมเฉลิมฉลอง  ไม่ใช่แค่ลานหน้าวิหารเท่านั้น  แม้แต่ถนนของเมืองก็ยังเต็มไปด้วยทะเลผู้คน

ลินลี่ย์สวมชุดยาวสีฟ้าและเดเลียสวมชุดขาว พวกเขาเดินผ่านไปตามถนนที่แออัด แม้ว่าถนนจะแออัด แต่ว่าไม่มีใครสัมผัสลินลี่ย์และเดเลียได้  ความจริงไม่มีใครสังเกตสภาวะที่แปลกประหลาดนี้ออก

“สถานที่นี้แออัดมากขึ้นทุกที  คราวก่อนที่ข้ามายังไม่มีร้านรวงมากขนาดนี้”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น

“ครั้งสุดท้ายที่เจ้ามานั้นผ่านมาสองปีแล้ว”  เดเลียกล่าว

“สองปี? นั่นแค่เวลาสั้นๆ เอง” ความคิดในปัจจุบันของลินลี่ย์เริ่มเปลี่ยนไป

“ใช่แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเองเล่า?”  เดเลียถามด้วยความสงสัย “ครั้งสุดท้ายปู่เบรุตบอกว่ากระบวนการสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์จะเกี่ยวข้องกับการรวมพลังจิตวิญญาณของเจ้ากับพิภพที่เจ้ากำลังสร้าง  เจ้าจะได้รับรู้กฎธรรมชาติชัดมากขึ้น เจ้าจะได้รับความรู้สึกที่ชัดเจนซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้พลังของเจ้าเพิ่มขึ้น ตอนนี้เจ้าติดอยู่ที่คอขวดไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่ลองทำดูเล่า?”

มหาเทพทุกคนมีพลังพอจะสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง

เมื่อทำได้ไม่นานพวกเขาจะได้รับความรู้แจ้งภายในของกฎแห่งธาตุ

ตัวอย่างเช่นมหาเทพธาตุน้ำผู้สร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ย่อมลงเอยด้วยการสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำ!  ระหว่างกระบวนการสร้างพวกเขาจะได้รับความรู้แจ้งของกฎธาตุน้ำที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพิภพ  นี้ การสร้างพิภพครั้งเดียว หรือสร้างเป็นร้อยครั้งจะเกี่ยวข้องกับส่วนของกฎธรรมชาติที่เหมือนกันแน่นอนจะไม่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้การสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ต้องสิ้นเปลืองพลังจิตพลังเทพและเวลาเป็นอันมาก

ดังนั้นพูดโดยทั่วไปมหาเทพจะสร้างเพียงพิภพเดียว

“การสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สำเร็จในเวลาปีหรือสองปีด้วยประสบการณ์ของปู่เบรุต ยังต้องใช้เวลาเกือบสองพันปี”  ลินลี่ย์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

พิภพมีขนาดกว้างใหญ่เกินไป

แม้แต่มหาเทพจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นอันมากในการสร้าง

เบรุตสร้างไว้หนึ่งพิภพแล้วแต่บลูไฟร์ไม่ได้สร้าง นี่เป็นเพราะบลูไฟร์เป็นเทพพารากอนอยู่แล้ว  เขามีความเข้าใจเคล็ดลึกลับของกฎธาตุไฟ  ต่อให้เขาสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์  เขาคงไม่ได้รับประโยชน์มากนัก

“พันปีนับเป็นเวลายาวนานแน่นอน”  เดเลียพยักหน้า “อย่างนั้นเจ้าตั้งใจจะสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์เมื่อใด?”

“ในอีกไม่ช้า หลังจากเตรียมการบางอย่าง”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ  “ก็เหมือนกับปู่เบรุต  ข้าจะสร้างพิภพแห่งหนึ่งใกล้พิภพยูลาน”

ขณะที่คุยกันลินลี่ย์และเดเลียมาถึงลานกว้างของวิหารใหญ่เมืองบาลุคซิตี้  หน้าลานใหญ่เป็นวิหารใหญ่เส้นรอบวงหมื่นเมตรและตอนนี้เต็มไปด้วยฝูงชนยืนแออัดอยู่ที่นั่น ที่ข้างหน้าลานกว้างเป็นที่ยืนของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งทวีปบลัดดรากอนสำหรับให้โอวาท

“ในนามของมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ลินลี่ย์...”

เสียงดังกึกก้องในท้องฟ้าเหนือวิหาร  และในทันใดนั้นในลานกว้างข้างหน้าช่องทางเดินเงียบเสียงลงทันทีสายตาที่เทิดทูนนับไม่ถ้วนจ้องมองมาที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

“พลังที่มีเสน่ห์ของศาสนาน่าอัศจรรย์จริงๆ”  ลินลี่ย์เองไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ก่อนนี้เขาสร้างทวีปบลัดดรากอนและย้ายเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะเข้ามารวมกัน  หลังจากนั้นเขาก็ให้ลูกหลานของตระกูลบาลุคของเขารับผิดชอบทุกอย่างนี่คือสิ่งที่เรียกว่าศาสนจักร? ทั้งหมดพัฒนาขึ้นมาโดยลูกหลานของตระกูลบาลุค อย่างไรก็ตาม...ลินลี่ย์มีคุณสมบัติได้พอได้รับการเทิดทูนบูชาอย่างนี้

ที่สำคัญลินลี่ย์เทียบได้กับประมุขมหาเทพ

นอกจากนี้การเผยแผ่ศาสนาองเขาเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะเรื่องอย่างการสร้างทวีปในสายตาของปุถุชนคนธรรมดาเป็นเรื่องเหลือเชื่อ  เป็นเหตุมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ความจริงแล้วยังน่ากลัวยิ่งกว่าปาฏิหาริย์แสงทิพย์ที่ศาสนจักรเจิดจรัสเคยทำได้ในอดีต

“ลินลี่ย์, เทศกาลบลัดดรากอนกำลังจะถึงจุดสำคัญที่สุดของงานแล้ว”  เดเลียหัวเราะ

“ก็เหมือนครั้งก่อน!  ช่วงระหว่างเทศกาลบลัดดรากอนแต่ละครั้งที่นี่ทวีปบลัดดรากอน เราจะเลือกยอดฝีมือหัวดีร้อยคนส่งไปยังทวีปยูลาน ยอดฝีมือร้อยคนเหล่านี้จะร่วมกับยอดฝีมือรุ่นก่อนและร่วมฝึกฝนกับองครักษ์เทพแห่งแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของปราสาทเลือดมังกร!” บุรุษไว้เคราสวมเกราะคนหนึ่งผู้ยืนอยู่ข้างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์พูดขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัด“บัดนี้, การแข่งขันคัดเลือก เริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์อดหัวเราะอย่างขัดเขินมิได้

“เทย์เลอร์เป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา”  เดเลียหัวเราะเช่นกัน

ปราสาทเลือดมังกรเป็นสถานที่พำนักของลินลี่ย์  ในที่นั้นมีเทพชั้นสูง เทพแท้และเทียมเทพหลายคนเป็นสถานที่ซึ่งมีเทพมากที่สุดในทวีปยูลาน แม้แต่ทหารประจำปราสาทเลือดมังกรก็เป็นที่รู้จักกันว่าทหารเทพ  ถ้าท่านต้องการเข้าร่วมเป็นทหารเทพท่านต้องเข้าร่วมการแข่งขันที่น่าคลั่งไคล้นี้ ที่สำคัญ ถ้าใครมีโอกาสมีปฏิสัมพันธ์กับเทพ  เขาอาจได้รับประโยชน์หรือได้รับการสั่งสอนก็ได้

บางครั้งก็เป็นสมบัติเทพ  บางครั้งก็เป็นประกายเทพหรือมุกวิญญาณทองที่ปล่อยออกมาจากปราสาทเลือดมังกร

ปราสาทเลือดมังกรเป็นสถานที่ดึงดูดความสนใจมากกว่าสถาบันไหนๆเสียอีก

“กระบวนการคัดเลือกทหารเทพเข้มงวดมากกว่ากระบวนการคัดเลือกนักเรียนของอดีตสถาบันเอินส์เสียอีก”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “ตอนนั้น เราถูกส่งไปที่สถาบันชุดละร้อยคน  แม้ว่ากระบวนการคัดเลือกนี้จะมีผู้สมัครเป็นร้อยแต่ทุกคนจำเป็นต้องรวมกันอยู่ในทวีปยูลานและใช้เวลาหลายสิบปีในการฝึกฝนและมีกระบวนการคัดออก..”

ต้องเข้าใจว่าสมาชิกของทหารเทพแห่งปราสาทเลือดมังกรจะมีการเปลี่ยนทุกร้อยปี อย่างไรก็ตามผู้สมัครจะได้รับคัดเลือกทุกปี  ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างพยายามคว้าโอกาสนี้ให้ได้

“ความจริงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนทหารเทพเลยแม้แต่น้อย”  เดเลียพูดพลางถอนหายใจ“สมาชิกของทหารเทพทุกคนเป็นยอดฝีมือระดับเก้า มีอายุขัยเกือบห้าร้อยปี  พวกเขาสามารถเป็นทหารได้นานถึงสองถึงสามร้อยปี”

“การเข้าร่วมเป็นทหารเทพที่สำคัญเป็นหนทางไวที่สุดในการกลายเป็นเซียน”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “คนกลุ่มนั้นใช้ชีวิตอยู่ภายในปราสาทเลือดมังกรที่เทพสร้างขึ้น แม้ว่าจะมีหลายคนกลายเป็นเทพโดยใช้ประกายเทพ เนื่องจากความเข้าใจที่พวกเขามีเกี่ยวกับเคล็ดความรู้ลึกลับ  ถ้าพวกเขาได้รับการชี้แนะแค่เพียงเล็กน้อย  สมาชิกของทหารเทพเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นเซียนได้”

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์เลิกคิ้ว

“มีอะไร?” เดเลียถามด้วยความสงสัย

“มีบางคนเดินทางมาทวีปยูลาน”  ลินลี่ย์หัวเราะ  “เป็นพวกเราเอง”

ในดินแดนขั้วโลกเหนือทวีปยูลาน  วงเวทเทเลพอร์ตบนภูเขาน้ำแข็ง

มีแสงสว่างเรืองรองและร่างของคนสี่คนค่อยๆปรากฏชัดขึ้น

“คารวะใต้เท้าทั้งสี่”  ผู้ดูแลทางเข้าพิภพในปัจจุบันเป็นสตรีผมทอง

“อืม” ผู้นำของคนทั้งสี่ชำเลืองมองดูนาง “ไปกันเถอะ”

คนทั้งสี่บินขึ้นไปในท้องฟ้ามุ่งหน้าไปทางใต้

“พี่ใหญ่! ท่านคิดว่าคำพูดของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเป็นจริงหรือเท็จ?” สุภาพสตรีคนเดียวของกลุ่มคนทั้งสี่มีผมยาวสีแดงเพลิงพูดขึ้น  นางคือประมุขเผ่าหงส์เพลิงหนึ่งในสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์

“พิจารณาจากสถานะของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเขาจะหลอกลวงเราได้อย่างไร?” ประมุขเผ่าพยัคฆ์เขาหัวเราะขณะกล่าว

“ไม่ใช่อย่างนั้นเพียงแต่ข้า..ยังไม่ปักใจเชื่อ” ประมุขเผ่าหงส์เพลิงรีบกล่าว

“ไม่ใช่แค่เจ้าเท่านั้นแม้แต่ข้าเองยังพบว่ายากจะเชื่อถือ” กัซลีสันถอนหายใจ “แต่ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างคงจะไม่โกหกแน่  แต่..ลินลี่ย์, มหาเทพ?  ข่าวนี้.มันเกินไป..”

“พูดกันพอแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นมหาเทพหรือไม่ อีกไม่นานเราคงรู้กัน”  เสียงทุ้มของประมุขเผ่าพญาเต่าดำดังขึ้น

“ท่านส่งสำนึกเทพตรวจพบลินลี่ย์เจอบ้างไหม?”  ประมุขเผ่าหงส์เพลิงกล่าวด้วยความสงสัย  “ข้าตรวจดูทั้งสามทวีปแต่ไม่พบร่องรอยของลินลี่ย์เลย อย่างไรก็ตามข้าพบครอบครัวและสหายของเขาอยู่หลายคน”

“ข้าก็ตรวจหาเขาไม่เจอเหมือนกัน..เป็นไปได้หรือว่าลินลี่ย์จะกลายเป็นมหาเทพจริงๆ?” กัซลีสันและประมุขอีกสามคนมองหน้ากัน แต่ก็ยังสับสน

ที่สำคัญข่าวนี้ประหลาดเกินไปมิฉะนั้นประมุขเผ่าทั้งสี่คงไม่รีบร้อนเดินทางมายังพิภพยูลานเป็นแน่

ประมุขสี่เผ่าตระกูลเดินทางมาอย่างรวดเร็ว  และในไม่ช้าพวกเขาก็เข้ามาในเขตแดนทวีปยูลาน

“มียอดฝีมือหลายคนอยู่ในปราสาทข้างหน้าและเป็นลูกหลานเผ่าข้าอยู่หลายคน นั่นควรจะเป็นปราสาทเลือดมังกร” กัซลีสันกล่าว และจากนั้นทั้งสี่กลายเป็นร่างเลือนรางมุ่งสู่ปราสาทเลือดมังกร

(เฉพาะชื่อทวีปชื่อเฉพาะผมจะแปลทับศัพท์ครับ)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด