ตอนที่แล้วตอนที่ 724 รายงานตัว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 726 คลื่นสายรุ้ง

ตอนที่ 725 ปราสาทเขาสะท้อน


ความเคลื่อนไหวของถังเทียนที่ประตูเมืองเป็นเรื่องใหญ่โต ตามปกติข่าวแพร่กระจายไปถึงคนอื่นๆได้ อย่างเช่นเซวียหมิงจู

ตอนแรกหมิงจูยังอยู่ในอาการมึนงง แต่แล้วแม่เฒ่าประมุขตระกูลตวาดเรียกความรู้สึกของนางกลับมาทันที  และรู้ว่าตระกูลเซวียในตอนนี้ก้าวเข้าไปอยู่ในปัญหาหนึ่งก้าวแล้ว  การคลี่คลายปัญหาของนางปรากฏขึ้นแล้ว

นอกจากตามหาถังเทียนแล้ว นางต้องตัดสินใจอีกด้วยก็คือย้ายตระกูลทั้งหมดออกจากเมือง

เมืองจื่อจวนเป็นของตระกูลฉิน  ถ้าพวกนางยังคงอยู่ที่นั่นต่อไป พวกนางคงต้องพบกับจุดจบกลายเป็นอาหารมื้อค่ำของตระกูลฉิน  และแม้ว่านางจะหาถังเทียนพบ  เขาคงไม่สามารถกลับมาบ้านตระกูลเซวียได้  เหมือนกับว่าเขาเป็นแกะที่เข้าสู่ถ้ำเสือ การสู้กับตระกูลฉินในเมืองจื่อจวนเป็นเรื่องโง่เกินไป

ที่นอกเมือง ตระกูลเซวียมีปราสาทชื่อว่าปราสาทเขาสะท้อนซึ่งถูกสร้างโดยตระกูลเซวียรุ่นแรกเมื่อพวกเขาเข้าสู่แดนบาป  ในตอนนั้น ยังไม่มีเมืองจื่อจวน  ปราสาทสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายและหยาบแต่การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมภายนอกนั้นโหดร้ายและอันตราย  ดังนั้นหลังจากสร้างมืองจื่อจวน  ตระกูลฉินจึงเชิญทุกคนให้เข้ามาร่วมดังนั้นตระกูลเซวียจึงย้ายเข้าเมืองและปราสาทถูกปล่อยร้าง

แต่ขณะนั้นเองนั่นคือแผนที่ดีที่สุดของพวกนาง หมิงจูเคยอยู่ที่ปราสาทเขาสะท้อนมาก่อนและเข้าใจพื้นที่ดี  ปราสาทเขาสะท้อนตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งป้องกันได้ง่ายและจู่โจมได้ยาก  ในอดีตเนื่องจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายสัตว์ป่าเที่ยวไปบนภาคพื้น และจำเป็นต้องป้องกันพวกมัน  ปราสาทเขาสะท้อนก่อสร้างขึ้นมาอย่างมั่นคงมีน้ำใช้เองด้วย

การตัดสินใจของหมิงจูได้รับการสนับสนุนของแม่เฒ่าผู้มีประสบการณ์ในช่วงเวลาของนางและรู้ว่าไม่มีเวลาจะลังเล

หมิงจูสามารถยินดีได้ ก่อนนี้เนื่องจากตระกูลเซวียกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรง พวกนางเตรียมตัวออกไปจากเมืองจื่อจวนเป็นเวลานานแล้วเพื่อหาการสนับสนุนจากคนอื่นดังนั้นสัมภาระสำคัญทั้งหมดจึงถูกบรรจุหีบห่อ ถ้าไม่อย่างนั้นสัมภาระทั้งหมดพวกนางคงต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าจะบรรจุได้ทั้งหมด

การตัดสินใจของหมิงจูกับโอกาสนี้ถือว่าแม่นยำมาก

ฉินเจิ้นไม่อยู่ มู่เจ๋อและเว่ยหานตาย หน่วยพลธนูของฉินจื่อเจิ้นพ่ายแพ้ ตระกูลฉินไม่เคยได้รับความสูญเสียพ่ายแพ้ใหญ่อย่างนี้มาก่อน  ทั่วทั้งตระกูลตกอยู่ในสภาพตื่นเต้นคนรอบคอบอย่างจงเจิ้งเยียนเหม่ยตัดสินใจป้องกันและถอนกำลังทั้งหมดมาช่วยป้องกันและรอการกลับมาของฉินเจิ้น  ความคิดของเขาง่าย  ถ้านักโทษที่ตระกูลฉินครอบครองถูกชิงไป อย่างนั้นความหวังสุดท้ายของตระกูลฉินก็จะหายไป  ดังนั้นตราบใดที่ฉินเจิ้นกลับมา  พวกเขาก็สามารถทวงคืนอะไรก็ตามที่พวกเขาสูญเสียไป

และนั่นคือเหตุผล ให้ไม่มีเงาของยอดฝีมือในตระกูลฉิน

หมิงจูเห็นความกลัวของตระกูลฉินทันทีและโดยไม่มีการลังเลใจ นางพาตระกูลเซวียขนของทุกอย่างขึ้นรถโดยสารเพื่อย้าย  หมิงจูวิ่งรอกเร่งรัดเพื่อกองคาราวานออกไปอย่างปลอดภัยโดยไม่พบกับอุปสรรคใดๆ

เมื่อหมิงจูและกลุ่มมาถึงประตูเมืองที่ถูกทำลายแล้วพอเห็นฉากภาพที่ยังไม่ได้เก็บกวาดพื้นที่ นางอยู่ในอาการตกใจ นางไม่สามารถคิดถึงความรุนแรงในการต่อสู้ของบุรุษหน้ากากผี

หมิงจูเข้าใจทันทีว่าบุรุษหน้ากากผีคือความหวังสุดท้ายของพวกนาง

แต่พวกนางพบกลุ่มของถังเทียนโดยไม่คาดฝันและกลุ่มของเขาออกจากเมืองไปแล้ว ทำให้ตระกูลเซวียทั้งหมดดีใจส่งเสียงดัง

“ท่านหน้ากากผี, หมิงจูมีตาแต่ไร้แววได้ละเลยนายท่านสมควรตายหมื่นครั้ง!  แต่ข้าหวังว่านายท่านจะให้โอกาสตระกูลเซวียให้เราได้รับใช้นายท่านเพื่อชดใช้บาป!  ตระกูลเซวียของข้าทุกคนพร้อมสนับสนุนท่าน!”

เมื่อเห็นถังเทียน หมิงจูคุกเข่าโดยไม่ลังเล

ถ้าพวกนางเข้าตระกูลหลู จุดจบของพวกนางเป็นเรื่องแน่นอนจะกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าและพวกนางเองจะกลายเป็นของเล่นสำหรับคนในตระกูลหลู  ตระกูลเซวียจะถูกยกเลิก  ความลับหนอนไหมทองจะตกไปอยู่ในมือตระกูลหลู

เมื่อหมิงจูคิดถึงผลได้ผลเสียแล้ว  นางตกใจที่รู้ว่าดูเหมือนเป็นการเสี่ยงที่ต้องอาศัยบุรุษหน้ากากผี  แต่ในความเป็นจริงนั่นเป็นเงื่อนไขที่ดีกว่า บุรุษหน้ากากผีเคยอยู่ในตระกูลเซวียมาหลายวัน  ด้วยพลังของเขาหากว่าเขามีแรงจูงใจซ่อนเร้น ไม่มีใครจะหลบหนีความเข้าใจของเขาไปได้ แต่บุรุษหน้ากากผีไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหวอะไร และเมื่อเห็นหานปิงหนิงผู้งดงามมากเซวียหมิงจูก็มีความมั่นใจมากขึ้น

บุรุษหน้ากากผีเป็นผู้แข็งแกร่ง เขาเอาชนะเบนสันฆ่าเว่ยหานและมู่เจ๋อและทำลายหน่วยพลธนูได้ ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่าถ้าเขายังไม่อาจเทียบได้กับฉินเจิ้นแต่เขาก็ยังเป็นนักสู้ระดับสูง  นอกจากนี้บุรุษหน้ากากผียังเป็นผู้นำของหน่วยสุญญตา และตราบใดที่เขาสามารถช่วยบริวารของเขาได้  พลังของเขาก็จะขยายมากขึ้น

ยิ่งนางวิเคราะห์ หมิงจูก็ยิ่งตกใจมาก  นางตระหนักได้ว่าบุรุษหน้ากากผีมีศักยภาพพอจะเปลี่ยนแปลงแดนบาปได้ทั้งหมด

ถังเทียนตกใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง  เขาไม่เห็นด้วยทันที  แต่ถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

จากนั้นหมิงจูอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆและพูดตามตรง  “เราไม่มีทางออกอื่นไม่ว่าเราจะคิดยังไงก็ตาม มีแต่ต้องอยู่กับท่าน จะทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เราจะอาศัยให้นายท่านช่วยปกป้องดังนั้นสมบัติของเราทั้งหมด ความมั่งคั่ง กำลังคนทุกอย่างนายท่านสามารถใช้ได้ ข้าหวังว่าท่านจะให้โอกาสเรา”

ถังเทียนเพียงถึงวิธีให้ได้รับกรวดเหล็กทองจากตระกูลเซวียที่ผ่านมานั่นเป็นสิ่งที่ยากจะได้รับ แต่ตอนนี้ทั้งหมดมากองรออยู่หน้าประตูแล้ว

เขาเห็นด้วยทันที  “ก็ได้!ตอนนี้เจ้านำกรวดเหล็กทองมาด้วยหรือไม่?”

หมิงจูถอนหายใจโล่งอกและกล่าว “เรานำมาทุกอย่าง”

“เยี่ยมมาก!”  ถังเทียนมีท่าทีดีใจ

หมิงจูเห็นว่าเป็นเรื่องแปลก  ‘ทำไมบุรุษหน้ากากผีถึงได้ชอบกรวดเหล็กทองมากนักเล่า?”ครั้งล่าสุด เมื่อเขายินดีแลกเปลี่ยนหินเหล็กดำ นางไม่คิดมาก แต่ตอนนี้ เมื่อรู้สถานะของเขา และเขาถามถึงอีกครั้ง  นางพบว่าเป็นเรื่องแปลกมากที่เขาเห็นว่ามันสำคัญขนาดนั้น

ถ้าเถี่ยเซียได้ยินความคิดของหมิงจู  เขาคงเดือดดาลเป็นแน่  ‘คนที่ทุบหินเหล็กดำก็คือข้า  ข้า ข้านะเฮ้ย...’

แม่เฒ่าเซวียได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองคนจึงลงมาจากรถ  “ข้าได้ยินว่าคุณชายพูดถึงกรวดเหล็กทองอย่างนั้นหรือ?”

“คารวะแม่เฒ่า” ถังเทียนพยักหน้า “ใช่แล้ว”

แม่เฒ่าสงสัย  นางให้ทุกคนถอยไปก่อน จากนั้นถาม“ขอถามได้ไหมว่าคุณชายต้องการกรวดเหล็กทองไปทำไม?”

“ข้าต้องการเพราะแก่นต้นกำเนิดชีวิต”  ถังเทียนไม่ได้ปิดบังอะไร

เซวียหมิงจูเบิกตากว้าง  หน้าของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อนางอุทาน  “แก่นต้นกำเนิดชีวิต?  เป็นไปได้ยังไง? แก่นต้นกำเนิดชีวิตมาอยู่ในกรวดเหล็กทองได้ยังไง

นางคุ้นเคยกับกรวดเหล็กทองมาตั้งแต่ยังเล็ก  นางรู้ว่าสิ่งนี้สามารถใช้สร้างอาวุธ  แต่นางไม่เคยได้ยินว่าของนี่มีแก่นต้นกำเนิดชีวิตบรรจุไว้!

ถังเทียนมองดูหมิงจูมีท่าทีผิดปกติและพบว่าเป็นเรื่องแปลก “พวกท่านไม่รู้เรื่องนี้เลยหรือ?”

“สวรรค์มีนัยน์ตา!  สวรรค์มีตา!”  แม่เฒ่าเริ่มรำพึงซ้ำๆด้วยความตื่นเต้น  นางหลั่งน้ำตา“สวรรค์ไม่ต้องการให้ตระกูลเซวียของข้าตายแล้ว!  สวรรค์ไม่ต้องการให้ตระกูลเซวียของข้าตาย!”

ถังเทียนได้แต่จ้องมองทั้งสองคน  เขาไม่เข้าใจสถานการณ์

หลังจากแม่เฒ่าเซวียสงบอารมณ์ได้นางถาม  “คุณชายพบสถานที่พักพิงหรือยัง?”

ถังเทียนส่ายศีรษะ  “ยังเลย, ข้าอยากจะขอกับท่าน ถ้าท่านมีนะ  พวกท่านคุ้นเคยกับสถานที่นี้ดีกว่า  ท่านมีสถานที่พักพิงบ้างไหม?”

“ไม่ไกลจากที่นี่  บรรพบุรุษตระกูลเซวียเราได้สร้างปราสาทเขาสะท้อนไว้  แค่ทำความสะอาดเล็กน้อยก็น่าจะใช้เป็นที่พักดีๆ ได้ การป้องกันของมันยังเหมือนเดิม คุณชายจะว่ายังไง?”  แม่เฒ่าเซวียถาม

“มีที่แบบนั้นด้วยหรือ? เยี่ยมจริงๆ!”  ถังเทียนส่งเสียงดีใจทันที

“อย่างนั้นเรามุ่งหน้าไปที่ปราสาทเขาสะท้อน  คุณชายคงมีข้อสงสัยหลายอย่างแน่เมื่อเราไปถึงและจัดการที่ปราสาทเขาสะท้อนท่านจะมาพร้อมกับเราผู้เฒ่าเลยไหม?” แม่เฒ่าตื่นเต้นเกินไป เนื่องจากอายุของนางปรากฏแววเหนื่อยล้าอยู่ทั่วใบหน้าของนาง

“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล”  ถังเทียนโบกมือ “ท่านไม่จำเป็นต้องบอกความลับพวกท่านกับข้าก็ได้  รีบนำเราไปที่ปราสาทเขาสะท้อนได้เลย”

พอมีสมาชิกหน่วยสุญญตาร่วมกองคาราวาน ความเร็วในการเคลื่อนไหวของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาก จากพวกบ้านตระกูลเซวียจึงเข้าใจเหตุผลที่พวกเขาเป็นที่ต้องการอย่างมากการเดินทางที่ขรุขระยากจะผ่านไปได้ และกองคาราวานไปได้ช้าเหมือนเต่า  แต่หน่วยสุญญตาควบคุมกองคาราวานให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

ที่ยังน่ากลัวมากกว่าก็คือบุรุษที่ดูเหมือนโคเถื่อนชอบพูดเสียงดังไม่หยุด  แต่เขาสามารถลากรถด้วยมือข้างเดียวได้

สัตว์ป่าทั้งหมดที่พวกเขาเผชิญบนเส้นทางถูกตัดฟันเป็นชิ้นดังนั้นการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น

เมื่อพวกเขาสามารถเห็นปราสาทเขาสะท้อน  คนในกองคาราวานพากันดีใจ

ปราสาทเขาสะท้อนปกคลุมไปด้วยวัชพืชและเถาวัลย์ม้วนตัวอยู่ทุกที่จากเท่าที่เห็นทุกคนบอกได้ว่าไม่มีใครอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว  แต่ถังเทียนและคณะของเขาดีใจที่เห็น  แม้ว่าปราสาทหินจะพังทลายแต่โครงสร้างปราสาทยังคงอยู่ และนอกจากนี้พวกเขาเห็นว่าคนผู้ออกแบบปราสาททุ่มเทความคิดไปกับการสร้างปราสาทไปมากมีการวางรูปแบบในลักษณะที่ลึกซึ้ง

เป็นสถานที่สมบูรณ์แบบให้พวกเขาได้พักอยู่

ถังเทียนปรึกษากับเนี่ยชิวตามเส้นทาง หน่วยสุญญตายังไม่สามารถจัดหากำลังรบได้มากพอ  พวกเขายังไม่รู้แจ้งกฎธรรมชาติ และเนี่ยชิวจำเป็นต้องทำความเข้าใจวิธีการสู้  ถ้าเป็นถังเทียนตามลำพัง เขาสามารถเข้าไปป่วนเมืองจื่อจวนได้โดยไม่มีปัญหา เขาสามารถหาที่ซ่อนตัวได้และตระกูลฉินยากจะหาตัวเขาพบได้

แต่พวกเขาในตอนนี้มีกำลังพลเพิ่มมา60 คน  ถ้าพวกเขาอยู่ในปราสาทเป้าหมายซึ่งใหญ่เกินไปจะไม่เปิดเผยออกมาง่ายๆ ถ้าพวกเขาถูกตระกูลฉินพบ  พวกเขาคงถูกต้อน

และขณะที่การเคลื่อนไหวและการกระทำของถังเทียนใหญ่เกินไป  ตระกูลฉินคงได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้  การใช้วิธีการลอบโจมตีแบบเดิมความเป็นไปได้ของความสำเร็จยังมีระดับต่ำ และสถานการณ์อาจพลิกกลับไปได้ ตระกูลฉินที่ได้รับความเสียหายจากความพ่ายแพ้ดังกล่าวจะไม่ยอมเสี่ยงและทำข้อผิดพลาดเช่นนั้นในการสู้รบครั้งต่อไปของพวกเขา

ความต้องการเร่งด่วนที่สุดคือหาสถานที่ปักหลักที่เหมาะสมก่อน

เมื่อมีสถานที่ตั้งหลักที่เหมาะสมพวกเขาจะมีเวลาได้พักและฝึกฝนกัน ถังเทียนสามารถสอนทุกคนถึงวิธีรู้แจ้งกฏธรรมชาติได้โดยเร็ว  วิธีการรับมือกับนักสู้แดนบาปที่ทรงพลัง  เนื่องจากพวกเขามีจำนวนน้อย พวกเขาไม่ต้องแบกรับอาการบาดเจ็บรุนแรงเกินไป และตราบใดที่พวกเขาเข้าใจเส้นทางและวิชาที่เหมาะสมกับตนเอง  พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น

ถังเทียนรู้สึกว่าเนี่ยชิวเข้าใจเหตุผล

ถ้าเป็นเขาโดยลำพัง  เขาคงไม่กลัวที่จะท้าทายฉินเจิ้น เนื่องจากเขาหนีได้ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะฉินเจิ้น  แต่ด้วยกำลังคนมากกว่า 60 คน คงจะเป็นเรื่องยากถ้าจะสู้ด้วยวิธีเดียวกัน

แต่เขายังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

อาโมรี่และพวกมีร่างพลังกายเป็นศูนย์ แดนบาปมีสภาพแวดล้อมเข้ากับพวกเขาโดยธรรมชาติ  และพวกเขาต้องการเวลาเพียงสั้นๆ ก็จะสะดวกสบายขึ้น  นอกจากนี้ ยังมีกรวดเหล็กทองคอยช่วยเติมเต็มพลัง  พวกเขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้

พวกเขาแต่ละคนนั้นล้วนห้าวหาญไม่กลัวเกรง  แต่ละคนมีวิญญาณนักสู้เต็มเปี่ยม

‘การสู้รบตามลำพังของข้าจบลงแล้วในตอนนี้  เราจะต่อสู้เคียงข้างกัน’

ถังเทียนสังเกตดูปราสาทหินร้างและพัง ใจของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอย่างลึกซึ้ง

หน่วยสุญญตาหมีใหญ่  ภารกิจพิชิตแดนบาปเริ่มขึ้นแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด