ตอนที่แล้วตอนที่ 753 มู่จือเสีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 755 พยุหะหยินหยาง

ตอนที่ 754 ระหว่างฝึกฝน


ข้อมูลของซางเป่ยสร้างความตกตะลึงอย่างหนักให้กับมู่จือเสีย  แต่สิ่งที่ยั่วโมโหมู่จือเสียอย่างแท้จริงก็คือเมื่อซางเป่ยกำลังพูดสายตาของเขาเหมือนกับคมมีดแทงใส่ขั้วหัวใจของมู่จือเสีย

ขณะนั้น มู่จือเสียเข้าใจทวีปแดนเถื่อนได้หมดสิ้นเชิง  เขาจะเป็นเพียงคนนอกตลอดไป ไม่ว่าเขาจะให้อะไรคนแดนเถื่อนไม่ว่าจะให้ทรัพยากร อาหารเท่าไหนก็ตาม ตราบเท่าที่เขาพยายามก้าวก่ายกิจการภายในของทวีปแดนเถื่อน  เขาจะได้รับการต่อต้านจากชาวทวีปแดนเถื่อนทั้งหมด  แม้แต่เผ่าวารีดำที่อยู่ต่อหน้าเขาก็จะสู้กับเขาจนตายในเวลานั้น

พวกเขาเต็มใจจะติดตามเทพธิดาสงครามจากฝ่ายของพวกเขามากกว่าจะยอมรับทวีปหมิงกวง

ความจริงมู่จือเสียรู้จากส่วนลึกของใจเขาแล้ว  แต่หลังจากผ่านไป 20 ปีเขารู้สึกถึงความสัมพันธ์บางอย่างในทวีปแดนเถื่อน เช่นว่าเป็นเรื่องยากที่จะห้ามความหวังและความฝันได้  แต่เมื่อเห็นสายตาของซางเป่ย เขาถูกปลุกให้ตื่นจากความคิดความปรารถนาอย่างสิ้นเชิง

สามารถมุ่งมั่นมาเป็นเวลา 20 ปีอย่างเงียบๆเขาไม่ใช่คนที่จะถูกทำให้หวั่นไหวได้ง่าย

เขาสังเกตซางเป่ยจ้องมองมีดหักในมือเขาเขาถอนหายใจเสียงดัง “ข่าวของเจ้าทำให้ข้าตกใจ”

ซางเป่ยมีท่าทีเข้าใจและเคลื่อนไหวเหมือนกันว่า“ใช่แล้ว ถ้าข้าได้ยินข่าวแบบนี้ ข้าเองก็คงไม่อยากเชื่อ”

“ใช่แล้วสามารถทำลายเผ่าวารีตะวันตกได้และแม้แต่ราชวงศ์ป่าทองที่แข็งแกร่งกว่าได้  พวกเขาแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว”  มู่จื่อเสียส่ายหัวอย่างประหลาดใจ  แต่จากนั้นเขาเปลี่ยนหัวข้อ  “แล้วเผ่าใต้เล่าจะทำยังไงกับพันธมิตรระหว่างสองวีรบุรุษเหนือ?”

ซางเป่ยได้รับผลจากคำพูดเหล่านั้น  และหน้าของเขาบิดเบี้ยวทันที

คำถามของมู่จือเสียไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล  เนื่องจากเป็นเวลานานแล้วที่แดนเถื่อนใต้และเหนือมีความแตกต่างกันมาก  และมีความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองฝ่าย

“สองวีรบุรุษนักสู้เหนือในตอนนี้เป็นมือซ้ายมือขวาของนางไปแล้ว”  สีหน้าของมู่จือเสียยังคงเฉยเมย  “เราจะไม่พูดเรื่องที่เทพธิดาสงครามนี้เป็นเพียงหุ่นเชิดของพวกเขา  แต่ถ้าแดนเถื่อนทั้งหมดรวมตัวกันได้อย่างนั้นแดนเถื่อนเหนือจะถูกควบคุมหรือว่าแดนเถื่อนใต้เล่า?”

หน้าของซางเปล่ายิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น

“ตอนนี้,ข้าบอกได้เลยว่าแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่มีความเป็นอยู่ที่ดี  แต่พวกเจ้ายังคงมีอิสระ”  มู่จือเสียถอนหายใจ  “อดีตที่ผ่านมาสองสามปีนี้ ข้าเห็นมาตลอดทวีปกวงหมิงและทวีปแดนเถื่อนมีผลประโยชน์ต่อกันมาถึง 20 ปี และปัจจุบันนี้เผ่าวารีดำก็มีความเป็นอยู่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก  ถ้าพวกเจ้าถูกผนวกรวมกันจริงๆ พวกเจ้าจะมีชีวิตดีกว่านี้หรือเปล่า?”

มู่จือเสียตบไหล่ของซางเป่ยและหัวเราะ  แต่เขาไม่พูดอะไรอื่น

ซางเป่ยออกจากค่ายทวีปกวงหมิงในสภาพห่อเหี่ยว  ตลอดรายทางทหารทุกคนที่คุ้นเคยกับซางเป่ยพยายามพูดกับเขา แต่เขาได้แต่ส่ายหัวไม่พูดอะไร

หลังจากซางเป่ยออกไปแล้วหน้าของมู่จือเสียสลดลง

การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของเทพธิดาสงครามทำลายแผนการของเขา  เขาคงได้แต่นั่งดูทวีปแดนเถื่อนถูกรวบรวมเป็นหนึ่งไม่ได้ เนื่องจากหมายความว่าแผนการของเขาทั้งหมดจะล้มเหลว และนั่นหมายความว่าทวีปกวงหมิงจะสูญเสียโอกาสได้ครอบครองทวีปแดนเถื่อน

สิ่งที่ทวีปกวงหมิงต้องการก็คือความปั่นป่วนและสู้รบกันในทวีปแดนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง   นั่นคือแผนการที่ทวีปกวงหมิงวางไว้เท่านั้น

ดวงตาของมู่จือเสียทอประกายที่น่ากลัว  เขากล่าวทันที “ระดมหน่วยสอดแนมของเราทั้งหมด ข้าต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสตรีนางนี้”

“ขอรับ”  เสียงหนึ่งขานรับจากมุมหนึ่งทันทีและร่างนั้นก็หายไป

ซางเป่ยออกไปจากค่ายทหารของทวีปกวงหมิงไปแล้วและในหิมะท่าทางแตกตื่นของเขาหายไปกับหิมะความแตกตื่นในดวงตาของเขาหายไปไหนกันแน่?

เขารีบกลับไปที่เผ่าวารีดำและหาลูกชายของเขา  เขาพูดอย่างนุ่มนวล  “ให้ทุกคนเตรียมตัวไว้  ทิ้งทุกอย่างที่เจ้าไม่ต้องการไว้  เราจะออกเดินทางไปกับทุกคนในคืนนี้”

ลูกชายของเขาประหลาดใจ  “พ่อ!  เกิดอะไรขึ้น?”

“เราไม่มีเวลาคุยเรื่องนี้”  ซางเป่ยกล่าวอย่างจริงจัง  “ไปแจ้งทุกคนเดี๋ยวนี้!”

ในความมืด เผ่าวารีดำอยู่ในความสับสน  ทุกคนไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะความกลัว แต่ยังโชคดีที่ซางเป่ามีตำแหน่งที่มีอำนาจภายในเผ่า  เป็นเพราะซางเป่ยยังคงแนะนำและยืนกรานจะทำการติดต่อกับทวีปกวงหมิง  นั่นทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จและได้รับที่ๆพวกเขาอยู่ในตอนนี้

เนื่องจากพวกเขามีคนไม่มากพวกเขาจึงเตรียมพร้อมเสร็จอย่างรวดเร็ว

“เราจะมุ่งขึ้นเหนือ”

ซางเป่ยส่งคำสั่งลงไป และไม่อธิบายเหตุผล  ชนเผ่าที่เชื่อมั่นในตัวเขาทำตามเขา   ในท่ามกลางความมืดปกคลุม  ตาของซางเป่ยเป็นประกายเหมือนดวงดาวที่ปรารถนาแสงอาทิตย์อุทัย

***********************

เมืองจื่อจวน

“อีกครั้ง!” กู้เสวี่ยปาดเหงื่อที่หน้าผากนาง สีหน้าของนางมุ่งมั่น

ทุกคนรอบตัวนางกำลังยืนโงนเงน  ทุกคนอยู่ในสภาพดูโทรม  วิคเตอร์โอดครวญมากที่สุด  เขาเป็นคนมีระเบียบวินัยน้อยและไม่เคร่งครัดทำให้เขารู้สึกไม่สามารถทนพ่ายแพ้ได้ โรแลนด์ซูก็อยู่ในสภาพย่ำแย่พอกัน นางมองดูกู้เสวี่ยด้วยความนับถือ พวกนางเป็นสตรีทั้งคู่ แต่กู้เสวี่ยโดดเด่นกว่านางมาก แม้คนมีสภาพร่างกายดีอย่างเบนสันก็ยังรู้สึกลำบากไปด้วย  สวี่อันจงรู้สึกดีขึ้นบ้าง  เขาเป็นพวกบ้าต่อสู้  พลังใจของเขาแข็งแกร่งมาก  แม้ว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อย  แต่เขากัดฟันพยายาม

แดนบาปได้แยกตัวเองออกจากระบบกองทัพมานานเกินร้อยปีแล้ว  และแปลกประหลาดกับแนวความคิดของกองทัพ

ความก้าวหน้าที่สุดมาจากคนที่ไม่มีใครคาดหวัง

สองคนเป็นฝาแฝดสองพี่น้องเสี่ยวหวีและเสี่ยวเย่ พวกนางเรียนรู้ได้รวดเร็วมาก และคอยขนาบข้างป้องกันหานปิงหนิง ทั้งสามคนก่อตั้งรูปกระบวนรุกรูปสามเหลี่ยม

คนอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้ามากก็คือผิงเสี่ยวซาน  ความก้าวหน้าของเขามาจากการใช้กฎอวกาศของเขาตัดกรวดเหล็กดำเป็นกิจวัตรอย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บของวิคเตอร์และเบนสันหายดีขึ้นมาก แก่นต้นกำเนิดชีวิตจำนวนมากช่วยทำให้พวกเขาฟื้นฟู และหลายคนก็ฝึกฝนประจำวันและมีความต้องการแก่นต้นกำเนิดชีวิตเช่นกัน  ทุกวันๆ เขาจะทำงานจนเหนื่อยเป็นสุนัขหอบแดด แต่เป็นเพราะการฝึกฝนที่มีความรุนแรงและแม่นยำสูงกฎธรรมชาติของเขาจึงมีความก้าวหน้าอย่างน่าประหลาด

แม้ว่าเขายังไม่ถึงกับก้าวหน้าเข้าถึงการใช้กฎผิวเผิน  แต่สายใยกฎของเขาใกล้จะสมบูรณ์เต็มที่

และเนี่ยชิวได้ให้ตำแหน่งแก่ผิงเสี่ยวซานในกระบวนพยุหะรบของเขาด้วย  ทำให้ผิงเสี่ยวซานตื่นเต้นมาก  และสิ่งที่ทำให้คนอื่นพากันงุนงงมากก็คือว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาฝึกมาทางกฎอวกาศหรือเปล่า  แต่ตำแหน่งของผิงเสี่ยวซานนั้นดีมากเหมือนกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ใดๆ แต่เขาสามารถซึมซับเข้าในกระบวนศึกของเนี่ยชิวได้อย่างสมบูรณ์

“ทุกคนเราพักกันสักหน่อย อีกสี่ชั่วโมงเราจะฝึกกันต่อ”

กู้เสวี่ยยังคงเหลือพลัง  แต่คนอื่นๆ ไม่เหลือพลังแล้ว  การฝึกต่อไปจะพบว่าไร้จุดหมาย  สภาพใจของเนี่ยชิวก็หมดพลังเหมือนกัน  และจำเป็นต้องการเวลาพักฟื้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนถอนหายใจโล่งอกและนอนลงกระจายทุกที่

เนี่ยชิวหลับตาพัก

เนี่ยชิวฟื้นฟูจนอยู่ในสภาพพร้อมที่สุดก่อนหมดเวลาพักสี่ชั่วโมง แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น แต่เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและความผันผวนในพยุหะรบของเขา  ตอนนี้ทุกคนฟื้นฟูดีแล้ว  แต่เขาไม่เร่งรัดให้พวกเขาเริ่มฝึกต่อ

เขากำลังรวบปลายที่หลวมของประสบการณ์จากการฝึกให้แน่นขึ้น

การปรับตัวของหน่วยสุญญตาเพื่อเป็นรูปกระบวนใหม่นั้นดีที่สุด เนื่องจากพวกเขาคุ้นเคยกับการฝึกประจำวันเช่นนั้น  สำหรับพวกเขาก็แค่เป็นการเรียนรู้กลยุทธใหม่  สำหรับคนที่เหลืออย่างกู้เสวี่ย  แม้ว่าพวกเขาจะทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก  แต่พวกเขาก็ยังต้องการเวลา

คำสั่งของอาโมรี่และหานปิงหนิงต่อหน่วยสุญญตายังเป็นรากฐานของรูปกระบวน  ถ้ากู้เสวี่ยและคนอื่นปรับตัวเข้ากับขบวนรบได้ดี  พวกเขาจะช่วยเพิ่มพลังของพยุหะได้เป็นอย่างมาก  แต่พื้นฐานของพยุหะไม่ได้วนเวียนรอบพวกเขา  ดังนั้นจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งหมด

ทันใดนั้นเนี่ยชิวสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นเลือนราง

เนี่ยชิวก้มหน้า ปล่อยให้ผมปรกหน้าป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นหน้าเขา ไม่มีใครเห็นหน้าเขาได้  แต่หน้าของเนี่ยชิวแฝงรังสีอำมหิต

ก่อนนี้ระลอกพลังมาจากเถี่ยเซียเป็นสัญญาณระบุว่ามีศัตรูบุกรุก

ความสามารถในการลาดตระเวนของเถี่ยเซียโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการสอดแนมของเขาแตกต่างจากพวกยามปกติ  เขาไม่ได้พึ่งพาความผันผวนที่มาจากกฎธรรมชาติ  แต่เป็นการเคลื่อนไหวในอากาศ  เนี่ยชิวทำเส้นทางข้อมูลเป็นพิเศษที่ตรวจสอบไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับเถี่ยเซีย

‘ศัตรู’

คนบอดเนี่ยชิวแค่นเสียง  ประสาทสัมผัสของเขาแหลมคมมาก  แต่เขาไม่รู้สึกถึงผู้บุกรุก  ก็หมายความว่าผู้บุกรุกนี้แข็งแกร่งทรงพลัง

ด้วยคนที่มีพลังขนาดนั้นคนที่น่าจะมาเมืองจื่อจวนน่าจะเป็นฉินเจิ้น

‘ต้องเป็นเขาแน่นอน!’

เนี่ยชิวยังคงไม่เคลื่อนไหว  และไม่แจ้งพวกที่เหลือ

ฉินเจิ้นนั้นทรงพลังและแม้แต่ร่องรอยความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ทำให้เขาสั่นสะท้านได้

ระลอกอีกสายหนึ่งมาอย่างเงียบ

เถี่ยเซียเข้าใจตำแหน่งที่จะแทรกซึมแล้ว  แต่เพราะเขากังวลว่าผู้บุกรุกนี้อาจรู้สึกได้เขาจึงไม่กล้าจับตำแหน่งแน่นอน

เนี่ยชิวให้เถี่ยเซียยังคงประจำที่อยู่  สำหรับเขาการรู้ตำแหน่งของศัตรูก็เพียงพอแล้ว

เนี่ยชิวหัวเราะเบาๆ

เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเงยหน้า  “หมดเวลาพักแล้ว ทุกคนเราจะเริ่มฝึกยกต่อไป”

ทุกคนลุกขึ้นยืน  การฝึกต้องใช้ความสามารถ 120% จากพวกเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิคเตอร์และคนอื่นพวกเขาไม่เคยผ่านการฝึกฝนเข้มข้นแบบนี้มาก่อน  อย่างสวี่อันจง การฝึกของเขาเองก็ยังสูงกว่าสิ่งที่พวกเขาผ่านมา  แต่เขาไม่จำเป็นต้องแยกสมาธิไปที่คนอื่น เขาไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะไม่เข้ากันกับเพื่อนร่วมกลุ่มจนทำให้การฝึกฝนสะดุด

พลังของพวกเขาแต่ละคนแข็งแกร่งมากกว่าสมาชิกหน่วยสุญญตา และการเคลื่อนไหวของกลยุทธก็ไม่มีปัญหาต่อพวกเขา  แต่ปัญหาที่พวกเขามีก็คือจังหวะ  พวกเขาจำเป็นต้องเข้ากับจังหวะของทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ  และไม่ดึงทุกคนไปเข้ากับจังหวะของพวกเขาเอง

กู้เสวี่ย สวี่อันจง โรแลนด์ซู วิคเตอร์เบนสัน ทุกคนเผชิญหน้ากับความยากลำบากที่สุด

ทุกๆ บทฝึก พวกเขาทุ่มกำลังเต็มที่และไม่กล้าเสียสมาธิแม้แต่น้อย พวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนที่เหลือมาก และสายตามองการณ์ไกลก็เด่นกว่ามาก ดังนั้นพวกเขาสามารถเห็นว่าเมื่อพวกวเขาหลอมรวมเข้ากับพยุหะได้ก็จะระเบิดพลังออกมาได้

พวกเขาสามารถยกระดับขึ้นเหนือคนอื่นได้ไม่ต้องคำนึงถึงความมุ่งมั่นหรือพรสวรรค์

การลงมือจริงจังทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้เร็ว

“เราจะฝึกกลยุทธไตรหยินหยางแปรเปลี่ยนทุกคนพยายามให้ดีที่สุดตั้งแต่แรกเลย

เนี่ยชิวพูดอย่างใจเย็น

ทุกคนงงงวย พวกเขาเพิ่งฝึกหยินหยางหมุนวนซึ่งเป็นกลยุทธป้องกัน  ทำไมจู่ๆพวกเขาต้องเปลี่ยนไปเป็นไตรหยินหยางแปรเปลี่ยน?  มันเป็นกลยุทธรูปแบบรุกซึ่งพวกเขาใช้เวลาฝึกเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวัน

พวกเขาคาดว่าเนี่ยชิวเกรงว่าพวกเขาจะลืม ดังนั้นจึงต้องการให้พวกเขาแสดงกลยุทธเก่าที่ฝึกไปแล้ว  จึงไม่มีใครสงสัยอะไร

จากนั้นเนี่ยชิวกล่าว  “ทุกคนฝึกกลยุทธนี้ไปเมื่อวานนี้  แต่ยังไม่ดีมากนักเมื่อวานนี้   ทุกคนยับยั้งการฝึกของวันนี้ไว้ก่อน  พวกท่านทุกคนจะดำเนินการฝึกต่อไป  เตรียมตัวให้ดี”

ทุกคนพยักหน้า พวกเขาเห็นว่ามีเหตุผล

ที่เรียกว่ายับยั้งการฝึกเป็นสำนวนที่พวกเขาใช้กันหมายความว่าพวกเขาฝึกยับยั้งไม่ใช้พลังเต็มที่ทั้งหมด  สำหรับการดำเนินการฝึก ก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องทุ่มเทพพลังเหมือนกับว่าพวกเขาโจมตีจริงๆ

ตามมาด้วยคำสั่งให้ตั้งกระบวน  ทุกคนยืนประจำตำแหน่ง

ตาของเนี่ยชิวไม่สามารถเห็นอะไร  และเขาจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง  ชุดยาวโบกสะบัดโดยไม่มีลมและพยุหะหยินหยางเริ่มทำงานเงียบๆ

เขาเป็นเหมือนนักเปียนโนตาบอดแตะเส้นสีดำอย่างนุ่มนวล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด