ตอนที่แล้วตอนที่ 723 ความเคลื่อนไหวจากทุกฝ่าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 725 ปราสาทเขาสะท้อน

ตอนที่ 724 รายงานตัว!


อาโมรี่รู้สึกว่าบรรยากาศภายในค่ายแปลกไปมาก  มีทหารยามเล็กน้อยและดูผ่อนคลายมาก

“เฮ้, พี่เนี่ย!  ดูเหมือนมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งนะ”

เนี่ยชิวรู้สึกหงุดหงิด ‘ทำไมเจ้าต้องพูดเสียงดังนักเล่า เจ้ากลัวว่าจะไม่มีใครได้ยินเจ้าหรือ?’

“ใช่แล้ว,ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์อย่างหนึ่ง” เนี่ยชิวตอบ กับคนดันทุรังแบบนั้น ถ้าข้าไม่ตอบคำถามเขา   เขาคงตามตื๊อจนกว่าข้าจะตอบเขานั่นแหละ  จุดสำคัญคือคนผู้นี้เป็นรุ่นน้องคนหนึ่ง  คนที่มาจากรุ่นเดียวกับนายท่านเป็นคนที่ยืนเคียงข้างนายท่านมาก่อนที่นายท่านจะได้รับการยอมรับ  นี่คือคนที่เนี่ยชิวไม่กล้าตอแยด้วย

หลังจากมีประสบการณ์สองสามครั้ง  เนี่ยชิวจะตอบเขาอย่างตรงไปตรงมา  นอกจากนี้ด้วยเส้นทางของการฝึกฝน  ทุกคนคุ้นเคยกันมากขึ้น  เนี่ยชิวมีความเห็นที่ดีต่อคนหัวรั้น  เขาเป็นคนตรง ซื่อสัตย์และจริงใจนอกจากจะโง่บ้างเล็กน้อย แต่เขาไม่ถึงกับเป็นอันตราย

เขาฝืนหัวเราะในใจ  ‘เจ้ายังคิดเรื่องเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายของเจ้า  นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่ถูกส่งออกไปตายเมื่อสำเร็จการศึกษาแต่ดันกลายเป็นนักโทษแทนเสียได้’

การใช้แรงงานประจำวันทำให้เขาเหนื่อยล้าและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่ก็คือปราณแท้ในร่างกายของเขาหายไปหมดแล้ว  ไม่มีเหลือแม้แต่หยดเดียว  เขาเป็นเหมือนคนพิการอย่างแท้จริง  ไม่สามารถยกแขน ไม่สามารถเคลื่อนไหวไหล่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะอาโมรี่และพวกที่เหลือช่วยรับทำงานให้เขา  เขาไม่รู้ว่าจะต้องโดนแส้หวดมากเท่าใด  เขาจะต้องอดทนไปทุกวันๆ

มีทางออกอยู่ทางหนึ่งก็คือลงนามในสัญญาเพื่อรับใช้เจ้าของเหมืองโดยการขายตนเองด้วยความเต็มใจ ก็จะได้รับการยกเว้นใช้แรงงานและได้รับผลประโยชน์แทน

ไม่มีใครลงชื่อตกลง อาโมรี่และพวกที่เหลือแค่นเสียงใส่สัญญา พวกเขาทุกคนเชื่อมั่นในถังเทียนและไม่มีอารมณ์อะไรมากต่อการเป็นนักโทษคนหนึ่ง  ‘นี่มันเกิดปัญหาอะไร ถังห้าวพบกับความพยายามที่สิ้นหวังมามากและผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้’  หน่วยสุญญตาประกอบขึ้นมาจากชาวหมาป่าเป็นส่วนใหญ่  พวกเขาเกิดมาในท่ามกลางความยากจนมีนิสัยอดทนและแข็งแรงงานประจำวันอย่างนั้นไม่มีอะไรมากในสายตาพวกเขา

ตายเพื่อบุรุษหนุ่มผู้ฉุดพวกเขาออกมาจากนรกที่กันดารและไร้ชีวิตชีวามอบเกียรติยศและศักดิ์ศรีคือความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวหมาป่า  อารมณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอื่นเข้าใจ

พวกเขาไม่สื่อสาร แต่พวกเขาไม่เคยทรยศต่อความเชื่อมั่นตนเอง

แต่เนี่ยชิวไม่มีศรัทธาเพราะเขาเชื่อว่าเขามีเหตุผลพอจะพิสูจน์ว่าวิธีคิดของพวกเขาน่าขันจริงๆ เขาสามารถชี้ให้เห็นว่าผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีพรสวรรค์และพลังอำนาจมากกว่าห้าสิบคนมีเป้าหมายสูงส่งแต่ก็ตายเนื่องจากสิ่งนั้น  เมื่อต่อต้านโลก ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งและทรงอำนาจเพียงไหนเขาก็เป็นคนไม่สำคัญ

แต่เขาไม่พูดออกมา เพราะเขาเป็นคนฉลาด การพูดเช่นนั้นอาจกระตุ้นโทสะคนอื่น  และไม่มีใครต้องการได้ยินคำพูดเช่นนั้น  ไม่มีใครยินดีฟังคำพูดแบบนั้น  ไม่ว่าจะเป็นอาโมรี่หรือชาวหมาป่าพวกเขาดื้อรั้นกันทุกคน ยิ่งกว่านั้นเขาลำบากย่ำแย่เมื่อเทียบกับพวกเขา อยู่ในที่ไม่มีพลังงาน  ยังเอื้ออำนวยให้อาโมรี่และพวกที่เหลือยังมีประโยชน์มหาศาล  แต่ตัวเขาเองกลายเป็นคนพิการคนหนึ่ง  คนพิการที่ไม่มีใครต้องการ

เนี่ยชิวเป็นคนฉลาดและจริงจัง  เขารู้ว่าไม่ว่ายังไงเขาก็ยังมีค่า

แม้ว่าเขาไม่มีพลังงานและความแข็งแกร่งก็ตาม แต่เขาไม่เคยอาศัยคนอื่นเพื่อให้ได้รับอาหาร  เขามีสมองและเป็นคนฉลาดที่สุดกว่าทุกคนในกลุ่ม สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือแอ่งตันเถียนของเขาเหือดแห้ง  เส้นเดินชีพจรหายไป  แต่ความรู้สึกของเขากลับคมชัดแทน

“จำนวนยามข้างนอกมีเพียงหนึ่งในห้าของปกติ”  เนี่ยชิวพูดเบาๆ

“เป็นโอกาสดีแล้ว!”  อาโมรี่ตาเป็นประกาย  เขาตื่นเต้น แม้ว่าพลังของพวกเขาจะถูกควบคุม แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  เขามีความเข้าใจแนวคิดวิธีต่อสู้สองสามอย่าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาโมรี่ผู้ใช้พลังถึกเหมือนคนบ้า แดนบาปเป็นที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับต่อสู้สำหรับเขามากที่สุดอย่างมิต้องสงสัย เป็นเวลานานมากแล้วที่ถังเทียนใช้แรงถึกสู้กับเขาและแพ้เขาอยู่เสมอ

เนี่ยชิวเป็นอัจฉริยะ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทำให้เลโอนรู้สึกลำบากใจที่จะให้เขาเข้าร่วมกับกลุ่มดาวหมีใหญ่  งานของเขาถูกแบ่งกันในกลุ่มพวกที่เหลือ  ใจของเนี่ยชิวถูกความคิดของอาโมรี่ครอบงำ   การช่วยตัวพวกเขาเองไม่ได้หมายความว่าต้องแหกคุกออกไป  ทุกคนมีความเข้าใจแดนบาปเพียงเล็กน้อย  และเขารู้ว่านั่นอันตรายเพียงไหน  พวกเขาจำเป็นต้องมีพลังต่อสู้อย่างเพียงพอ  และอาศัยการรับรู้ที่แหลมคมของเขา  เขาเข้าใจความแตกต่างของแดนบาปอย่างเงียบงัน

สมาชิกผู้เต็มใจของหน่วยสุญญตากลายเป็นเครื่องทดลองที่ดีที่สุดของเขา

ในเวลาอันรวดเร็วมาก พวกเขาทำงานที่ถนัดสองสามอย่างที่สามารถทำให้พวกเขาปลดปล่อยพลังมากมายได้  แต่เพราะเขาไม่กังวลเรื่องต้องเคลื่อนไหว  พวกเขาเลือกจะเก็บแรงเอาไว้ต่อไป

ทหารหนึ่งในห้า เนี่ยชิวมีปฏิกิริยาเป็นครั้งแรก  ‘นี่เป็นกับดักหรือ?’ แต่เขาโยนความคิดนั้นทิ้งไปโดยเร็ว เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนว่าแม้ว่าพวกทหารยามจะเข้มงวดและงานของพวกเขาจะหนักก็ตาม  แต่งานจัดมาให้เป็นประจำมิได้ขาด  นอกจากมองข้ามต้องโดนหวดสองแส้  ก็ไม่มีมาตรการเข้มงวดอื่น

‘ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นคุณค่าชีวิตเรา’

หลังจากลอบสังเกต เนี่ยชิวยืนยันการคาดเดาของเขา ถ้าเป็นไปตามคาด อย่างนั้นพวกเขาอาจถูกลากออกไป แต่ไม่ฆ่า ดังนั้นควรจะหมายความว่ายังไง?

‘ต้องเกิดเหตุบางอย่างข้างนอก!’

ในฐานะที่เขาเองเป็นนายทหารผู้โดดเด่น  เขาเฉียบแหลมต่อโอกาสในการสู้รบ  แทบจะเป็นสัญชาตญาณ  เนี่ยชิวรู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบ

ขณะนั้นเองเสียงระเบิดดังขึ้นจากปากทางเข้าทันทีเป็นที่ปากทางเข้าเหมืองข้างหน้า

หน้าของเนี่ยชิวเข้มงวด เขารีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว “ทุกคนรวมตัว  เราต้องเตรียมตัว”

อาโมรี่วิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น  นักโทษที่กำลังทำงานทุกคนรับทราบและเริ่มเข้ามาหาเนี่ยชิวจากตำแหน่งของตน  การทำงานต่อเนื่องไม่ได้ทำให้การฝึกฝนของพวกเขาลดลง  ความเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วและแม่นยำ

ผู้คุมขังตื่นตระหนก พวกเขามองดูที่ประตูใหญ่เป็นระยะๆแต่ในเวลาอันรวดเร็วการกระทำของนักโทษทำให้พวกเขากังวลมากขึ้น

“แยกย้าย! พวกเจ้าทุกคนแยกย้ายกันเลย!  พวกเจ้าทุกคนต้องการตาย...”

ผู้คุมนักโทษตะโกน

ปัง!

ร่างหนึ่งปลิวกระเด็นเหมือนกระสอบทรายเข้ามาหาพวกเขา  เป็นทหารยามคนหนึ่งที่ตายแล้ว  พวกผู้คุมนักโทษคว้าคอพวกเขาและตะโกนให้หยุด

ร่างคุ้นเคยร่างหนึ่งปรากฏบนเนินด้านข้างเหมือง  หน้ากากที่น่ากลัวของเขาทำให้ทุกคนตกใจ

“ข้าอยู่นี่แล้ว!”

เสียงที่คุ้นเคยดังก้องไปทั้งพื้นที่  เสียงโห่ร้องดีใจดังกระหึ่ม

“ถังห้าว! หานปิงหนิง!  ข้าอยู่นี่!”

เสียงของอาโมรี่ดังกลบไปทั้งพื้นที่ เสียงดังราวกับฟ้าร้องขณะที่เขาชูมือโบกไปมาในอากาศ

เนี่ยชิวตะลึง  ‘เป็นนายท่านถังเทียนจริงๆ!’

เขารู้สึกชัดเจนถึงกลิ่นอายน่ากลัวแผ่มาจากด้านประตูใหญ่  แต่ไม่เคยคาดเลยว่าจะเป็นนายท่านถังเทียน  ‘นายท่าน,ท่านยังไม่ตายจริงๆ และท่านมาที่นี่เพื่อช่วยเรา!’ เขารู้สึกชัดเจนว่าคนอื่นก็ตื่นเต้นไปด้วย กำลังใจมาแล้ว.. สวรรค์ถล่มทลายแล้ว!

พวกผู้คุมนักโทษเอามือกุมศีรษะและลอบหนีไปซึ่งไม่มีใครให้ความสนใจใครอีกต่อไป

เถี่ยเซียตะลึง “พวกเขาคือบริวารของบุรุษหน้ากากผีหรือนี่? นี่คือนักโทษหน่วยสุญญตาที่เล่าลือกันหรือ?  ไม่, พวกเขาไม่ใช่นักโทษอีกต่อไป’  ในฐานะคนโฉด เถี่ยเซียเห็นคนหักหลังมามากทรยศต่อความสัมพันธ์สายเลือดเพื่อผลประโยชน์แต่เขาไม่เคยเห็นเปลวไฟที่ลุกโชนในดวงตาคนที่เชื่อถือศรัทธาแม้ว่าบุรุษหน้ากากผีจะขอให้พวกเขาไปตายก็ตามพวกเขาจะไม่ลังเลเลย

‘พวกเขา...’

เพราะเหตุผลบางอย่าง กลุ่มคนนี้ทำให้เถี่ยเซียรู้สึกกลัวเหมือนกับว่าเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาพวกเขาสะสมพลังที่ทำให้เขากลัว

‘ยังมีอุปสรรคอยู่  เราต้องหาทางคลี่คลาย..”

เสียงของผิงเสี่ยวซานดังเข้าหูเถี่ยเซีย  ทำให้เขาตื่นจากตะลึง  เขามองหาและกล่าวทันที  “ข้าทำลายพันธนาการนี้ได้”

เถี่ยเซียไม่รู้ว่าบุรุษหน้ากากผีจะนำกลุ่มของพวกเขาเข้าทำลายหรือไม่  แต่เขารู้ว่าเขาลงเรือโจรไปแล้วซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะออกมา ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลูหรือตระกูลฉินไม่มีใครปล่อยเขาไปแน่

หมอกดำหุ้มรอบฝ่ามือของเขาซึ่งหมอกนั้นลอยเข้าหาร่างของอโมรี่อย่างรวดเร็ว และเข็มแสงถูกถอนออกมา  ทันทีที่เข็มแสงเล่มสุดท้ายถูกถอนออก  อาโมรี่รู้สึกว่าทั่วทั้งตัวเขามีแสงสว่าง  ความรู้สึกถึงพันธนาการทั่วร่างกายหายไปโดยไม่มีร่องรอย

อาโมรี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำรามทันที!

กระแสรังสีที่ทรงพลังทะลักออกมาจากร่างของเขา  เถี่ยเซียไม่มีเวลาป้องกันและเกิดอาการมึนงงจากพลังนั้น

เขาค่อยๆ หายตะลึง รู้ถูกความตกใจครอบงำ  เขาเคยสู้ในแดนบาปมาก่อน และรู้จักคนหลายคนถ้าแค่ดูจากกลิ่นอายแล้ว เขารู้ว่าอาโมรี่เป็นคนที่แข็งแกร่งและกล้าหาญมาก

เมื่อเขากำจัดอุปสรรคเข็มแสงต่อไป นักโทษหน่วยสุญญตาทุกคนที่ดูเหมือนธรรมดาเริ่มเปล่งประกายของนักสู้ฝีมือดีทำให้เถี่ยเซียยิ่งตกใจมากขึ้น สิ่งที่ทำให้เขาหวาดผวามากขึ้นก็คือแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยินดีอย่างนั้น  คนพวกนี้ก็ยังเงียบอยู่ได้  สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองไว้ได้

‘น่ากลัวจริงๆร้ายกาจ พวกเขาน่ากลัวมาก!’

เขารู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นแกะเชื่องที่ตกลงไปในฝูงสุนัขป่าเดียวดาย อ่อนแอและช่วยตัวเองไม่ได้  ‘โฮ่ย.. ใครควรจะเป็นคนโฉดจริงๆ กันแน่..’

อาโมรี่วิ่งไปหาถังเทียนและหานปิงหนิง  น้ำลายเขาก็กระจายไปทั่วแล้วเสียงตะโกนโหวกเหวกตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ทุกคนยืนตั้งแถวต่อเนื่องรอรับคำสั่งของถังเทียน

หานปิงหนิงหงุดหงิดอาโมรี่อยู่นานแล้ว  นางใช้กระบี่และจ่อคออาโมรี่แค่นเสียงดุ“เงียบเลยนะ”

อาโมรี่แข็งชะงัก และมีท่าทางละอายทันที

หานปิงหนิงใช้กระบี่ของนางจี้อาโมรี่ให้กลับไปเข้าแถวเมื่อเห็นทุกคนยืนเข้าแถวประจำตำแหน่งเป็นอย่างดี เขาแสดงสีหน้าขอโทษ

เหมืองเงียบสงบลงอบอวลไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

เถี่ยเซียกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก มีคนประหลาด 60คนอยู่ข้างหน้าเขา แต่รังสีฆ่าฟันที่พวกเขาปล่อยออกมาทำให้ใจของเขาเต้นแรงผิวของเขาชาไปหมด  ผิงเสี่ยวซานที่อยู่ข้างเขาหน้าซีดเช่นกันริมฝีปากเขาแห้งแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและความตื่นเต้น

66 คน ทุกคนอยู่ในชุดนักโทษที่ขาดรุ่งริ่งหน้าและมือของพวกเขาเปื้อนฝุ่นโคลน เท้าเปล่าของพวกเขาเปียกโคลนผมกระเซิงกันทุกคน  ผมและหน้ามีฝุ่นละอองเกาะทุกคนทุกคนคล้ายกับนักโทษที่ผ่านความยากลำบาก

แต่ทุกคนยังยืนตัวตรงไม่มีความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าอารมณ์ ดูเหมือนกับว่าทุกคนสวมเครื่องแบบที่คล้ายกันราวกับว่ายืนอยู่บนที่ราบแทนที่จะเป็นบ่อและที่มีหินโผล่ขึ้นมา  สายตาของพวกเขาแหลมคม  สีหน้าจริงจัง

เหมือนกับว่าพวกเขาผ่านการฝึกฝนมานับไม่ถ้วนการตั้งแถวของเขาหนักแน่นและเข้มงวดและยังคงอยู่ในความเงียบ

หานปิงหนิงก้าวออกมาข้างหน้าและทำท่าวันทยาหัตถ์กล่าวเสียงเข้มงวด  “หานปิงหนิงแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่รายงานตัว!”

หน้าของอาโมรี่เคร่งขรึมพอกันปราศจากอารมณ์ยินดีและวันทยาหัตถ์พูดเสียงเข้ม “อาโมรี่แห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”

เนี่ยชิวได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันเขาก้าวเท้าออกมาข้างหน้าและวันทยาหัตถ์โดยไม่รู้ตัว  “เนี่ยชิวแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ ขอรายงานตัว!”

ทุกคนรายงานตัวทีละคน

“ลู่เฉินแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”

“...หน่วยสุญญตาหมีใหญ่รายงานตัว!”

“.....หน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”

……

“รายงานตัว!”  “รายงานตัว!”  “รายงานตัว!”

บุรุษหนุ่มเบื้องหลังหน้ากาก น้ำตาคลอเบ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด