ตอนที่แล้วตอนที่ 754 ระหว่างฝึกฝน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 756 ขวางดาบสู้

ตอนที่ 755 พยุหะหยินหยาง


พยุหะหยินหยางประกอบด้วยหยินเป็นลายเส้นพยุหะและหยางเป็นจุดของพยุหะ

พยุหะหยินหยางที่รู้แจ้งโดยเนี่ยชิวเป็นกฎธรรมชาติพิเศษเฉพาะที่แม้แต่วิคเตอร์บุรุษผู้ร่ำรวยความรู้ยังไม่เคยเห็นมาก่อน  มันไม่กินพลังกายเลยแม้แต่น้อย  และนี่เองทำให้คนอื่นพบว่ามันน่าสนใจ

กระบวนการที่สมาชิกหน่วยสุญญตาได้รู้แจ้งสายใยกฎธรรมชาติสองสามสายทำให้วิคเตอร์และคนที่เหลือตกตะลึง ได้รับการรู้แจ้งสายใยกฎธรรมชาติไม่ใชเรื่องที่ยากเกินไป  แต่เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ได้เห็นกลุ่มคนทั้งหมดได้รับรู้อย่างสบายๆแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร

แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ประหลาดใจต่อไป  ‘พวกเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่?  พวกเขาเป็นกลุ่มมนุษย์ที่มีลักษณะของสัตว์ป่า!’ พลังทางร่างกายของสมาชิกหน่วยสุญญตาเหลือเฟือเหมือนกับสัตว์ป่าและนอกจากพวกเขาแล้ว ก็มีแต่เบนสันที่สามารถเทียบได้กับสมาชิกหน่วยสุญญตา

เบนสันมีรูปร่างใหญ่ล่ำและมีผิวคล้ำมีชื่อเสียงอยู่ในเมืองจื่อจวนเสมอ  แต่ในหมู่ฝูงชนเขาไม่ได้เป็นที่สะดุดตาเลย เบนสันไม่ทราบว่าอาโมรี่เติบมาอย่างไรถึงได้มีหุ่นราวกับสัตว์ป่า สมาชิกทั่วไปของหน่วยสุญญตาทุกคนมีร่างกายที่ฝึกมาเป็นอย่างดีซึ่งไม่ด้อยกว่าเขาเลย ร่างของทุกคนดูเหมือนหล่อขึ้นจากโลหะ และสะสมพลังไว้เต็มที่

มีกลุ่มคนที่มีร่างกายเทียบได้กับเบนสัน  จะมีพลังแบบไหนกันแน่

วิคเตอร์และคนที่เหลือฉลองกันในใจที่พวกเขาไม่ได้คิดผิด  เมื่อเห็นเบนสันแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า   พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความเห็นใจ  ทุกๆ คนคล้ายๆ เบนสัน

แต่พวกเขาอายุเท่าใดแล้ว?

เมื่อเห็นใบหน้าที่เยาว์วัยของทุกคนซึ่งยังดูอ่อนเยาว์อยู่  พวกเขาทุกคนพูดไม่ออก เยาว์วัยก็หมายความว่าพวกเขามีศักยภาพไม่มีที่สุด มาตรฐานของพวกเขาทุกคนแข็งแกร่ง อนาคตย่อมไร้ขีดจำกัด กลุ่มของเด็กหนุ่มผู้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งถ้ามีเวลาพอก็คงจะไม่มีอะไรผิดพลาด

หลังจากมองดูอยู่สองสามวันแล้ว  ความหยิ่งถือตัวสุดท้ายในใจพวกเขาหายไปหมด

เทียบกับอาโมรี่และหานปิงหนิง  พวกเขายังอ่อนกว่าในแง่ความแข็งแกร่ง  และยิ่งอ่อนกว่ากู้เสวี่ยห่างไกล  ประสบการณ์ในกลยุทธของพวกเขาแทบไม่มีเลย  ดังนั้นพวกเขาจะเข้ากับกลุ่มไหนดี

ความเครียดนั้นทำให้พวกเขาฝึกฝนอย่าหนัก  พวกเขาเป็นผู้แปลกต่อกระบวนศึกและกลยุทธ  แต่พวกเขาทุกคนมีความโดดเด่น  และเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

ความผันผวนของแนวหยินทำให้กระบวนทั้งหมดดูเหมือนว่าพวกเขามีชีวิตชีวา

“ระวังตำแหน่งของพวกเจ้าไว้!  ระวังด้านซ้ายและขวา  ระยะไม่ควรเกินกว่าห้าก้าวระวังอยู่ผิดตำแหน่งด้วย!”

“ทหารทางด้านซ้าย ควบคุมจังหวะก้าวด้วย!”

“ทหารทางด้านขวา ระวัง โค้งโค้งอีกเล็กน้อย  อย่าเคลื่อนแบบทื่อเกินไป!”

“ดีมาก!”

อาโมรี่คำรามที่รูปกระบวนบ่อยๆเขาจ้องมองพวกเขาด้วยความกระตือรือร้น บุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาทุกๆนิ้ว

เทียบกับพวกเขาแล้วด้านหานปิงหนิงจะเงียบมากกว่า

ในหน่วยใดๆก็ตามอารมณ์ของผู้นำจะมีอิทธิพลต่อทั้งหน่วย ท่าทางเยือกเย็นดุจน้ำแข็งทำให้หน่วยของนางมีอารมณ์คล้ายๆ กัน พวกเขาเงียบและสงวนท่าทีเป็นปกติและจะมีการปรับตัวให้เข้ากันโดยธรรมชาติ

ทุกครั้งเมื่อรูปกระบวนเปลี่ยน  เมื่อมาถึงวิคเตอร์และคนที่เหลือจะมีจังหวะที่ช้าไปเล็กน้อย

เนี่ยชิวไม่ได้รู้สึกพอใจหรือเศร้า นั่นเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสามัคคีกันและเข้าใจกันและกัน  แต่อย่างน้อยสถานการณ์ดีกว่าตอนเริ่มแล้ว  ตอนแรกเริ่มพวกเขาสองสามคนเหมือนกับยุงที่สับสนชนกับคนอื่นๆภายในกระบวนศึก ทำให้กระบวนทั้งหมดสับสน แต่เนี่ยชิวไม่เคยยอมแพ้ พยุหะหยินหยางของเขาสามารถทำงานได้ดีกับอาโมรี่และหานปิงหนิง

หานปิงหนิงและอาโมรี่เป็นคนสำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับรูปกระบวนโดยประจำอยู่ที่ตำแหน่งหยางทั้งสองคน ตำแหน่งหยางเป็นตำแหน่งสำคัญของรูปกระบวน แต่ตำแหน่งหยางทั้งสองคนยังคงอ่อนต่อรูปกระบวน  เขาจำเป็นต้องเพิ่มตำแหน่งหยางอีกซึ่งก็คือกู้เสวี่ยและยอดฝีมือที่เหลือเพื่อให้ตำแหน่งหยางแข็งแกร่งขึ้น

กู้เสวี่ยแข็งแกร่งที่สุด และความสามารถของนางถือได้ว่าเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ดังนั้นตำแหน่งของนางถือว่าเทียบเท่าหานปิงหนิงและอาโมรี่  ส่วนสวี่อันจง วิคเตอร์ โรแลนด์ซูและเบนสันยังมีระดับต่ำกว่า แต่ด้วยการเพิ่มตำแหน่งหยางทั้งสี่ขึ้นไปอีก  สามารถทำให้กระบวนศึกแข็งแกร่งขึ้นและเป็นตัวแปรมากขึ้น ผิงเสี่ยวซานผู้ก้าวหน้ามากที่สุดดูธรรมดาที่สุดในตำแหน่งหยาง

ยิ่งตำแหน่งหยางมีมากรูปกระบวนก็จะแข็งแกร่งมาก  แต่ขณะเดียวกันกระบวนศึกจะซับซ้อนมากขึ้น และการฝึกฝนจะเพิ่มความยากมากขึ้น

กลุ่มของสมาชิกหน่วยสุญญตาจะไปตามเส้นหยินของพยุหะ  โดยการสลับ ผสมผสาน เดินหน้าเปลี่ยนตำแหน่ง รัศมีของรูปกระบวนยังคงเปลี่ยนไป

ลมหายใจของพวกเขาปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง

อาโมรี่พลอยสงวนท่าทีไปด้วย  เขาไม่ตะโกนอีกต่อไป และปรับลมหายใขของเขาให้เหมาะสม  ถ้าพวกเขาทำได้สอดคล้องกัน  พวกเขาจะสามารถผสานลมหายใจเข้ากันได้ทันที  แต่ในปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังทำได้ไม่สำเร็จดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง

พวกเขายังคงเปลี่ยนรูปกระบวน  ความถี่ในการหายใจของพวกเขากลายเป็นหนึ่ง

พยุหะเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดและมันเพิ่งจะตื่นและยืดตัวออก

ฉีเซี่ยงตงซ่อนตัวในเงามืดที่มุมและมองดูพวกเขาฝึกฝน  ใจเขาอดสั่นสะท้านด้วยความชื่นชมไม่ได้

‘นี่คือสิ่งที่เรียกว่าทหาร?’

ข่าวลือนักโทษสุญญตาแพร่กระจายไปทั่วแดนบาปนานแล้ว ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่มีอารมณ์เหมือนกันทั้งหมดนี้  หลายคนเดาว่าพวกเขาอยู่ในกองทัพหนึ่ง  แม้ว่ากองทัพทหารจะไม่ได้ปรากฏอยู่ในแดนบาปมานานแล้ว แต่ความรู้ก็ยังมีการตกทอดกันอยู่

การคาดเดาสุดท้ายก็ยังเป็นความคาดเดา  ความรู้สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความรู้  แต่ในที่สุดไม่มีใครเคยเห็นว่ากองทัพเป็นเช่นไร และไม่มีใครรู้ว่ากองทัพที่แท้จริงนั้นเหมือนอะไร

เมื่อเวลาที่บุรุษหน้ากากผีกำลังโจมตีเมืองบูรพาอมตะ ฉีเซี่ยงตงก็บุกมาที่เมืองจื่อจวนโดยไม่ลังเล พลังที่น่ากลัวจากเมืองบูรพาอมตะทำให้ใจและความคิดของเขาหวั่นไหว  สั่นสะท้านเขาอย่างสิ้นเชิง  ‘นั่นคือระดับพลังที่สูงสุดอย่างแท้จริง! แม้กับแค่แขนมัจจุราชและเคียวมัจจุราช แค่นั้นก็เกินพอแล้ว!”

ความผันผวนนั้นพลังที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความหวาดกลัวให้เขา  และเขาเชื่อว่าถ้าเขาอยู่ข้างใน  คงยากที่เขาจะหลบหนีได้

เขาไม่มีทางคาดว่าบุรุษหน้ากากผีจะสามารถรอดชีวิตจากวิชาที่น่ากลัวนั้นได้  นับประสาอะไรจะโต้ตอบ  นั่นคือพลังระดับสูงกว่า  แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์  แต่ก็เพียงพอกำจัดบุรุษหน้ากากผี

ถ้าบุรุษหน้ากากผีตาย อย่างนั้นเมืองจื่อจวนก็ป้องกันเขาไม่ได้เป็นธรรมดา

เขาเดินทางทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พักใช้เวลาทุกวินาทีที่เขามี  ใครก็ตามที่ลงมือเคลื่อนไหวก่อน ต่อให้เป็นเสี้ยววินาทีก็ตามก็สามารถเปลี่ยนเรื่องราวทั้งหมด

เมื่อเขามาถึงเมืองจื่อจวน  เขาตระหนักได้โดยเร็วว่าพวกเขามีการป้องกันอย่างแข็งขัน

แต่เขาไม่สนใจพลังป้องกันเพียงแค่นั้นสร้างปัญหาให้เขาได้เล็กน้อยมาก  เขาลอบเข้าเมืองจื่อจวนและรีบค้นหาคนสำคัญของเมืองจื่อจวนผู้กำลังฝึกฝนอยู่สนามฝึกทุกคน

ฉีเซี่ยงตงเป็นคนช่างระมัดระวัง  เขาไม่ลงมือทันที และเพียงแอบมองอยู่ในเงามืด

เขาจำวิคเตอร์และคนอื่นๆอีกสองสามคนได้ แต่เขาไม่รู้จักคนที่เหลือ  แต่อารมณ์พวกเขาก็คล้ายๆ กับนักโทษ เมื่อเขาเห็นนักโทษหน่วยสุญญตาหลายคน ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง

นักโทษหน่วยสุญญตามีวินัยที่โดดเด่น จุดนี้ไม่ได้ปรากฏออกมาเมื่อพวกเขาเป็นนักโทษที่เพียงแต่แสดงความป่าเถื่อนและหยิ่งยโสของเขา  แต่ในสนามฝึกฝน พวกเขาฝึกฝนหนักและทำตามคำสั่งทุกคำ

บริวารเช่นนั้นคือฝันของประมุขตระกูลทุกคน!

ฉีเซี่ยงตงผู้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตั้งใจจะมาชิงนักโทษ  ด้วยจำนวนที่มากขนาดนั้น  เขาเชื่อว่าเขาสามารถกวาดไปทั่วแดนบาปได้

สายตาของเขามองดูที่เนี่ยชิวผู้อยู่ในกลางกองทัพ  คนตาบอดคอยออกคำสั่ง ฉีเซี่ยงตงสัมผัสได้ว่ากฎธรรมชาติที่ตัวคนตาบอดมีลักษณะเฉพาะ  แต่ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ในแดนบาป มีกฎธรรมชาติเฉพาะแบบหลายแบบนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่น้อย

‘เขาคือคนตาบอดและอ่อนแอ  พลังของเขายังไม่พอ’

เขาไตร่ตรองอยู่สักครู่และตระหนักว่าบางที คนตาบอดจะเป็นผู้นำที่แท้จริงของหน่วยสุญญตา  ‘ถ้าได้รับคนตาบอดไปด้วย  บางทีข้าอาจทำให้นักโทษหน่วยสุญญตนี้เชื่อฟังมากขึ้นก็ได้

ความคิดนี้ทำให้เขาตื่นเต้นและรู้สึกว่าตัวเลือกของเขาที่มาที่เมืองจื่อจวนนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง

การไม่เชื่อฟังของนักโทษหน่วยสุญญตาเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับตระกูลต่างๆ  และจนบัดนี้ ไม่มีข่าวเลยว่าตระกูลใดๆสามารถฝึกพวกเขาให้เชื่องได้  ‘ดูเหมือนเคล็ดลับของปัญหานี้อยู่ที่คนตาบอด’

ฉีเซี่ยงตงเดินและมองดูความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนวุ่นวายในสนามฝึก  เขาไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร  เขาไม่ใส่ใจเช่นกัน  เขากำลังคิดว่าจะเข้าไปคร่ากุมคนตาบอดได้ยังไง

‘หรือว่าข้าควรจะข่มพวกเขาด้วยพลังของข้า?’

‘เมื่อคิดดูแล้วพลังของพวกเขาก็แค่งั้นๆ ข้าสามารถตราตรึงอยู่ในใจพวกเขาได้ และยังต้องกลัวด้วยหรือ...’

ทันใดนั้นดูเหมือนเขารู้สึกอะไรบางอย่างได้

‘เอ๊ะ?’

‘เสียงนี้...เสียงหายใจหรือเปล่า?’

เขาเงยหน้ามองที่สนามฝึกทันที  นัยน์ตาของเขาหรี่แคบทันที

ร่างของทุกคนเคลื่อนไหวโดยไม่มีการหยุด  คล้ายเงินที่หลอมละลายไหลไปทั่ว  แต่สิ่งที่ทำให้เขาสั่นสะท้านจริงๆก็คือการหายใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งหมดหายใจพร้อมกัน

ฮื่อ..ฮ่า..ฮื่อ...ฮ่า..

คนสองสามร้อยคนหายใจพร้อมกันเริ่มคล้ายกับลมหายใจมังกร พวกเขาสามารถได้ยินไปทั่วสนามฝึก

หัวใจของฉีเซี่ยงตงเต้นแรง เหมือนกับว่าเขาสามารถรู้สึกได้ถึงรูปขบวนที่ทรงพลัง

ทันใดนั้นสายตาเขามองผ่านชั้นมนุษย์ และเห็นบุรุษตาบอดที่นั่งอยู่ใจกลางสนาม

คนตาบอดดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาเขาและยิ้มให้เขาทันที

ฉีเซี่ยงตงใจตึงเครียดทันที

ในขณะนั้นชายหนุ่มตาบอดที่นั่งขัดสมาธิอยู่พื้นโบกมือไปข้างหน้าทันที

สมาชิกหน่วยสุญญตากระโจนขึ้นเหมือนสปริงที่กดอัดจนสุดล้าและกระเด้งออกไปทันที

ภาพร่างความเร็วสูงหลายคนกระโจนออกไปเหมือนคลื่น  พวกเขายกดาบยักษ์ที่มีรังสีสีสันต่างๆครอบคลุม กล้ามเนื้อของทุกคนตึงเครียดระดับสูงสุด

พุ่งไปข้างหน้าแล้วฟัน!

เมื่อมองจากมุมสูง ดูเหมือนกับรังสีดาบรุ้งพุ่งเข้ามาเหมือนกับงูที่ซ้อนทับกับงูตัวอื่น

ดาบมีแสงคลุม  รังสีของหานปิงหนิงและอาโมรี่เปล่งถึงระดับสูงสุด  พวกเขาปล่อยพลังโจมตีของพวกเขาพร้อมกัน  และรังสีทั้งสองหมุนกวาดขึ้นมาข้างหน้าถึง 100เมตร

รังสีดาบที่น่ากลัวทำให้อากาศสั่นสะเทือนภาพสีทุกอย่างหมองลง

ฉีเซี่ยงตงถึงกับสีหน้าเปลี่ยน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด