ตอนที่แล้วตอนที่ 443 โยนระเบิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 445 หลงโส่วจิง

ตอนที่ 444 อพยพใหญ่ชาวหมาป่า


การสนทนาข้างนอกเป็นไปอย่างคึกคัก  แต่ถังเทียนและพวกที่เหลือไม่มีเวลาใส่ใจทุกคนวุ่นวายตั้งแต่ค่ำยันเช้า

ความเข้มข้นของพลังกลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่มถึงร้อยละสิบสามแล้ว  ความเข้มข้นระดับนั้นทำให้กลุ่มดาวหมีใหญ่ซึ่งประสบความสูญเสียหนักเต็มไปด้วยพลังชีวิต

ในทางปฏิบัตินักสู้ทั้งหมดของเยี่ยนหย่งเลี่ยออกไปจากกลุ่มดาวหมีใหญ่หมดแล้ว ตระกูลขุนนางและชนชั้นสูงต่างย้ายเข้าไปยังกลุ่มดาวนายพรานเหลือนักสู้อยู่ไม่มากซึ่งไม่มีทักษะต่อสู้ที่สูงส่งแม้ว่าวงการของพวกเขาจะไม่ต่ำทราม แต่วิชาที่พวกเขาฝึกฝนไม่ใช่เพื่อใช้ต่อสู้  แต่เพื่อทำธุรกิจเลี้ยงชีพ

พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการจัดการอาหารวิธีปรุงอาหาร วิธีต้มเหล้า ทักษะต่อสู้ของพวกเขาเป็นศูนย์

การต่อสู้โดยปกติต้องศึกษากันเป็นพิเศษซึ่งต้องใช้ความสามารถและความเข้าใจในระยะยาว

คนเหล่านี้ไม่พอใจอย่างมากที่ถังเทียนเป็นเจ้ากลุ่มดาวและแสดงทัศนคติที่ไม่ยอมรับ

อาเฮ่อตระหนักได้โดยเร็วว่าเขาไม่สามารถจ้างผู้ใดได้

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนั้น  อาเฮ่อเสนอแนะถังเทียนให้อพยพนักสู้จากกลุ่มดาวหมาป่า  ถังเทียนก็คิดเรื่องนั้น เนื่องจากชาวท้องถิ่นของกลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่ชอบเขาใครจะสนใจเรื่องนั้นกันเล่า? ไม่มีคนอื่นหรือไง? กลุ่มดาวหมาป่ามีคนมากมายมิใช่หรือ?

ระดับพลังงานที่เข้มข้นร้อยละสิบสามเป็นตัวเลขที่กลุ่มดาวหมาป่าได้แต่นึกฝัน นักสู้ของกลุ่มดาวหมาป่าจะต้องมุ่งหน้าเข้ามาเป็นแน่

ถังเทียนไม่พูดอะไรต่อไป  เขาเห็นด้วยและเรื่องเช่นนี้ปกติจะมอบให้อาเฮ่อรับไปจัดการ

อาเฮ่อส่งคำสั่งไปให้หัวหม่าเอ๋อ เมื่อพิจารณาความสามารถในการสนับสนุนของกลุ่มดาวหมีใหญ่  เขาจำกัดคนไว้ที่ล้านคน

เมื่อหัวหม่าเอ๋อและผู้คนได้รับคำสั่ง  ตาของพวกเขาทุกคนแวววาวด้วยความอิจฉาความหนาแน่นของกลุ่มดาวร้อยละสิบสาม ซึ่งกำลังจะเพิ่มขึ้น!  ส่วนความเข้มข้นของกลุ่มดาวหมาป่ามีเพียงเปอร์เซ็นต์เดียวเท่านั้น

ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมาป่าตกอยู่ในความโกลาหล

ราชาหมาป่ามีอำนาจมากมายอย่างแท้จริงท่านได้รับแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแผ่นดินชั้นเลิศ ท่านไม่ลืมพวกเขาที่มีชีวิตยากจนและลำบาก

ความหนาแน่นของพลังถึงร้อยละสิบสามซึ่งการได้อาบได้แช่อยู่ในพลังดวงดาว สถานที่อย่างนั้น พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะกล้านึกฝัน  แม้แต่หัวหม่าเอ๋อที่เป็นนักสู้พเนจร ในใจนางก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้

เงื่อนไขการอยู่อาศัยในกลุ่มดาวอย่างกลุ่มดาวหมีใหญ่มีความต้องการสูง  นอกจากนักสู้ท้องถิ่นแล้ว  นักสู้อื่นจากสถานที่อื่นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกันสูงเรียกว่า“ค่าธรรมเนียมสำหรับใช้พลังดวงดาว” ถ้าต้องการจะอยู่ ค่าธรรมเนียมนี้สำหรับนักสู้หมาป่าผู้ยากจนเป็นจำนวนรวมน่าตกใจ

ตอนนี้จู่ๆพวกเขาก็ได้รับแจ้งว่าพวกเขาสามารถเข้ากลุ่มดาวหมีใหญ่เพื่อพักอยู่ได้นี่เหมือนกับได้พบอาหารขนาดยักษ์เลยทีเดียว

ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมาป่า เผ่าใหญ่และเผ่าน้อยต่างก็เข้ามาหาหัวหม่าเอ๋อ  พวกเขาต่างตะเบ็งเซ็งแซ่พล่ามน้ำลายกระเด็นไปทั่ว

หัวหม่าเอ๋อไม่ได้คาดเลยว่าจะเกิดภาพเช่นนี้และบางคนจากด้านหลังตะโกนลั่นโหวกเหวกเพื่อให้ได้โควต้าบ้าง

การแข่งขันขนาดใหญ่ของชาวหมาป่าเปิดฉากขึ้นในลักษณะนั้น

เวลาที่อาเฮ่อให้มากระชั้นนัก  ดังนั้นหัวหม่าเอ๋อจึงยุ่งมาก  แต่หน้าของนางมีรอยยิ้มที่มีความสุข  เมื่อการแข่งขันเริ่มต้น  ในที่สุดผู้คนก็ต้องตัดสินใจ

เมื่อเห็นหมู่คนที่สง่างามหัวหม่าเอ๋อรู้สึกปลื้ม นัยน์ตานางแดงทันที

ใครๆ ก็รู้กันมานานแล้วกลุ่มดาวหมาป่ายากจนที่สุดสวรรค์วิถีตลอดไป เป็นสถานที่แร้นแค้นที่สุดนักสู้ที่ใช้ชีวิตอยู่แทบจะกินอาหารไม่เต็มอิ่มและอายุขัยของพวกเขาสั้นอย่างน่าประหลาด หน้าของพวกเขาเย็นชาและป่าเถื่อนเหมือนสุนัขป่าที่หิวโหย ไม่เพียงแต่พวกเขายังต้องกล้าหาญต่อสู้กับธรรมชาติ  พวกเขายังต้องสู้กันเองอีกด้วย

พวกเขาคือกระสุนมนุษย์ที่ราคาถูกที่สุดในสวรรค์วิถี  เกียรติยศและความตายของพวกเขามีค่าเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญดาว

ที่อยู่ต่อหน้านางทุกคนมีใบหน้าที่คาดหวังต่อชีวิตในอนาคตของพวกเขา แววตาของพวกเขามีความหวัง

แม้ว่ารอยยิ้มจะฉาบอยู่บนใบหน้านาง ทันใดนั้นนางนึกถึงการพบกันกับกลุ่มเด็กหนุ่มครั้งแรกแม้แต่ชีวิตของพลเมืองกลุ่มดาวหมาป่าก็เปลี่ยนไปจากการพบกันคราวนั้น  นางรู้สึกว่าเป็นโชคดีจริงๆ

กองกำลังสองสามกองสุดท้ายจากเผ่าต่างๆที่เตรียมจะย้ายออกไป ผู้อาวุโสผู้มีชื่อเสียงและทรงคุณธรรมทั้งหมด ทุกคนส่งเสียงคุยให้โอวาทคนในเผ่าระเบ็งเซ็งแซ่น้ำลายกระเด็นไปทั่ว

ผู้อาวุโสหัวหน้าตระกูลและมีมารยาทแห่งเผ่าหมาป่าน้ำแข็งพูดอย่างจริงจังจริงใจ“โอกาสที่โชคดีนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่มดาวหมาป่า พวกเจ้าทุกคนเป็นผู้โชคดีที่สุด! แต่ ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะต้องไม่ลืมภารกิจที่อยู่ในมือพวกเจ้า  ผลงานของพวกเจ้าในกลุ่มดาวหมีใหญ่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความมั่งคั่งหรือเสื่อมโทรมของเผ่าเราและเกี่ยวข้องโดยตรงกับราชาหมาป่าเจ้าของเราและเกี่ยวข้องกับเผ่าหมาป่าของเรา...”

……

ผู้อาวุโสหัวหน้าเผ่าหมาป่าไฟผู้อารมณ์ร้อนและดุร้ายตะโกนลั่น“รั้งผิวเจ้าไว้ให้ดีทุกคน ตาเฒ่าผู้นี้ขอพูดความจริงที่น่าเกลียดพวกเจ้าทุกคนกำลังจะไปกลุ่มดาวหมีใหญ่ ไม่ใช่เพื่อไปสนุกแต่ไปเพื่อลำบากทุกข์ทนพวกเจ้าทุกคนต้องต้องแสดงฝีมือให้ดีที่สุดในที่นั้น!  โอกาสเช่นนั้นไม่รู้ว่าจะมีเป็นครั้งที่สองหรือเปล่า ใครก็ตามที่บังอาจท้อถอยข้าจะหักขาพวกมันซะ...”

……

ผู้อาวุโสหัวหน้าเผ่าหมาป่าดำท่าทางน่ากลัวและเจ้าเล่ห์พูดโดยไม่กระพริบตา  “กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็คือคนโง่  โง่เง่าไร้ขอบเขตบังอาจมาเผชิญหน้ากับเจ้ากลุ่มดาวของเรา หึหึ นี่คือโอกาสของเรา”

“โอกาสอะไร?”  มีบางคนตะโกนถามจากข้างล่าง

“โอกาสเตะพวกมันออกไปน่ะสิ”  ผู้อาวุโสเผ่าหมาป่าดำกล่าว “คิดดูสิเจ้าพวกโง่พวกนั้นกำลังมองดูเราจากด้านข้าง และพวกเจ้าทุกคนถ้าพวกเจ้าทุกคนก้าวหน้าได้ดี ทำงานหนัก ขยันขันแข็งไม่กลัวตาย  เมื่อราชาหมาป่าเห็น ฮ้า..มีแต่เผ่าหมาป่าที่เชื่อถือได้ จากนั้นเล่า? ราชาหมาป่าก็จะคิด มีพวกของเขาน้อยเกินไป ยังมีไม่พอ!  ถึงตอนนั้น โอกาสของพี่ชายน้องชายหญิงของเจ้าก็จะตามมา!”

สายตาของพวกเขาหลายคนเป็นประกายครอบครัวของพลเมืองชาวหมาป่าปกติจะใหญ่มาก ใครเล่าไม่มีพี่น้องชายหญิง?  และเมื่อเร็วๆนี้การขนส่งอาหารจากสมาคมการค้านางฟ้าที่หลั่งไหลเข้าไปในในกลุ่มดาวหมาป่าอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ราคาของสินค้าลดลงมาก  และชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก ความสามารถในการขยายพันธุ์ชาวหมาป่าจึงเพิ่มมากขึ้น  และหลายคนมีพี่น้องชายหญิงเพิ่มขึ้นมากในช่วงสองปีมานี้

“พวกเจ้าทุกคนรู้สิ่งที่จะต้องทำไหม?”  ผู้อาวุโสหัวหน้าเผ่าหมาป่าดำพูดอย่างเย็นชา  “ใช้พลังของเราเพื่อความก้าวหน้าผลักดันเจ้าพวกโง่ ไร้ความสามารถและขี้เกียจออกไป”

“ฮืออออ”พวกเด็กหนุ่มตื่นตัวขึ้น

……

“เดินทาง!”

คลื่นคนกลุ่มใหญ่เคลื่อนกำลังเหมือนสายน้ำหลาก

อาเดรียนมีสีหน้าซับซ้อนมองดูที่ห้องขัง

.ถังเทียนอนุญาตให้เขาสอบปากคำคนที่ถูกจับ

อาเดรียนคิดเอาเองในฐานะคนที่เจนโลกเห็นโลกมามากเขาเป็นคนที่เจ้าระเบียบกับโลก แต่เขาตระหนักว่า เขาไม่สามารถตามทันเหตุผลและจังหวะของถังเทียน  การร่วมกับถังเทียนแฝงตัวเป็นผู้ช่วยเขา  เชลยผู้ถูกจับก็ควรคงสภาพเป็นเชลย  แต่ตอนนี้เขามีหน้าที่ตรวจสอบเชลยใหม่...

เกิดอะไรขึ้นกับสมองของคนผู้นี้?

แผนไม่ได้เล่นตามนี้หรือ?ถ้าเขาต้องการบังคับข้าให้ย้ายข้าง อย่างน้อยก็ควรคุยกับข้า ผ่อนปรนการจำกัดข้า  ข้าเป็นเชลยเจ้ากล้าจะให้ข้าสอบปากคำเชลยได้ยังไง?

อาเดรียนไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของเขาตอนนี้ยังไงดี

เขาเงยหน้าและมองขึ้นฟ้า สูญเสียความคิด  หลังจากนั้นครึ่งค่อนวันเขาค่อยก้มหน้าอยู่เงียบๆ ในคุก

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเขาก็เดินออกมา

ภายในวังหมีใหญ่ที่ชำรุดทรุดโทรมถังเทียนและคนอื่นๆ อีกสองสามคนกำลังศึกษาขุนพลวิญญาณของสมาคมรวมตระกูล หลิงซิ่วเป็นคนเดียวที่เผชิญหน้ากับสี่ขุนพลวิญญาณภาพที่ปรากฏนั้นดูกระตือรือร้น

“น่าสนใจ”ถังเทียนมองดูเหมือนกับว่าเขากำลังดูภาพสนุกสนาน เขามีนัยน์ตาเป็นประกาย  “ทักษะต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมาก แตกต่างจากขุนพลวิญญาณที่พร่าเลือนมากโดยสิ้นเชิง  พวกเขากระตือรือร้นและมีรังสีอำมหิต

“ใช่แล้ว  ในแง่ทักษะการต่อสู้  พวกเขาแข็งแกร่งมาก  สัญชาตญาณของพวกเขาขณะต่อสู้ร้ายกาจมาก”อาเฮ่อมองดูด้วยความรู้สึกรังเกียจมากเช่นกัน

“ตาข้าทดสอบพวกเขาบ้าง!”  ถังเทียนกระโจนเข้ามา

“พรานนักล่าก็อยู่ที่นี่” อาเฮ่อชำเลืองมองดูร่างที่กำลังเข้ามาและเตือนถังเทียน

“เอ่..เขามาทำอะไรที่นี่?”  ถังเทียนสับสน

อาเฮ่อมองดูอาเดรียนที่ได้ยินถังเทียนและไม่สบายใจนึกทำอะไรไม่ถูก  “เจ้าปล่อยให้เขาไปสอบสวนหวังเย่ไม่ใช่หรือ?”

“โอวโอว โอว, ข้าเพิ่งนึกออก ถังเทียนตบหน้าผากและพูดอย่างดีใจ ”ข้ารู้สึกว่า แม้ว่าเขาจะไม่ฉลาดเท่าข้า แต่เขาน่าจะรับมือหวังเย่หรือเชี่ยวชาญบางอย่าง”

อาเฮ่อ “.......”

เขาสังเกตฝีเท้าอาเดรียนสับสนอีกครั้งจึงรู้สึกเห็นใจเขาอย่างช่วยไม่ได้

อาเดรียนเดินเข้ามาอย่างเฉื่อยชา

อาเฮ่อพูดขึ้นก่อนอย่างอ่อนโยน“มิทราบว่าท่านอาเดรียนได้ผลอะไรมาบ้าง?”

อาเดรียนตอบอย่างเฉื่อยชา “การเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มดาวหมีใหญ่ถูกจัดการโดยคนชื่อว่าซือหม่าเซี่ยวซือหม่าเซี่ยวคือผู้อาวุโสที่มีอายุน้อยที่สุดของสมาคมรวมตระกูลผู้มีอำนาจ  รูปแบบการดำเนินการของเขายากจะหยั่งถึงและมีอิทธิพลที่แข็งแกร่งในสมาคมรวมตระกูลขุนพลวิญญาณทั้งหมดนี้คือขุนพลแห่งสมาคม พวกเขาปรากฏเมื่อนานมาแล้ว และคนระดับสูงของตระกูลไม่ได้ให้ความสนใจจนกระทั่งได้รับการผลักดันอย่างลับๆจากซือหม่าเซี่ยว ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบวิธีกินอย่างต่อเนื่อง  นั่นคือวิธีที่ขุนพลสมาคมเริ่มแข็งแกร่งขึ้นและเริ่มเพิ่มพลังขึ้นอย่างมาก”

อาเฮ่อประหลาดใจ  “หรือว่าสมาคมรวมตระกูลพยายามจะยึดครองกลุ่มดาวหมีใหญ่?”

อาเดรียนตอบ “คนที่รับคำสั่งมาคือหวังเย่เพื่อคอยสังเกตพลังของกองทัพเจ้างานอีกอย่างของหวังเย่คือการแทรกซึมกลุ่มดาวมังกร แต่จากที่เห็นพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะยึดกลุ่มดาวมังกรรวมทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่ด้วยจุดหมายแปลกมาก จนกระทั่งบัดนี้ สมาคมรวมตระกูลซึ่งก่อตั้งโดยตระกูลเล็กๆยังไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดี สำหรับพวกเขากลุ่มดาวระดับสูงคือสิ่งที่สำคัญมาก”

“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาพบเป้าหมายใหม่?”  อาเฮ่อคิด

“เราไม่แน่ใจในตอนนี้”อาเดรียนกล่าว “ขุนพลสมาคมสองสามตนนี้อาจจะยังไม่แข็งแกร่งที่สุดที่สมาคมมี”

ทันใดนั้นเสียงสามเหลี่ยมบนข้อมืออาเฮ่อมีความเคลื่อนไหวแผ่วเบา เสียงสามเหลี่ยมถูกสร้างขึ้นจากสามเหลี่ยมหลายชิ้น  และเป็นสมบัติที่ใช้ความถี่เพื่อการสื่อสารระยะไกล

หัวหม่าเอ๋อมีความเคลื่อนไหวแล้ว  เขาต้องเตรียมตัว  การจัดการคนมากมายเป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน

อาเฮ่อลุกขึ้นยืน  เขาพยักหน้าให้อาเดรียน“ข้ามีเรื่องสำคัญสองสามเรื่องจะต้องไปจัดการก่อน”

พูดจบเขากระโจนขึ้นเหมือนกระเรียนยักษ์สีดำที่อิสระและหายไป

ถังเทียนไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปเขาวิ่งออกไปในสนามและแบ่งขุนวิญญาณสมาคมจากหลิงซิ่วสองคนและเริ่มสู้

สายลมพัดผ่านวูบจากข้างตัวอาเดรียนทำให้เขาตะลึง

ผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเขาหายไปหมด

ไม่มีใครบังคับเขาให้เข้าห้องขัง  ไม่มีใครมีปฏิกิริยาใดๆกับผลการสอบปากคำของเขา ไม่มีใครพูดว่าเขาจะอยู่หรือตายต่อไปไม่มีใครพูดอะไรเลยว่าเขาจะทำอะไรหลังจากนั้น

เหมือนกับว่าเขาถูกลืม

ไม่มีใครใส่ใจเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด