ตอนที่แล้วตอนที่ 722 ฉินจื่อเจิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 724 รายงานตัว!

ตอนที่ 723 ความเคลื่อนไหวจากทุกฝ่าย


“ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้เดิมพันผิดข้าง...” วิคเตอร์มองดูความโกลาหลที่ประตูเมืองที่ห่างออกไป  เสื้อสีแดงของเขาตัดกับสีหน้าที่ซีดขาว

โรแลนด์ ซูไม่ได้ตั้งใจดู แต่หน้าของนางมีผ้าคลุมปิดบังและสีหน้าของนางเห็นไม่ชัด

เหตุการณ์ประจำวันสร้างความสั่นสะท้านให้นางอย่างใหญ่หลวง ประการแรกนางได้เห็นวิธีที่บุรุษหน้ากากผีและหานปิงหนิงเอาชนะเว่ยหานและมู่เจ๋อและจากนั้นเห็นบุรุษหน้ากากผีทำลายประตูเมืองด้วยหมัดเดียว  ในที่สุดนางก็เข้าใจเหตุผลที่วิคเตอร์จะวางความหวังไว้กับเขามากมาย  พลังของเขาน่ากลัวมาก

แม้ว่าจะสังเกตดูจากที่ไกล นางก็ยังอดสั่นไม่ได้

แดนบาปเต็มไปด้วยยอดฝีมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความกล้าหาญของพวกเขาอ่อนลงทุกที ซึ่งพิสูจน์ได้ชัดในการต่อสู้ มีเพียงน้อยคนนักที่ใช้วิชาที่กล้าหาญอย่างนั้นและเสี่ยงชีวิตสู้  แต่วิชาและกลยุทธที่เจ้าเล่ห์กลับเป็นที่นิยมมากขึ้น

เมื่อนางเห็นว่าบุรุษหน้ากากผีไม่ยอมแพ้และไม่ยอมปล่อยผ่านกลับเดินหน้าอย่างไม่กลัวเกรง นั่นทำให้เลือดลมของนางพลุกพล่าน แต่เมื่อนางเห็นหน่วยพลธนูของฉินจื่อเจินปล่อยลูกศรฝังกฎธรรมชาติ  หน้าของวิคเตอร์และโรแลนด์ซูถึงกับเปลี่ยน  พวกเขารู้ซึ้งถึงพลังของธนูฝังกฎธรรมชาติและพลังของหน่วยพลธนูว่าพวกเขามีพลังน่ากลัวเพียงไหน และไม่มีใครรอดได้จากธนูของพวกเขา

แต่ในเบื้องหน้าพวกเขา ไม่เพียงแต่ถังเทียนไม่ยอมถอยเท่านั้น  เขายังก้าวเดินไปข้างหน้า!

ขณะนั้น ใจของโรแลนด์ซูอยู่ในสภาพสับสนเป็นความขมขื่นที่มิอาจบรรยายได้เหมือนกับกลิ่นเลือดผสมกลิ่นเผาไหม้อบอวลโชยมา วิคเตอร์ตื่นเต้นมากขึ้น และความใจสู้ของเขาได้รับการกระตุ้น

โรแลนด์ ซูไม่ล้อวิคเตอร์อีกต่อไป   ร่างคนหนุ่มและเข้มงวดที่สั่งการพลธนูที่บาดเจ็บที่ท้องดูเหมือนจะมีหินกดทับอยู่  เมื่อเผชิญหน้ากับเขาและหน่วยพลธนูนางมีแต่ต้องถอย หลบหรือไม่ก็หนี

แต่บุรุษหน้ากากผีไม่ทำเรื่องเหล่านี้

เขายังคงเดินหน้า

“ความจริง เขาสามารถหลบได้”  โรแลนด์ ซูกล่าวทันที  นางไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงพูดเช่นนั้น  ‘บางที นั่นเป็นสิ่งที่ข้าจะยอมทำหรือเปล่า?’

วิคเตอร์ตะลึง เขาเงียบอยู่ชั่วขณะ จากนั้นพูดอย่างเศร้าใจ “เมื่อข้าหนีกลับ ตระกูลข้าก็ทำข้อตกลงกับตระกูลฉินทำให้ข้าต้องหยุดอย่างจนใจ ข้าโกรธและเริ่มสู้กับฉินเจิ้น แต่เมื่อข้าแพ้ ฉินเจิ้นไม่ได้ฆ่าข้า  เขาเชื่อว่าข้าจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอีก  เนื่องจากเขาเห็นว่าข้าทำให้ตระกูลด้วยหัวใจ  ข้าไม่สบายใจ ข้ารู้สึกว่าข้าจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นก่อนที่ตระกูลจะส่งนักโทษออกไป ข้าจะบอกนักโทษว่าบุรุษหน้ากากผียังคงมีชีวิต  ท่านรู้ไหมว่าข้าเห็นอะไร?  ข้าเห็นเปลวเพลิงบ้าระห่ำอยู่ในดวงตาของแต่ละคนและทุกคนเวลานั้นข้ารู้ว่าพวกเขายินดีตายเพื่อเขาได้”

โรแลนด์ ซูฟังอย่างเงียบงัน

“ขณะนั้น ข้ามีความสุขมาก เพราะเมื่อนักโทษพวกนี้ถูกส่งไปตระกูลฉินข่าวของบุรุษหน้ากากยังมีชีวิตจะแพร่สะพัดไปถึงนักโทษคนอื่นทำให้พวกเขาอดทนและขัดขืนมากขึ้น และนั่นจะขัดขวางความเร็วในการกลืนพวกเขาทั้งหมดของตระกูลฉินได้   เวลานั้นเหตุผลหลักที่ข้าทำไป  ทำให้ข้ามีความสุข  ข้าคิดไว้แล้วในเวลานั้นว่าไม่มีใครสามารถหยุดฉินเจิ้นได้ไม่มีใครสามารถหยุดตระกูลฉินได้”

เสียงของวิคเตอร์หมองลง และจากนั้นก็แปลกประหลาด

“แต่หลังจากนั้นประกายตาที่ฉายอยู่ในดวงตาของนักโทษหลังจากได้ทราบข่าวอีกครั้งฉินเจิ้นมีพลังมาก แต่ข้าไม่เคยเห็นบริวารของเขามีแววตาร้อนแรงแผดเผาเช่นนั้นเป็นบางสิ่งที่ข้าไม่เคยเห็นในแดนบาปมาก่อน ข้ากำลังคิดว่า ทำไม? หลังจากคิดอยู่นาน ข้าก็ยังไม่เข้าใจ แต่ข้าก็ได้รู้บางสิ่ง เนื่องจากมีลักษณะมากมายในตัวเขาที่ไม่เคยปรากฏในผู้คนแดนบาปของเรา ใครจะรู้คนผู้นี้อาจทำสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้?”

โรแลนด์ ซูมองดูวิคเตอร์อย่างตกใจ  นางไม่เคยคิดว่าวิคเตอร์จะมีความคิดอย่างนั้น

วิคเตอร์มองดูประตูเมืองที่พังทลายและร่างหลายร่างที่หายไปนาน เขาหัวเราะทันที “ข้าก็แค่คิด ในเวลาอย่างนั้นสำหรับคนที่ยินดีจะปกป้องสหายของเขาเอง  ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คนที่ติดตามเขาจะไม่กังวลว่าจะถูกทิ้งหรือเขี่ยออกไป  มิน่าเล่าบริวารของเขาถึงได้ภักดีต่อเขาทุกคนจนกระทั่งตาย  สำหรับเรา นี่เป็นสิ่งที่ดี ท่านไม่คิดบ้างหรือว่าแดนบาปต้องการวีรบุรุษโง่ๆ อย่างนั้น”

“วีรบุรุษ?” โรแลนด์ ซูขมวดคิ้ว  นางไม่ชอบคำนี้

วิคเตอร์หัวเราะ แต่ไม่อธิบายเพิ่ม

“ทำไมฉินเจิ้นยังไม่ออกมา?”  โรแลนด์ ซูขมวดคิ้วถามทันที

วิคเตอร์กล่าว “เขาไปเมืองม้าบิน เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างตระกูลฉินและตระกูลหลู  ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุปกติ”

โรแลนด์ ซูไม่ได้กลอกกลิ้งและเจ้าเล่ห์เท่าวิคเตอร์  แต่หลังจากอยู่ในตำแหน่งประมุขตระกูลมานาน  นางยังมีสายตามองการณ์ไกลอยู่บ้าง

“ตระกูลเซวียมีคุณค่าเท่ากับนักโทษหน่วยสุญญตา 200 คนจริงๆ หรือ?” วิคเตอร์แค่นเสียง “สำหรับตระกูลที่ยินดีจะรับแลกเปลี่ยนนักโทษหน่วยสุญญตา 200 คนกับตระกูลเซวีย ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องแปลก  อย่างนั้นก็คงแปลกแล้ว”

โรแลนด์ ซูรู้จักวิคเตอร์ดี  และไม่ได้พูดเสียดสีเขา แต่ถามโดยตรง  “ทำไมเจ้าคิดว่าเป็นปัญหาเล่า?”

“ข้าไม่รู้” วิคเตอร์ถอนหายใจ  “ใครจะรู้ บางทีตระกูลเซวียอาจมีความลับที่เราไม่รู้ก็ได้”

“เจ้าเมาไปแล้ว” โรแลนด์ ซูแค่นเสียง แต่พูดอย่างนั้นนางรู้สึกอึดอัด นั่นเป็นการตีสนิทกันเกินไป

วิคเตอร์ลูบจมูกตัวเองและฝืนหัวเราะ  “ทำเหมือนเจ้าไม่รู้จักข้าเสียอย่างนั้น  ข้าไม่พูดเรื่องในตระกูลข้า  ข้าไม่สนเรื่องตระกูลอื่นมากเช่นกัน  ดังนั้นข้าจะไปรู้ความลับนั้นได้ยังไง  แต่แม้บางครั้งเมื่อใดก็ตามที่ข้าดื่ม ข้าจะได้ยินเรื่องและข่าวที่น่าสนใจมาบ้างเล็กน้อย”

โรแลนด์ ซูชำเลืองดูวิคเตอร์  แต่ไม่แสดงท่าทีสนใจอีก

วิคเตอร์ที่ตอนแรกต้องการให้เรื่องมาถึงจุดสำคัญของเรื่องกลับพูดด้วยความละอาย  “ความจริงไม่มีอะไรมาก แต่มีการกล่าวกันว่ามีความลับยิ่งใหญ่เกี่ยวกัหนอนไหมเหล็กทองของตระกูลเซวีย  ความลับนี้อาจเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับมรดกตระกูลเซวีย  แต่ใครจะคิดกันว่ามรดกนั้นจะสาบสูญและเพราะตระกูลเซวียกำลังจะสาบสูญส่วนที่สำคัญที่สุด พวกเขาค่อยๆ ตกต่ำ”

“ข่าวเล่าลือ” โรแลนด์แค่นเสียง

ไม่มีใครสงสัยเรื่องตระกูลเซวียมีความลับเกี่ยวกับหนอนไหมทอง  มิฉะนั้น ทำไมพวกนางจึงสามารถผลิตของอย่างนั้นออกมาได้อย่างเดียว? แต่จะพูดว่าหนอนไหมทองเกี่ยวข้องกับมรดกของพวกเขา  โรแลนด์ ซูไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด

“ท่านอาจจะพูดเช่นนั้น แต่ข้าเชื่ออยู่บ้าง” วิคเตอร์พูด  “อย่าลืมตระกูลเซวียเคยมียอดฝีมือหลายคน และนอกจากนี้ในเวลานั้นบ้านตระกูลเซวียยังไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้ที่มีแต่สตรี  ขณะนั้นบ้านตระกูลเซวียรุ่งเรืองมีทั้งบุรุษและสตรี นั่นคือเหตุผลให้ข้าเชื่อเช่นนั้น”

“อย่าบอกข้านะว่า เจ้าคิดว่าตระกูลหลูรู้ความลับนี้?”  โรแลนด์ ซูทำเสียงดุ  แม้ว่าวิคเตอร์จะมีหลายครั้งที่ดูไม่น่าเชื่อถือ  แต่เขาเป็นคนเฉียบแหลมมาก  สำหรับเขาที่พูดเช่นนั้น เขาแทบจะมั่นใจถึง  90%

“นั่นคือเหตุผลให้ข้ายังคงสงสัย  ตระกูลหลูขาดแคลนมรดกหรือ?  แม้แต่เมื่อตระกูลเซวียจะมีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าจะเทียบกับตระกูลหลูในปัจจุบันได้  ทำไมตระกูลหลูถึงให้ความสนใจมรดกตระกูลเซวีย?  เพียงแค่นั้นพวกเขาถึงกับยินส่งมอบนักโทษหน่วยสุญญตา 200 คนด้วยหรือ?”  วิคเตอร์เบ้ปากเหยียดหยาม

“อย่างนั้นเจ้าต้องการทำอะไร?”  โรแลนด์ ซูถาม

“บุรุษหน้ากากผีมาแสดงฝีมือที่นี่ไม่ใช่หรือ?”  วิคเตอร์กล่าว “ครั้งนี้พวกเขาตีเส้นให้กับบุรุษหน้ากากผีและพูดว่าเขาเป็นคนนอก  แต่ตอนนี้ ตระกูลเซวียถูกทอดทิ้งไว้ที่มุมหนึ่งไม่มีหนทางไปในเวลานี้  ถ้าพวกเขาปล่อยให้บุรุษหน้ากากผีได้กองหนุน  อย่างนั้นพวกเขาก็คงโง่  ข้าละตื่นเต้นจริงๆ เรามีบุรุษหน้ากากผีที่ทรงพลังขนาดนั้นนอกจากนี้ยังมีบริวารของเขา 50-60 คน แล้วเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเพียงไหน?  เจ้าไม่ตื่นเต้นหรือ?”

“เจ้าคิดเรื่องทั้งหมดนี้มานานหรือยัง?”  โรแลนด์ ซูถาม

วิคเตอร์ประหลาดใจ เขาลูบจมูกอีกครั้ง “งั้นเจ้าก็คิดประเมินข้าไว้สูงสินะ ข้าไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เจ้าคิด ข้าแค่คิดฉวยโอกาสจากสถานการณ์”

“ถ้าเจ้าไม่มีเจตนาที่ดีที่สุดกับตระกูลโรแลนด์ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”  โรแลนด์ ซู พูดเย็นชา

วิคเตอร์ฝืนหัวเราะ “เฮ้ เฮ้ เฮ้ ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าสักหน่อย..”

********************

อีกมุมหนึ่งของเมือง

“วิคเตอร์ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเขาเจ็บตัวจากฝีมือฉินเจิ้น เขาแทงฉินเจิ้นลับหลังทันที ฉินเจิ้นคงเสียใจตอนนี้แน่นอนที่ไม่ฆ่าเขาในตอนนั้น”

สวี่เย่พูดอย่างสบายๆ “วิคเตอร์เป็นนักหาโอกาสได้ดี  สำหรับเขาคิดจะใช้คนของโรแลนด์ ซู  โรแลนด์ ซูยังมีความเด็ดขาดมาก  นางกล้าวางเดิมพันโดยไม่ลังเลอะไร ข่าวลือว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เด็ก  ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ดูท่ามีแนวโน้มเป็นจริง”

สวี่อันจงไม่สนใจเรื่องนั้น  เขายังคงระลึกถึงกระบวนท่าที่หานปิงหนิงใช้สังหารมู่เจ๋อ

ความก้าวหน้าของหานปิงหนิงทำให้เขาประหลาดใจ  และเห็นได้ชัดว่านางมีทักษะลอบโจมตี  แต่เมื่อนางฆ่ามู่เจ๋อได้  นั่นเป็นผลงานชิ้นสำคัญจริงๆ

สวี่เย่มองดูสวี่อันจง “หานปิงหนิงนั่นภักดีต่อบุรุษหน้ากากผี  เจ้าไม่มีโอกาสหรอก”

“ข้าเพียงแต่ต้องการเป็นศิษย์”  สวี่อันจงเงยหน้าตอบ

สวี่เย่หัวเราะลั่นและเปลี่ยนหัวข้อ  “หมัดของบุรุษหน้ากากผีเป็นยังไงบ้าง?

สวี่อันจงไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่เมื่อเขาเห็นหมัดนั้น ก็ทำให้เขาเข้าใจว่าเบนสันแพ้ยังไงเขาคิดย้อนไปเกี่ยวกับหมัดนั้น ถ้าเป็นเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับฉินจื่อเจิน จะตระหนักได้ทันทีว่าไม่สามารถรับหมัดนั้นได้  ภายใต้ความตื่นเต้นขนาดนั้น   เขาได้แต่รอเกิดใหม่

“ใช่แล้ว” ยิ้มของสวี่เย่หายไป “ใครจะคิดกันล่ะว่าคนเราจะสามารถใช้วิชาหมัดที่ลึกซึ้งนั้นออกมาได้  เขารู้แจ้งวิชาหมัดในระดับลึกซึ้งมาก  เขาไม่จำเป็นต้องรู้แจ้งกฎธรรมชาติอะไร  ความเปลี่ยนแปลงที่สะสมอยู่ในหมัดของเขาจะดูดซับสายใยกฎธรรมชาติรอบตัวเขาอย่างเป็นธรรมชาติ สายใยกฎธรรมชาติจะไปรวมกันที่หมัดของเขาสะสมอยู่ในหมัดของเขาเป็นจำนวนมากคนอื่นอาจมองไม่เห็น แต่นั่นเป็นการละเลยความงามภายนอกจริงๆ”

“ข้าไม่รับประกันว่าจะเอาชนะได้”

คำพูดนี้ดูเหมือนพูดด้วยแรงทั้งหมดที่เขารวบรวมได้  แต่หลังจากพูดไปแล้วสวี่อันจงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แรงกดดันที่น่ากลัวหายไป

“ขอแสดงความยินดีด้วย อันจง”  ตาของสวี่เย่เป็นประกายแปลกประหลาด  เขาฝึกกฎธรรมชาติเป็นตายและมีความแตกต่างสุดขั้วในเรื่องร่างกายของมนุษย์คนหนึ่ง เมื่อสวี่อันจงพูดคำนี้ออกมาไม่เพียงแต่พลังชีวิตของเขาไม่ลดลงเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาสงบลงและแข็งแกร่งมากขึ้นเล็กน้อย

สวี่อันจงรู้สึกได้ชัดเจนถึงความก้าวหน้าในสภาพจิตใจของเขา  แต่ไม่ต้องการแสดงความดีใจ  เขายังคงสงบ “แม้ว่าข้า จะไม่มีโอกาสเอาชนะหมัดของเขา แต่ข้าก็ต้องการสู้กับเขา”

“โอกาสจะมาถึงแน่” สวี่เย่หัวเราะ  “แต่,ธนูของฉินจื่อเจินไม่น่าจะถูกข่มกันได้ง่าย ใจเย็นไว้ ยังมีการแสดงให้ดูอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด